31 ธันวานี้รายการ Master in the House (All the Butlers) ก็จะออกอากาศครบหนึ่งปี ซึ่งรายการได้ประเดิมรางวัลแรก นั่นคือรางวัลรายการวาไรตี้ยอดเยี่ยม จากเวที 45th Korean Broadcasting Awards
หลังจากนี้ก็มารอลุ้นกันว่า ‘อัลฟ่าโกะ อีซังยุน’ จะได้รางวัลหน้าใหม่รายการวาไรตี้ อย่างที่พลทหารซึงกิแซวไว้รึเปล่า...
สำหรับคนไม่เคยดูรายการนี้ที่แวะผ่านมาในกระทู้ จขกท.คงไม่แนะนำว่าควรดูหรือห้ามพลาด เอาเป็นว่าลองดูสักเจ้านายหนึ่งก่อน (เจ้านายคนนึงอยู่ที่ 2-3 ตอน มีเจ้านายโนฮียองคนเดียวที่มีแค่ 1 ตอน) ถ้าดูแล้วรู้สึกคลิกกับอะไรสักอย่างในรายการนี้ Master in the House น่าจะเป็นวาไรตี้อีกรายการหนึ่งที่คุณจะรัก และผูกพันกับมันมากๆ ค่ะ
ดูไปดูมารู้สึกว่าเกาหลีใต้เป็นครอบครัวใหญ่ๆ ครอบครัวหนึ่ง มีผู้ใหญ่ที่เก่งแล้วก็ใจดี (บางทีก็ประหลาดๆ) มากมาย แล้วซึงกินี่เหมือนเป็นศูนย์กลางของครอบครัวเลย รู้จักคนโน้นคนนี้ไปหมด ซองแจเองก็อยากร่วมทีมพ่อบ้านเพราะมีซึงกิเป็นไอดอล เจ้านายบางคนร่วมรายการเพราะเชื่อมั่นในตัวซึงกิ เมื่อมีเจ้านายหลายๆ คนมาร่วมรายการ พ่อบ้านและทีมงานทำรายการออกมาได้ดี คนอื่นๆ ก็อยากที่จะมาร่วมรายการในฐานะเจ้านายด้วยเหมือนกัน อย่างพี่ฮาจองอู จขกท.หวีดหนักมากค่ะ ขอให้ได้ 3 ตอนอย่างที่ทาบทามทีเถอะ
กระทู้นี้ขออวยในแง่นิสัย และพัฒนาการด้านมิตรภาพของสี่ซ. ซังซึงฮยองแจ เน้นๆ นะคะ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้จขกท.จากที่แค่ชอบรายการนี้ กลายเป็นรักหัวปักหัวปำเลย (ไม่เกี่ยวกับซิกแพคของซึงกิเลยนะจริงๆ เชื่อสิ... นี่ก็แค่รอว่าอีพีไหนซึงกิจะถอดเสื้ออีก ๕๕๕)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นิสัยทั้งสี่คนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่กลับทำรายการด้วยกันได้เข้าขาแล้วก็สนุกมากๆ สิ่งหนึ่งที่จขกท.ชอบมาตั้งแต่ตอนแรกๆ คือการปฏิบัติต่อกันของสี่หนุ่ม พวกเขาพยายามปรับตัวเข้าหากัน ใส่ใจ ไม่ปล่อยให้ใครหลุดออกจากวงโคจร เวลาทำภารกิจ อาจมีสมาชิกบางคนสติบินไปดาวอังคาร แต่มักจะมีคนนึงในกลุ่มทำได้ในระดับดี-ดีมากเสมอ จัดว่าสี่คนนี้รวมทีมกันแล้วเป็นสายแข็งทีมหนึ่งทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะ แสดง ร้องเพลง เต้น เล่นกีฬา ปรัชญา กาพย์กลอน แฟชั่นนิสต้า ขี้หลี ตลกผีบ้าผีบอ ฟุดฟิดฟอไฟ ร้องไห้ ก่อไฟ ทำอาหาร ดำน้ำ ขับเครื่องบิน ออเซาะฉอเลาะ ฯลฯ พวกนี้ได้หมด
ถ้าจะอวยในส่วนนิสัย ขอแยกอวยรายบุคคลเรียงตามอายุน้อย-มาก เริ่มจากน้องเล็ก ยุกซองแจ ก่อนเลย
ยุกซองแจ a.k.a. 6CASH (จขกท. ขอเรียกน้องว่า ยุกหกสลึง แล้วกันค่ะ เด็กนี่มันเกินบาท)
...ซองแจเป็นเฟิร์สครัชในรายการของจขกท.เลยค่ะ ตอนแรกที่อยู่ในรถบ้าน ทีมงานให้สติกเกอร์ไปแปะภาพคนดังที่อยากให้มาเป็นเจ้านาย น้องเอาสติกเกอร์ไปแปะแก้มพี่ซึงกิค่า ที่สุดแห่งทักษะประจบประแจงแล้วคนนี้!
