แนะนำสถานที่ปฏิบัติธรรม “เขาสวนหลวง ราชบุรี”
ไปปฎิบัติธรรม เขาสวนหลวง 9 วัน (ตั้งแต่วันที่ 9-17 เมษายน 2559)
สำนักปฏิบัติธรรมเขาสวนหลวง
อุศมสถาน : ธรรมอาศรมสำหรับสตรี
ที่ตั้ง : เลขที่ 36 หมู่ 11 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี 70000
ท่าน ก. เขาสวนหลวง ผู้ให้กำเนิดสำนักฯ ขึ้นมา
ผู้หญิงที่สนใจการปฏิบัติธรรมในแบบพระป่า
มีความยากลำบากกว่าผู้ชายมาก
เพราะผู้ชายนั้น มีวัดป่าจำนวนมากให้เข้าไปปฏิบัติธรรมได้
ส่วนผู้หญิงจะมีปัญหาสารพัด นับตั้งแต่ปัญหาความปลอดภัย
ไปจนถึงความวุ่นวายภายในวัดป่า
ที่ผู้ปฏิบัติธรรมหญิงส่วนมาก
จะใช้ชีวิตแทบทั้งวันกับการทำงานที่พระทำไม่ได้
เช่นงานครัว ปลูกผัก ตัดต้นไม้
แนวการปฏิบัติธรรม
ผู้ปฏิบัติควรศึกษาให้เข้าใจเป็นลำดับไป ดังนี้ :-
การศึกษาที่เรียนรู้ได้ง่าย ทำได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกกาละ ทุกขณะ
ได้ผลทันที ไม่ต้องรอรับผลข้างหน้า
ก็คือ ศึกษาในโรงเรียน กล่าวคือ ในร่างกายยาววาหนาคืบ มีสัญญาใจครอง
ในร่างกายนี้ มีสิ่งน่าเรียนรู้ ตั้งแต่ขั้นหยาบจนถึงขั้นละเอียด
ขั้นของการศึกษา
ก. เบื้องต้น ให้รู้ว่า กายนี้ประกอบขึ้นด้วยธาตุต่างๆ
ส่วนใหญ่ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ลม
ส่วนย่อยได้แก่ ส่วนที่จับติดอยู่กับส่วนใหญ่
เป็นต้นว่า สี กลิ่น ลักษณะ ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้มีลักษณะไม่คงทน (ไม่เที่ยง) เป็นทุกข์ เต็มไปด้วยของปฏิกูล
พิจารณาให้ลึกก็จะไม่เห็นมีอะไรเป็นแก่นสาร
มีแต่สภาพธรรมล้วนๆ ไม่มีภาวะที่ควรเรียกว่า "ตัวเราของเรา"
เมื่อตามเห็นกายอยู่อย่างนี้ชัดเจน
ก็จะคลายความกอดรัดยึดถือในกาย
ว่าเป็นตัวตน เป็นเรา เป็นเขา เป็นนั่นเป็นนี่เสียได้
ข. ขั้นที่สอง ในส่วนของนามธรรม (คือเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)
กำหนดให้รู้ตามความเป็นจริงว่า
ล้วนเป็นเอง ในลักษณะเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
คือเกิดๆ ดับๆ เป็นธรรมดา
พิจารณาเห็นจริงแล้วจะคลายความยึดถือในนามธรรม
ว่าเป็นตัวตน เป็นเรา เป็นเขา เป็นนั่น เป็นนี่ เสียได้
ค. การศึกษาขั้นปฏิบัติ มิได้หมายเพียงการเรียน การฟัง การอ่านเท่านั้น
ต้องมีการปฏิบัติให้เห็นประจักษ์แจ้งด้วยจิตใจตนเอง ด้วยการ
