ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมเป็นเกย์ครับ
(เคยมีแฟนมาแล้ว ได้คบกัน ก็จากในแอป Grindr ครับ)
เริ่มจากช่วงเดือนปลายเดือนเมษายน ผมเพิ่งเลิกกับแฟนมาครับ เลยโหลด Grindr มาเล่น
เล่นไปเล่นมาได้เจอผู้ชายคนนึงนามสมมุติว่า P นะครับ เมื่อวันอาทิตย์ปลายเดือนเมษายน 2561 ครับ
-วันอาทิตย์-
ด้วยความที่ผมรู้สึกถูกสเป็ค อยากรู้จัก เราสองคนก็ได้ทักกันคุยกันเบื้องต้น ถามชื่อ ถามหน้าที่การงาน เรียนอะไร ทำงานที่ไหน หาอะไร (ด้วยสถานการณ์ที่เขากรึ่มๆ เมาๆ ส่วนตัวผมนั้นปกติดี) ก็มีส่งรูปกันและกันให้ดูหน้าค่าตา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็นัดไปมีเซ็กกันที่ห้องเขา เขาก็ให้ที่อยู่ ว่าอยู่ตรงไหน จะเจอกันตรงไหนมา แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใดซักพักเขาไลน์มาว่า เอาไว้วันหลังดีกว่า ผมก็คุยก็ง้อๆ เขาด้วยความที่อยากเจอ จนเขาทักมาว่าวิดิโอคอลไหม ผมก็ตอบตกลงครับ เราก็ได้สป๊ากสายตากันในนั้น เขาก็เล้าโลมผมต่างๆ นา ๆ ปากหวาน ชอบผมอย่างนู้นอย่างนี้ จนผมหลงรักเลยครับ ก็เลยได้เสร็จภารกิจกันในวิดิโอคอลนั้นไปครับ
-เช้าวันจันทร์ต่อมา-
ผมกำลังทำงานอยู่ เขาทักมาว่า “หลับสบายไหมครับ” ในวันนั้นก็ได้คุยกันนิดหน่อยๆ ถามความชอบต่าง ๆ นานา ถามว่าทำไมเราเลิกกับแฟน ไม่มีเซ็กนานยัง แล้วผมก็ชวนเขาไปให้พาไปเที่ยวหน่อย แต่เขาก็มีท่าทีบ่ายเบี่ยง วันนี้เลยไม่มีอะไรครับ ก็ไม่ค่อยได้คุยไรกันต่อมาก
อีกหลายวันต่อมา ผมก็ยุ่งๆ กับงานไม่ได้ทักทายไรเขาไป ด้วยความที่ไม่กล้า ไม่รู้จะคุยอะไรยังไง หรือทักอะไรไปดี กลัวเขาไม่คุยด้วย
-จนถึงวันที่ 1 พฤษภาคม- (ผมจำวันได้เพราะเป็นวันที่ผมดูแลอีเว๊นท์ใหญ่ของที่ทำงาน)
หลังจากเลิกงานเสร็จ ด้วยความที่รู้ว่าเขาชอบดื่มไวน์ ผมก็ถ่ายรูปไวน์ส่งไปให้ แล้วถามว่า “ดื่มไวน์ไหมครับ”
เขาก็ตอบมาเป็นรูปเหมือนกำลังดื่มไวน์อยู่
-เช้าวันต่อมา- ผมก็ทักไป
ผม: สวัสดีครับ
นาย P : สวัสดี
นาย P และผม : คุยกันปกติ เมื่อวานทำงานที่ไหน ทำอะไรยังไง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ นาย P : เงี่xนหรอ(ผมก็นึกในใจ หูยจู่โจม แกล้งเราเล่นๆ ใช่ไหม ถามงี้ จะลองใจหรืออะไร)
ผม: ปล่าวครับ อยากคุยกับพี่ครับ พี่ดูเป็นผู้ใหญ่ดีครับ อยากนัดไปทานข้าว คุยกันครับ
เขา: ไม่อยากคุย
ผม: โอเคครับ