แต่พอลองสังเกตมาเรื่อยๆ เป็นเพราะนิสัยน้องเป็นคนใส่ใจต่างหาก อย่างตอนที่เอาอาหารไปป้อนเจ้านายโกดูชิม ตอนที่พี่ซังยุนมีปัญหาเรื่องการเต้น น้องก็อาสาทันทีว่าจะเป็นคนสอนพี่ซังยุนเอง บางทีก็คอยรอพี่ซังยุนให้ไปเข้ากลุ่มด้วยกันเพราะพี่ซังยุนยังใหม่ในรายการวาไรตี้ เก้ๆ กังๆ ทำอะไรไม่ค่อยถูก ตอนได้รับมอบหมายจากเจ้านายชาอินพโยให้เป็นฝ่ายเสื้อผ้า ก็ทำงานได้ไม่มีบกพร่อง ไม่ปล่อยให้หลุดตาแม้แต่เศษด้าย เสื้อพี่ซึงกิมีอะไรติดน้องก็ปัดออกให้
ตอนร้องคอรัสให้เจ้านายอีมุนเซ เซฮยองร้องไม่ได้เพราะเจอโน้ตตัวยากที่สุด น้องก็ขอลองร้องแลกโน้ตกับพี่เซฮยองจนภารกิจการร้องคอรัสจบไปด้วยดี (แต่ที่เซฮยองเขียนจดหมายบอกเจ้านายอีมุนเซว่าน้องเป็นคนเย็นชามาก ถ้าจะให้เดา เพราะน้องกับเซฮยองนิสัยคนละขั้ว เวลาซองแจไม่ค่อยเข้าใจเซฮยอง ปฏิกิริยาของน้องคือจะอึนๆ มึนๆ ไปเลย ไม่ใช่น้องเย็นชา น้องแค่ไม่เข้าใจเฉยๆ ค่ะ ๕๕๕)
นิสัยอีกอย่างที่น่ารักที่สุดของซองแจคือน้องไม่นินทาใคร (น้องบอกขี้เกียจ) เท่าที่จขกท.ดูมา เด็กหกสลึงนี่ดูง่ายมาก คิดอะไรอยู่ในใจจะออกสีหน้าหมด เวลามีอะไรน้องก็กล้าพูดตรงๆ ต่อหน้า อย่างตอนที่เจ้านายยุนยูจองเปิดโอกาสให้สมาชิกได้วิจารณ์กัน น้องเล็กก็พูดกับพี่ใหญ่ซังยุนตรงๆ ว่าไม่ไหวจะทน เรื่องที่พี่ชวนคุยไม่ยอมหลับยอมนอนสักที
ที่สำคัญ น้องไม่อายที่จะเป็นตัวเอง ภาพลักษณ์ไอดอลคืออะไร ลืมไปได้เลย (ความจริงบีทูบีก็เพี้ยนทั้งวงนะ) บางทีก็ดูง่อยๆ โง่ๆ จนเซฮยองล้อว่าเป็นเจ้าทึ่ม ถึงทักษะภาษาอังกฤษจะแย่มาก แต่น้องกระตือรือร้นที่จะสื่อสารมากจริงๆ ยอมใจ ลืมอายไปเลย เพราะคนดูอายแทนหมดแล้ว
อีซึงกิ หรือคุณวินเซนท์ หรือในฉายาพลทหารปลดประจำการ หรือ(อีกที)
ซุปเปอร์สตาร์อีซึงกิ
#โสดๆอยู่ตรงนี้ #อย่าเรียกว่าพี่ต่อไปนี้ให้เรียกว่าป๋า #คนรวย2018 #ไม่ได้โม้นะครัช #ถ้าไม่มั่นหน้าอย่าเรียกเราว่าอีซึงกิ #เงินในกระเป๋าแน่นซิกแพคก็เช่นกัน #เล็กๆไม่ใหญ่ๆซึงกิทำ