1. ปัดเรื่องภายนอกทั้งหมดทิ้งเสียก่อน
มองย้อนเข้าดูจิตใจตนเอง
(จนรู้ว่ามีความแจ่มใส หรือมัวหมองวุ่นวายอย่างไร)
ด้วยความมีสติสัมปชัญญะกำกับ
รู้กาย รู้จิตใจ อบรมจนจิตทรงตัวเป็นปกติ
2. เมื่อจิตทรงตัวเป็นปกติได้
จะเห็นสังขารหรืออารมณ์ทั้งหลาย เกิดดับเป็นธรรมดา
จิตจะว่างวางเฉย ไม่ยินดียินร้าย
และเห็นรูปนามเกิดดับเองตามธรรมชาติ
3. ความรู้ว่าไม่มีตัวตนแจ่มชัดเมื่อใด
จึงจะพบเข้ากับสิ่งที่มีอยู่ภายใน
เป็นสิ่งที่พ้นทุกข์ ไม่มีการหมุนเวียนเปลี่ยนแปลง เป็นอมตะ
ไม่มีความเกิด ความตาย
สิ่งที่มีความเกิด ย่อมมีความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นธรรมดา
4. เมื่อเห็นความจริงชัดใจแล้ว จิตจะว่าง ไม่เกาะเกี่ยวอะไร
แม้ตัวจิตเองก็ไม่สำคัญว่าเป็นจิต หรือเป็นอะไร
คือไม่ยึดถือตัวเองว่าเป็นอะไรทั้งหมด
จึงมีแต่สภาพธรรมล้วนๆ เท่านั้น
5. เมื่อบุคคลมองเห็น สภาพธรรมล้วนๆ อย่างแจ่มแจ้ง
ย่อมเบื่อหน่ายในการทนทุกข์ซ้ำๆ ซากๆ
เมื่อรู้ความจริงฝ่ายโลกและฝ่ายธรรมตลอดแล้ว
จะเป็นผลประจักษ์เฉพาะหน้าว่า
สิ่งที่หลุดพ้นจากทุกข์นั้นมีอยู่ อย่างชัดเจน
โดยไม่ต้องเชื่อตามใคร ไม่ต้องถามใครอีก
เพราะพระธรรมเป็นปัจจัตตัง คือรู้เฉพาะตนจริงๆ
ผู้ที่มองเห็นความจริงด้านในแล้ว
จะยืนยันความจริงอันนี้ได้เสมอ
(ก. เขาสวนหลวง 17 มีนาคม 2497)
แนะนำสถานที่และข้อวัตร
การติดต่อ
ท่านสามารถโทรไปสอบถามหรือเขียนจดหมายไปขออนุญาต ก่อนเข้าไปพักเพื่อปฏิบัติธรรม
โดยแจ้งวันเวลาที่จะไปปฎิบัติ ( แจ้งว่าท่านจะอยู่ปฎิบัติกี่วัน กลับวันไหน)
ท่านสามารถเขียนจดหมาย ตามที่อยู่นี้
สำนักปฏิบัติธรรมเขาสวนหลวง
ที่ตั้ง : เลขที่ 36 หมู่ 11 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี 70000
หรือโทรติดต่อ ตามเบอร์โทรนี้ได้เลยค่ะ
แม่ชีสุนันทา : 081-320-2705
(เบอร์โทรเดี๋ยวมาอัทเดทเพิ่มเติมค่ะ)
รายละเอียด การเดินทาง :
ขับรถไปเอง
สถานปฏิบัติธรรมเขาสวนหลวง หรืออุศมสถานแห่งนี้ อยู่ไม่ไกลจากตัวจังหวัดราชบุรีมากนัก
การจะเดินทางไปนั้น จะต้องออกจากราชบุรีไปทางเขางู ประมาณ 7 กิโลเมตร
หรือท่าน สามารถขับตาม GPS ได้เลย
ถ้าไม่ได้ขับรถไปเอง ท่านสามารถขึ้นรถตู้ไปได้ (ใช้เวลาเดินทางสักชั่วโมงกว่า ๆ)
