ตัวเจ้าของกระทู้เองไม่เคยเติมไนโตรเจน เนื่องจากใช้รถหลายคัน และมีปั๊มลมที่บ้านเอง
ปกติที่เคยเรียนมา ในอากาศปกติ มันก็มีไนโตรเจน อยู่ถึง 78% ถ้าแค่เพิ่มไปอีก 22 % มันจะมีอะไร
ดีขึ้นกว่าเดิมมากรึป่าว แล้วอะไรบ้างที่คิดว่ามันดีกว่าลมทั่วไป
สำหรับลมปกติ ผมมีข้อมูลประมาณนี้ พอจะเปรียบเทียบได้ไหม โดยใช้ข้อมูลจาก TPMS
1. ลมปกติเติมลม 35 Psi. ขับรถระยะทางตั้งแต่ 10 กม. ขึ้นไป แรงดันเพิ่มขึ้น 38 - 39 Psi. (ถ้าไนโตรเจน...แรงดันจะเพิ่มไหมครับ)
2. อุณหภูมิยางปกติ 30 องศา ขับรถระยะทางตั้งแต่ 10 กม. ขึ้นไป ล้อหน้าจะได้ 40 - 45 ฮงศา ล้อหลัง 35 - 36 องศา (ถ้าไนโตรเจน...อุณหภูมิจะเพิ่มไหมครับ)
3. ปกติเติมลม 35 Psi. และเมื่อแรงดันลดลง 30 Psi. ถึงจะเติมลมเข้าไปใหม่อีกครั้ง
ยาง 155/70 R12 เติมทุก ๆ 1 เดือน
ยาง 165/65 R13 เติมทุก ๆ 1.5 เดือน
ยาง 205/60 R15 เติมทุก ๆ 2 เดือน
ยาง 37 ขอบ 16 นิ้ว เติมทุก ๆ 3 - 4 เดือน
ถ้าเป็นไนโตรเจน ลมมันจะอยู่ได้นานกว่าลมปกติแค่ไหนครับ
การเติมลมไนโตรเจน....มีข้อดีอะไรบ้าง ?
ปกติที่เคยเรียนมา ในอากาศปกติ มันก็มีไนโตรเจน อยู่ถึง 78% ถ้าแค่เพิ่มไปอีก 22 % มันจะมีอะไร
ดีขึ้นกว่าเดิมมากรึป่าว แล้วอะไรบ้างที่คิดว่ามันดีกว่าลมทั่วไป
สำหรับลมปกติ ผมมีข้อมูลประมาณนี้ พอจะเปรียบเทียบได้ไหม โดยใช้ข้อมูลจาก TPMS
1. ลมปกติเติมลม 35 Psi. ขับรถระยะทางตั้งแต่ 10 กม. ขึ้นไป แรงดันเพิ่มขึ้น 38 - 39 Psi. (ถ้าไนโตรเจน...แรงดันจะเพิ่มไหมครับ)
2. อุณหภูมิยางปกติ 30 องศา ขับรถระยะทางตั้งแต่ 10 กม. ขึ้นไป ล้อหน้าจะได้ 40 - 45 ฮงศา ล้อหลัง 35 - 36 องศา (ถ้าไนโตรเจน...อุณหภูมิจะเพิ่มไหมครับ)
3. ปกติเติมลม 35 Psi. และเมื่อแรงดันลดลง 30 Psi. ถึงจะเติมลมเข้าไปใหม่อีกครั้ง
ยาง 155/70 R12 เติมทุก ๆ 1 เดือน
ยาง 165/65 R13 เติมทุก ๆ 1.5 เดือน
ยาง 205/60 R15 เติมทุก ๆ 2 เดือน
ยาง 37 ขอบ 16 นิ้ว เติมทุก ๆ 3 - 4 เดือน
ถ้าเป็นไนโตรเจน ลมมันจะอยู่ได้นานกว่าลมปกติแค่ไหนครับ