หนุ่มซิ่งรถกระบะ กลางสายฝน ชนเสาไฟฟ้าแรงสูงหัก ทับรถ ดับ 3 สาหัส 1 @ถนนสายปิ่นทอง-สี่แยกต้นโพธิ์ อ.ศรีราชา


หนุ่มซิ่งรถกระบะชนเสาไฟฟ้าแรงสูง เสาไฟฟ้าล้มทับรถ ดับ 3 สาหัส 1 โดยตายคาที่ 2 สาหัส 2 ราย ติดอยู่ภายใน กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำศพผู้เสียชีวิตออกมา 1 ราย ไปเสียชีวิตที่ รพ.

เมื่อเวลา 01.50 น. วันที่ 20 พ.ย.61 ร.ต.อ.อิศราพงษ์ สุวรรณจักร รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา ว่า มีรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาวแค็บ ชนเสาไฟฟ้าแรงสูง 2 ต้น รถพลิกหงาย เสาไฟฟ้าล้มทับรถอยู่ มีผู้ติดอยู่ภายในรถ 4 คน ต้องใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อนำตัวออกมา
ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะมิตซูบิชิไทรทัน สีขาวแค็บ หมายเลขทะเบียน ผห 3641 ชลบุรี พลิกหงายท้อง มีเสาไฟฟ้าแรงสูงพาดทับช่วงกลางรถ และมีผู้ติดอยู่ภายในรถ โดยเหตุเกิดถนนสายปิ่นทอง-สี่แยกต้นโพธิ์ หมู่ 6 ต.บึง อ.ศรีราชา โดยรถยนต์กระบะคันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็วท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก มาถึงจุดเกิดเหตุใกล้เคียงกับแยกต้นโพธิ์ ก็ได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างถนน จำนวน 2 ต้น โดยอีกต้นหนึ่งหักโค่นทับกลางลำตัวรถทำให้มีผู้ติดภายในรถ โดยทางหน่วยกู้ภัยได้ใช้เครื่องตัดถ่างนำคนที่ติดอยู่ในรถ จำนวน 2 ราย ออกมาก่อน โดยใช้รถยกมายกกระบะรถขึ้น ก็พบว่าเสียชีวิตทั้งคู่ โดยผู้เสียชีวิตคือ นายชวลิตร เนื่องจำนงค์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 413/8 หมู่4 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา เป็นคนขับรถกระบะ และนายชรินทร์ ดอนสินเพิ่ม อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 7 ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ทำงานที่บริษัท Higa (ปิ่นทอง 1) หลังจากนั้นจึงตัดถ่างนำผู้บาดเจ็บที่ในรถออกมา ซึ่งพบว่าบาดเจ็บสาหัสและหมดสติ ก่อนที่ทางรถพยาบาลจะรีบมารับ และนำส่งรักษาอาการที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง เนื่องจากมีบาดแผลฉกรรจ์ตามร่างกาย จนแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
ส่วนอีกคนนั้น ทางหน่วยกู้ภัยต้องพยายามตัดถ่างเพื่อนำตัวออกมาอย่างเร่งด่วนเนื่องจากอาการสาหัส หมดสติ เมื่อนำตัวออกมาได้ ทางทีมแพทย์และพยาบาล โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา ต้องรีบทำ CPR ก่อนนำขึ้นรถพยาบาล และทำ CPR ตลอดทาง ก่อนนำส่งให้แพทย์ทำการรักษาอย่างเร่งด่วน
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ทั้งหมดเลิกงานกะดึกออกมาแล้วคงขับมาด้วยความเร็ว ท่ามกลางสายฝน และอาจเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าจนรถพลิกหงาย เสาไฟฟ้าหักโค่นทับรถ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว หลังจากนั้นจึงให้หน่วยกู้ภัยนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง เพื่อให้แพทย์ชันสูตรต่อไป
https://www.thairath.co.th/content/1424923
หนุ่มซิ่งรถกระบะ กลางสายฝน ชนเสาไฟฟ้าแรงสูงหัก ทับรถ ดับ 3 สาหัส 1 @ถนนสายปิ่นทอง-สี่แยกต้นโพธิ์ อ.ศรีราชา
หนุ่มซิ่งรถกระบะชนเสาไฟฟ้าแรงสูง เสาไฟฟ้าล้มทับรถ ดับ 3 สาหัส 1 โดยตายคาที่ 2 สาหัส 2 ราย ติดอยู่ภายใน กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำศพผู้เสียชีวิตออกมา 1 ราย ไปเสียชีวิตที่ รพ.
ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะมิตซูบิชิไทรทัน สีขาวแค็บ หมายเลขทะเบียน ผห 3641 ชลบุรี พลิกหงายท้อง มีเสาไฟฟ้าแรงสูงพาดทับช่วงกลางรถ และมีผู้ติดอยู่ภายในรถ โดยเหตุเกิดถนนสายปิ่นทอง-สี่แยกต้นโพธิ์ หมู่ 6 ต.บึง อ.ศรีราชา โดยรถยนต์กระบะคันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็วท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก มาถึงจุดเกิดเหตุใกล้เคียงกับแยกต้นโพธิ์ ก็ได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างถนน จำนวน 2 ต้น โดยอีกต้นหนึ่งหักโค่นทับกลางลำตัวรถทำให้มีผู้ติดภายในรถ โดยทางหน่วยกู้ภัยได้ใช้เครื่องตัดถ่างนำคนที่ติดอยู่ในรถ จำนวน 2 ราย ออกมาก่อน โดยใช้รถยกมายกกระบะรถขึ้น ก็พบว่าเสียชีวิตทั้งคู่ โดยผู้เสียชีวิตคือ นายชวลิตร เนื่องจำนงค์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 413/8 หมู่4 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา เป็นคนขับรถกระบะ และนายชรินทร์ ดอนสินเพิ่ม อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 7 ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ทำงานที่บริษัท Higa (ปิ่นทอง 1) หลังจากนั้นจึงตัดถ่างนำผู้บาดเจ็บที่ในรถออกมา ซึ่งพบว่าบาดเจ็บสาหัสและหมดสติ ก่อนที่ทางรถพยาบาลจะรีบมารับ และนำส่งรักษาอาการที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง เนื่องจากมีบาดแผลฉกรรจ์ตามร่างกาย จนแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
ส่วนอีกคนนั้น ทางหน่วยกู้ภัยต้องพยายามตัดถ่างเพื่อนำตัวออกมาอย่างเร่งด่วนเนื่องจากอาการสาหัส หมดสติ เมื่อนำตัวออกมาได้ ทางทีมแพทย์และพยาบาล โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา ต้องรีบทำ CPR ก่อนนำขึ้นรถพยาบาล และทำ CPR ตลอดทาง ก่อนนำส่งให้แพทย์ทำการรักษาอย่างเร่งด่วน
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ทั้งหมดเลิกงานกะดึกออกมาแล้วคงขับมาด้วยความเร็ว ท่ามกลางสายฝน และอาจเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าจนรถพลิกหงาย เสาไฟฟ้าหักโค่นทับรถ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว หลังจากนั้นจึงให้หน่วยกู้ภัยนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง เพื่อให้แพทย์ชันสูตรต่อไป
https://www.thairath.co.th/content/1424923