รถตู้กรุงเทพ-ราชบุรี (บอกคนขับลง สะพานลอยโรงเรียนสุริวงศ์) หลังจากลงหน้าสะพานลอย
ตรงข้ามโรงเรียนสุริวงศ์แล้วให้ท่าน เดินข้ามสะพานลอย ตรงมาเรื่อยๆเพื่อเดินไปเข้าไปในตลาด
เพื่อขึ้นรถสองแถวสีเขียว (รถสองแถวจะจอดอยู่หน้าธนาคารออมสินหรือไม่ก็ถามคนแถวนั้นว่าขึ้นรถ
สองแถวไปเขาสวนหลวง) รถสองแถวจะผ่านวัดห้วยตะแคง วิ่งทะลุวัดเข้าไปถึงอุศมสถาน
(ถามคนขับรถว่าเข้าไปส่งที่เขาสวนหลวงหรือเปล่า เพราะรถสองแถวจะผ่านเส้นหลัก
ซึ่งถ้าไม่ได้เข้าไปส่ง เขาจะจอดให้ลงหน้าทางเข้า ซึ่งท่านสามาถนั่ง รถสามล้อ
มอเตอร์ไซค์ที่รับจ้างหน้าปากทางเข้าไปได้เช่นกันค่ะ
อีกทางหนึ่งท่านสามารถขึ้นรถตรงกรุงเทพ-ราชบุรี (เขางู)
ถามที่ท่ารถ ว่าผ่านเขางูไหม ถ้าผ่านท่านสามาถขึ้นสายนี้ได้แล้วลงหน้า เขางู
แล้วต่อสามล้อ เข้ามาที่เขาสวนหลวงได้เช่นกัน (แม่ชีท่านแนะนำมาว่าลงที่เขางูก็ได้)
การแต่งกาย : เสื้อขาว/ ผ้าถุงดำหรือผ้าถุงขาว/สไบขาว
เสื้อผ้า ใช้เสื้อถือศีล สีขาว แบบที่เห็นกันทั่วไป คือ คอกลม แขนกระบอก มีผ้าสไบขาวพาดทับ
ผ้าถุงเป็นสีดำหรือสีขาวก็ได้ ถ้ามีเข็มขัดคาดจะช่วยให้ไม่ต้องพะวงเวลาลุกนั่ง (ถ้าไม่มีสไบสามารถยืมแม่ชีได้ท่านเมตตามาก)
อาหาร มังสวิรัติ : อาหารมี 2 มื้อ มื้อเช้า และมื้อเที่ยง มื้อเย็นเป็น น้ำปานะ
สำหรับใครที่ต้องการจะรับประทาน มื้อเดียว ก็ได้เช่นกัน
(ถึงเวลารับประทานอาหาร จะได้ยินเสียงระฆัง)
เครื่องใช้สำคัญ: ที่ขาดไม่ได้คือไฟฉาย / ของใช้ส่วนตัวก็เตรียมไปตามความจำเป็นค่ะ
น้ำดื่มถ้าท่านสามารถเอาไปเองก็จะดีค่ะ แต่ถ้าไม่สะดวก ที่เขาสวนหลวง ก็มีให้ เหมือนกันค่ะ
กิจกรรม: กิจกรรมถ้าไม่ใช่วันพระก็มีเพียงการทำวัตรเช้าเย็นเท่านั้น
เวลาส่วนใหญ่จะให้ใช้ปฏิบัติเอาเองให้เต็มที่
1.พอมาถึงที่เขาสวนหลวงแล้ว ก็ให้เราตรงขึ้นไปจนสุดทาง จะมีลานจอดรถ
เข้าไปตรงข้างล่างหอประชุมธรรมวิจัย จะมีแม่ชีผลัดเวรกันคอยดูแลแนะนำผู้เดิน
ทางมาปฎิบัติ จากนั้นก็แจ้งท่านว่าได้โทรมาจองไว้ ชื่ออะไร พักกี่วัน
ท่าน ก็จะไปดูตรงกระดานที่ลงบันทึกไว้ ว่าท่านต้องพักที่กุฎิหลังไหน
2.ท่านจะให้กุญแจที่พัก หรือไม่ท่านก็พาไปยังกุฎิที่พัก
ข้าพเจ้าไปถึงประมาณเที่ยง หลังจากเข้ากุฎิทำภาระกิจเปลี่ยนชุด สัก สี่โมงเย็น
เดินลงมาทำวัดเย็น ไม่ก็รอเสียงสัญญาณระฆัง แล้วค่อยเดินลงมาทำวัดเย็น
