สวัสดีค่ะ เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา เราได้ไปเที่ยวเส้นทางยอดฮิตมา ปกติเราเป็นคนเที่ยวน้อยมากกก
ก่อนไปตั้งใจว่าจะกลับมาเขียนรีวิว แต่มาดูๆ เห็นว่ามีคนเขียนเส้นทางนี้เยอะมากแล้ว ก็คิดว่าจะไม่เขียนละ แต่พี่สาวดันมาทักว่า ตั้งใจจะทำอะไรแล้ว ก็ทำสิ ไม่เห็นต้องสนใจสิ่งอื่น ...รีวิวนี้ก็เลยเกิดขึ้น ฮาาา เที่ยวก็น้อย เขียนอะไรอย่างนี้ครั้งแรก ผิดพลาดอะไร แนะนำด้วยค่า
คุนหมิง – ลี่เจียง – แชงกรีล่า – หรือหวา – ย่าติง – เต้าเฉิง – แชงกรีล่า – คุนหมิง
2 คน 13 วัน เป็นทริปที่ลุยๆ หน่อยสำหรับมือใหม่เรื่องการเที่ยวอย่างเรา ตั้งแต่เริ่มคิดเที่ยว เพื่อนเราเป็นคนแพลนทั้งหมด ส่วนเราเป็นสายตาม เพราะทำอะไรไม่เป็นเลย เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆ ที่จะเขียนต่อไปนี้ ก็ขอยกเครดิตในเพื่อนเลยแล้วกัน
ทริปนี้ 13 วัน เราเผื่อเวลาไว้เยอะมากเพราะตกลงกับเพื่อนว่า ไม่อยากเหนื่อยจนเกินไป เนื่องจากก็ใหม่เรื่องเที่ยวแนวนี้ทั้งคู่ เพราะฉะนั้น ใครที่สายลุยอยู่แล้วก็กระชับเวลาได้หลายวันนะ
แผนเที่ยวของเราทริปนี้ มี 4 เมืองหลัก เรียงตามนี้ >> ลี่เจียง – แชงกรีล่า – ย่าติง – คุนหมิง เราไล่เมืองตามระดับความสูงไปเรื่อยๆ เพราะจะได้ปรับตัวเรื่องอากาศ ซึ่งถือว่าได้ผลดี และไล่ระดับตามความเหนื่อย ฮ่าๆ (คือย่าติงจะเดินเยอะที่สุด) และปิดท้ายด้วยการเที่ยวตัวเมืองชิวๆ ในคุนหมิง
การเตรียมตัวก่อนไป (ขอไม่เขียนอะไรมาก)
ได้แก่ จองตั๋วเครื่องบิน ทำวีซ่า จองที่พัก จองตั๋วรถไฟ(เนื่องจากกลัวเต็ม) เตรียมชุดให้พร้อม
** สิ่งที่ควรเตรียมแต่เราไม่ได้เตรียม =_= คือประโยคภาษาจีนง่ายๆ เพื่อเอาชีวิตรอด ฮ่าๆๆ เช่น เกี่ยวกับการเดินทาง / ฉันจะไปที่สถานีรถบัส / จุดขายตั๋วอยู่ตรงไหน / ช่วยหารถให้พรุ่งนี้เช้าให้ได้ไหม ฯลฯ หรือเกี่ยวกับการกิน เพราะเราไม่กินเนื้อและไม่กินเผ็ดเลยต้องถามทุกครั้ง แต่โชคดีมากที่เพื่อนเราพอพูดได้อยู่ ไม่งั้นทริปนี้ต้องลำบากมากแน่ๆ we chat แอพฯแชทของจีน ควรโหลดไว้เลยก่อนเดินทาง แล้วแปลภาษาเอาในนั้น นัดเวลากับเจ้าของโรงแรมหรือคนขับรถ ช่วยได้มาก
ก่อนเข้าเรื่องแต่ละวัน ขอสรุปด้วยภาพก่อนเลย ดังนี้