ตอนนั้นผมก็เฟลไปครับ หายไปเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์เลยครับ ก็ไม่ได้ทักเขาไป ก็ไปส่องตาม FB เขา แล้วก็ดูเขาใน Grindr (แอปมันบอกพิกัดได้ว่าห่างไกลกันเท่าไหน ผมเห็นแหละว่าเขาห่างไปเป็น 7-8 พันกิโลเลยครับ เลยรู้ว่าเขาไม่อยู่เมืองไทย น่าจะไปเมืองนอก ก็เลยไม่ทักเขาไป ) ตัวผมเองช่วงนั้นก็ยุ่งๆ กับงานครับ
ช่วงกลาง ๆ มิถุนา
-วันเสาร์-
ผมทักเขาไป
ผม : สวัสดีครับ
ผม : เป็นไงบ้างครับ เห็นไปเมืองนอก
เขา : เห้ย รู้ได้ไง
ผม : ก็ดูจากระยะทางใน App อ่ะครับ
เขา : อ่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เขา : เงี่xนหรอ อยากเจอไหม
เขา :
แข็งยัง
ผม : ครับ
เขา :เลียได้ไหม
ผม :ได้ครับ
เขา: ชอบโดนกระแทกไหม
ผม:ครับ ชอบครับ (ผมคิดในใจ อะไรของพี่ พี่จะยังไงเนี่ย ถามไรรุนแรงจัง อยากเจอก็เจอ จะมาถามไรงี้ แต่อีกใจก็แบบ เออพี่แกหยอกล้อ เล้าโลมไปเรื่อยมั้ง)
เขา: ส่งภาพตัวเขาเอง เห็นแต่ท่อนล่าง ใส่บ๊อกเซอร์อยู่
ผม: ผมก็เลยส่งภาพท่อนล่างผมกลับไปให้เขา
เขา: งั้นวิดิโอคอลไหม
ผม: ครับ
ผมก็วิดิโอคอลหาเขาครับ เขาก็พูดจาต่างๆ นาๆ ชอบเราอย่างนู้นอย่างนี้ เราน่ารักอย่างนู้นอย่างนี้ อยากนอนกอดกัน อยากกอดทั้งคืน เป็นแฟนผม ผมจะดูแล แล้วพี่ชอบไปทะเล
------พีคตรงเขาบอกว่า พี่ชอบทรีซัม อยากให้น้องนอนโดนเอา แล้วพี่นั่งมอง ไปทะเลกันกับเพื่อนพี่กันสามคน
ไอเราก็เออออตามใจเขาไปด้วยใจที่อยากเจอเขา ชอบเขาไปแล้ว หลงคารมเขาไปแล้ว
แล้วผมก็เสร็จภารกิจไปกับเขาครับ TT
-เช้าวันอาทิตย์ต่อมา-
ผมก็ทักทายเขาไปครับ
ด้วยความที่เขาบอกว่าอยากไปทะเลกับเรานู่นนี่ ไปสวีทกันอย่างนู้นอย่างนี้
ผมก็ส่งรูปทะเลที่ผมเพิ่งไปทำงานมาให้เขาดู แล้วบอกไปว่า อยากเจอกันกันนะครับ หวังว่าจะได้มีโอกาสไปเที่ยวอย่างนี้ด้วยกันครับ
เขาตอบกลับมาว่า : อยากเจอปล่าว เจอกัน
ผม : อยากเจอคร้าบบ (ก็ดีใจ ในใจคิดวันนี้จะได้เจอกันแล้ว)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เขา : เงี่xนปล่าว
ผม
คิดในใจ ทักมางี้นี้อีกแหละ คุยปกติไม่ได้หรอ อยากเจอเว้ย) แต่ก็ตอบตามใจเขาไปว่า ครับ
เขา: ตุงยัง
ผม: ครับ
เขา : อยากโดนไหม
ผม :ครับ อยากโดนแรงๆครับ (นี่ก็นึกใจนี่กูต้องเล่นด้วยขนาดนี้เลยหรอ )
เขา:พี่อยากทรีซัมอ่ะ
แล้วเขาก็ส่งรูปผู้ชายคนนึงมาครับ
เป็นรูปผู้ชาย หุ่นดี เห็นแต่ช่วงลำตัว ไม่เห็นหน้า
เขา:เนี่ยเพื่อนพี่
ผม:ครับ
เขา:ป่ะ
ผม:ครับ
เขา: ตุงยัง
ผม : ตุงแล้วครับ
เขา : อยากป่ะ ทรีซีม
ผม : อยากครับ แต่ไม่เคย
เขาก็ทักๆ แชทๆ มาอย่างเงี้ย จนผมเริ่มคิดในใจนะ ว่าคนไรว่ะ รำคาญและนะ จะเจอไม่เจอจะเอาไง งงๆ นะเนี่ย แต่ก็ยังเชื่อใจครับ คิดว่าเขาคงเล่นๆ สนุกๆ อยากเจอเราจริงๆ
ผม : อยากเจออ่ะครับ เจอกันไหม