คุณคนนี้ต้องชงให้เขาอย่างอลังวังเวอร์สมกับความอีซึงกิทริปเปิลคราวน์ของเขาเนาะ จขกท.ชอบซึงกิที่นิสัยรวยค่ะ คุณเขารวยได้น่ารักมากค่ะ ล่าสุดเห็นว่าจ่ายค่าเครื่อง+ต่างๆ นานาให้เซฮยองกับซองแจในทริปญี่ปุ่นที่ผ่านมาด้วย ตอนส่งข้าวกล่องไปสนับสนุนซองแจที่คัมแบคกับวง ป๋าก็จัดข้าวกล่องแบบที่แพงที่สุดในร้าน (โดยแปะป้ายหน้ากล่องว่า
‘จากซึงกิ’ ตัวใหญ่ๆ ใหญ่...จนชื่อร้านยังอาย) นี่ยังไม่นับตอนที่จะซื้อบ้านพักตากอากาศสามหลัง เก้าพันกว่าล้านวอน ใช้เครดิตการ์ดแต่จะจ่ายงวดเดียว (อ้อ อันนี้มโน... แต่ทำไมงานแต่ง จัสติน บีเบอร์ ถึงจะใส่ซองแค่สี่หมื่นวอนก็ไม่รู้สินะ)
ตัดเข้าสู่โหมดจริงจัง สารภาพว่าก่อนดูรายการ จขกท.รู้จักอีซึงกิ รู้ว่าดังมาก เก่งมาก ดีมาก แต่ไม่เคยดูละครซึงกิจบสักเรื่องเลยค่ะ เพลงก็ไม่เคยฟัง วาไรตี้ก็ไม่เคยดู ดูจากโหงวเฮ้งหน้ารู้สึกว่าน่าจะเป็นคนดื้อๆ เลยไม่ได้สนใจเท่าไร แต่พอได้ดูรายการนี้แล้วก็ได้เห็นว่า...คุณเขาก็เป็นคนดื้อๆ อย่างที่คิดนั่นแหละค่ะ!
เพิ่มเติมคือความละมุน ความสุภาพอ่อนโยน ความตลกเวิ่นเว้อ ความฉลาด ความรับผิดชอบ ความบ้าพลัง และความอีกร้อยแปดพันประการ ที่ทำให้เขายิ่งกว่าคู่ควรกับความดังของเขา
ดูผู้ชายให้ดูเวลาอยู่กับคนในครอบครัว ตอนซึงกิอยู่กับคุณยายคือที่สุดของที่สุดแล้วค่ะ ถ้าซึงกิมีครอบครัว มั่นใจว่าเขาจะต้องเป็นสุดยอดคุณพ่อแน่นอน
สิ่งที่จขกท.ประทับใจในตัวซึงกิคือการกล้ายอมเปิดเผยตัวตนว่าเขาไม่ได้สมบูรณ์แบบ ชอบประโยคนึงของซึงกิมากๆ ตอนที่คุยกับเจ้านายโบอา เขาบอกว่า
“ผู้ชายไม่ดีมีอยู่ทั่วไป บางทีผมเองก็คิดว่า ผู้หญิงแบบนั้นลองจีบดูดีมั้ยนะ”
พูดประโยคนี้มา จขกท.รักเลย ซึงกิเปิดใจมากจริงๆ รู้สึกว่าเขาจริงใจในการสื่อสารมากๆ ไม่มัวคีพลุคจนเกินมนุษย์มนา
ซึงกิยอมรับว่าตัวเองมีจุดบกพร่อง อย่างเรื่องเต้น ทักษะการเต้นของซึงกิค่อนข้างแย่ แต่เขาไม่อายที่จะเต้น จัดเต็ม คึกตลอด ยอมรับว่าตัวเองมั่นหน้า ยอมรับว่ากังวลมากๆ ในการกลับเข้าวงการหลังจากที่หายไปเข้ากรมถึงสองปี อยากได้อะไรก็พูดตรงๆ ไม่แอบอิจฉาอยู่ในใจ อยากขับเครื่องบินบ้าง ก็บอกกับพี่ซังยุนที่เป็นคนชนะเกม ได้เป็นผู้ช่วยนักบิน เอาเครื่องขึ้น ว่าผมก็อยากขับบ้างอะ (งอแงนิดๆ)
