[CR] Review week-end in Guangzhou

---

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานี้ เราได้ตั๋วไปจีนแบบกระทันหันมาก คือเรากำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย แล้วแม่ก็ส่งตั๋วมาแล้วก็บอกว่า "วันที่ 16-18 นี้ไปจีนนะ" เราก็แบบ หะ! อาทิตย์หน้าเนี่ยนะ!? ไวเกิ๊นนนนนน แต่เราาก็ไม่ปฏิเสธจร้า
เนื่องจากแม่เราไปติดต่อธุรกิจที่เมืองกวางโจวมาหลายปีแล้ว เราก็เคยไปหลายครั้งมากจนเหมือนกับไปเที่ยวต่างจังหวัดยังไงอย่างนั้นเลยแหละ สำหรับเมืองกวางโจวเราชอบทุกอย่างนะ ยกเว้นการสูบบุหรี่ของคนที่นั่นกับการถ่มน้ำลายทุกที่ทุกเวลา ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนทั้งเมืองเลยก็ว่าได้ ไปนานๆเข้าก็จะชินไปเอง55555

ตอนท้ายเราจะสรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆของเราและแพลนเที่ยวให้นะคะ

เอาล่ะ!! เรามาเริ่มต้นการรีวิวกันเลยดีกว่า บอกไว้ก่อนเลยนะว่ารีวิวนี้รูปเยอะมากกกก

---

เราจองเที่ยวบินของ Thai Airways คนละ 9,800 บาท วีซ่าจีนอีก 2,000 บาท เราขึ้นเครื่องที่กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรรณภูมิ ไปลงที่สนามบินไป๋หยุน ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง
พอเช็กอิน โหลดกระเป๋าเสร็จก็ไปเข้าเล้าไก่ เอ้ย!! เล้าจ์วีไอพี หาอะไรกินฟรีก่อนที่จะไปขึ้นเครื่อง พร้อมกับพกเบียร์กับขนมอีกบางอย่างใส่กระเป๋าออกมาด้วย555555
เมื่อถึงเวลาเครื่องออก ที่สายการบินนี้มีอาหารให้บนเครื่องฟรี โหลดกระเป๋าฟรี 25 โล มีทีวีส่วนตัว เครื่องบินลำใหญ่ทำให้ไม่อึดอัดเวลานั่ง ดูกล้องบนเครื่องบินได้ด้วยนะ เหมือนเปลี่ยนบรรยากาศการนั่งเครื่องบินไปนั่งบนหางเครื่องแทน5555555 บนนี้มีไวไฟฟรีด้วยนะ แต่เหมือนจะใช้อะไรไม่ได้เลยแหละ
ก่อนเครื่องออกก็ไม่ลืมเปลี่ยนซิมเป็น Sim2Fly ของ AIS เพราะว่าที่ประเทศจีรเขาจะบล็อกแทบจะทุกอย่างที่เราใช้เลย แต่ถ้าใช้ซิมของที่ไทยหรือเปิดโรมมิ่งก็จะสามารถใช้ได้ปกติแล้วจ้า ซิมนี้เมื่อเปิดจะมีโปรโมชั่นให้ใช้เน็ตฟรี 1GB 3วันในไทย
ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.ais.co.th/roaming/sim2fly/?utm_source=google&utm_medium=cpc&utm_content=1586598156_61392465793___9074817_298273545071&utm_campaign=Bn_sim2fly_acom&gclid=Cj0KCQiA_s7fBRDrARIsAGEvF8TPKu3s8n9VSWCB11AF4wXqbsNIWuITth0vUBjU_DDWy7Z88z5qApYaAuIiEALw_wcB
ถึงแล้วจร้าาาา สนามบินไป๋หยุน~
มาวันแรกก็ฝนตกเลย แต่ที่แย่กว่าฝนตกก็คือ เราไม่สบาย!! เนื่องด้วยเมื่อวานเรานอนไม่หลับ แถมต้องตื่นเช้าไปเรียนก่อนอีก ทำให้ทอนซินอักเสบ เจ็บคอ คอบวมสุดๆ เมื่อไปถึงที่โรงแรมก็ต้องไปซื้อยามากิน หมดไป 118 หยวน แต่ขอบอกว่ายาของประเทศจีนดีมาก!! กินปุ๊บดีขึ้นปั๊บ!! (เว่อละๆ5555) ตอนแรกคิดว่าพรุ่งนี้ต้องนอนเฝ้าโรงแรมแล้วสะอีก
ซื้อยาเสร็จก็มาหาร้านอาหารกันต่อ มาเจอร้านจิ้มจุ่ม คล้ายๆชาบูแบบจีนอยู่ข้างๆโรงแรมพอดี ร้านนี้เปิดตอนเย็น คนเยอะมากกก ยิ่งเสาร์-อาทิตย์นี่ ชั่วโมงเดียวคนแน่นร้านแล้ว