เขา: อยากโดนเอาไหม
ผม :คร้าบบ
แล้วเขาก็ส่งภาพตัวผู้ชายใส่กางเกงใน เห็นจุ้บุ่ๆ ตุงๆ
เขา: ขอดูหน่อย
ผม: (ผมนี่ตอนนั้นเซ็งมากครับ อะไรของพี่คร้าบบ ผมอยากเจอพี่แล้วนะ หมดอารมณ์แล้วนะ ทำไมเยอะจัง)แต่ก็ด้วยความที่เชื่อใจ ปั่น K ทั้งๆที่ไม่มีอารมณ์เลย ส่งให้เขาไปครับ


หลังจากนั้น วีหว่ออออ หายไปเลยครับ หายไปกับกลีบเมฆ หายไปในทุ่งหญ้าาาา
ส่วนตัวเรานั้น เฟลเลยครับ
อีกวันผมทักเขาไปใน Grindr พอทักไปปั้บ โดนบล็อคทันทีเลยครับ ผมนี่สติแตกเลยครับ ตามหาเฟส หาไอจีเขาเลย ทักไปถามเขาว่า ผมทำอะไรผิดหรอ ผมแค่อยากคุยด้วยเฉยๆ แต่ก็ไม่มีไรตอบมาครับ
หลังจากนั้นผมนอนซมเลยครับ คิดมากทั้งคืน รู้สึกผิดกับตัวเองมากๆ คิดไปต่างๆ นานา เราไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้หรอ เราจู่โจมเขาไปหรอ หรือมันไม่ควรหรอ หรืออะไรหรอ คิดไปต่างๆ นานา จนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายเลยครับ สตินี่หลุดเลยครับ
ผวาหวาดกลัวคนรอบข้างไปหมด ทั้งแม่ ทั้งพี่สาวพี่ชาย โลกทั้งโลกนี่น่ากลัวไปหมดเลยครับ ดูทีวีไม่รู้เรื่อง จากที่เวลาปกติชอบนอนดูหนังผ่อนคลาย ก็ดูไม่รู้เรื่อง จะกินก็ไม่อยากกิน ไม่อยากทำไรทั้งสิ้นครับ รู้สึกหมดหวังครับ ไม่อยากอยู่ต่อแล้ว
แต่ แต่ ด้วยความที่ผมยังรักตัวผมเอง ยังห่วงแม่ ห่วงครอบครัว ยังเชื่อว่าตัวเองมีหน้าที่การงาน มีอนาคตดีดีรอคอยอยู่
เลยตัดสินใจ เล่าให้แม่ฟังครับ ว่าเกิดไรขึ้น แต่ไม่ได้เล่าทั้งหมดนะครับ เล่าแค่ว่าเราไปคุยกับผู้ชายคนนึง แล้วเขาก็บล็อคเราไป ไม่กล้าเล่าเรื่องฮา์ดคอแบบข้างบนนี้ครับ 55
แล้วก็พยายามหาข้อมูลใน Youtube ครับ ว่าเราจะหายจากอาหารนี้ได้ยังไง ก็ลองดูพวกขุนเขาไรพวกนี้ เขาก็บอกให้เราต้องออกไปหาไรทำ
ช่วงนั้นได้งานใหม่พอดีครับ ผมก็ไปทำงาน (แต่ๆ ครับ ทรมารมากเลยครับ ทำงานไปเศร้าไป คิดแต่เรื่องที่เกิดขึ้น ปวดหัว เป็นไมเกรน กลัวคนรอบข้างไปหมดครับ หวาดระแวงกับคนรอบๆ ตัว ไปหมด มันแย่มากครับ)
จนวันนึงเราก็บอกแม่ว่า เราอยากไปหาหมอแหละ ไม่ไหวแหละ(ตอนนั้นก็คิดไปต่างๆ นานา ครับ นี่เราเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า) พาเราไปศรีธัญญา เราอยากหาย ก็ได้ไปให้หมอวินิจฉัยครับ หมอก็บอกมาว่าเราไม่ได้เป็นอะไร แค่อกหัก แล้วก็มีพบนักจิตวิทยา
ผมได้ยา 2 ตัวมาทานครับ อยากคลายเศร้า กับยาคลายวิตกกังวล ผมทานยานี้อยู่ 2 อาทิตย์ อาการยิ่งไปกันใหญ่ครับ จำอะไรไม่ได้เลยครับ หลงๆ ลืมๆ สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สมาธิก็ไม่มี ทำงานลำบากมากเลยครับ ระแวงคนไปใหม่ ผมก็หาทางออกเวลาไปทำงาน ด้วยการโทรหาพี่สาว โทรหาแม่ ให้เขาปลอบใจเรา
