ถ้าเลิกกันเพราะเราไม่ช่วยกู้ร่วมซื้อรถ เราจะเห็นแก่ตัวไหมค่ะ

เราทำงานขายของร้านส่วนตัวเล็กๆกันค่ะ เราอายุ 30กว่า แฟน30ปลายๆ
รายเดือนกำไรจากการขายของแฟนหาเงินได้เท่าไรก็ใช้เกือบหมดเหลือเก็บหลักพันต่อเดือน เตือนก็ไม่ฟัง
พอเดือดร้อนเราก็ต้องมาช่วยตลอด
เราหาเงินมาก็เลี้ยงที่บ้านเรา และ เก็บเงินด้วย เลี้ยงข้าวช่วยผ่อนรถเค้า จนผ่อนหมด
เค้าติดหนี้เราและที่บ้าน 3 แสนกว่าไม่เคยคิดจะใช้คืน แต่ด้วยคิดว่าเป็นคนที่แต่งงานกันก็ไม่ได้ทวงมาก
ที่ผ่านมา ก็คิดว่าเริ่มต้นกันนะไม่ต้องพึ่งทางแม่ฝ่ายชาย แฟนเราก็ทำงานช่วยเหลือกันตลอดค่ะ

ต้นปีเราท้องก็เลยแต่งกันโดยไม่มีญาติฝ่ายชายมาเลย ....และไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน

“บ้านแฟนไม่เคยช่วยเราสองคน เพราะแม่เค้าไม่ชอบเรา แม้แต่เราท้องก็ไม่รับหลานในท้องและไม่มางานแต่งงานเราค่ะ”

“เราเองไม่เคยขอเงินบ้านแฟนแม้แต่บาทเดียว ไม่คิดจะเอาสมบัติแม่เค้าด้วยค่ะ”




ที่ผ่านมาแฟนไม่ได้อยู่ตลอดเพราะต้องกลับไปนอนบ้านแม่เค้า
(บ้านอยุ่ไม่ไกลกัน) แต่มาช่วยกันทำงานทุกวัน

จนเราแท้งลูกคนแรก และตอนนี้ท้องอยู่ 3เดือนแล้ว เรามีภาวะแท้งคุกคามหมอสั่งนอน
ทำให้เค้าต้องทำงานหนักขึ้นเพราะต้องมาช่วยงานเรา
ในระยะเวลา 2เดือนที่ผ่านมา แต่เราก็จ้างคนมาช่วยแทนเราอีกคน
กลายเป็นเราขี้เกียจ เพราะต้องนอนทั้งวัน



ปัจจุบันเราเพิ่งได้ที่ดินแปลงเล็กๆมาขยายร้านเราค่ะ ต้องลงทุนจัดการอีกด้วยเงินตัวเอง ( เค้าบอกเค้าไม่อยากลงทุนในบ้านเรา)
เพราะกลัวบ้านเราฮุบของเค้าในอนาคต แต่เราไม่เคยเป็นแบบนั้นเลย  พ่อแม่เราไม่เรียกสินสอด ไม่ได้เอาเงินจากแฟนเราสักบาท
กลับกันมีแต่ช่วยเหลือเวลาเดือดร้อนด้วย

เราต้องเลี้ยงพ่อแม่เรา รับผิดชอบ คจช ในบ้านเราทุกอย่างเป็นเรื่องจริง
แต่ไม่ได้เบีดยเบียนเค้าหรือขอเค้าเลย เราใช้ส่วนของเรา
ส่วนเค้าก็ออก คขช.เรื่องน้ำไฟให้แม่เค้า เราไม่เคยว่าเลย


ทุกอย่างปกติ จนเมื่อ2อาทิตย์ที่ผ่านมา มาถามเราว่าจะทำไง
อยากได้รถคันราคาหลักล้านกว่าๆ แต่เงินสำรองในชีวิตเค้าน้อยมาก

