เที่ยวญี่ปุ่น เริ่มฤดูใบไม้ร่วง 2018 : ep 1 (2 Nov)

สวัสดีค่าา กลับมาบันทึกการเดินทางเป็นครั้งที่ 2

ปลายปี 2018 ขอทิ้งท้ายด้วยการไปเที่ยวญี่ปุ่น 9 วัน 8 คืน (เดินทาง 2-10 พ.ย.) ชมใบไม้เปลี่ยนสีเพื่อเป็นรางวัลชีวิตให้กับตัวเองหน่อยนะคะ
ไปกันเอง 2 คน ไม่ง้อทัวร์ แต่ง้อรีวิวในพันทิปค่า (โดยเฉพาะของกินที่ได้ลายแทงจากห้องก้นครัว อิอิ ขอบคุณคนทำรีวิวทิ้งไว้ทุกคนเลยนะคะ)

การเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งนี้เราทั้งสองคนเลือกใช้ซิมของดีแทคค่ะ เนื่องจากซิมของเอไอสใช้ได้ 8 วัน ซิมของดีแทคได้ 10 วัน เราไป 9 วันก็เลยต้องจัดดีแทคค่ะ ทีแรกไม่มั่นใจเรื่องสัญญาณ แต่ปรากฎว่าใช้งานได้ดีเลยค่ะ มีเมสเสสมาบอกว่าใช้เนตเกินแล้วจะปรับความเร็วลงก็ช่วงวันเที่ยววันที่ 9 พอดี (เป็นคนอัพรูปเล่นโซเชียลเยอะพอประมาณค่ะ ส่วนของสามีจะหมดไวกว่าหน่อยเพราะนางชอบดูหนังดูยูทูปอะไรของนางไปพอเนตหมดแล้วความเร็วลดลงก็ลำบากเหมือนกันค่ะ)
ปล.แต่อยู่รถไฟฟ้าใต้ดินสัญญาณไม่ค่อยมีนะคะไม่รู้ค่ายอื่นเป็นอย่างไร ใครใช้ค่ายอื่นที่ดีกว่ามาบอกกับบ้างนะคะ

Day 1 : 2 Nov 2018

ทริปนี้บินกับแอร์เอเชียเอ๊กซ์ XJ 610 ดอนเมือง - โอซาก้า สบายสบายสไตล์โลว์คอส
แต่ๆๆๆ เกิดอาการดีเลย์ 1 ชั่วโมงค่า โชคดีสามีมีบัตร SCB ร่วมกับ King Power เลยได้ใช้บริการมีที่นั่งรอ มีอาหาร ขนม น้ำ พร้อม (ขนาดแอบไปกินแซนวิสสตาร์บัคมาเราก็ไม่หวั่นค่า สายกินมาเองนะขอบอก)











สั่งอาหารของแอร์เอเชียไว้ล่วงหน้าเพราะว่าราคาถูกกว่าสั่งบนเครื่อง(150฿) แถมน้ำเปล่า 1 ขวดในเซตด้วยค่ะ ทานเป็นมื้อเย็นบนเครื่องแล้วหลับยาวไปเลยค่ะ







ทานเสร็จแล้วไฟก็เริ่มหรี่ลง ก็ทำการเช็ดหน้าแล้วมาส์กหน้าฆ่าเวลา นั่งสักพักก็หลับค่ะ

ด้วยความที่เป็นไฟล์ทบิน 14.15 ต้องถึง 21.40
ประกอบกับไฟล์ทดีเลย์ ทำให้เราน่าจะถึงสนามบินคันไซเวลาโดยประมาณ 22.40 ซึ่งก็ตุ้มๆต่อมๆ ว่าจะไปขึ้นรถ Airport Limousine Bus เพื่อไปเกียวโตในรอบสุดท้ายคือ 23.55 ทันกันหรือไม่



และก็เตรียมใจไว้ว่าถ้าไม่ทันจริงๆก็นอนสนามบินเพื่อนรอไปรถรอบแรกตอน 6.10 งื้ออออ ซึ่งใจจริงแล้วอยากไปนอนที่โรงแรมทีเดียวเลยมากกว่า



ทั้งนี้ได้ให้เพื่อนที่จองโรงแรมให้ช่วยประสานล่วงหน้าว่าจะไปถึงโรงแรมช้า รบกวนอยู่รอรับหนูด้วยจ้า แต่ถ้าตี 3 ไม่เห็นหน้าคือหนูนอนสนามบินเรียบร้อยแล้วแต่อย่างไรก็ตามก็จะไปพักที่โรงแรมอยู่ดีอาจจะเจอตอนเช้าแทนค่าา

