หนาวนี้ใครกำลังมองหาที่เที่ยว หรือกำลังวางแผนไปเที่ยวที่หนาวๆเชียงใหม่คงเป็นจังหวัดแรกๆที่
หลายๆคนนึกถึงเป็นแน่นอน หลายคนคงจะมีสถานที่ๆอยากไปเยอะมากแน่ๆ
รีวิวนี้จะมาแนะนำสำหรับคนที่อยากจะไปเชียงใหม่แต่ไม่รู้จะไปไหนดี ไปไหนบ้าง เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเที่ยวเชียงใหม่ที่แปลกใหม่สำหรับเราเช่นกัน
คืนที่ 1 พักที่ ดอยเชียงดาว > ร้านกาแฟเจียงดารา - Hinoki Land – บ้านระเบียงดาว
คืนที่ 2 พักที่ แม่กำปอง > น้ำพุร้อนสันกำแพง - The Giant Chiangmai – โครงการหลวงผาตีนตก – หมู่บ้านแม่กำปอง – จุดชมวิวกิ่วฝิ่น
คืนที่ 3 พักที่ นิมมาน > วัดอุโมงค์ - บ้านข้างวัด - Brandnew Field Good - Myst Maya
คืนที่ 4 พักที่ นิมมาน > ม่อนแจ่ม - The Baristro At Ping River - Chevit Cheva Fine Dessert
- One Nimman - Beer Lab
ติดตามการเดินทางของเราได้ที่
https://www.facebook.com/SeabearMeetalay/
https://www.youtube.com/channel/UCEipfBQ3O6TILdYXrbqE9CQ

สำหรับการเดินทางไปเชียงใหม่นั้นมีหลายวิธีมาก ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัว รถทัวร์ รถไฟ หรือเครื่องบิน ในทริปนี้เราเลือกการเดินทางโดยเครื่องบินเพราะว่าเราได้ตั๋วมาถูกมากกกกก ค่าเครื่องบินไป-กลับของการบินไทย แค่ 1940 บาท (ของถูกและดีมีอยู่จริง 555) เราเลือกเดินทางกันไฟลท์เช้าถึงเชียงใหม่ประมาณ 9.30 ถือเป็นว่าเวลาที่กำลังดีมากสำหรับเรา แล้วเราก็ไปรับรถที่จองไว้ ทริปนี้เราเช่ารถยนต์ทั้งหมด 3 วัน ราคาเบ็ดเสร็จอยู่ที่ 2400 บาท อีก2 วันเราอยู่ในตัวเมืองเลยตกลงกับแฟนว่าจะเช่ารถมอเตอร์ไซด์ขับกันน่าจะสะดวกกว่า เพราะในตัวเมืองเชียงใหม่หลายๆคนน่าจะรู้ว่าก็เหมือนเป็นกรุงเทพย่อมๆนี่เอง

หลังจากรับรถเสร็จเรียบร้อย จุดหมายแรกที่เราจะไปนั้นก็คือ ร้านกาแฟเจียงดาราซึ่งเป็นทางผ่านที่เราจะไปดอยเชียงดาว บรรยากาศที่ร้านเจียงดาราก็จะไม่วุ่นวายมาก มองออกไปเห็นนาข้าวและยอดดอยเชียงดาว ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจอย่างบอกไม่ถูก แนะนำว่าให้มาช่วงเย็นหน่อยวิวจะสวยมาก และที่ร้านก็ยังมีโฮมสเตย์เล็กๆไว้ให้กับผู้ที่ต้องการมาพักค้างคืนด้วย

สถานที่ต่อไปที่เราจะไปกันคือ Hinoki Land สถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ที่พึ่งเปิดได้ไม่กี่วันก่อนเรามาเอง เหมือนจำลองเอาสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่ ภายในมีมุมถ่ายรูปเยอะแยะให้เราได้ถ่ายกันจนเหนื่อยเลย 555 แถมยังมีชุดกิโมโนไว้ให้สำหรับเช่า เพื่อใครที่ต้องการถ่ายรูปให้เหมือนว่ามาญี่ปุ่นจริงๆเลย ตอนที่เราไปไม่เสียค่าเข้า แต่พนักงานแจ้งว่าหลังจากสิ้นเดือนตุลาคนไปจะมีการเก็บค่าเข้าชม ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าสนใจอีกสถานที่นึงเลยทีเดียว แต่ขอแนะนำว่าใครที่จะไปให้พกร่วมไปด้วยก็ดีเพราะแดดแรงมากกกกก