เราเป็นคนไม่กินเนื้อวัว เลยสั่งไก่มาแทน เป็นไก่ที่มาพร้อมหัว และผักที่นี่อร่อยมาก กรอบ หวาน น้ำซุปเขาจะใส่โสมกับพุทราจีน ดีต่อสุขภาพอีกด้วย
เราที่ป่วยเจ็บคออย่างรุนแรง กล้ำกลืนกินน้ำุปกับผักไปได้นิดนึงก็ไม่ไหวแล้วเลยกลับขึ้นห้องกินยานอนก่อน โรงแรมที่เราอยู่ถือว่าดีมาก มีพนักงานอยู่เค้าท์เตอร์ตลอดเวลา โรงแรมสะอาด ใช้ระบบคีย์การ์ดเข้าห้อง ห้องน้ำแยกระหว่างห้องอาบน้ำกับห้องส้วมซึ่งถือว่าดีสำหรับไปพักหลายคน

---

หลังจากที่เมื่อวานป่วย พอได้กินยาของพี่จีนไปแล้วตื่นมาก็ดีขึ้นอย่าเห็นได้ชัดเลย ทำให้แพลนเที่ยวของวันนี้ยังคงดำเนินต่อไปได้ด้วยดี
โดยตอนเช้าเราต้องไปทำงานกับแม่ก่อน
นี่คือโรงพยาบาลเด็กกวางโจว แถบนี้เด็กจะเยอะมากกกกก ร้านขายเสื้อผ้าเด็กก็จะเยอะเช่นกัน
พอมาถึงที่ทำงาน ก็ได้กินข้าวเที่ยงฟรีเนื่องจากสนิทกับคนที่นี่
ก๋วยเตี๋ยวไก่ร้านกังฟู
ไม่แน่ใจว่าน้ำอะไรแต่น่าจะเป็นน้ำผึ้งมะนาว อร่อยมาก ดีต่อคอด้วย
พออิ่มแล้วก็ไปเที่ยวต่อได้~ ก่อนออกไปเที่ยวท่านแม่ก็ได้ให้ทุนค่าเที่ยวมา 65 หยวน แล้วก็ยังมีเงินที่เก็บใว้จากคราวก่อนอีก 129 หยวน แต่ทริปนี้เราใช้แบบประหยัด เน้นเดินชมเมือง ถ่ายรูป ไม่เน้นกินกับช็อปเท่าไหร่
เราจะเริ่มจากการไปที่ "ห้องโถงตระกูลเชนเคลน (Chen Clan Ancestral Hall)"
เริ่มต้นที่ถนนฉางดี้ลู่ เรานั่งรถเมล์สาย 541路 ไปลงที่สถานี 华贵路口 (แยกหวากุ้ย) ที่นี่สามารถใช้ Google map ได้ แบบว่าได้จริงๆนะ แถมดีด้วย เสียแค่สถานที่ต่างๆส่วนใหญ่จะไม่มีรูปให้ดูแค่นั้นเอง
เดินสักหน่อย ที่นี่อากาศกำลังเย็นสบาย อุณหภูมิประมาณ 18-20 องศา
การข้ามถนนที่นี่แนะนำให้เดินตามตูดคนจีนแบบชิดๆเลยนะคะ เพราะรถที่นี่จะขับไม่สนใจคนเดินกันเท่าไหร่ เพื่อความปลอดภัยนะคะ
คนที่นี่เน้นเดินกับปั่นจักรยานกันมากกว่า จึงทำให้มีจักรยานยืมปั่นฟรีทั่วเมืองแต่ต้องมีแอพ ซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกนว่าเป็นตัวไหน5555
ก่อนจะถึงก็จะเจอสวนหย่อมเล็กๆเข้าไปถ่ายรูปสวยๆได้ค่ะ
พอมาถึงแล้วก็จะเจอแผนผังบริเวณรอบๆนั้น