เรามีที่ทางและภาระครอบครัวเรา และ ท้องอีก เราคิดว่าไม่ไหว

เค้ามาถามเรา
เราเลยตอบว่าไม่เห็นด้วย รออีก 6เดือนคลอดก่อนได้ไหม
แล้วเค้าให้เรายื่นกุ้ร่วมเพื่อซื้อรถ
มาขับไปไหนต่อไหน เรารู้ว่าถ้าผ่อนไม่ไหว สุดท้ายเราเองก็ต้องออกอีก



เราให้เหตุผลว่ารถหรูๆยังไม่จำเป็นเอามาค่าซ่อมบำรุงปีละ 5หมื่นกว่าบาทเป็นอย่างต่ำ
และยังไม่ได้ช่วยให้อะไรงอกเงยมาเลย เอามาก็มีแต่เป็นรายจ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้

เค้าไม่ฟัง  พยายามให้เรายื่นกู้ร่วมซื้อรถ แต่เราตอบปฏิเสธไป ทะเลาะกันมากและบอกว่าเรา
เอาแต่บ้านเราไม่สนใจเค้า
และ

“ถ่มน้ำลายใส่หน้าเรา”  และ บอกเราจะเลิกก็ได้เพราะ  “เราช่วยเค้าได้ แต่ไม่ช่วย”
เค้าก็อยากเลิก 50/50 แล้ว


ถึงตรงนี้เราเสียใจมาก แต่เพราะมีเจ้าตัวเล็กเลยต้องอดทนกลัวกระทบลูกในท้อง ไม่คิดมาก


ที่ผ่านมาเราออกค่าใช้จ่ายและจิปาถะเกือบทั้งหมด  90  % เค้ามีเท่าไรก็จะลงกับสิ่งที่เค้าชอบหมด
อยู่บ้านไม่ได้ช่วยหยิบจับ เพราะบอกว่าย้ายมาอยู่บ้านเรา เค้าเป็นคนนอก
ค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์และรักษาตัวเค้าไม่เคยออกเลยสักบาท แต่ขับรถไปให้

เราคิดมา3วันแล้ว แต่ไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับคนในครอบครัวเรา หรือเพื่อนเราเพราะกลัวมีผลกระทบ

เราควรทำยังไงดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เอาจริงๆ มีผู้ชายคนนี้แล้วชีวิตมีอะไรดีจากการมีเค้าในชีวิตบ้างคะ

- เหมือนหาเงินก็ไม่ได้
- เป็นคนดีก็ไม่ได้ (ผู้ชายดีๆ ไม่ tui น้ำลายใส่ ผญ แน่ๆ)
- เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจให้ก็ไม่ได้
- บ้าน ผช ก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร ขนาดหลานยังไม่รับเลย
- ติดหนี้บ้านฝ่ายหญิงอีก
- แถมมีทัศนคติไม่อยากลงทุนในบ้านฝ่ายหญิงอีก
- ค่าฝากท้อง ผญ ก็ออกเองอีก

อิหยังละเนี่ยยยย

ยังอีก .. ยังไม่เจียมกะโหลก อยากได้รถแพงๆ ทั้งที่ยังไม่มีเงิน มาเรียกร้องให้คนอื่นทำเรื่องให้อีก

เอ่อ พูดไม่ออกเลย .. งง จขกท นี่แหละ ยังต้องถามคนอื่นอีกหรือคะ มันมีอะไรให้ต้องคิดลังเลหว่าา ถึงจะมีลูกก็เหอะนะ
ความคิดเห็นที่ 8
ตรงอื่นยังพอไหว....
แต่..... “ถ่มน้ำลายใส่หน้าเรา”   นี่รับไม่ได้จริงๆ....  ถ่อย มาก....

คือเอาจริงๆ ผมคาใจตั้งแต่ไม่ยอมจดทะเบียนกับคุณแล้ว... ทำไมเขาถึงไม่จดทะเบียนกับคุณ ?
ผมอาจมองโลกแง่ร้ายไปหน่อย แต่สิ่งเดียวที่คิดออกในตอนนี้ก็คือ...

