ดูแมตช์ ไทย - อินโดนีเซีย เมื่อคืน
ไทยเราเปลี่ยนเกม ยกระดับการเล่นได้ดี เมื่อเล่นกับทีมอาเซียนด้วยกัน
มันแปลกใหม่จริงๆ ครับ กับวิธีการเล่น ที่มีการเร่งและผ่อน
มีจังหวะในการเพรสแดนบน เมื่อคืนสรรวัชย์ มีแพสชั่นดีมาก
และเป็นคนคุมจังหวะในการเริ่มเพรสซิ่งแดนบน ทำเอาอินโดฯ เสียบอลแดนบนหลายครั้ง
ถ้าจำไม่ผิดลูกที่ 3 ก็ได้จากการเล่นเพรสซิ่งแดนบน
ถึงแม้จะยังไม่ค่อยเนียน แต่ยังมีแมตช์จริงให้ฝึกเล่นแบบนี้ได้อีกหลายเกม ก่อนเข้าเอเชี่ยนคัพ
เกมเมื่อคืนจะมีจุดด้อยบ้าง ก็คือ เล่นผ่อนไปหน่อย ช่วงต้นครึ่งแรก กับ ปลายครึ่งหลัง จนเสียไป 2 ลูก
ก็เห็นกันทุกคนอยู่แล้ว โค้ชก็รู้ดี ถึงกับแสดงอาการหัวร้อนออกมา
แต่ฟุตบอลสนามใหญ่ก็ยังงี้แหละครับ ใครทีมไหนจะไปเล่นดีได้เต็มที่ ทุกแมตช์และตลอด 90 นาที
นี่มันแค่แมตช์เดย์ 2 รอบแรกนะครับ (พรี่) ชนะ 4-2 ก็พอแล้ว
เล่นอย่างนี้ ถ้าชนะได้ทุกแมตช์จนแชมป์ ผมยอมครับ
ดีกว่า ยิ่งถล่ม 5-6 ลูก แต่ไม่ได้แชมป์
อีกอย่างที่ผมมองว่า มันคือ มิติใหม่ทีมชาติไทย คือ วิธีการเล่น
ไม่โหมกระหน่ำบ้าบุก เอาแบ็คเติมให้โดนสวน
(เพราะขนาดเล่นเซฟ ยังโดนอินโดฯ ยิงลูกแรก จากฝั่งแบ็คขวาเลย
จ่าเย็นหายไปไหน ปล่อยให้ฟิลิป โรลเลอร์ เจอเดี่ยวๆ หลายลูก
ฝั่งแบ็คซ้าย ก็เหมือนกัน ตัวบนช่วย กรกช ไม่ค่อยได้เลย เจอเดี่ยวๆ บ่อยมาก)
มิติใหม่คือ เล่นเซตพีซ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แบบเดียวกัน วิธีเดียวกันเลย กับที่ทีมอย่าง เกาหลี ญี่ปุ่น เล่นกับเรา
รวมทั้งวิธีการเล่นสวนกลับ แบบลูกที่ ปกเกล้ายิงลูกสุดท้าย
ทีมใหญ่ๆ เขาก็ปล่อยให้เราบุก ไปเรื่อยๆ นั่นแหละครับ พอเข้า พ.ท.สุดท้าย ค่อยรุมแย่ง
พอเราพลาด ก็หาโอกาสและจังหวะทิ้งบอลทะลุช่อง อาศัยพละกำลังที่ดีกว่า ใช้ในเวลาที่ถูกต้อง
(ปล...ไม่ใช่บ้าพลัง เอาไปกระหน่ำเล่นเกมบุกเสียจนหมดก่อน)
เห็นปกเกล้า เริ่มสปีดแล้ววิ่งแซงเอาดื้อๆ ไหมครับ
บอลไทยเราเมื่อก่อน ก็เหมือนอินโดฯ นี่แหละ
คือ อ่อนเรื่องแท็คติก ... ไม่ใช่ไม่เก่งนะครับ เพราะบางแมตช์เราก็เอาชนะคู่แข่งได้
ในยามที่ทีมยังมีสมดุลย์ดี แต่มันไม่เซฟเหมือนวิธีการเล่นแบบราเยวัช (หรือ แบบสากลเขาเล่นกัน)
สรุป จากแมตช์อินโดฯ เมื่อคืนคือ เรายังเล่นได้ตามฟอร์ม
เราเล่นเหมือนกับซ้อมวิธีการเพื่อเอาไว้ใช้ในเอเชี่ยนคัพ
เรายังเหนือกว่าอินโดนีเซีย อย่างชัดเจน
และ ยังมีข้อบกพร่องให้แก้ไข เป็นการบ้าน (ข้อดีเลยนะเนี่ย)
บอลไทยยุคราเยวัช อาจดูไม่สนุกเอนเตอร์เทน
แต่ถ้าดูแล้วเข้าใจเกม จะถูกใจมากกว่าครับ เพราะมีโอกาสแพ้น้อยกว่า