3.หลังจากทำวัดเย็นเสร็จแล้วก็เดินลงมาดื่มน้ำปานะ ไม่ก็กลับไปทำภาระกิจยังที่พัก
หรือไม่ก็สามารถเดินจงกรม ลานแถวนั้นได้ตามสะดวก แล้วแต่ท่านจะเลือกปฎิบัติ
เพราะการปฎิบัติที่นี้ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง
4. ประมาณ 2 ทุ่ม จะได้ยินเสียงสัญญานระฆังให้ทุกคนปฎิบัติ เดินจงกรมหรือนั่ง
สมาธิถ้าท่านทำอยู่แล้วก็ไม่เป็นไรทำต่อไป ระยะเวลาการปฎิบัติแล้วแต่ท่านจะปฎิบัติ
5. ประมาณตี 3 จะได้ยินเสียงสัญญานระฆังให้ทุกคนลุกขึ้นมาปฎิบัติเดินจงกรม นั่งสมาธิ ประมาณตี 5
จะได้ยินเสียงสัญญาณระฆังเพื่อลงมาทำวัดเช้า
6.หลังจากทำวัดเช้าเสร็จก็รับประทานอาหารเช้า ล้างจาน
จากนั้นก็แยกย้ายไปทำความสะอาดที่พัก ทำภาระกิจส่วนตัว และปฎิบัติธรรม
ท่านสามารถเดินจงกรมหรือนั่งสมาธิได้ที่พักของท่าน หรือไปปฎิบัติที่ศาลาธรรมวิจัย หรือ ถ้ำอุดมสันติ
( ถ้าถ้ำล็อคอยู่ท่านสามารถขอกุญแจกับแม่ชีได้)
7.พอสัก 11 โมง ท่านจะได้ยินเสียงระฆังดังขึ้นเพื่อรับประทานอาหาร เที่ยง
หลังจาก รับประทานอาหาร ล้างจานเสร็จ ก็แยกย้ายปฎิบัติของใครของมันเช่นเดิม
8.การเดินทางกลับ ผู้ที่ไม่ได้เอารถไปสามารถ ติดรถกระบะที่ไปจ่ายตลาดของเขาสวนหลวงได้
โดยรถจะจอดให้ตรงคิวรถตู้ค่ะ (เวลารถออก ประมาน 8 โมง เวลาที่แน่นอน สอบถามกับทางแม่ชีอีกครั้งในวันกลับค่ะ)
หมายเหตุ กิจวัตรประจำวันก็จะมีทำวัดเช้าเย็น กวาดที่พักรอบๆ แยกย้ายกันปฎิบัติด้วยตนเอง ตารางเวลาที่แน่ชัดท่านสามารถสอบถามกับทางแม่ชีได้ค่ะ (การรับปนะทานอาหาร แล้วแต่ผู้ปฎิบัติเอง จะทาน มื้อเดียวหรือ 2 มื้อ ก็แล้วแต่นักปฎิบัติเอง สำหรับน้ำดื่มท่านสามารถติดต่อสอบถามกับทางแม่ชี หรือกดเอาที่โรงครัว ที่ทานรับประทานอาหาร)
แนะนำสถานที่ปฏิบัติธรรม “เขาสวนหลวง ราชบุรี”
ไปปฎิบัติธรรม เขาสวนหลวง 9 วัน (ตั้งแต่วันที่ 9-17 เมษายน 2559)
สำนักปฏิบัติธรรมเขาสวนหลวง
อุศมสถาน : ธรรมอาศรมสำหรับสตรี
ที่ตั้ง : เลขที่ 36 หมู่ 11 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี 70000
ท่าน ก. เขาสวนหลวง ผู้ให้กำเนิดสำนักฯ ขึ้นมา
ผู้หญิงที่สนใจการปฏิบัติธรรมในแบบพระป่า
มีความยากลำบากกว่าผู้ชายมาก
เพราะผู้ชายนั้น มีวัดป่าจำนวนมากให้เข้าไปปฏิบัติธรรมได้
ส่วนผู้หญิงจะมีปัญหาสารพัด นับตั้งแต่ปัญหาความปลอดภัย