Day1 : ดอนเมือง >> คุนหมิง เดินเล่นชิวๆ ในเมืองรอเวลาขึ้นรถไฟไปลี่เจียง
ที่พัก : นอนในรถไฟจากคุนหมิง ไปลี่เจียง
เราถึงสนามบินคุนหมิง 11 โมง วางแผนไปสถานีรถไฟก่อนเพื่อไปฝากกระเป๋าและเอาตั๋วรถไฟแบบนอนที่จองไว้แล้ว (จองมาจากไทยเพราะกลัวเต็ม) เราเข้าตัวเมืองโดย shuttle bus (25Y) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที แต่เราแนะนำให้ไป subway เพราะถูกและสะดวก ( ซึ่งตอนแรกไม่รู้ว่ามี เฮ้อๆๆ ) สนามบินอยู่ line 6 ส่วนสถานีรถไฟอยู่ line 1 นะ
นี่คือหน้าตาของสถานีรถไฟคุนหมิง
หลังจากฝากกระเป๋าแล้ว เราก็เดินสำรวจบริเวณสถานีก่อน มีร้านอาหารมากมาย บะหมี่จะอยู่ที่ราคา 15-20Y ส่วนข้าวจะ 18-25Y กับข้าว 20-40Y โดยประมาณ แต่เราหาร้านที่ดูไม่ได้เซิฟนักท่องเที่ยว เลยได้บะหมี่ 8Y มากินมื้อแรก ฮ่าๆๆ คุณภาพก็เหมือนร้าน 20Y นั่นแหละนะ น้ำเปล่าขวด 2Y หลังจากที่เราเดินชมเมือง ชมสวน แวะเข้าห้องน้ำสาธารณะ เราก็มาจบที่ร้านกาแฟย่านกลางเมือง dongfeng square (ตงเฟิง สแคว) แหล่งวัยรุ่นแบบสยามบ้านเรานี่เอง รูปล่างนี้คือของว่างระหว่างทาง
หมดวันไปแบบชิว รถไฟนอนรอบ 3 ทุ่มครึ่ง เราเลือกแบบ soft sleeper 1,150 บาท(แพงสุดจ้า อยากนอนหลับเต็มอิ่ม) ห้องนอนมีประตูปิดกั้นจากทางเดิน ในห้องมี4 เตียง และในโบกี้มีห้องส้วมกับอ่างล้างหน้าให้ อาบน้ำไม่ได้นาจา
Day 2 : ลี่เจียง เที่ยวสถานที่ต่างๆ ในเมืองเก่าทั้งวัน (สระมังกรดำ 80Y ,วัด(จำชื่อไม่ได้ ฮ่าๆๆ) 60Y ,lion hill 35y )
ที่พัก : Tree wells inn อยู่ในเมืองเก่าลี่เจียง
รถไฟถึงลี่เจียงประมาณ 6 โมงเช้า ก็เดินตามๆ เขาไปถึงข้างหน้า ขึ้นรถเมล์สาย4 ไปเมืองเก่า แต่มันก็ยังลงไกลจากที่พักอยู่ เพราะเมืองเก่าใหญ่มาก และเข้าได้หลายทาง รถเมล์สายที่จะต่อเริ่มวิ่ง7 โมง ก็เลยแวะกินข้าวเช้าและรอจนรถเริ่มวิ่ง จะบอกว่า Google map รถเมล์ในยูนนานค่อยข้างดีทีเดียว เราขึ้นและลงรถตามป้ายที่บอกใน map เลย
หลังจากเช็คอิน 7 โมงกว่า เราก็ให้เจ้าของโรงแรมช่วยจองบัตรขึ้นภูเขาหิมะเจตดราก้อนสำหรับวันพรุ่งนี้ ให้ (ต้องรีบนะ เพราะวันนั้นรู้สึกว่าบ่ายๆ ทัวร์ก็เต็มแล้ว) วันนี้แพลนก็คืออยู่ในเมืองเก่าทั้งวัน