ช่วงแรกๆ จขกท.รู้สึกว่าซึงกิเป็นคนชอบพูดชอบคุย พูดมากจนบางทีออกแนวเลอะเทอะ หาทางลงไม่ได้ แต่พอถึงตอนเจ้านายชินเอรา เซฮยองเล่าว่าในสถานการณ์คับขันเจออะไรยากๆ ซึงกิมักจะออกตัวพูดเป็นคนแรก เพื่อยื้อเวลาให้สมาชิกที่เหลือได้ตั้งตัวตั้งสติ
ในส่วนของความโอ๋น้องของคุณเขานั้นก็ไม่บกพร่อง มักจะชมซองแจเสมอว่าเก่งมาก ทำได้ดีมาก ภารกิจดำน้ำตอนเจ้านายคิมบยองมัน น้องดำน้ำไม่เก่ง ซึงกิก็คอยมองดูน้องว่าโอเคไหม พอต้องดำอีกที แต่ซึงกิปวดหู เลยตัดสินใจไม่ดำลงไป ซองแจถามว่า
“พี่ ถ้าเกิดผมเป็นอะไรใต้น้ำล่ะ”
“ต่อให้แก้วหูพี่ต้องแตก พี่ก็จะลงไปช่วยแก ซองแจ”
เหมือนล้อเล่นกันขำๆ แต่จขกท.มั่นใจว่าถ้าซองแจเกิดเป็นอะไรตอนดำน้ำ ถึงแม้จะมีทีมงานอยู่ใต้น้ำหลายคน พลทหารซึงกิก็จะดำลงไปช่วยน้องแน่นอนค่ะ
กลับกันกับการปฏิบัติต่อพี่ใหญ่อย่างซังยุน ซึงกิไม่ปลอบใจ แต่จะคอยช่วยกระตุ้นและสนับสนุนให้ซังยุนกล้าที่จะข้ามขีดจำกัดของตัวเองในรายการวาไรตี้ ตอนเจ้านายชินเอราวิเคราะห์บุคลิกภาพของซังยุน ซังยุนร้องไห้ ซึงกิก็ส่งหลอดวาซาบิให้ค่า บอกว่าพี่ไม่ได้ร้องไห้หรอก แค่วาซาบิมันเผ็ดน่ะ ...นี่คือวิธีการดูแลพี่ของคุณเขาค่ะ
ส่วนกับพี่เซฮยองถึงจะชอบตีกันบ่อย แต่ก็เหมือนจะช่วยให้เซฮยองผ่อนคลาย (หรือไม่อย่างนั้นก็เครียดหนักไปเลย) เซฮยองมีบุคลิกที่ซับซ้อน แต่ซึงกิก็เข้าใจและยอมรับอย่างดี อย่างที่เขาบอกว่า ผู้ชมอาจเห็นเซฮยองสนุกสนาน ทำอะไรเปิ่นๆ เด๋อๆ แต่หลังกล้อง เซฮยองจริงจังมาก เหมือนเป็นคนละคน ...พี่เซฮยองที่สนุกสนาน พี่เซฮยองที่เคร่งขรึม ด้านไหนคือตัวตนที่แท้จริงกันแน่นะ ...แต่ทั้งสองด้านก็คือพี่เซฮยองนั่นแหละ
((มีต่อค่ะ))
(กระทู้อวย+ชวนคุย) Master in the House หนึ่งปีของวาไรตี้ครอบครัวใหญ่แสนอบอุ่น
31 ธันวานี้รายการ Master in the House (All the Butlers) ก็จะออกอากาศครบหนึ่งปี ซึ่งรายการได้ประเดิมรางวัลแรก นั่นคือรางวัลรายการวาไรตี้ยอดเยี่ยม จากเวที 45th Korean Broadcasting Awards
หลังจากนี้ก็มารอลุ้นกันว่า ‘อัลฟ่าโกะ อีซังยุน’ จะได้รางวัลหน้าใหม่รายการวาไรตี้ อย่างที่พลทหารซึงกิแซวไว้รึเปล่า...