ไปจนถึงความวุ่นวายภายในวัดป่า
ที่ผู้ปฏิบัติธรรมหญิงส่วนมาก
จะใช้ชีวิตแทบทั้งวันกับการทำงานที่พระทำไม่ได้
เช่นงานครัว ปลูกผัก ตัดต้นไม้
แนวการปฏิบัติธรรม
ผู้ปฏิบัติควรศึกษาให้เข้าใจเป็นลำดับไป ดังนี้ :-
การศึกษาที่เรียนรู้ได้ง่าย ทำได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกกาละ ทุกขณะ
ได้ผลทันที ไม่ต้องรอรับผลข้างหน้า
ก็คือ ศึกษาในโรงเรียน กล่าวคือ ในร่างกายยาววาหนาคืบ มีสัญญาใจครอง
ในร่างกายนี้ มีสิ่งน่าเรียนรู้ ตั้งแต่ขั้นหยาบจนถึงขั้นละเอียด
ขั้นของการศึกษา
ก. เบื้องต้น ให้รู้ว่า กายนี้ประกอบขึ้นด้วยธาตุต่างๆ
ส่วนใหญ่ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ลม
ส่วนย่อยได้แก่ ส่วนที่จับติดอยู่กับส่วนใหญ่
เป็นต้นว่า สี กลิ่น ลักษณะ ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้มีลักษณะไม่คงทน (ไม่เที่ยง) เป็นทุกข์ เต็มไปด้วยของปฏิกูล
พิจารณาให้ลึกก็จะไม่เห็นมีอะไรเป็นแก่นสาร
มีแต่สภาพธรรมล้วนๆ ไม่มีภาวะที่ควรเรียกว่า "ตัวเราของเรา"
เมื่อตามเห็นกายอยู่อย่างนี้ชัดเจน
ก็จะคลายความกอดรัดยึดถือในกาย
ว่าเป็นตัวตน เป็นเรา เป็นเขา เป็นนั่นเป็นนี่เสียได้
ข. ขั้นที่สอง ในส่วนของนามธรรม (คือเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)
กำหนดให้รู้ตามความเป็นจริงว่า
ล้วนเป็นเอง ในลักษณะเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
คือเกิดๆ ดับๆ เป็นธรรมดา
พิจารณาเห็นจริงแล้วจะคลายความยึดถือในนามธรรม
ว่าเป็นตัวตน เป็นเรา เป็นเขา เป็นนั่น เป็นนี่ เสียได้
ค. การศึกษาขั้นปฏิบัติ มิได้หมายเพียงการเรียน การฟัง การอ่านเท่านั้น
ต้องมีการปฏิบัติให้เห็นประจักษ์แจ้งด้วยจิตใจตนเอง ด้วยการ
1. ปัดเรื่องภายนอกทั้งหมดทิ้งเสียก่อน
มองย้อนเข้าดูจิตใจตนเอง
(จนรู้ว่ามีความแจ่มใส หรือมัวหมองวุ่นวายอย่างไร)
ด้วยความมีสติสัมปชัญญะกำกับ
รู้กาย รู้จิตใจ อบรมจนจิตทรงตัวเป็นปกติ
2. เมื่อจิตทรงตัวเป็นปกติได้
จะเห็นสังขารหรืออารมณ์ทั้งหลาย เกิดดับเป็นธรรมดา
จิตจะว่างวางเฉย ไม่ยินดียินร้าย
และเห็นรูปนามเกิดดับเองตามธรรมชาติ
3. ความรู้ว่าไม่มีตัวตนแจ่มชัดเมื่อใด
จึงจะพบเข้ากับสิ่งที่มีอยู่ภายใน
เป็นสิ่งที่พ้นทุกข์ ไม่มีการหมุนเวียนเปลี่ยนแปลง เป็นอมตะ
