บก.ลายจุด ลั่น พรรคเกียนก็ไม่พร้อมถูกดองนาน แต่ 24 ก.พ.62 ต้องเลือกตั้ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1230015
ไม่ใช่นักกีฬา แต่ขอแสดงสปริต! บก.ลายจุด ลั่น พรรคเกียนก็ไม่พร้อม แต่ 24 ก.พ.62 ต้องเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นาย
สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.
ลายจุด ผู้ร่วมจดจัดตั้งพรรคเกียน กล่าวถึงกรณีที่ 20 พรรคเล็กจะเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลื่อนเลือกตั้งเป็น 5 พฤษภาคม 2562 ว่า ตนเข้าใจดี ถือเป็นการใช้สิทธิ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของพรรคเล็ก แต่เป็นเพราะคสช.ที่ออกคำสั่งต่างๆมาเป็นอุปสรรคต่อพรรคการเมืองทำให้กระบวนการเตรียมตัวสู่การเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 จึงกระชันชิดมาก ซึ่งพรรคเกียนก็ติดขัดปัญหานี้เช่นเดียวกัน เราเสียเวลาจากการถูกดองแค่การพิจารณาชื่อถึง 5 เดือน ดังนั้น การเลื่อนเลือกตั้งออกไปพรรคเกียนถือได้ประโยชน์ด้วย แต่ผลของเรื่องนี้จะสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศมากกว่า ตนจึงขอเสียสละเพื่อส่วนรวม ถ้าพรรคไม่พร้อมก็จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง แสดงสปิริตให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เพราะตนคิดว่า เป็นนักการเมืองก็ต้องแสดงสปิริตด้วย ไม่ใช่มีแต่นักกีฬาเท่านั้นที่จะสามารถแสดงสปิริตได้
“จึงอยากเรียกร้องให้พรรคเล็กร่วมแสดงสปิริต เสียสละเพื่อส่วนร่วมให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็ว อีกทั้ง ผมเชื่อว่า รัฐบาลใหม่จะมีอายุไม่นาน ก็จะมีเลือกตั้งอีกครั้ง มาใช้เวลาระหว่างนั้นเตรียมตัวเองให้พร้อมจะดีกว่า พรรคเกียนก็จะจัดปราศรัยใหญ่ ไม่ได้หาเสียง แต่เป็นการหาเรื่องล่วงหน้า ทำกิจกรรมเหมือนกับพรรคการเมืองที่ลงเลือกตั้งทุกอย่าง” นาย
สมบัติกล่าว
19 พรรคเล็กหนุนเลือกตั้ง 24 ก.พ.62 ตามโรดแมปคสช. ชี้ ตปท.จับตา ต้องรีบฟื้นเชื่อมั่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_1229960
19 พรรคเล็กหนุนเลือกตั้ง 24 ก.พ.62 – หน.ปชต.ใหม่ นำทีมชงกกต. 20 พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นาย
สุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ 20 พรรคเล็กจะเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลื่อนเลือกตั้งเป็น 5 พฤษภาคม 2562 ในการประชุมวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ ว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองและกลุ่มปฏิรูปการเมืองยุคใหม่ ที่มีพรรคการเมืองขนาดเล็กรวมตัวกัน 19 พรรค ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอให้เลื่อนเลือกตั้งเป็นวันที่ 5 พฤษภาคม 2562 เพราะหลายรายที่อ้างว่า ไม่พร้อมนั้น ยังไม่ได้ดำเนินการยื่นขอจดจัดตั้งพรรคเพื่อดำเนินการอะไรเสียด้วยซ้ำ ลำพังแค่หาสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง 500 คน และทุนประเดิม 1 ล้านบาทก็ไม่สามารถหาได้ ดังนั้น ตนและกลุ่มปฏิรูปการเมืองยุคใหม่ จาก 19 พรรค ก็จะไปยื่นหนังสือถึงกกต.ในการประชุมร่วมกับพรรคการเมืองในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้เช่นกันว่า สนับสนุนให้ยึดการเลือกตั้งตามโรดแมปคสช.ที่ได้มีการแถลงว่า จะมีเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ต่อทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่กำลังจับตาการกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยของไทย เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ส่วนประชาชนคนไทยเองต่างก็พร้อมที่จะเลือกตั้งแล้ว