สรุปเครื่องแลนดิ้งปุ๊บ ด้วยความที่ไม่มีของเก็บไว้บนเคบิน ก็รีบเดินไปต่อแถวรอลงเครื่อง ณ จุดนี้ได้ยินเสียงก่นว่า “เค้ารีบให้เค้าไปก่อนเลย” คือแบบต้องขอโทษและขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วยนะคะ

ลงเครื่องแล้วก็ผ่านตม. เรียบร้อย โชคดีไม่เจอทัวร์ลง คนไม่เยอะมาก และตม.ก็ไม่ได้ถามอะไรผ่านสบายสบาย

จังหวะรอกระเป๋าค่ะ งื้อออ รอนานเชียว คนก็ยืนบังไปหมด อยากจะมีสิทธิ flatbed ขึ้นมาทันที แต่รอบนี้เรามาประหยัดเก็บเงินไ้ว้กินกันก่อน ไม่ใช่อะไรกลัวมีรายจ่ายอีกเยอะค่า

สักพักกระเป๋ามา 1 ใบก่อน เลยรีบวิ่งออกไปผ่านด่านศุลกากร ณ จุดนี้ เทสามีให้รอกระเป๋าอีกใบไปก่อนค่ะ ตัวเรารีบออกจากตึกสนามบินแล้วเลี้ยวซ้ายเดินหาตู้กดตั๋วรถ Airport Limousine Bus ที่ทำการบ้านมาคือ ตู้หมายเลข 8 (ต้องขอบคุณเพื่อนรักที่หาข้อมูลที่จอดรถบัสไปเกียวโตและตู้กดตั๋วไว้ก่อนล่วงหน้าเพื่อนจะได้ไม่เงอะงะ) เป็นจังหวะที่ดีอีกคือคนไม่เยอะ ตู้ใช้งานง่ายเพราะดูรีวิวมาเยอะ อิอิ กดได้ตั๋วมาเรียบร้อย สามีลากกระเป๋าตามมาทันต่อคิวพอดี ดีใจน้ำตาจิไหล นึกว่าจะได้นอนสนามบินส่ะแล้ว











ขึ้นรถบัสไปเกียวโตไม่มีคนไทยเลย แหะ แหะ สงสัยคนอื่นคงจะเข้าโอซาก้ากันหมด รถบัสที่ญี่ปุ่นนี้ดีนะคะ ขับช้า ประมาณ 80 กม. ดูปลอดภัย คิดว่าคงจำกัดความเร็ว นั่งดูวิวมืดๆ วิวถนนข้างทางอ่านป้ายไปมา กดดูระยะทางใน กูเกิลแมพไปพลาง หึหึ อีกไกลเชียว



ถึงแล้ว รถบัสจะจอดให้ลงแถวสถานีเกียวโตค่ะ ณ เวลานี้ก็ตี 1 กว่าๆ หิวมากค่ะ แวะ Lawson ที่เรารักกันดีกว่า อิอิ



เห็นเวลาที่นาฬิกาแล้วอยากจะตีมือตัวเองที่กินมื้อดึกขนาดนี้...แต่ท้องก็ร้องห้ามไว้ค่ะ แหะแหะ

จองโรงแรมล่วงหน้าทางแอพ  Booking ประมาณ 2 เดือน เน้นเลือกโรงแรมที่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเดินจากสถานีเกียวโตประมาณ 900 เมตรก็ถึงโรงแรมค่ะ







ห้องขนาดเตียงเดี่ยว 2 เตียงค่ะ เนื่องจากจองห้องเตียงใหญ่ไม่ทันเพราะเต็มหมดแล้ว อุปกรณ์ในห้องพักครบครัน ความสะอาดดีมาก การบริการ พนักงานสุภาพเรียบร้อยดีมากเว่อร์ ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำเล็กๆ ไว้แช่น้ำร้อนเวลาเดินมากๆ ช่วยคลายเส้นได้ดีเลย เป็นโรงแรมที่ดีมากเก็บไว้เป็นตัวเลือกได้เลยค่ะ

จบแล้วสำหรับบันทึกการเดินทางวันแรก
ทริปนี้ยังอีกยาวไกล พรุ่งนี้เตรียมตัวใส่ชุดกิโมโนที่เช่าไว้ อิอิ แล้วจะมารีวิวต่อนะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่