เผย 4 ขั้นตอนการตรวจภายใน ชี้ สำคัญสุดต้องมีบุคคลที่ 3 เป็นพยานทุกครั้ง
ประธานราชวิทยาลัยสูติฯ เผย 4 ขั้นตอนการตรวจภายใน
สำคัญสุดต้องมีบุคคลที่ 3 อยู่ระหว่างตรวจด้วยทุกครั้ง
หากไม่มีถือว่าผิดมาตรฐาน สามารถร้องเรียนแพทยสภาสอบเอาผิดได้
จากกรณี เพจทนายนิด้า แฉหมอใหญ่ข่มขืนคนไข้ สาวในคลินิกระหว่างตรวจภายใน
แต่อ้างใช้จู๋ปลอมและมีการสวมถุงยางสอดใส่เท่านั้น ซึ่งก็เพื่อลดความเจ็บปวดตอนตรวจ
และเมื่อหญิงสาวจะเอาเรื่องกลับถูกเสนอเงิน 50,000 บาท เพื่อเป็นการปิดปากไม่ให้เอาเรื่อง
ซึ่งต่อมาหมอใหญ่รายนี้เข้ามอบตัวแล้ว แต่ยังปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น
สำนักข่าวไทย รายงานบทสัมภาษณ์ของ ศ. นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย
กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า โดยหลักการแล้วแพทย์จะมีขั้นตอนการตรวจภายในที่เป็นมาตรฐานชัดเจน
ซึ่งหากแพทย์ฝ่าฝืนจะถือว่าผิดมาตรฐาน ผู้เสียหายสามารถไปร้องเรียนต่อแพทยสภาได้
จากนั้นแพทยสภาจะส่งเรื่องสอบถามมาตรฐานมายังราชวิทยาลัยสูติฯ เพื่อตั้งคณะกรรมการร่วมกัน
สำหรับการตรวจภายในตามหลักการแพทย์จะประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้
1. ก่อนทำการตรวจ แพทย์สูติ-นรีเวช จะต้องวินิจฉัยอาการก่อนว่าจำเป็นต้องตรวจภายในหรือไม่
2. หากจำเป็นต้องตรวจ แพทย์ต้องแจ้งขั้นตอนต่าง ๆ ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง
3. สำคัญที่สุดต้องมีบุคคลที่ 3 ซึ่งต้องเป็นผู้หญิง คอยอยู่ในระหว่างการตรวจภายใน
จะไม่ให้แพทย์อยู่กับผู้ถูกตรวจสองต่อสองเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเป็นพยานให้แพทย์แล้ว
ยังทำให้ผู้ที่ถูกตรวจสบายใจอีกด้วย และถ้าหากไม่มีบุคคลที่ 3 ผู้ตรวจต้องยืนยันไม่รับการตรวจเด็ดขาด
4. ระหว่างตรวจแพทย์จะต้องแจงรายละเอียดขั้นตอนทุกครั้ง เริ่มตั้งแต่คนไข้ขึ้นเตียงขาหยั่ง
จากนั้นก็แจงว่าจะตรวจภายในดูว่ามีความผิดปกติอะไรบ้าง ใช้เครื่องมืออะไรบ้าง
ทั้งนี้เพื่อให้คนไข้เตรียมพร้อมและเกิดความสบายใจ
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลหรือคลินิก จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนนี้ทั้งหมด
หากผิดจากนี้ถือว่าผิดมาตรฐาน ยิ่งถ้าเป็นแพทย์ด้วยแล้ว หากถูกร้องเรียนก็จะเข้าสู่แพทยสภา
ซึ่งก็ต้องมีการตรวจสอบเพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://health.kapook.com/view202342.html
ผู้หญิงทุกคน รู้หรือยัง !? การตรวจภายใน ต้องมีบุคคลที่ 3 ทุกครั้ง ?!?!
ประธานราชวิทยาลัยสูติฯ เผย 4 ขั้นตอนการตรวจภายใน
สำคัญสุดต้องมีบุคคลที่ 3 อยู่ระหว่างตรวจด้วยทุกครั้ง
หากไม่มีถือว่าผิดมาตรฐาน สามารถร้องเรียนแพทยสภาสอบเอาผิดได้
จากกรณี เพจทนายนิด้า แฉหมอใหญ่ข่มขืนคนไข้ สาวในคลินิกระหว่างตรวจภายใน
แต่อ้างใช้จู๋ปลอมและมีการสวมถุงยางสอดใส่เท่านั้น ซึ่งก็เพื่อลดความเจ็บปวดตอนตรวจ
และเมื่อหญิงสาวจะเอาเรื่องกลับถูกเสนอเงิน 50,000 บาท เพื่อเป็นการปิดปากไม่ให้เอาเรื่อง
ซึ่งต่อมาหมอใหญ่รายนี้เข้ามอบตัวแล้ว แต่ยังปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น
สำนักข่าวไทย รายงานบทสัมภาษณ์ของ ศ. นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย
กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า โดยหลักการแล้วแพทย์จะมีขั้นตอนการตรวจภายในที่เป็นมาตรฐานชัดเจน
ซึ่งหากแพทย์ฝ่าฝืนจะถือว่าผิดมาตรฐาน ผู้เสียหายสามารถไปร้องเรียนต่อแพทยสภาได้
จากนั้นแพทยสภาจะส่งเรื่องสอบถามมาตรฐานมายังราชวิทยาลัยสูติฯ เพื่อตั้งคณะกรรมการร่วมกัน
สำหรับการตรวจภายในตามหลักการแพทย์จะประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้
1. ก่อนทำการตรวจ แพทย์สูติ-นรีเวช จะต้องวินิจฉัยอาการก่อนว่าจำเป็นต้องตรวจภายในหรือไม่
2. หากจำเป็นต้องตรวจ แพทย์ต้องแจ้งขั้นตอนต่าง ๆ ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง
3. สำคัญที่สุดต้องมีบุคคลที่ 3 ซึ่งต้องเป็นผู้หญิง คอยอยู่ในระหว่างการตรวจภายใน
จะไม่ให้แพทย์อยู่กับผู้ถูกตรวจสองต่อสองเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเป็นพยานให้แพทย์แล้ว
ยังทำให้ผู้ที่ถูกตรวจสบายใจอีกด้วย และถ้าหากไม่มีบุคคลที่ 3 ผู้ตรวจต้องยืนยันไม่รับการตรวจเด็ดขาด
4. ระหว่างตรวจแพทย์จะต้องแจงรายละเอียดขั้นตอนทุกครั้ง เริ่มตั้งแต่คนไข้ขึ้นเตียงขาหยั่ง
จากนั้นก็แจงว่าจะตรวจภายในดูว่ามีความผิดปกติอะไรบ้าง ใช้เครื่องมืออะไรบ้าง
ทั้งนี้เพื่อให้คนไข้เตรียมพร้อมและเกิดความสบายใจ
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลหรือคลินิก จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนนี้ทั้งหมด
หากผิดจากนี้ถือว่าผิดมาตรฐาน ยิ่งถ้าเป็นแพทย์ด้วยแล้ว หากถูกร้องเรียนก็จะเข้าสู่แพทยสภา
ซึ่งก็ต้องมีการตรวจสอบเพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ที่มา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้