สำหรับคนไม่เคยดูรายการนี้ที่แวะผ่านมาในกระทู้ จขกท.คงไม่แนะนำว่าควรดูหรือห้ามพลาด เอาเป็นว่าลองดูสักเจ้านายหนึ่งก่อน (เจ้านายคนนึงอยู่ที่ 2-3 ตอน มีเจ้านายโนฮียองคนเดียวที่มีแค่ 1 ตอน) ถ้าดูแล้วรู้สึกคลิกกับอะไรสักอย่างในรายการนี้ Master in the House น่าจะเป็นวาไรตี้อีกรายการหนึ่งที่คุณจะรัก และผูกพันกับมันมากๆ ค่ะ
ดูไปดูมารู้สึกว่าเกาหลีใต้เป็นครอบครัวใหญ่ๆ ครอบครัวหนึ่ง มีผู้ใหญ่ที่เก่งแล้วก็ใจดี (บางทีก็ประหลาดๆ) มากมาย แล้วซึงกินี่เหมือนเป็นศูนย์กลางของครอบครัวเลย รู้จักคนโน้นคนนี้ไปหมด ซองแจเองก็อยากร่วมทีมพ่อบ้านเพราะมีซึงกิเป็นไอดอล เจ้านายบางคนร่วมรายการเพราะเชื่อมั่นในตัวซึงกิ เมื่อมีเจ้านายหลายๆ คนมาร่วมรายการ พ่อบ้านและทีมงานทำรายการออกมาได้ดี คนอื่นๆ ก็อยากที่จะมาร่วมรายการในฐานะเจ้านายด้วยเหมือนกัน อย่างพี่ฮาจองอู จขกท.หวีดหนักมากค่ะ ขอให้ได้ 3 ตอนอย่างที่ทาบทามทีเถอะ
กระทู้นี้ขออวยในแง่นิสัย และพัฒนาการด้านมิตรภาพของสี่ซ. ซังซึงฮยองแจ เน้นๆ นะคะ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้จขกท.จากที่แค่ชอบรายการนี้ กลายเป็นรักหัวปักหัวปำเลย (ไม่เกี่ยวกับซิกแพคของซึงกิเลยนะจริงๆ เชื่อสิ... นี่ก็แค่รอว่าอีพีไหนซึงกิจะถอดเสื้ออีก ๕๕๕)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นิสัยทั้งสี่คนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่กลับทำรายการด้วยกันได้เข้าขาแล้วก็สนุกมากๆ สิ่งหนึ่งที่จขกท.ชอบมาตั้งแต่ตอนแรกๆ คือการปฏิบัติต่อกันของสี่หนุ่ม พวกเขาพยายามปรับตัวเข้าหากัน ใส่ใจ ไม่ปล่อยให้ใครหลุดออกจากวงโคจร เวลาทำภารกิจ อาจมีสมาชิกบางคนสติบินไปดาวอังคาร แต่มักจะมีคนนึงในกลุ่มทำได้ในระดับดี-ดีมากเสมอ จัดว่าสี่คนนี้รวมทีมกันแล้วเป็นสายแข็งทีมหนึ่งทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะ แสดง ร้องเพลง เต้น เล่นกีฬา ปรัชญา กาพย์กลอน แฟชั่นนิสต้า ขี้หลี ตลกผีบ้าผีบอ ฟุดฟิดฟอไฟ ร้องไห้ ก่อไฟ ทำอาหาร ดำน้ำ ขับเครื่องบิน ออเซาะฉอเลาะ ฯลฯ พวกนี้ได้หมด
ถ้าจะอวยในส่วนนิสัย ขอแยกอวยรายบุคคลเรียงตามอายุน้อย-มาก เริ่มจากน้องเล็ก ยุกซองแจ ก่อนเลย
ยุกซองแจ a.k.a. 6CASH (จขกท. ขอเรียกน้องว่า ยุกหกสลึง แล้วกันค่ะ เด็กนี่มันเกินบาท)
...ซองแจเป็นเฟิร์สครัชในรายการของจขกท.เลยค่ะ ตอนแรกที่อยู่ในรถบ้าน ทีมงานให้สติกเกอร์ไปแปะภาพคนดังที่อยากให้มาเป็นเจ้านาย น้องเอาสติกเกอร์ไปแปะแก้มพี่ซึงกิค่า ที่สุดแห่งทักษะประจบประแจงแล้วคนนี้!