เมืองเก่าลี่เจียงเป็นถนนคนเดินที่คึกคักมากกก ร้านค้า สถานที่ บรรยากาศดี ราคาอาหารแพงกว่าคุนหมิงนิดหน่อย มีหลายสถานที่ให้ไปเช็คอินถ่ายรูป มีจุด information สามารถไปขอโบชัวแผนที่มาได้นะ ตอนกลางคืนก็มีร้านนั่งชิว หรือแสงสีเพลงดังๆ ก็มี (แต่เราไม่ได้เข้าเพราะไม่ใช่แนว ฮ่าๆ ) วันนี้คือเดินทั้งวันจริงๆ จนปวดเท้าเลย
บรรยากาศในเมืองเก่าลี่เจียง
คำเตือน อย่าลอง ฮ่าๆๆๆๆ
สระมังกรดำ
มีคำแนะนำตอนขึ้น lion hill เพื่อไปดูมุมสูงของเมืองเก่า จะมีค่าบัตรเข้า แต่เราเลือกไปนั่งร้านอาหารแทน มุมเดียวกัน ได้นั่งพักชิวๆ แลกกับเบียร์ 1 ขวดเล็ก 35Y (ราคาแพงมากก เลยกินได้แค่นี้ ฮ่าๆๆ ถ้าไปซื้อร้านค้า ขวดใหญ่ 6Y เองจ้า)
นั่งจนพระจันทร์ขึ้น ฮาาา
ก่อนเข้าที่พัก ซื้อมาม่าไปเป็นอาหารเช้าพรุ่งนี้ เพราะรถจะมารับไปเจตดราก้อนตั้งแต่ 6.40 โมง
Day 3 : ภูเขาหิมะ เจต ดราก้อน(480Y) , ไปสถานีรถบัสเพื่อซื้อตั๋วไปแชงกรีล่า และเดินเล่นในตัวเมือง
ที่พัก : Tree wells inn อยู่ในเมืองเก่าลี่เจียง
6.40 ตามเวลานัด เจ้าของโรงแรมพาไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ถนนข้างนอกเมืองเก่า (เวลาเลือกที่พัก ให้ดูรีวิวที่เขาบอกว่าเจ้าของให้ความช่วยเหลือเยอะๆ) ระหว่างทางรถตู้จะแวะเอาเสื้อกันหนาว น้ำและออกซิเจนกระป๋องให้ลูกทัวร์ และแวะร้านอาหารให้ซื้อ take away ได้
วันนี้เราไม่ต้องแพลนอะไรเพราะทัวร์จัดให้หมดแล้ว ที่เราเลือกซื้อทัวร์ก็เพราะว่า เรามีกัน 2 คน แค่เหมารถไปภูเขาก็แพงแล้ว ^^” เมื่อไปถึงเจตดราก้อน ด้านล่างเป็นอาคารให้แวะเข้าห้องน้ำก่อน คนเยอะมาก จากนั้นก็รอคิวขึ้นรถบัส ไปลงที่ทะเลสาบ blue moon valley จะมีค่ารถกอฟตรงนี้อีก 50y (ต้องจ่าย งงมาก จริงๆ มันควรจะรวมไปกับทัวร์ป่ะว๊า) ที่ blue moon valley เป็นทะเลสาบยาวๆ ขึ้นลงรถกอฟเป็นจุดๆ ถ่ายรูป ชมวิวตามอัธยาศัย
ประมาณ 11 โมง รถกอฟจะไปจุดกินอาหารกลางวัน(รวมในค่าทัวร์แล้ว) เป็น hot pot โต๊ะหนึ่งกินประมาณ 6 คน แต่เราโชคดีมาก คนมาไม่พร้อมกัน แล้วหัวหน้าทัวร์ก็เลยให้กินเลย 4 คน อิ่มมาก