และจุดหมายปลายทางสุดท้ายของเราวันนี้ก็คือ ดอยเชียงดาว แต่ขอบอกก่อนเลยว่าถ้าใครที่ขับรถไม่เก่ง แนะนำว่าให้นั่งรถรับจ้างของชาวบ้านขึ้นมาจะดีกว่า เพราะทางที่ขึ้นมานั้นโหดมาก มาก มากกกกก กว่าจะถึงได้เราต้องดมยาดมตลอดทางไม่งั้นนะอ้วกแตกแน่ๆ แล้วใครที่จะถามหาสัญญาณโทรศัพท์นั้นลืมไปได้เลย ตัดขาดจากโลกภายนอกไป 1 วัน เข้าใจเลยว่าทำไมที่พักที่นี่ถึงโทรติดยากจัง เพราะแค่เราเลี้ยวจะขึ้นเขามาสัญญาณก็หายหมดเกลี้ยงเลย ในที่สุดเราก็มาถึงหมู่บ้านเชียงดาว คืนนี้เราพักกันที่บ้านระเบียงดาว ที่นี่เค้าจะคิดค่าที่พักเป็นราคาต่อคน จะอยู่ที่คนละ 600 บาท รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า ความรู้สึกตอนที่ขึ้นมาถึงที่ดอยเชียงดาวแล้วมันคือสุดมากอ่ะ มันคือการที่เราได้พักผ่อนแบบจริงๆตัดขาดจากโลกภายนอกซึมซับกับบรรยากาศตรงหน้า กิจกรรมที่ดีที่สุดคือการได้นั่งกินข้าวมองวิวเขาแล้วก็พระอาทิตย์ตกไปพร้อมๆกัน ความสุขแบบเรียบง่ายที่เราหาได้จากที่นี่ พอเสพบรรยากาศเสร็จแล้วเราก็ต้องรีบมาอาบน้ำเพราะอากาศเริ่มเย็นแล้ว อีกหนึงกิจกรรมที่ใครมาเราแนะนำให้ทำคือการดูดาว ด้วยความที่ดอยเชียงดาวสูงจากระดับน้ำทะเลมากทำให้เรารู้สึกได้ว่าเรามองเห็นดาวได้ใกล้และเยอะมากๆ ไม่เคยดูดาวที่ไหนที่สวยและเยอะเท่าที่นี่เลย


เช้าวันใหม่กับบรรยากาศหนาวๆและหมอกจางๆ เราตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันตั้งแต่เช้าตรู่ ภาพที่เห็นตรงหน้ามันสวยมากจนเราไม่รู้ว่าจะบรรยายออกมายังไง ในตอนเช้าที่พักก็จะมีอาหารเช้ามาเสริฟให้เราตรงหน้าห้องพักเลย ข้าวต้มร้อนๆกับโอวัลตินอุ่นๆ เข้ากับบรรยากาศตอนนี้ที่สุด


เมื่อทานข้าวกันเสร็จเราก็อาบน้ำเตรียมตัวออกเดินทางกันต่อ วันนี้แพลนของเราไปหลายที่เลย เริ่มต้นจากน้ำพุร้อนสันกำแพงหลายๆคนน่าจะเคยมาที่นี่กันแล้ว เราเองก็เคยมาครั้งสุดท้ายนานจนลืมไปแล้ว ที่นี่เปลี่ยนแปลงไปเยอะ นักท่องเที่ยวยังมาเที่ยวกันหนาแน่นเหมือนเดิม กิจกรรมหลักๆของน้ำพุร้อนสันกำแพงก็หนีไม่พ้นการต้มไข่และการแช่น้ำแร่เพื่อความผ่อนคลาย