แต่พอลองสังเกตมาเรื่อยๆ เป็นเพราะนิสัยน้องเป็นคนใส่ใจต่างหาก อย่างตอนที่เอาอาหารไปป้อนเจ้านายโกดูชิม ตอนที่พี่ซังยุนมีปัญหาเรื่องการเต้น น้องก็อาสาทันทีว่าจะเป็นคนสอนพี่ซังยุนเอง บางทีก็คอยรอพี่ซังยุนให้ไปเข้ากลุ่มด้วยกันเพราะพี่ซังยุนยังใหม่ในรายการวาไรตี้ เก้ๆ กังๆ ทำอะไรไม่ค่อยถูก ตอนได้รับมอบหมายจากเจ้านายชาอินพโยให้เป็นฝ่ายเสื้อผ้า ก็ทำงานได้ไม่มีบกพร่อง ไม่ปล่อยให้หลุดตาแม้แต่เศษด้าย เสื้อพี่ซึงกิมีอะไรติดน้องก็ปัดออกให้
ตอนร้องคอรัสให้เจ้านายอีมุนเซ เซฮยองร้องไม่ได้เพราะเจอโน้ตตัวยากที่สุด น้องก็ขอลองร้องแลกโน้ตกับพี่เซฮยองจนภารกิจการร้องคอรัสจบไปด้วยดี (แต่ที่เซฮยองเขียนจดหมายบอกเจ้านายอีมุนเซว่าน้องเป็นคนเย็นชามาก ถ้าจะให้เดา เพราะน้องกับเซฮยองนิสัยคนละขั้ว เวลาซองแจไม่ค่อยเข้าใจเซฮยอง ปฏิกิริยาของน้องคือจะอึนๆ มึนๆ ไปเลย ไม่ใช่น้องเย็นชา น้องแค่ไม่เข้าใจเฉยๆ ค่ะ ๕๕๕)
นิสัยอีกอย่างที่น่ารักที่สุดของซองแจคือน้องไม่นินทาใคร (น้องบอกขี้เกียจ) เท่าที่จขกท.ดูมา เด็กหกสลึงนี่ดูง่ายมาก คิดอะไรอยู่ในใจจะออกสีหน้าหมด เวลามีอะไรน้องก็กล้าพูดตรงๆ ต่อหน้า อย่างตอนที่เจ้านายยุนยูจองเปิดโอกาสให้สมาชิกได้วิจารณ์กัน น้องเล็กก็พูดกับพี่ใหญ่ซังยุนตรงๆ ว่าไม่ไหวจะทน เรื่องที่พี่ชวนคุยไม่ยอมหลับยอมนอนสักที
ที่สำคัญ น้องไม่อายที่จะเป็นตัวเอง ภาพลักษณ์ไอดอลคืออะไร ลืมไปได้เลย (ความจริงบีทูบีก็เพี้ยนทั้งวงนะ) บางทีก็ดูง่อยๆ โง่ๆ จนเซฮยองล้อว่าเป็นเจ้าทึ่ม ถึงทักษะภาษาอังกฤษจะแย่มาก แต่น้องกระตือรือร้นที่จะสื่อสารมากจริงๆ ยอมใจ ลืมอายไปเลย เพราะคนดูอายแทนหมดแล้ว
อีซึงกิ หรือคุณวินเซนท์ หรือในฉายาพลทหารปลดประจำการ หรือ(อีกที)ซุปเปอร์สตาร์อีซึงกิ
#โสดๆอยู่ตรงนี้ #อย่าเรียกว่าพี่ต่อไปนี้ให้เรียกว่าป๋า #คนรวย2018 #ไม่ได้โม้นะครัช #ถ้าไม่มั่นหน้าอย่าเรียกเราว่าอีซึงกิ #เงินในกระเป๋าแน่นซิกแพคก็เช่นกัน #เล็กๆไม่ใหญ่ๆซึงกิทำ