กินเสร็จแล้วไปรอบัสเพื่อไปจุดขึ้นเคเบิ้ลคาร์ ถึงตรงนั้นประมาณบ่ายโมง ระหว่างรอขึ้นเขา เตรียมแกะกระป๋องออกซิเจนให้เรียบร้อย เผื่อร่างกายใครปรับตัวไม่ทัน หายใจไม่ค่อยสะดวก จะได้ใช้ได้ทันที
ขึ้นมาบนเขาแล้ว หิมะขาวๆ ผสมเสื้อสีแดงๆ(เสื้อกันหนาวของทัวร์) ลมแรงมาก คนก็เยอะมากเช่นกัน
เราไม่แน่ใจว่าทัวร์ให้อยู่ถึงกี่โมง เพราะฟังภาษาจีนไม่ออก ฮ่าๆๆ แต่ก็ลงมาประมาณ 14.30 เพราะว่าเพื่อนเริ่มปวดหูและมึน เราโชคดีมากที่มีคนจีนคู่หนึ่งให้ตามเกาะ ต้องไปขึ้นรถแล้วไปจุดนัดพบตรงไหน เขานำหมด ก็เลยไม่หลงจ้า กลับมาที่รถตู้คันเดิม รอคนอื่นๆ (จริงๆ คนไม่ครบเท่าตอนขามานะ) แล้วเค้าก็พาเรามาลงที่เมืองเก่าที่เดิม ตอนนั้นก็เกือบ 4 โมงละ จากนั้นเราก็นั่งแท็กซี่ไปสถานีรถบัสเพื่อซื้อตั๋วไปแชง 63Y (รีบซื้อ กลัวหมดเช่นเดิม ฮ่าๆๆ) วิธีการคือ โชว์รูปหน้าสถานีให้แท็กซี่ดู
สถานีอยู่ในตัวเมืองไม่ไกล เปิด map ตามไปด้วย ค่ารถ 17y จากนั้นเราก็เลยถือโอกาสเดินเล่นในเมืองเรื่อยๆ เดินจนกลับถึงที่พักเลย
Day 4 : ชิวในเมืองเก่าทิ้งท้าย นั่งบัสจากลี่เจียงไปแชงกรีล่า
ที่พัก : home away from home ที่พักใกล้เมืองเก่าในแชง
เราเลือกบัสไปแชงกรีล่ารอบ 14.30 เพราะใช้เวลา 4 ชั่วโมง ถึงประมาณ 18.30 ไม่ค่ำจนเกินไป ตอนเช้าเราก็ชิวในเมืองเก่าเช่นเดิม กินไอติม ดูของฝาก
ระหว่างทางจากลี่เจียงไปแชง จำไม่ได้แล้วว่าเป็นไง เพราะหลับๆตื่นๆ ฮ่าๆๆ เมื่อถึงแชงกรีล่า ตั้งใจว่าจะซื้อตั๋วไปเต้าเฉิงเลย(เต้าเฉิงคือเมืองที่เราต้องต่อรถเพื่อไปย่าติงอีกที) แต่จุดขายตั๋วปิดไปแล้ว ** เช็คเวลาขายตั๋วของแต่ละที่ให้ดีนะ ทางที่ดีควรไปก่อน6โมงเย็น**
โรงแรมที่เลือก home away from home ถือว่าดีมากที่สุดในทริป คนไทยพักเยอะเพราะตามรีวิวกันมา ฮ่าๆๆ เราติดต่อเขาก่อนทาง mail และแอด we chat คุยกัน เขามารับที่สถานีรถบัส หลังเช็คอินแล้วเราก็หาอาหารเย็นแถวที่พัก มีหลายร้านเลย โดยเฉพาะ hot pot เนื้อจามรี เจ้าของโรงแรมบอกว่าเป็นอาหารเด่นของเมืองนี้ แต่เราไม่กินเนื้อ เลยเลือกกินเก็ยวเป็นมื้อเย็นแทน ฮาา
Day 5 : วัดซงจ้านหลิน90y , ไปสถานีรถบัสเพื่อซื้อตั๋วไปเต้าเฉิง, เที่ยวเมืองเก่าแชง ,วัดต้าฝอ(ในเมืองเก่า)
ที่พัก : home away from home ที่พักใกล้เมืองเก่าในแชง