สถานที่ต่อมาคือ The Giant Chiangmai โครงการหลวงตีนตก และผาน้ำลอด 3 สถานที่นี้อยู่ไม่ไกลกันมาและเป็นทางผ่านก่อนจะถึงจุดหมายปลายทางสุดท้ายของเรา ร้าน The Giant Chiangmai ที่เป็นที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวมากเป็นร้านอาหารที่อยู่บนต้นไม้ใหญ่ โดยรอบร้านจะเป็นวิวป่าและเขาล้อมรอบ แต่กว่าจะขึ้นมาถึงร้านได้เนี่ยขอบอกว่าทางโหด ใครไม่ชินทางแนะนำให้ขึ้นรถรับจ้างมานะคะ ทางเข้าจะร้านจะเป็นสะพานไม้สามารถเดินเข้าได้ที่ละ 1-2 คน อาหารและเครื่องดื่มในร้านก็จะมีเมนูไม่ได้หลากหลายมากนะคะ เพราะก็เข้าใจได้ว่าขึ้นมาสูงมากการนำวัตถุดิบมาปรุงอาหารคงจะลำบาก สำหรับเราก็ถือว่ามาเสพบรรยากาศชิลๆ รับลมเย็นๆสบายๆ
ต่อมาที่โครงการหลวงตีนตกจะมีร้านอาหารและกาแฟที่นำเอาผลผลิตของโครงการมาทำการแปรรูป เมนูแนะนำคือ อโวคาโด้ปั่น อโวคาโด้สดมาก อร่อยสุดๆ อาหารภายในร้านก็มีให้เลือกหลากหลาย บรรยากาศภายในร้านก็ผ่อนคลายสุดๆนั่งทานข้าวไป มองลำธารที่ไหลผ่านไป อะไรมันจะดีขนาดนี้

และปลายทางสุดท้ายของวันนี้ก็คือ หมู่บ้านแม่กำปอง หมู่บ้านเล็กๆที่เต็มไปด้วยเสน่ห์รอให้ทุกคนมาสัมผัส วันนี้เราพักกันที่ Triple 999 ที่พักจะถึงก่อนทางเข้าหมู่บ้านแม่กำปองนิดเดียว ส่วนตัวเราชอบที่นี่นะถ้าเทียบกับความคุ้มค่าของราคาและการบริการที่ได้รับ คุณป้าที่ดูแลที่นี่น่ารักมากและคุยเก่งมาก ถ้ามีโอกาสได้ไปอีกเราก็จะไปพักที่นี่และที่สำคัญคือบรรยากาศรอบที่พักสงบและไม่วุ่นวายเลย

ในหมู่บ้านแม่กำปองมีของกินให้เราเลือกเต็ม 2 ข้างทาง ร้านเด็ดที่ใครมาที่แม่กำปองแล้วต้องแวะก็จะเป็นร้านกาแฟชมนก ชมไม้ กับร้านกาแฟลุงปุ๊ด ป้าเป็ง เป็นร้านที่บรรยากาศดีมากทั้ง 2 ร้านเลย อีก 1 จุดของแม่กำปองที่เราแนะนำให้ไปคือ จุมวิวกิ่วฝิ่น เพราะจุดนี้เราจะสามารถมองเห็นวิวของจังหวัดทั้ง 4 จังหวัดที่เชื่อมต่อกันได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน สำหรับใครที่ขึ้นมาที่จุดชมวิวกิ่วฝิ่นเราแนะนำว่าให้ใส่ขายาวขึ้นมา เพราะที่นี่จะมีแมลงคุ่น ถ้าโดนกัดแล้วเราจะต้องบีบพิษให้ออก ไม่อย่างนั้นตรงแผลเราจะบวมและเป็นรอยดำน่าเกลียดมาก เพราะเจ้าของกระทู้โดนมาเรียบร้อยแล้วด้วยความไม่รู้ก็คิดว่ายุงกัดและไม่บีบพิษออก ตื่นเช้ามาขาบวมเต่งมากตรงรอยแผล และคันมากกกกกกก ทรมานที่สุดก็คือตรงนี้ ถ้าชาวบ้านไม่บอกก็ไม่รู้เลยว่าโดนตัวคุ่นกัด
จุดชมวิวกิ่วฝิ่น