ไม่มีความเกิด ความตาย
สิ่งที่มีความเกิด ย่อมมีความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นธรรมดา
4. เมื่อเห็นความจริงชัดใจแล้ว จิตจะว่าง ไม่เกาะเกี่ยวอะไร
แม้ตัวจิตเองก็ไม่สำคัญว่าเป็นจิต หรือเป็นอะไร
คือไม่ยึดถือตัวเองว่าเป็นอะไรทั้งหมด
จึงมีแต่สภาพธรรมล้วนๆ เท่านั้น
5. เมื่อบุคคลมองเห็น สภาพธรรมล้วนๆ อย่างแจ่มแจ้ง
ย่อมเบื่อหน่ายในการทนทุกข์ซ้ำๆ ซากๆ
เมื่อรู้ความจริงฝ่ายโลกและฝ่ายธรรมตลอดแล้ว
จะเป็นผลประจักษ์เฉพาะหน้าว่า
สิ่งที่หลุดพ้นจากทุกข์นั้นมีอยู่ อย่างชัดเจน
โดยไม่ต้องเชื่อตามใคร ไม่ต้องถามใครอีก
เพราะพระธรรมเป็นปัจจัตตัง คือรู้เฉพาะตนจริงๆ
ผู้ที่มองเห็นความจริงด้านในแล้ว
จะยืนยันความจริงอันนี้ได้เสมอ
(ก. เขาสวนหลวง 17 มีนาคม 2497)
แนะนำสถานที่และข้อวัตร
การติดต่อ
ท่านสามารถโทรไปสอบถามหรือเขียนจดหมายไปขออนุญาต ก่อนเข้าไปพักเพื่อปฏิบัติธรรม
โดยแจ้งวันเวลาที่จะไปปฎิบัติ ( แจ้งว่าท่านจะอยู่ปฎิบัติกี่วัน กลับวันไหน)
ท่านสามารถเขียนจดหมาย ตามที่อยู่นี้
สำนักปฏิบัติธรรมเขาสวนหลวง
ที่ตั้ง : เลขที่ 36 หมู่ 11 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี 70000
หรือโทรติดต่อ ตามเบอร์โทรนี้ได้เลยค่ะ
แม่ชีสุนันทา : 081-320-2705
(เบอร์โทรเดี๋ยวมาอัทเดทเพิ่มเติมค่ะ)
รายละเอียด การเดินทาง :
ขับรถไปเอง
สถานปฏิบัติธรรมเขาสวนหลวง หรืออุศมสถานแห่งนี้ อยู่ไม่ไกลจากตัวจังหวัดราชบุรีมากนัก
การจะเดินทางไปนั้น จะต้องออกจากราชบุรีไปทางเขางู ประมาณ 7 กิโลเมตร
หรือท่าน สามารถขับตาม GPS ได้เลย
ถ้าไม่ได้ขับรถไปเอง ท่านสามารถขึ้นรถตู้ไปได้ (ใช้เวลาเดินทางสักชั่วโมงกว่า ๆ)
รถตู้กรุงเทพ-ราชบุรี (บอกคนขับลง สะพานลอยโรงเรียนสุริวงศ์) หลังจากลงหน้าสะพานลอย
ตรงข้ามโรงเรียนสุริวงศ์แล้วให้ท่าน เดินข้ามสะพานลอย ตรงมาเรื่อยๆเพื่อเดินไปเข้าไปในตลาด
เพื่อขึ้นรถสองแถวสีเขียว (รถสองแถวจะจอดอยู่หน้าธนาคารออมสินหรือไม่ก็ถามคนแถวนั้นว่าขึ้นรถ
สองแถวไปเขาสวนหลวง) รถสองแถวจะผ่านวัดห้วยตะแคง วิ่งทะลุวัดเข้าไปถึงอุศมสถาน
(ถามคนขับรถว่าเข้าไปส่งที่เขาสวนหลวงหรือเปล่า เพราะรถสองแถวจะผ่านเส้นหลัก
ซึ่งถ้าไม่ได้เข้าไปส่ง เขาจะจอดให้ลงหน้าทางเข้า ซึ่งท่านสามาถนั่ง รถสามล้อ