หลังจากนั้นผมหยุดยาครับ คิดว่ามันไม่ช่วยครับ มันทำให้เราแย่ลงครับ
ผมเลยใช้วิธีระบายกับเพื่อน ขอคำปรึกษาจากแม่ พี่สาว พี่ชาย ระบายๆ อาการต่าง ๆ นานาให้กับคนที่พบเจอ อาการผมก็ค่อยๆ ดีขึ้นครับ
ผมอยากบอกว่าตอนนี้ผมอึดอัดใจมากครับ ไม่รู้จะให้เรื่องนี้ออกไปจากหัวยังไง มันวนเวียนๆ อยู่ในหัว นี่ก็ถามตัวเองว่าเราโดนหลอกหรอ หรือนี่เราอกหักหรืออะไร แต่มันจุกอกครับ ผมเจตนาอยากเจอเขา อยากทำความรู้จักเขาจริงๆ (โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า การมีเซ็กกัน สามารถเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ได้ )
ถึงตอนนี้มันก็หลายเดือนแล้วนะครับ สติผมก็ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ อาการปวดหัวก็น้อยลงมากแล้วครับ เริ่มอยากกินนู่นนี่กินนี่ น้ำหนักที่ลดลงไปก็เริ่มกลับมา
"""มันแย่มากครับ ชีวิตผมที่เพิ่งเรียนจบ กำลังอยู่ในช่วงตั้งต้นการทำงาน กำลังมีไฟ อยากทำนู่นทำนี่จะได้มีอนาคนที่ดีขึ้น แต่จิตใจกลับห่อเหี่ยว มันท้อแท้ไปหมดครับ มีแต่ความคิดลบๆ เข้ามาในหัว""
.........เหนื่อยจังเลยครับ อยากกลับไปมีชีวิตที่มีความสุข สดใสเหมือนเมื่อก่อน
รักที่ไม่สมหวัง หรือแค่โดนหลอกเป็นของเล่น (Gay)
(เคยมีแฟนมาแล้ว ได้คบกัน ก็จากในแอป Grindr ครับ)
เริ่มจากช่วงเดือนปลายเดือนเมษายน ผมเพิ่งเลิกกับแฟนมาครับ เลยโหลด Grindr มาเล่น
เล่นไปเล่นมาได้เจอผู้ชายคนนึงนามสมมุติว่า P นะครับ เมื่อวันอาทิตย์ปลายเดือนเมษายน 2561 ครับ
-วันอาทิตย์-
ด้วยความที่ผมรู้สึกถูกสเป็ค อยากรู้จัก เราสองคนก็ได้ทักกันคุยกันเบื้องต้น ถามชื่อ ถามหน้าที่การงาน เรียนอะไร ทำงานที่ไหน หาอะไร (ด้วยสถานการณ์ที่เขากรึ่มๆ เมาๆ ส่วนตัวผมนั้นปกติดี) ก็มีส่งรูปกันและกันให้ดูหน้าค่าตา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-เช้าวันจันทร์ต่อมา-
ผมกำลังทำงานอยู่ เขาทักมาว่า “หลับสบายไหมครับ” ในวันนั้นก็ได้คุยกันนิดหน่อยๆ ถามความชอบต่าง ๆ นานา ถามว่าทำไมเราเลิกกับแฟน ไม่มีเซ็กนานยัง แล้วผมก็ชวนเขาไปให้พาไปเที่ยวหน่อย แต่เขาก็มีท่าทีบ่ายเบี่ยง วันนี้เลยไม่มีอะไรครับ ก็ไม่ค่อยได้คุยไรกันต่อมาก
อีกหลายวันต่อมา ผมก็ยุ่งๆ กับงานไม่ได้ทักทายไรเขาไป ด้วยความที่ไม่กล้า ไม่รู้จะคุยอะไรยังไง หรือทักอะไรไปดี กลัวเขาไม่คุยด้วย
-จนถึงวันที่ 1 พฤษภาคม- (ผมจำวันได้เพราะเป็นวันที่ผมดูแลอีเว๊นท์ใหญ่ของที่ทำงาน)