ของฝากจากน้องคุ่น

เช้าวันที่ 3 ของทริปวันนี้เราจะเริ่มต้นด้วยการไปไหว้พระที่วัดอุโมงค์ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมาก เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเคยไปที่นี่กันแล้ว สำหรับเรานี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาที่วัดนี้ เราเป็นคนที่ชอบศิลปะวัฒนธรรมของภาคเหนือ รู้สึกว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่ ที่เราไม่สามารถหาดูได้ง่ายๆ ไปดูบรรยากาศภายในวัดกันในคลิปนี้เลย

https://www.youtube.com/watch?v=QxoIOf2k9n8
เชียงใหม่หนาวมาก
Ep.1
https://www.youtube.com/watch?v=qWhXRQC3Oyw
Ep.2
https://www.youtube.com/watch?v=QCH5tlY_maw
Ep.3
https://www.youtube.com/watch?v=QxoIOf2k9n8
Ep.4
https://www.youtube.com/watch?v=8uxb6SxMmqU
ฝากติดตามและให้กำลังใจเราด้วยนะคะ
ผิดพลาดตรงไหน ขออภัยด้วยจ้าาาาาา
ปล. รูปภาพถ่ายจาก iphone x ล้วนๆ ไม่มีการปรับแต่งใดๆ
Part 2 จะตามมาในอีกไม่นาน ขอตัวไปทำงานก่อนน้าาาาาา
[CR] เที่ยวเชียงใหม่ 5 วัน 4 คืน (เชียงดาว-แม่กำปอง-ม่อนแจ่ม-นิมมาน)
หลายๆคนนึกถึงเป็นแน่นอน หลายคนคงจะมีสถานที่ๆอยากไปเยอะมากแน่ๆ
รีวิวนี้จะมาแนะนำสำหรับคนที่อยากจะไปเชียงใหม่แต่ไม่รู้จะไปไหนดี ไปไหนบ้าง เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเที่ยวเชียงใหม่ที่แปลกใหม่สำหรับเราเช่นกัน
คืนที่ 1 พักที่ ดอยเชียงดาว > ร้านกาแฟเจียงดารา - Hinoki Land – บ้านระเบียงดาว
คืนที่ 2 พักที่ แม่กำปอง > น้ำพุร้อนสันกำแพง - The Giant Chiangmai – โครงการหลวงผาตีนตก – หมู่บ้านแม่กำปอง – จุดชมวิวกิ่วฝิ่น
คืนที่ 3 พักที่ นิมมาน > วัดอุโมงค์ - บ้านข้างวัด - Brandnew Field Good - Myst Maya
คืนที่ 4 พักที่ นิมมาน > ม่อนแจ่ม - The Baristro At Ping River - Chevit Cheva Fine Dessert
- One Nimman - Beer Lab
ติดตามการเดินทางของเราได้ที่ https://www.facebook.com/SeabearMeetalay/
https://www.youtube.com/channel/UCEipfBQ3O6TILdYXrbqE9CQ
สำหรับการเดินทางไปเชียงใหม่นั้นมีหลายวิธีมาก ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัว รถทัวร์ รถไฟ หรือเครื่องบิน ในทริปนี้เราเลือกการเดินทางโดยเครื่องบินเพราะว่าเราได้ตั๋วมาถูกมากกกกก ค่าเครื่องบินไป-กลับของการบินไทย แค่ 1940 บาท (ของถูกและดีมีอยู่จริง 555) เราเลือกเดินทางกันไฟลท์เช้าถึงเชียงใหม่ประมาณ 9.30 ถือเป็นว่าเวลาที่กำลังดีมากสำหรับเรา แล้วเราก็ไปรับรถที่จองไว้ ทริปนี้เราเช่ารถยนต์ทั้งหมด 3 วัน ราคาเบ็ดเสร็จอยู่ที่ 2400 บาท อีก2 วันเราอยู่ในตัวเมืองเลยตกลงกับแฟนว่าจะเช่ารถมอเตอร์ไซด์ขับกันน่าจะสะดวกกว่า เพราะในตัวเมืองเชียงใหม่หลายๆคนน่าจะรู้ว่าก็เหมือนเป็นกรุงเทพย่อมๆนี่เอง