คุณคนนี้ต้องชงให้เขาอย่างอลังวังเวอร์สมกับความอีซึงกิทริปเปิลคราวน์ของเขาเนาะ จขกท.ชอบซึงกิที่นิสัยรวยค่ะ คุณเขารวยได้น่ารักมากค่ะ ล่าสุดเห็นว่าจ่ายค่าเครื่อง+ต่างๆ นานาให้เซฮยองกับซองแจในทริปญี่ปุ่นที่ผ่านมาด้วย ตอนส่งข้าวกล่องไปสนับสนุนซองแจที่คัมแบคกับวง ป๋าก็จัดข้าวกล่องแบบที่แพงที่สุดในร้าน (โดยแปะป้ายหน้ากล่องว่า ‘จากซึงกิ’ ตัวใหญ่ๆ ใหญ่...จนชื่อร้านยังอาย) นี่ยังไม่นับตอนที่จะซื้อบ้านพักตากอากาศสามหลัง เก้าพันกว่าล้านวอน ใช้เครดิตการ์ดแต่จะจ่ายงวดเดียว (อ้อ อันนี้มโน... แต่ทำไมงานแต่ง จัสติน บีเบอร์ ถึงจะใส่ซองแค่สี่หมื่นวอนก็ไม่รู้สินะ)
ตัดเข้าสู่โหมดจริงจัง สารภาพว่าก่อนดูรายการ จขกท.รู้จักอีซึงกิ รู้ว่าดังมาก เก่งมาก ดีมาก แต่ไม่เคยดูละครซึงกิจบสักเรื่องเลยค่ะ เพลงก็ไม่เคยฟัง วาไรตี้ก็ไม่เคยดู ดูจากโหงวเฮ้งหน้ารู้สึกว่าน่าจะเป็นคนดื้อๆ เลยไม่ได้สนใจเท่าไร แต่พอได้ดูรายการนี้แล้วก็ได้เห็นว่า...คุณเขาก็เป็นคนดื้อๆ อย่างที่คิดนั่นแหละค่ะ!
เพิ่มเติมคือความละมุน ความสุภาพอ่อนโยน ความตลกเวิ่นเว้อ ความฉลาด ความรับผิดชอบ ความบ้าพลัง และความอีกร้อยแปดพันประการ ที่ทำให้เขายิ่งกว่าคู่ควรกับความดังของเขา
ดูผู้ชายให้ดูเวลาอยู่กับคนในครอบครัว ตอนซึงกิอยู่กับคุณยายคือที่สุดของที่สุดแล้วค่ะ ถ้าซึงกิมีครอบครัว มั่นใจว่าเขาจะต้องเป็นสุดยอดคุณพ่อแน่นอน
สิ่งที่จขกท.ประทับใจในตัวซึงกิคือการกล้ายอมเปิดเผยตัวตนว่าเขาไม่ได้สมบูรณ์แบบ ชอบประโยคนึงของซึงกิมากๆ ตอนที่คุยกับเจ้านายโบอา เขาบอกว่า
“ผู้ชายไม่ดีมีอยู่ทั่วไป บางทีผมเองก็คิดว่า ผู้หญิงแบบนั้นลองจีบดูดีมั้ยนะ”
พูดประโยคนี้มา จขกท.รักเลย ซึงกิเปิดใจมากจริงๆ รู้สึกว่าเขาจริงใจในการสื่อสารมากๆ ไม่มัวคีพลุคจนเกินมนุษย์มนา