ตามแพลนคือเราจะไปภูเขาหิมะฉือข่าแต่เช้า แต่มันปิด! T^T ก็เลยชิว ตื่นประมาณ 7.30 กิน breakfast ที่โรงแรม 42y เพราะตั้งใจจะอุดหนุนเขาแหละ
จากนั้นไปวัดซงจ้านหลินเลย นั่งรถเมล์สาย3 จากฝั่งที่พัก ค่ารถที่นี่ 1y ถึงปลายทางก็รู้เอง เพราะมันจะสังเกตเห็นได้เลยว่าเป็นวัดใหญ่ ซึ่งตรงนั้นจะเป็นจุดขายตั๋วเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะไปขึ้นบัสเพื่อไปวัดจริงๆ (ซึ่งจริงๆ แล้วสาย3 ก็วิ่งไปถึงหน้าวัดนะ เพราะเรานั่งสาย3 ออกมา แต่หน้าวัดมันไม่ได้มีขายตั๋ว เขาเลยดรอปให้เราลงก่อน )
*** ไปต่อในคอมเม้นกันน
[CR] บันทึกการเดินทาง ยูนนาน เส้นทางยอดนิยม คุนหมิง-ลี่เจียง-แชงกรีล่า-ย่าติง
ก่อนไปตั้งใจว่าจะกลับมาเขียนรีวิว แต่มาดูๆ เห็นว่ามีคนเขียนเส้นทางนี้เยอะมากแล้ว ก็คิดว่าจะไม่เขียนละ แต่พี่สาวดันมาทักว่า ตั้งใจจะทำอะไรแล้ว ก็ทำสิ ไม่เห็นต้องสนใจสิ่งอื่น ...รีวิวนี้ก็เลยเกิดขึ้น ฮาาา เที่ยวก็น้อย เขียนอะไรอย่างนี้ครั้งแรก ผิดพลาดอะไร แนะนำด้วยค่า
คุนหมิง – ลี่เจียง – แชงกรีล่า – หรือหวา – ย่าติง – เต้าเฉิง – แชงกรีล่า – คุนหมิง
2 คน 13 วัน เป็นทริปที่ลุยๆ หน่อยสำหรับมือใหม่เรื่องการเที่ยวอย่างเรา ตั้งแต่เริ่มคิดเที่ยว เพื่อนเราเป็นคนแพลนทั้งหมด ส่วนเราเป็นสายตาม เพราะทำอะไรไม่เป็นเลย เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆ ที่จะเขียนต่อไปนี้ ก็ขอยกเครดิตในเพื่อนเลยแล้วกัน
แผนเที่ยวของเราทริปนี้ มี 4 เมืองหลัก เรียงตามนี้ >> ลี่เจียง – แชงกรีล่า – ย่าติง – คุนหมิง เราไล่เมืองตามระดับความสูงไปเรื่อยๆ เพราะจะได้ปรับตัวเรื่องอากาศ ซึ่งถือว่าได้ผลดี และไล่ระดับตามความเหนื่อย ฮ่าๆ (คือย่าติงจะเดินเยอะที่สุด) และปิดท้ายด้วยการเที่ยวตัวเมืองชิวๆ ในคุนหมิง
การเตรียมตัวก่อนไป (ขอไม่เขียนอะไรมาก)
ได้แก่ จองตั๋วเครื่องบิน ทำวีซ่า จองที่พัก จองตั๋วรถไฟ(เนื่องจากกลัวเต็ม) เตรียมชุดให้พร้อม