หลังจากรับรถเสร็จเรียบร้อย จุดหมายแรกที่เราจะไปนั้นก็คือ ร้านกาแฟเจียงดาราซึ่งเป็นทางผ่านที่เราจะไปดอยเชียงดาว บรรยากาศที่ร้านเจียงดาราก็จะไม่วุ่นวายมาก มองออกไปเห็นนาข้าวและยอดดอยเชียงดาว ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจอย่างบอกไม่ถูก แนะนำว่าให้มาช่วงเย็นหน่อยวิวจะสวยมาก และที่ร้านก็ยังมีโฮมสเตย์เล็กๆไว้ให้กับผู้ที่ต้องการมาพักค้างคืนด้วย
และจุดหมายปลายทางสุดท้ายของเราวันนี้ก็คือ ดอยเชียงดาว แต่ขอบอกก่อนเลยว่าถ้าใครที่ขับรถไม่เก่ง แนะนำว่าให้นั่งรถรับจ้างของชาวบ้านขึ้นมาจะดีกว่า เพราะทางที่ขึ้นมานั้นโหดมาก มาก มากกกกก กว่าจะถึงได้เราต้องดมยาดมตลอดทางไม่งั้นนะอ้วกแตกแน่ๆ แล้วใครที่จะถามหาสัญญาณโทรศัพท์นั้นลืมไปได้เลย ตัดขาดจากโลกภายนอกไป 1 วัน เข้าใจเลยว่าทำไมที่พักที่นี่ถึงโทรติดยากจัง เพราะแค่เราเลี้ยวจะขึ้นเขามาสัญญาณก็หายหมดเกลี้ยงเลย ในที่สุดเราก็มาถึงหมู่บ้านเชียงดาว คืนนี้เราพักกันที่บ้านระเบียงดาว ที่นี่เค้าจะคิดค่าที่พักเป็นราคาต่อคน จะอยู่ที่คนละ 600 บาท รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า ความรู้สึกตอนที่ขึ้นมาถึงที่ดอยเชียงดาวแล้วมันคือสุดมากอ่ะ มันคือการที่เราได้พักผ่อนแบบจริงๆตัดขาดจากโลกภายนอกซึมซับกับบรรยากาศตรงหน้า กิจกรรมที่ดีที่สุดคือการได้นั่งกินข้าวมองวิวเขาแล้วก็พระอาทิตย์ตกไปพร้อมๆกัน ความสุขแบบเรียบง่ายที่เราหาได้จากที่นี่ พอเสพบรรยากาศเสร็จแล้วเราก็ต้องรีบมาอาบน้ำเพราะอากาศเริ่มเย็นแล้ว อีกหนึงกิจกรรมที่ใครมาเราแนะนำให้ทำคือการดูดาว ด้วยความที่ดอยเชียงดาวสูงจากระดับน้ำทะเลมากทำให้เรารู้สึกได้ว่าเรามองเห็นดาวได้ใกล้และเยอะมากๆ ไม่เคยดูดาวที่ไหนที่สวยและเยอะเท่าที่นี่เลย
เช้าวันใหม่กับบรรยากาศหนาวๆและหมอกจางๆ เราตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันตั้งแต่เช้าตรู่ ภาพที่เห็นตรงหน้ามันสวยมากจนเราไม่รู้ว่าจะบรรยายออกมายังไง ในตอนเช้าที่พักก็จะมีอาหารเช้ามาเสริฟให้เราตรงหน้าห้องพักเลย ข้าวต้มร้อนๆกับโอวัลตินอุ่นๆ เข้ากับบรรยากาศตอนนี้ที่สุด