หลังจากเลิกงานเสร็จ ด้วยความที่รู้ว่าเขาชอบดื่มไวน์ ผมก็ถ่ายรูปไวน์ส่งไปให้ แล้วถามว่า “ดื่มไวน์ไหมครับ” เขาก็ตอบมาเป็นรูปเหมือนกำลังดื่มไวน์อยู่
-เช้าวันต่อมา- ผมก็ทักไป
ผม: สวัสดีครับ
นาย P : สวัสดี
นาย P และผม : คุยกันปกติ เมื่อวานทำงานที่ไหน ทำอะไรยังไง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผม: ปล่าวครับ อยากคุยกับพี่ครับ พี่ดูเป็นผู้ใหญ่ดีครับ อยากนัดไปทานข้าว คุยกันครับ
เขา: ไม่อยากคุย
ผม: โอเคครับ
ตอนนั้นผมก็เฟลไปครับ หายไปเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์เลยครับ ก็ไม่ได้ทักเขาไป ก็ไปส่องตาม FB เขา แล้วก็ดูเขาใน Grindr (แอปมันบอกพิกัดได้ว่าห่างไกลกันเท่าไหน ผมเห็นแหละว่าเขาห่างไปเป็น 7-8 พันกิโลเลยครับ เลยรู้ว่าเขาไม่อยู่เมืองไทย น่าจะไปเมืองนอก ก็เลยไม่ทักเขาไป ) ตัวผมเองช่วงนั้นก็ยุ่งๆ กับงานครับ
ช่วงกลาง ๆ มิถุนา
-วันเสาร์-
ผมทักเขาไป
ผม : สวัสดีครับ
ผม : เป็นไงบ้างครับ เห็นไปเมืองนอก
เขา : เห้ย รู้ได้ไง
ผม : ก็ดูจากระยะทางใน App อ่ะครับ
เขา : อ่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-เช้าวันอาทิตย์ต่อมา-
ผมก็ทักทายเขาไปครับ
ด้วยความที่เขาบอกว่าอยากไปทะเลกับเรานู่นนี่ ไปสวีทกันอย่างนู้นอย่างนี้
ผมก็ส่งรูปทะเลที่ผมเพิ่งไปทำงานมาให้เขาดู แล้วบอกไปว่า อยากเจอกันกันนะครับ หวังว่าจะได้มีโอกาสไปเที่ยวอย่างนี้ด้วยกันครับ
เขาตอบกลับมาว่า : อยากเจอปล่าว เจอกัน
ผม : อยากเจอคร้าบบ (ก็ดีใจ ในใจคิดวันนี้จะได้เจอกันแล้ว)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนตัวเรานั้น เฟลเลยครับ
อีกวันผมทักเขาไปใน Grindr พอทักไปปั้บ โดนบล็อคทันทีเลยครับ ผมนี่สติแตกเลยครับ ตามหาเฟส หาไอจีเขาเลย ทักไปถามเขาว่า ผมทำอะไรผิดหรอ ผมแค่อยากคุยด้วยเฉยๆ แต่ก็ไม่มีไรตอบมาครับ
หลังจากนั้นผมนอนซมเลยครับ คิดมากทั้งคืน รู้สึกผิดกับตัวเองมากๆ คิดไปต่างๆ นานา เราไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้หรอ เราจู่โจมเขาไปหรอ หรือมันไม่ควรหรอ หรืออะไรหรอ คิดไปต่างๆ นานา จนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายเลยครับ สตินี่หลุดเลยครับ
ผวาหวาดกลัวคนรอบข้างไปหมด ทั้งแม่ ทั้งพี่สาวพี่ชาย โลกทั้งโลกนี่น่ากลัวไปหมดเลยครับ ดูทีวีไม่รู้เรื่อง จากที่เวลาปกติชอบนอนดูหนังผ่อนคลาย ก็ดูไม่รู้เรื่อง จะกินก็ไม่อยากกิน ไม่อยากทำไรทั้งสิ้นครับ รู้สึกหมดหวังครับ ไม่อยากอยู่ต่อแล้ว