** สิ่งที่ควรเตรียมแต่เราไม่ได้เตรียม =_= คือประโยคภาษาจีนง่ายๆ เพื่อเอาชีวิตรอด ฮ่าๆๆ เช่น เกี่ยวกับการเดินทาง / ฉันจะไปที่สถานีรถบัส / จุดขายตั๋วอยู่ตรงไหน / ช่วยหารถให้พรุ่งนี้เช้าให้ได้ไหม ฯลฯ หรือเกี่ยวกับการกิน เพราะเราไม่กินเนื้อและไม่กินเผ็ดเลยต้องถามทุกครั้ง แต่โชคดีมากที่เพื่อนเราพอพูดได้อยู่ ไม่งั้นทริปนี้ต้องลำบากมากแน่ๆ we chat แอพฯแชทของจีน ควรโหลดไว้เลยก่อนเดินทาง แล้วแปลภาษาเอาในนั้น นัดเวลากับเจ้าของโรงแรมหรือคนขับรถ ช่วยได้มาก
ก่อนเข้าเรื่องแต่ละวัน ขอสรุปด้วยภาพก่อนเลย ดังนี้
Day1 : ดอนเมือง >> คุนหมิง เดินเล่นชิวๆ ในเมืองรอเวลาขึ้นรถไฟไปลี่เจียง
ที่พัก : นอนในรถไฟจากคุนหมิง ไปลี่เจียง
เราถึงสนามบินคุนหมิง 11 โมง วางแผนไปสถานีรถไฟก่อนเพื่อไปฝากกระเป๋าและเอาตั๋วรถไฟแบบนอนที่จองไว้แล้ว (จองมาจากไทยเพราะกลัวเต็ม) เราเข้าตัวเมืองโดย shuttle bus (25Y) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที แต่เราแนะนำให้ไป subway เพราะถูกและสะดวก ( ซึ่งตอนแรกไม่รู้ว่ามี เฮ้อๆๆ ) สนามบินอยู่ line 6 ส่วนสถานีรถไฟอยู่ line 1 นะ
หลังจากฝากกระเป๋าแล้ว เราก็เดินสำรวจบริเวณสถานีก่อน มีร้านอาหารมากมาย บะหมี่จะอยู่ที่ราคา 15-20Y ส่วนข้าวจะ 18-25Y กับข้าว 20-40Y โดยประมาณ แต่เราหาร้านที่ดูไม่ได้เซิฟนักท่องเที่ยว เลยได้บะหมี่ 8Y มากินมื้อแรก ฮ่าๆๆ คุณภาพก็เหมือนร้าน 20Y นั่นแหละนะ น้ำเปล่าขวด 2Y หลังจากที่เราเดินชมเมือง ชมสวน แวะเข้าห้องน้ำสาธารณะ เราก็มาจบที่ร้านกาแฟย่านกลางเมือง dongfeng square (ตงเฟิง สแคว) แหล่งวัยรุ่นแบบสยามบ้านเรานี่เอง รูปล่างนี้คือของว่างระหว่างทาง
หมดวันไปแบบชิว รถไฟนอนรอบ 3 ทุ่มครึ่ง เราเลือกแบบ soft sleeper 1,150 บาท(แพงสุดจ้า อยากนอนหลับเต็มอิ่ม) ห้องนอนมีประตูปิดกั้นจากทางเดิน ในห้องมี4 เตียง และในโบกี้มีห้องส้วมกับอ่างล้างหน้าให้ อาบน้ำไม่ได้นาจา
Day 2 : ลี่เจียง เที่ยวสถานที่ต่างๆ ในเมืองเก่าทั้งวัน (สระมังกรดำ 80Y ,วัด(จำชื่อไม่ได้ ฮ่าๆๆ) 60Y ,lion hill 35y )
ที่พัก : Tree wells inn อยู่ในเมืองเก่าลี่เจียง
รถไฟถึงลี่เจียงประมาณ 6 โมงเช้า ก็เดินตามๆ เขาไปถึงข้างหน้า ขึ้นรถเมล์สาย4 ไปเมืองเก่า แต่มันก็ยังลงไกลจากที่พักอยู่ เพราะเมืองเก่าใหญ่มาก และเข้าได้หลายทาง รถเมล์สายที่จะต่อเริ่มวิ่ง7 โมง ก็เลยแวะกินข้าวเช้าและรอจนรถเริ่มวิ่ง จะบอกว่า Google map รถเมล์ในยูนนานค่อยข้างดีทีเดียว เราขึ้นและลงรถตามป้ายที่บอกใน map เลย