" เขากลัวว่าธุรกิจคุณจะไปไม่รอด และไม่อยากร่วมรับผิดชอบด้วย "

เขาอยากได้เงินจากคุณ.... แต่ไม่อยากเสี่ยงไปกับคุณด้วย...
เขาจะเอาแต่ได้อย่างเดียว...  เป็นคนที่เอาเปรียบมาก...

และเท่าที่ทราบ... สำหรับการซื้อรถ... มันไม่มีหรอกนะครับ " กู้ร่วม " เนี่ย...
มันก็แค่การเล่นคำ... เพราะเอาจริงๆมันก็คือเขาเป็นผู้กู้ แล้วให้คุณเป็นคนค้ำฯ นั่นแหละ..
คุณไม่ได้มีส่วนในการเป็นเจ้าของรถคันนั้นเลยแม้แต่น้อย...
(แต่หากพวกคุณจดทะเบียนสมรสกันก่อนซื้อรถ รถคันนั้นจะกลายเป็นสินสมรส คือเป็นทรัพย์สิน/หนี้สิน ร่วมกัน)

แถมยังมาอยากได้รถตอนที่คุณกำลังท้อง... และจะเอาให้ได้ด้วย...
(ถ้ารักลูก และไม่โง่จริงๆก็ควรต้องรู้ว่าเมื่อเด็กเกิดขึ้นมา จะมีค่าใช้จ่ายต่างๆตามมาเป็นหางว่าว)

ตรงๆเลยนะครับ...
ผู้ชายแบบนี้ คุณไม่ควรเอามาเป็นพ่อของลูกเลย.... พับผ่าสิ....

FacepalmFacepalmFacepalm
ความคิดเห็นที่ 10
   ที่ผ่านมาคิดอะไร คุณเอาไปสติไปทิ้งไว้ที่ไหน ถึงแต่งงาน อยู่กินกับคนแบบนี้ ยังมียอมมีลูกด้วยอีก
อดที่จะคอมเม้นประโยคนี้ไม่ได้ (ขออภัย)
ท้องแรกที่แท้งไป เป็นโชคดีของเด็กคนนั้นแล้ว
  แต่ที่กำลังท้องตอนนี้นี่ซิ บอกเลยว่า สงสารเด็กที่จะเกิดมาจริงๆ
  ขนาดมีลูกแล้ว เค้ายังจัดลำดับความสำคัญไม่เป็นเลย ว่าอะไรคือสิ่งมาก่อนหลัง
  ตอนนี้ ควรจะช่วยเก็บเงินเพื่อลูกก่อน ก็ยังไม่ทำ และยังทำนิสัยแย่ๆ ถึงขั้นถ่มน้ำลายใส่หน้า นี่เหรอ สิ่งคนเป็นสามีทำ  
  เลิกไปเถอะค่ะ วันๆหนึ่ง คุณก็ไม่ได้ต้องพึ่งพาอะไรเค้าอยู่แล้ว จะไปกลัวอะไร
   อย่าให้ลูกเกิดมามีพ่อแย่ๆเลย ที่ผ่านมาคุณตกนรกคนเดียวก็พอแล้ว ไม่ต้องชวนลูกอยู่มนวังวนนี้อีกคนหรอกค่ะ
ความคิดเห็นที่ 3
เลิกเหอะ กำจัดคนเลวและลดภาระครับ
ความคิดเห็นที่ 5
รับรองช่วยกู้สำเร็จเมื่อไหร่ ตัวผู้ตีจากคุณแน่ๆ เลิกเถอะนิสัยแมงดาดีๆนี่เอง อย่าหาเรื่องใส่ตัว เก็บเงินเลี้ยงลูกดีที่สุดค่าใช้จ่ายของลูกยังมีอีกเยอะค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่