แต่ แต่ ด้วยความที่ผมยังรักตัวผมเอง ยังห่วงแม่ ห่วงครอบครัว ยังเชื่อว่าตัวเองมีหน้าที่การงาน มีอนาคตดีดีรอคอยอยู่
เลยตัดสินใจ เล่าให้แม่ฟังครับ ว่าเกิดไรขึ้น แต่ไม่ได้เล่าทั้งหมดนะครับ เล่าแค่ว่าเราไปคุยกับผู้ชายคนนึง แล้วเขาก็บล็อคเราไป ไม่กล้าเล่าเรื่องฮา์ดคอแบบข้างบนนี้ครับ 55
แล้วก็พยายามหาข้อมูลใน Youtube ครับ ว่าเราจะหายจากอาหารนี้ได้ยังไง ก็ลองดูพวกขุนเขาไรพวกนี้ เขาก็บอกให้เราต้องออกไปหาไรทำ
ช่วงนั้นได้งานใหม่พอดีครับ ผมก็ไปทำงาน (แต่ๆ ครับ ทรมารมากเลยครับ ทำงานไปเศร้าไป คิดแต่เรื่องที่เกิดขึ้น ปวดหัว เป็นไมเกรน กลัวคนรอบข้างไปหมดครับ หวาดระแวงกับคนรอบๆ ตัว ไปหมด มันแย่มากครับ)
จนวันนึงเราก็บอกแม่ว่า เราอยากไปหาหมอแหละ ไม่ไหวแหละ(ตอนนั้นก็คิดไปต่างๆ นานา ครับ นี่เราเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า) พาเราไปศรีธัญญา เราอยากหาย ก็ได้ไปให้หมอวินิจฉัยครับ หมอก็บอกมาว่าเราไม่ได้เป็นอะไร แค่อกหัก แล้วก็มีพบนักจิตวิทยา
ผมได้ยา 2 ตัวมาทานครับ อยากคลายเศร้า กับยาคลายวิตกกังวล ผมทานยานี้อยู่ 2 อาทิตย์ อาการยิ่งไปกันใหญ่ครับ จำอะไรไม่ได้เลยครับ หลงๆ ลืมๆ สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สมาธิก็ไม่มี ทำงานลำบากมากเลยครับ ระแวงคนไปใหม่ ผมก็หาทางออกเวลาไปทำงาน ด้วยการโทรหาพี่สาว โทรหาแม่ ให้เขาปลอบใจเรา
หลังจากนั้นผมหยุดยาครับ คิดว่ามันไม่ช่วยครับ มันทำให้เราแย่ลงครับ
ผมเลยใช้วิธีระบายกับเพื่อน ขอคำปรึกษาจากแม่ พี่สาว พี่ชาย ระบายๆ อาการต่าง ๆ นานาให้กับคนที่พบเจอ อาการผมก็ค่อยๆ ดีขึ้นครับ
ผมอยากบอกว่าตอนนี้ผมอึดอัดใจมากครับ ไม่รู้จะให้เรื่องนี้ออกไปจากหัวยังไง มันวนเวียนๆ อยู่ในหัว นี่ก็ถามตัวเองว่าเราโดนหลอกหรอ หรือนี่เราอกหักหรืออะไร แต่มันจุกอกครับ ผมเจตนาอยากเจอเขา อยากทำความรู้จักเขาจริงๆ (โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า การมีเซ็กกัน สามารถเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ได้ )
ถึงตอนนี้มันก็หลายเดือนแล้วนะครับ สติผมก็ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ อาการปวดหัวก็น้อยลงมากแล้วครับ เริ่มอยากกินนู่นนี่กินนี่ น้ำหนักที่ลดลงไปก็เริ่มกลับมา
"""มันแย่มากครับ ชีวิตผมที่เพิ่งเรียนจบ กำลังอยู่ในช่วงตั้งต้นการทำงาน กำลังมีไฟ อยากทำนู่นทำนี่จะได้มีอนาคนที่ดีขึ้น แต่จิตใจกลับห่อเหี่ยว มันท้อแท้ไปหมดครับ มีแต่ความคิดลบๆ เข้ามาในหัว""
.........เหนื่อยจังเลยครับ อยากกลับไปมีชีวิตที่มีความสุข สดใสเหมือนเมื่อก่อน