คุยกันหลังเกม ไทยเล่นได้ตามฟอร์มนะ
ไทยเราเปลี่ยนเกม ยกระดับการเล่นได้ดี เมื่อเล่นกับทีมอาเซียนด้วยกัน
มันแปลกใหม่จริงๆ ครับ กับวิธีการเล่น ที่มีการเร่งและผ่อน
มีจังหวะในการเพรสแดนบน เมื่อคืนสรรวัชย์ มีแพสชั่นดีมาก
และเป็นคนคุมจังหวะในการเริ่มเพรสซิ่งแดนบน ทำเอาอินโดฯ เสียบอลแดนบนหลายครั้ง
ถ้าจำไม่ผิดลูกที่ 3 ก็ได้จากการเล่นเพรสซิ่งแดนบน
ถึงแม้จะยังไม่ค่อยเนียน แต่ยังมีแมตช์จริงให้ฝึกเล่นแบบนี้ได้อีกหลายเกม ก่อนเข้าเอเชี่ยนคัพ
เกมเมื่อคืนจะมีจุดด้อยบ้าง ก็คือ เล่นผ่อนไปหน่อย ช่วงต้นครึ่งแรก กับ ปลายครึ่งหลัง จนเสียไป 2 ลูก
ก็เห็นกันทุกคนอยู่แล้ว โค้ชก็รู้ดี ถึงกับแสดงอาการหัวร้อนออกมา
แต่ฟุตบอลสนามใหญ่ก็ยังงี้แหละครับ ใครทีมไหนจะไปเล่นดีได้เต็มที่ ทุกแมตช์และตลอด 90 นาที
นี่มันแค่แมตช์เดย์ 2 รอบแรกนะครับ (พรี่) ชนะ 4-2 ก็พอแล้ว
เล่นอย่างนี้ ถ้าชนะได้ทุกแมตช์จนแชมป์ ผมยอมครับ
ดีกว่า ยิ่งถล่ม 5-6 ลูก แต่ไม่ได้แชมป์
อีกอย่างที่ผมมองว่า มันคือ มิติใหม่ทีมชาติไทย คือ วิธีการเล่น
ไม่โหมกระหน่ำบ้าบุก เอาแบ็คเติมให้โดนสวน
(เพราะขนาดเล่นเซฟ ยังโดนอินโดฯ ยิงลูกแรก จากฝั่งแบ็คขวาเลย
จ่าเย็นหายไปไหน ปล่อยให้ฟิลิป โรลเลอร์ เจอเดี่ยวๆ หลายลูก
ฝั่งแบ็คซ้าย ก็เหมือนกัน ตัวบนช่วย กรกช ไม่ค่อยได้เลย เจอเดี่ยวๆ บ่อยมาก)
มิติใหม่คือ เล่นเซตพีซ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แบบเดียวกัน วิธีเดียวกันเลย กับที่ทีมอย่าง เกาหลี ญี่ปุ่น เล่นกับเรา
รวมทั้งวิธีการเล่นสวนกลับ แบบลูกที่ ปกเกล้ายิงลูกสุดท้าย
ทีมใหญ่ๆ เขาก็ปล่อยให้เราบุก ไปเรื่อยๆ นั่นแหละครับ พอเข้า พ.ท.สุดท้าย ค่อยรุมแย่ง
พอเราพลาด ก็หาโอกาสและจังหวะทิ้งบอลทะลุช่อง อาศัยพละกำลังที่ดีกว่า ใช้ในเวลาที่ถูกต้อง
(ปล...ไม่ใช่บ้าพลัง เอาไปกระหน่ำเล่นเกมบุกเสียจนหมดก่อน)
เห็นปกเกล้า เริ่มสปีดแล้ววิ่งแซงเอาดื้อๆ ไหมครับ
บอลไทยเราเมื่อก่อน ก็เหมือนอินโดฯ นี่แหละ
คือ อ่อนเรื่องแท็คติก ... ไม่ใช่ไม่เก่งนะครับ เพราะบางแมตช์เราก็เอาชนะคู่แข่งได้
ในยามที่ทีมยังมีสมดุลย์ดี แต่มันไม่เซฟเหมือนวิธีการเล่นแบบราเยวัช (หรือ แบบสากลเขาเล่นกัน)
สรุป จากแมตช์อินโดฯ เมื่อคืนคือ เรายังเล่นได้ตามฟอร์ม
เราเล่นเหมือนกับซ้อมวิธีการเพื่อเอาไว้ใช้ในเอเชี่ยนคัพ
เรายังเหนือกว่าอินโดนีเซีย อย่างชัดเจน
และ ยังมีข้อบกพร่องให้แก้ไข เป็นการบ้าน (ข้อดีเลยนะเนี่ย)
บอลไทยยุคราเยวัช อาจดูไม่สนุกเอนเตอร์เทน
แต่ถ้าดูแล้วเข้าใจเกม จะถูกใจมากกว่าครับ เพราะมีโอกาสแพ้น้อยกว่า