หลังจากเช็คอิน 7 โมงกว่า เราก็ให้เจ้าของโรงแรมช่วยจองบัตรขึ้นภูเขาหิมะเจตดราก้อนสำหรับวันพรุ่งนี้ ให้ (ต้องรีบนะ เพราะวันนั้นรู้สึกว่าบ่ายๆ ทัวร์ก็เต็มแล้ว) วันนี้แพลนก็คืออยู่ในเมืองเก่าทั้งวัน
บรรยากาศในเมืองเก่าลี่เจียง
คำเตือน อย่าลอง ฮ่าๆๆๆๆ
สระมังกรดำ
มีคำแนะนำตอนขึ้น lion hill เพื่อไปดูมุมสูงของเมืองเก่า จะมีค่าบัตรเข้า แต่เราเลือกไปนั่งร้านอาหารแทน มุมเดียวกัน ได้นั่งพักชิวๆ แลกกับเบียร์ 1 ขวดเล็ก 35Y (ราคาแพงมากก เลยกินได้แค่นี้ ฮ่าๆๆ ถ้าไปซื้อร้านค้า ขวดใหญ่ 6Y เองจ้า)
Day 3 : ภูเขาหิมะ เจต ดราก้อน(480Y) , ไปสถานีรถบัสเพื่อซื้อตั๋วไปแชงกรีล่า และเดินเล่นในตัวเมือง
ที่พัก : Tree wells inn อยู่ในเมืองเก่าลี่เจียง
6.40 ตามเวลานัด เจ้าของโรงแรมพาไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ถนนข้างนอกเมืองเก่า (เวลาเลือกที่พัก ให้ดูรีวิวที่เขาบอกว่าเจ้าของให้ความช่วยเหลือเยอะๆ) ระหว่างทางรถตู้จะแวะเอาเสื้อกันหนาว น้ำและออกซิเจนกระป๋องให้ลูกทัวร์ และแวะร้านอาหารให้ซื้อ take away ได้
วันนี้เราไม่ต้องแพลนอะไรเพราะทัวร์จัดให้หมดแล้ว ที่เราเลือกซื้อทัวร์ก็เพราะว่า เรามีกัน 2 คน แค่เหมารถไปภูเขาก็แพงแล้ว ^^” เมื่อไปถึงเจตดราก้อน ด้านล่างเป็นอาคารให้แวะเข้าห้องน้ำก่อน คนเยอะมาก จากนั้นก็รอคิวขึ้นรถบัส ไปลงที่ทะเลสาบ blue moon valley จะมีค่ารถกอฟตรงนี้อีก 50y (ต้องจ่าย งงมาก จริงๆ มันควรจะรวมไปกับทัวร์ป่ะว๊า) ที่ blue moon valley เป็นทะเลสาบยาวๆ ขึ้นลงรถกอฟเป็นจุดๆ ถ่ายรูป ชมวิวตามอัธยาศัย
ประมาณ 11 โมง รถกอฟจะไปจุดกินอาหารกลางวัน(รวมในค่าทัวร์แล้ว) เป็น hot pot โต๊ะหนึ่งกินประมาณ 6 คน แต่เราโชคดีมาก คนมาไม่พร้อมกัน แล้วหัวหน้าทัวร์ก็เลยให้กินเลย 4 คน อิ่มมาก
เราไม่แน่ใจว่าทัวร์ให้อยู่ถึงกี่โมง เพราะฟังภาษาจีนไม่ออก ฮ่าๆๆ แต่ก็ลงมาประมาณ 14.30 เพราะว่าเพื่อนเริ่มปวดหูและมึน เราโชคดีมากที่มีคนจีนคู่หนึ่งให้ตามเกาะ ต้องไปขึ้นรถแล้วไปจุดนัดพบตรงไหน เขานำหมด ก็เลยไม่หลงจ้า กลับมาที่รถตู้คันเดิม รอคนอื่นๆ (จริงๆ คนไม่ครบเท่าตอนขามานะ) แล้วเค้าก็พาเรามาลงที่เมืองเก่าที่เดิม ตอนนั้นก็เกือบ 4 โมงละ จากนั้นเราก็นั่งแท็กซี่ไปสถานีรถบัสเพื่อซื้อตั๋วไปแชง 63Y (รีบซื้อ กลัวหมดเช่นเดิม ฮ่าๆๆ) วิธีการคือ โชว์รูปหน้าสถานีให้แท็กซี่ดู