จ.เลย ชาวสวนยางร้องรัฐแก้ปัญหาราคาตก ลั่น 1 เดือนไม่คืบ จ่อร่วมภาคใต้
https://prachatai.com/journal/2018/11/79640
เครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดเลย ร้องรัฐแก้ปัญหาราคาตก ลั่นหาก 1 เดือนไม่คืบ เตรียมเคลื่อนไหวร่วมชาวสวนยางภาคใต้
16 พ.ย. 2561 ศูนย์สื่อชุมชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ศสธ.) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดเลย เครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดเลย จำนวนกว่า 100 คน นำโดย
สมัย ภักมี พรทิพย์ หงชัย และ
สุรพันธ์ รุจิไชยวัฒน์ แกนนำชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด คัดค้านเหมืองแร่ทองคำ จ.เลย เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหายางพาราที่กำลังตกต่ำ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมี
โสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการมารับหนังสือข้อเรียกร้องของกลุ่มชาวบ้าน
โดยหนังสือยื่นข้อเรียกร้องได้ระบุว่า ขณะนี้ราคายางพาราอยู่ที่ 14 บาทต่อกิโลกรัม ระยะเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2561 ราคาประมูลอยู่ที่ 16.50 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนยางพาราเป็นอย่างมากตลอด 5 ปี ที่มีการบริหารประเทศของ คสช. ปัญหายางพาราตกต่ำ ราคาอยู่ระหว่าง 15 - 20 บาทต่อกิโลกรัม กระทบต่อรายได้เกษตรกรระดับครัวเรือน และเกษตรกรชาวสวนยาง จังหวัดเลยและพี่น้องชาวสวนยางพาราทั่วประเทศ
เครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดเลย จึงได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหา แบ่งออกเป็น 2 ระยะดังนี้
1. ระยะสั้น ปรับราคายางถ้วยอย่างน้อย 25 - 30 บาทต่อกิโลกรัม โดยการนำเงินชดเชยมาจากเงิน CESS ซึ่งเป็นเงินที่เก็บจากพ่อค้าที่ส่งยางออกนอกราชอาณาจักรกิโลกรัมละ 2 บาท และให้รัฐบาลชดเชยราคาส่วนต่างไปที่โรงงานโดยตรง
2. ระยะกลางและระยะยาว ประกันราคายางขั้นต่ำ ส่งเสริม สนับสนุน การปลูกพืชทดแทนยางพาราตามความเหมาะสมของเกษตรกรที่อยากปลูกและ ดูแลในช่วงเปลี่ยนผ่าน ส่งเสริม,สนับสนุน การแปรรูปยางพาราใช้ภายในประเทศไทย ในระดับอุตสาหกรรม ชุมชน และครัวเรือน ส่งเสริมให้เริ่มทำธุรกิจแปรรูปยางพารา ทุกรูปแบบให้เกิดสินค้าปลายน้ำสามารถขายภายในประเทศและส่งออก ส่งเสริมความรู้นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารา ให้กับ บุคคล, กลุ่ม ที่สนใจ และส่งเสริม สนับสนุน งานวิจัย และนวัตกรรมใหม่ เกี่ยวกับ ยางพารา
พรทิพย์ หงชัย ตัวแทนชาวบ้านในการยื่นหนังสือกล่าวว่า ชาวจังหวัดเลย ส่วนใหญ่มีรายได้จากการปลูกยางพารา ซึ่งทำให้มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว เมื่อราคายางตกถึง 14 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ต้องแบกรับภาระหนี้สิน และในช่วงเวลา 5 ปีที่ คสช. มาบริหารประเทศ ราคายางไม่ดีขึ้นเลย ซึ่งเมื่อส่งผลกระทบต่อปากท้องของชาวบ้าน จึงต้องรวมกันลุกขึ้นมาใช้สิทธิ์
“เครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดเลย จะให้เวลารัฐบาลในการแก้ไขปัญหาราคายาง 1 เดือน ถ้าหากไม่มีความคืบหน้าจะเคลื่อนไหวร่วมกับพี่น้องภาคใต้ ติดตามด้วยตนเองให้เกิดการแก้ไขจากรัฐบาลและการยางแห่งประเทศไทย” พรทิพย์ กล่าว
โสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการมารับหนังสือข้อเรียกร้องของกลุ่มชาวบ้านได้กล่าวว่า ตนเองเข้าใจและเห็นใจปัญหาของชาวสวนยางในขณะนี้ ซึ่งเมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มชาวบ้านแล้ว ทางจังหวัดจะนำข้อเรียกร้องเรียนต่อรัฐบาลเป็นลำดับต่อไป
“อยากให้เครือข่ายชาวบ้านรอติดตามเรื่อง ซึ่งทางจังหวัดจะแจ้งผลตอบกลับให้ทราบภายใน 7 วัน” รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าว
ปาล์มราคาดิ่งอีก เหลือกก. 2.10 บ. รัฐไร้อำนาจควบคุม
https://www.matichon.co.th/region/news_1229796
เมื่อวันที่16 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 นาย
อยุพงศ์ ภูมิภมร ประธาชมรมคนปลูกปาล์ม จังหวัดกนะบี่ ได้กลาวว่า หลังจากที่ ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารออกมา ควบคุม คัดแยกปาล์ม ตามโรงงานต่างๆ จนถึงตอนนี้ใกล้จะครบ 15 วัน โรงงานได้ปาล์มที่มีคุณภาพเข้าไปสกัด แต่ขณะนี้โรงงานยังกลับมาอ้างว่า เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำลง จนกระทั้งวันนี้ราคารับซื้อผลปาล์ม จากเกษตรกรตามลานเทต่าง(จุดรับซื้อผลปาล์ม) ขึ้นป้ายเหลืออราคากิโลกรัมละ 2.10 บาท เท่านั้นเอง ภาครัฐไม่มีความสามารถ ไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบอะไรได้เลย นอกจากมีอำนาจหน้าที่แยกปาล์มสุขปาล์มดิบเท่านั้นเอง
นาย
อนุพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า การปฎิบัติของรัฐบาลที่ให้ทหารเข้าไปควบคุม คัดแยกผลปาล์ม ดูเหมือนว่าจะเข้าทาง นายทุนหรือโรงงานสกัด ยิ่งโรงงานได้ปาล์มที่มีคุณภาพ เปอร์เซ็นต์ น้ำมันยิ่งต่ำ ราคาผลปาล์มจากเกษตรกรยิ่งต่ำลงๆ อย่างนี้มันเกิดอะไรขึ้น
JJNY : 5in1 พรรคเกียนไม่พร้อมแต่24ก.พ.ต้องลต./19พรรคเล็กหนุนลต./จ.เลยยางร้องรัฐ/ปาล์มเหลือ2.10บ./ยุติเผาปาล์มไปลอยอังคาร
https://www.matichon.co.th/politics/news_1230015
ไม่ใช่นักกีฬา แต่ขอแสดงสปริต! บก.ลายจุด ลั่น พรรคเกียนก็ไม่พร้อม แต่ 24 ก.พ.62 ต้องเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ผู้ร่วมจดจัดตั้งพรรคเกียน กล่าวถึงกรณีที่ 20 พรรคเล็กจะเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลื่อนเลือกตั้งเป็น 5 พฤษภาคม 2562 ว่า ตนเข้าใจดี ถือเป็นการใช้สิทธิ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของพรรคเล็ก แต่เป็นเพราะคสช.ที่ออกคำสั่งต่างๆมาเป็นอุปสรรคต่อพรรคการเมืองทำให้กระบวนการเตรียมตัวสู่การเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 จึงกระชันชิดมาก ซึ่งพรรคเกียนก็ติดขัดปัญหานี้เช่นเดียวกัน เราเสียเวลาจากการถูกดองแค่การพิจารณาชื่อถึง 5 เดือน ดังนั้น การเลื่อนเลือกตั้งออกไปพรรคเกียนถือได้ประโยชน์ด้วย แต่ผลของเรื่องนี้จะสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศมากกว่า ตนจึงขอเสียสละเพื่อส่วนรวม ถ้าพรรคไม่พร้อมก็จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง แสดงสปิริตให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เพราะตนคิดว่า เป็นนักการเมืองก็ต้องแสดงสปิริตด้วย ไม่ใช่มีแต่นักกีฬาเท่านั้นที่จะสามารถแสดงสปิริตได้
“จึงอยากเรียกร้องให้พรรคเล็กร่วมแสดงสปิริต เสียสละเพื่อส่วนร่วมให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็ว อีกทั้ง ผมเชื่อว่า รัฐบาลใหม่จะมีอายุไม่นาน ก็จะมีเลือกตั้งอีกครั้ง มาใช้เวลาระหว่างนั้นเตรียมตัวเองให้พร้อมจะดีกว่า พรรคเกียนก็จะจัดปราศรัยใหญ่ ไม่ได้หาเสียง แต่เป็นการหาเรื่องล่วงหน้า ทำกิจกรรมเหมือนกับพรรคการเมืองที่ลงเลือกตั้งทุกอย่าง” นายสมบัติกล่าว