ข้างหน้านั้นจะเห็นเป็นทางออกนะคะ ให้เดินไปทางขวาตรงถนนใหญ่ เราซึ่งไม่ได้มองทางนั้นเลยไปตรงทางออกแล้วเดินอ้อมเข้าไปในตรอกด้านซ้าย เข้าไปก็นึกว่าจะเจอทางเข้า แต่ปล่าวเล๊ยยยยยยยยย อ้อออออออมโลกเลยค่ะ!! ทางที่เราไปนั้นจะเป็นเหมือนบ้านคนค่ะ คนแถวนั้นเค้าก็มองประมาณว่า "อีหนูนี่มาทำอะไรแถวนี้กันนะ" 555555
ถึงแล้ววววววว~~ หลังจากที่เดินอ้อมโลกมานาน
สวยมากค่ะ
และนั่นคือเป้าหมายที่เราจะเข้าไปกัน!!
ก่อนเข้าก็มาดูกันก่อนเลยว่าต้องทำยังไงบ้าง
"บุคคลทั่วไปอายุตั้งแต่ 18-60 ปี ค่าเข้า 10 หยวน
บุคคลทั่วไปอายุตั้งแต่ 60-65 ปี ค่าเข้า 5 หยวน
บุคคลทั่วไปอายุต่ำกว่า 18 ปี และมากกว่า 65 ปี เข้าชมฟรี
และอย่าลืม!! ต้องแสดงพาสปอร์ตตอนซื้อตั๋วด้วยนะ"
จากที่เห็นในรูป ด้านหน้าจะเป็นที่ตรวจบัตร สำหรับคนที่เข้าฟรีสามารถยื่นหลักฐานแสดงอายุและเข้าได้เลย
ส่วนคนที่ต้องซื้อตั๋วให้เราเดินเลยไปที่ด้านหลังแล้วก็ต่อคิวซื้อตั๋วได้เลย
เข้ามาก็ถอดกระเป๋าเข้าเครื่องสแกนนิสนึงเพื่อความปลอดภัยจากนั้นก็ลุย!! ถ่ายรูปให้สะใจกันไปเลย (รูปอยู่ใน Spoil นะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดินกันพอใจแล้วก็ไปต่อกันที่ "大佛古寺 (ต้าฝัวกู่ซื่อ)"
เป็นวัดโบราณขนาดใหญ่ อยู่ใกล้กับถนนคนเดินเป่ยจิงลู่ รอบนี้เราเดินทางกันด้วยรถไฟใต้ดิน รถไฟใต้ดินที่นี่มีทั้งหมด 9 สายด้วยกัน แยดตามสีต่างๆ สามารถซื้อตั๋วได้ที่ตู้ขายอัตโนมัติ โดยจะมีตู้ 3 ประเภท แบบจ่ายด้วยแอพกับจ่ายด้วยเงินสด แล้วก็ตู้ซื้อบัตรเหมาจ่าย ตู้ที่จ่ายด้วยเงินสดจะสามารถจ่ายได้แค่แบงค์ 10 กับแบงค์ 5 หยวนเท่านั้น ใครที่ไม่มีก็ไปขอแลกกับพนักงานได้
ขั้นตอนการซื้อบัตรก็ไม่ยากเพราะมีเมนูภาษาอังกฤษให้ด้วย
เริ่มจากการเลือกสายรถไฟที่จะไปด้านล่างแล้วก็เลือกสถานีรถไฟ
จากนั้นกดจำนวนเงินที่ต้องจ่าย
หยอดเงินเข้าไปที่ช่องด้านบน
รับเหรียญรถไฟและเงินทอน (ถ้ามี)
จากนั้นก็เข้ามาด้านในซึ่งเหมือนกับที่ไทยเป๊ะ!! สงสัยทันทีว่าใครลอกใคร555555
พอถึงสถานีแล้วปัญหาอีกอย่างเลยก็คือ ทางออก ไม่ต่างกับตอนอยู่ที่ไทยเลย5555 ดูง่ายๆจาก Google map เลยค่า ซูมมันเข้าไปละจะเห็นว่าทางออกอยู่ตรงไหนประตูไหนบ้าง

---

วันนี้พอแค่นี้ก่อนเนอะ ตัวอักษรหมดแล้วจร้าแล้วจะมาต่อที่เหลือพรุ่งนี้นะ ปักหมุดรอได้เลยจ้า บายยยยยย