Day 4 : ชิวในเมืองเก่าทิ้งท้าย นั่งบัสจากลี่เจียงไปแชงกรีล่า
ที่พัก : home away from home ที่พักใกล้เมืองเก่าในแชง
เราเลือกบัสไปแชงกรีล่ารอบ 14.30 เพราะใช้เวลา 4 ชั่วโมง ถึงประมาณ 18.30 ไม่ค่ำจนเกินไป ตอนเช้าเราก็ชิวในเมืองเก่าเช่นเดิม กินไอติม ดูของฝาก
ระหว่างทางจากลี่เจียงไปแชง จำไม่ได้แล้วว่าเป็นไง เพราะหลับๆตื่นๆ ฮ่าๆๆ เมื่อถึงแชงกรีล่า ตั้งใจว่าจะซื้อตั๋วไปเต้าเฉิงเลย(เต้าเฉิงคือเมืองที่เราต้องต่อรถเพื่อไปย่าติงอีกที) แต่จุดขายตั๋วปิดไปแล้ว ** เช็คเวลาขายตั๋วของแต่ละที่ให้ดีนะ ทางที่ดีควรไปก่อน6โมงเย็น**
โรงแรมที่เลือก home away from home ถือว่าดีมากที่สุดในทริป คนไทยพักเยอะเพราะตามรีวิวกันมา ฮ่าๆๆ เราติดต่อเขาก่อนทาง mail และแอด we chat คุยกัน เขามารับที่สถานีรถบัส หลังเช็คอินแล้วเราก็หาอาหารเย็นแถวที่พัก มีหลายร้านเลย โดยเฉพาะ hot pot เนื้อจามรี เจ้าของโรงแรมบอกว่าเป็นอาหารเด่นของเมืองนี้ แต่เราไม่กินเนื้อ เลยเลือกกินเก็ยวเป็นมื้อเย็นแทน ฮาา
Day 5 : วัดซงจ้านหลิน90y , ไปสถานีรถบัสเพื่อซื้อตั๋วไปเต้าเฉิง, เที่ยวเมืองเก่าแชง ,วัดต้าฝอ(ในเมืองเก่า)
ที่พัก : home away from home ที่พักใกล้เมืองเก่าในแชง
ตามแพลนคือเราจะไปภูเขาหิมะฉือข่าแต่เช้า แต่มันปิด! T^T ก็เลยชิว ตื่นประมาณ 7.30 กิน breakfast ที่โรงแรม 42y เพราะตั้งใจจะอุดหนุนเขาแหละ
จากนั้นไปวัดซงจ้านหลินเลย นั่งรถเมล์สาย3 จากฝั่งที่พัก ค่ารถที่นี่ 1y ถึงปลายทางก็รู้เอง เพราะมันจะสังเกตเห็นได้เลยว่าเป็นวัดใหญ่ ซึ่งตรงนั้นจะเป็นจุดขายตั๋วเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะไปขึ้นบัสเพื่อไปวัดจริงๆ (ซึ่งจริงๆ แล้วสาย3 ก็วิ่งไปถึงหน้าวัดนะ เพราะเรานั่งสาย3 ออกมา แต่หน้าวัดมันไม่ได้มีขายตั๋ว เขาเลยดรอปให้เราลงก่อน )
*** ไปต่อในคอมเม้นกันน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้