19 พรรคเล็กหนุนเลือกตั้ง 24 ก.พ.62 ตามโรดแมปคสช. ชี้ ตปท.จับตา ต้องรีบฟื้นเชื่อมั่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_1229960
19 พรรคเล็กหนุนเลือกตั้ง 24 ก.พ.62 – หน.ปชต.ใหม่ นำทีมชงกกต. 20 พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ 20 พรรคเล็กจะเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลื่อนเลือกตั้งเป็น 5 พฤษภาคม 2562 ในการประชุมวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ ว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองและกลุ่มปฏิรูปการเมืองยุคใหม่ ที่มีพรรคการเมืองขนาดเล็กรวมตัวกัน 19 พรรค ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอให้เลื่อนเลือกตั้งเป็นวันที่ 5 พฤษภาคม 2562 เพราะหลายรายที่อ้างว่า ไม่พร้อมนั้น ยังไม่ได้ดำเนินการยื่นขอจดจัดตั้งพรรคเพื่อดำเนินการอะไรเสียด้วยซ้ำ ลำพังแค่หาสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง 500 คน และทุนประเดิม 1 ล้านบาทก็ไม่สามารถหาได้ ดังนั้น ตนและกลุ่มปฏิรูปการเมืองยุคใหม่ จาก 19 พรรค ก็จะไปยื่นหนังสือถึงกกต.ในการประชุมร่วมกับพรรคการเมืองในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้เช่นกันว่า สนับสนุนให้ยึดการเลือกตั้งตามโรดแมปคสช.ที่ได้มีการแถลงว่า จะมีเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ต่อทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่กำลังจับตาการกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยของไทย เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ส่วนประชาชนคนไทยเองต่างก็พร้อมที่จะเลือกตั้งแล้ว
จ.เลย ชาวสวนยางร้องรัฐแก้ปัญหาราคาตก ลั่น 1 เดือนไม่คืบ จ่อร่วมภาคใต้
https://prachatai.com/journal/2018/11/79640
เครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดเลย ร้องรัฐแก้ปัญหาราคาตก ลั่นหาก 1 เดือนไม่คืบ เตรียมเคลื่อนไหวร่วมชาวสวนยางภาคใต้
16 พ.ย. 2561 ศูนย์สื่อชุมชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ศสธ.) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดเลย เครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดเลย จำนวนกว่า 100 คน นำโดย สมัย ภักมี พรทิพย์ หงชัย และ สุรพันธ์ รุจิไชยวัฒน์ แกนนำชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด คัดค้านเหมืองแร่ทองคำ จ.เลย เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหายางพาราที่กำลังตกต่ำ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมี โสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการมารับหนังสือข้อเรียกร้องของกลุ่มชาวบ้าน
โดยหนังสือยื่นข้อเรียกร้องได้ระบุว่า ขณะนี้ราคายางพาราอยู่ที่ 14 บาทต่อกิโลกรัม ระยะเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2561 ราคาประมูลอยู่ที่ 16.50 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนยางพาราเป็นอย่างมากตลอด 5 ปี ที่มีการบริหารประเทศของ คสช. ปัญหายางพาราตกต่ำ ราคาอยู่ระหว่าง 15 - 20 บาทต่อกิโลกรัม กระทบต่อรายได้เกษตรกรระดับครัวเรือน และเกษตรกรชาวสวนยาง จังหวัดเลยและพี่น้องชาวสวนยางพาราทั่วประเทศ
เครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดเลย จึงได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหา แบ่งออกเป็น 2 ระยะดังนี้
1. ระยะสั้น ปรับราคายางถ้วยอย่างน้อย 25 - 30 บาทต่อกิโลกรัม โดยการนำเงินชดเชยมาจากเงิน CESS ซึ่งเป็นเงินที่เก็บจากพ่อค้าที่ส่งยางออกนอกราชอาณาจักรกิโลกรัมละ 2 บาท และให้รัฐบาลชดเชยราคาส่วนต่างไปที่โรงงานโดยตรง
2. ระยะกลางและระยะยาว ประกันราคายางขั้นต่ำ ส่งเสริม สนับสนุน การปลูกพืชทดแทนยางพาราตามความเหมาะสมของเกษตรกรที่อยากปลูกและ ดูแลในช่วงเปลี่ยนผ่าน ส่งเสริม,สนับสนุน การแปรรูปยางพาราใช้ภายในประเทศไทย ในระดับอุตสาหกรรม ชุมชน และครัวเรือน ส่งเสริมให้เริ่มทำธุรกิจแปรรูปยางพารา ทุกรูปแบบให้เกิดสินค้าปลายน้ำสามารถขายภายในประเทศและส่งออก ส่งเสริมความรู้นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารา ให้กับ บุคคล, กลุ่ม ที่สนใจ และส่งเสริม สนับสนุน งานวิจัย และนวัตกรรมใหม่ เกี่ยวกับ ยางพารา
พรทิพย์ หงชัย ตัวแทนชาวบ้านในการยื่นหนังสือกล่าวว่า ชาวจังหวัดเลย ส่วนใหญ่มีรายได้จากการปลูกยางพารา ซึ่งทำให้มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว เมื่อราคายางตกถึง 14 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ต้องแบกรับภาระหนี้สิน และในช่วงเวลา 5 ปีที่ คสช. มาบริหารประเทศ ราคายางไม่ดีขึ้นเลย ซึ่งเมื่อส่งผลกระทบต่อปากท้องของชาวบ้าน จึงต้องรวมกันลุกขึ้นมาใช้สิทธิ์
“เครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดเลย จะให้เวลารัฐบาลในการแก้ไขปัญหาราคายาง 1 เดือน ถ้าหากไม่มีความคืบหน้าจะเคลื่อนไหวร่วมกับพี่น้องภาคใต้ ติดตามด้วยตนเองให้เกิดการแก้ไขจากรัฐบาลและการยางแห่งประเทศไทย” พรทิพย์ กล่าว
โสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการมารับหนังสือข้อเรียกร้องของกลุ่มชาวบ้านได้กล่าวว่า ตนเองเข้าใจและเห็นใจปัญหาของชาวสวนยางในขณะนี้ ซึ่งเมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มชาวบ้านแล้ว ทางจังหวัดจะนำข้อเรียกร้องเรียนต่อรัฐบาลเป็นลำดับต่อไป
“อยากให้เครือข่ายชาวบ้านรอติดตามเรื่อง ซึ่งทางจังหวัดจะแจ้งผลตอบกลับให้ทราบภายใน 7 วัน” รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าว
ปาล์มราคาดิ่งอีก เหลือกก. 2.10 บ. รัฐไร้อำนาจควบคุม
https://www.matichon.co.th/region/news_1229796
เมื่อวันที่16 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 นายอยุพงศ์ ภูมิภมร ประธาชมรมคนปลูกปาล์ม จังหวัดกนะบี่ ได้กลาวว่า หลังจากที่ ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารออกมา ควบคุม คัดแยกปาล์ม ตามโรงงานต่างๆ จนถึงตอนนี้ใกล้จะครบ 15 วัน โรงงานได้ปาล์มที่มีคุณภาพเข้าไปสกัด แต่ขณะนี้โรงงานยังกลับมาอ้างว่า เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำลง จนกระทั้งวันนี้ราคารับซื้อผลปาล์ม จากเกษตรกรตามลานเทต่าง(จุดรับซื้อผลปาล์ม) ขึ้นป้ายเหลืออราคากิโลกรัมละ 2.10 บาท เท่านั้นเอง ภาครัฐไม่มีความสามารถ ไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบอะไรได้เลย นอกจากมีอำนาจหน้าที่แยกปาล์มสุขปาล์มดิบเท่านั้นเอง
นายอนุพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า การปฎิบัติของรัฐบาลที่ให้ทหารเข้าไปควบคุม คัดแยกผลปาล์ม ดูเหมือนว่าจะเข้าทาง นายทุนหรือโรงงานสกัด ยิ่งโรงงานได้ปาล์มที่มีคุณภาพ เปอร์เซ็นต์ น้ำมันยิ่งต่ำ ราคาผลปาล์มจากเกษตรกรยิ่งต่ำลงๆ อย่างนี้มันเกิดอะไรขึ้น