เมื่อทานข้าวกันเสร็จเราก็อาบน้ำเตรียมตัวออกเดินทางกันต่อ วันนี้แพลนของเราไปหลายที่เลย เริ่มต้นจากน้ำพุร้อนสันกำแพงหลายๆคนน่าจะเคยมาที่นี่กันแล้ว เราเองก็เคยมาครั้งสุดท้ายนานจนลืมไปแล้ว ที่นี่เปลี่ยนแปลงไปเยอะ นักท่องเที่ยวยังมาเที่ยวกันหนาแน่นเหมือนเดิม กิจกรรมหลักๆของน้ำพุร้อนสันกำแพงก็หนีไม่พ้นการต้มไข่และการแช่น้ำแร่เพื่อความผ่อนคลาย
สถานที่ต่อมาคือ The Giant Chiangmai โครงการหลวงตีนตก และผาน้ำลอด 3 สถานที่นี้อยู่ไม่ไกลกันมาและเป็นทางผ่านก่อนจะถึงจุดหมายปลายทางสุดท้ายของเรา ร้าน The Giant Chiangmai ที่เป็นที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวมากเป็นร้านอาหารที่อยู่บนต้นไม้ใหญ่ โดยรอบร้านจะเป็นวิวป่าและเขาล้อมรอบ แต่กว่าจะขึ้นมาถึงร้านได้เนี่ยขอบอกว่าทางโหด ใครไม่ชินทางแนะนำให้ขึ้นรถรับจ้างมานะคะ ทางเข้าจะร้านจะเป็นสะพานไม้สามารถเดินเข้าได้ที่ละ 1-2 คน อาหารและเครื่องดื่มในร้านก็จะมีเมนูไม่ได้หลากหลายมากนะคะ เพราะก็เข้าใจได้ว่าขึ้นมาสูงมากการนำวัตถุดิบมาปรุงอาหารคงจะลำบาก สำหรับเราก็ถือว่ามาเสพบรรยากาศชิลๆ รับลมเย็นๆสบายๆ
ต่อมาที่โครงการหลวงตีนตกจะมีร้านอาหารและกาแฟที่นำเอาผลผลิตของโครงการมาทำการแปรรูป เมนูแนะนำคือ อโวคาโด้ปั่น อโวคาโด้สดมาก อร่อยสุดๆ อาหารภายในร้านก็มีให้เลือกหลากหลาย บรรยากาศภายในร้านก็ผ่อนคลายสุดๆนั่งทานข้าวไป มองลำธารที่ไหลผ่านไป อะไรมันจะดีขนาดนี้
จุดชมวิวกิ่วฝิ่น
ของฝากจากน้องคุ่น
เช้าวันที่ 3 ของทริปวันนี้เราจะเริ่มต้นด้วยการไปไหว้พระที่วัดอุโมงค์ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมาก เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเคยไปที่นี่กันแล้ว สำหรับเรานี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาที่วัดนี้ เราเป็นคนที่ชอบศิลปะวัฒนธรรมของภาคเหนือ รู้สึกว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่ ที่เราไม่สามารถหาดูได้ง่ายๆ ไปดูบรรยากาศภายในวัดกันในคลิปนี้เลย
https://www.youtube.com/watch?v=QxoIOf2k9n8
เชียงใหม่หนาวมาก
Ep.1 https://www.youtube.com/watch?v=qWhXRQC3Oyw
Ep.2 https://www.youtube.com/watch?v=QCH5tlY_maw
Ep.3 https://www.youtube.com/watch?v=QxoIOf2k9n8
Ep.4 https://www.youtube.com/watch?v=8uxb6SxMmqU
ฝากติดตามและให้กำลังใจเราด้วยนะคะ
ผิดพลาดตรงไหน ขออภัยด้วยจ้าาาาาา
ปล. รูปภาพถ่ายจาก iphone x ล้วนๆ ไม่มีการปรับแต่งใดๆ
Part 2 จะตามมาในอีกไม่นาน ขอตัวไปทำงานก่อนน้าาาาาา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น