ซึงกิยอมรับว่าตัวเองมีจุดบกพร่อง อย่างเรื่องเต้น ทักษะการเต้นของซึงกิค่อนข้างแย่ แต่เขาไม่อายที่จะเต้น จัดเต็ม คึกตลอด ยอมรับว่าตัวเองมั่นหน้า ยอมรับว่ากังวลมากๆ ในการกลับเข้าวงการหลังจากที่หายไปเข้ากรมถึงสองปี อยากได้อะไรก็พูดตรงๆ ไม่แอบอิจฉาอยู่ในใจ อยากขับเครื่องบินบ้าง ก็บอกกับพี่ซังยุนที่เป็นคนชนะเกม ได้เป็นผู้ช่วยนักบิน เอาเครื่องขึ้น ว่าผมก็อยากขับบ้างอะ (งอแงนิดๆ)
ช่วงแรกๆ จขกท.รู้สึกว่าซึงกิเป็นคนชอบพูดชอบคุย พูดมากจนบางทีออกแนวเลอะเทอะ หาทางลงไม่ได้ แต่พอถึงตอนเจ้านายชินเอรา เซฮยองเล่าว่าในสถานการณ์คับขันเจออะไรยากๆ ซึงกิมักจะออกตัวพูดเป็นคนแรก เพื่อยื้อเวลาให้สมาชิกที่เหลือได้ตั้งตัวตั้งสติ
ในส่วนของความโอ๋น้องของคุณเขานั้นก็ไม่บกพร่อง มักจะชมซองแจเสมอว่าเก่งมาก ทำได้ดีมาก ภารกิจดำน้ำตอนเจ้านายคิมบยองมัน น้องดำน้ำไม่เก่ง ซึงกิก็คอยมองดูน้องว่าโอเคไหม พอต้องดำอีกที แต่ซึงกิปวดหู เลยตัดสินใจไม่ดำลงไป ซองแจถามว่า
“พี่ ถ้าเกิดผมเป็นอะไรใต้น้ำล่ะ”
“ต่อให้แก้วหูพี่ต้องแตก พี่ก็จะลงไปช่วยแก ซองแจ”
เหมือนล้อเล่นกันขำๆ แต่จขกท.มั่นใจว่าถ้าซองแจเกิดเป็นอะไรตอนดำน้ำ ถึงแม้จะมีทีมงานอยู่ใต้น้ำหลายคน พลทหารซึงกิก็จะดำลงไปช่วยน้องแน่นอนค่ะ
กลับกันกับการปฏิบัติต่อพี่ใหญ่อย่างซังยุน ซึงกิไม่ปลอบใจ แต่จะคอยช่วยกระตุ้นและสนับสนุนให้ซังยุนกล้าที่จะข้ามขีดจำกัดของตัวเองในรายการวาไรตี้ ตอนเจ้านายชินเอราวิเคราะห์บุคลิกภาพของซังยุน ซังยุนร้องไห้ ซึงกิก็ส่งหลอดวาซาบิให้ค่า บอกว่าพี่ไม่ได้ร้องไห้หรอก แค่วาซาบิมันเผ็ดน่ะ ...นี่คือวิธีการดูแลพี่ของคุณเขาค่ะ
ส่วนกับพี่เซฮยองถึงจะชอบตีกันบ่อย แต่ก็เหมือนจะช่วยให้เซฮยองผ่อนคลาย (หรือไม่อย่างนั้นก็เครียดหนักไปเลย) เซฮยองมีบุคลิกที่ซับซ้อน แต่ซึงกิก็เข้าใจและยอมรับอย่างดี อย่างที่เขาบอกว่า ผู้ชมอาจเห็นเซฮยองสนุกสนาน ทำอะไรเปิ่นๆ เด๋อๆ แต่หลังกล้อง เซฮยองจริงจังมาก เหมือนเป็นคนละคน ...พี่เซฮยองที่สนุกสนาน พี่เซฮยองที่เคร่งขรึม ด้านไหนคือตัวตนที่แท้จริงกันแน่นะ ...แต่ทั้งสองด้านก็คือพี่เซฮยองนั่นแหละ
((มีต่อค่ะ))