มอเตอร์ไซค์ที่รับจ้างหน้าปากทางเข้าไปได้เช่นกันค่ะ
อีกทางหนึ่งท่านสามารถขึ้นรถตรงกรุงเทพ-ราชบุรี (เขางู)
ถามที่ท่ารถ ว่าผ่านเขางูไหม ถ้าผ่านท่านสามาถขึ้นสายนี้ได้แล้วลงหน้า เขางู
แล้วต่อสามล้อ เข้ามาที่เขาสวนหลวงได้เช่นกัน (แม่ชีท่านแนะนำมาว่าลงที่เขางูก็ได้)
การแต่งกาย : เสื้อขาว/ ผ้าถุงดำหรือผ้าถุงขาว/สไบขาว
เสื้อผ้า ใช้เสื้อถือศีล สีขาว แบบที่เห็นกันทั่วไป คือ คอกลม แขนกระบอก มีผ้าสไบขาวพาดทับ
ผ้าถุงเป็นสีดำหรือสีขาวก็ได้ ถ้ามีเข็มขัดคาดจะช่วยให้ไม่ต้องพะวงเวลาลุกนั่ง (ถ้าไม่มีสไบสามารถยืมแม่ชีได้ท่านเมตตามาก)
อาหาร มังสวิรัติ : อาหารมี 2 มื้อ มื้อเช้า และมื้อเที่ยง มื้อเย็นเป็น น้ำปานะ
สำหรับใครที่ต้องการจะรับประทาน มื้อเดียว ก็ได้เช่นกัน
(ถึงเวลารับประทานอาหาร จะได้ยินเสียงระฆัง)
เครื่องใช้สำคัญ: ที่ขาดไม่ได้คือไฟฉาย / ของใช้ส่วนตัวก็เตรียมไปตามความจำเป็นค่ะ
น้ำดื่มถ้าท่านสามารถเอาไปเองก็จะดีค่ะ แต่ถ้าไม่สะดวก ที่เขาสวนหลวง ก็มีให้ เหมือนกันค่ะ
กิจกรรม: กิจกรรมถ้าไม่ใช่วันพระก็มีเพียงการทำวัตรเช้าเย็นเท่านั้น
เวลาส่วนใหญ่จะให้ใช้ปฏิบัติเอาเองให้เต็มที่
1.พอมาถึงที่เขาสวนหลวงแล้ว ก็ให้เราตรงขึ้นไปจนสุดทาง จะมีลานจอดรถ
เข้าไปตรงข้างล่างหอประชุมธรรมวิจัย จะมีแม่ชีผลัดเวรกันคอยดูแลแนะนำผู้เดิน
ทางมาปฎิบัติ จากนั้นก็แจ้งท่านว่าได้โทรมาจองไว้ ชื่ออะไร พักกี่วัน
ท่าน ก็จะไปดูตรงกระดานที่ลงบันทึกไว้ ว่าท่านต้องพักที่กุฎิหลังไหน
2.ท่านจะให้กุญแจที่พัก หรือไม่ท่านก็พาไปยังกุฎิที่พัก
ข้าพเจ้าไปถึงประมาณเที่ยง หลังจากเข้ากุฎิทำภาระกิจเปลี่ยนชุด สัก สี่โมงเย็น
เดินลงมาทำวัดเย็น ไม่ก็รอเสียงสัญญาณระฆัง แล้วค่อยเดินลงมาทำวัดเย็น
3.หลังจากทำวัดเย็นเสร็จแล้วก็เดินลงมาดื่มน้ำปานะ ไม่ก็กลับไปทำภาระกิจยังที่พัก
หรือไม่ก็สามารถเดินจงกรม ลานแถวนั้นได้ตามสะดวก แล้วแต่ท่านจะเลือกปฎิบัติ
เพราะการปฎิบัติที่นี้ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง
4. ประมาณ 2 ทุ่ม จะได้ยินเสียงสัญญานระฆังให้ทุกคนปฎิบัติ เดินจงกรมหรือนั่ง
สมาธิถ้าท่านทำอยู่แล้วก็ไม่เป็นไรทำต่อไป ระยะเวลาการปฎิบัติแล้วแต่ท่านจะปฎิบัติ
5. ประมาณตี 3 จะได้ยินเสียงสัญญานระฆังให้ทุกคนลุกขึ้นมาปฎิบัติเดินจงกรม นั่งสมาธิ ประมาณตี 5
จะได้ยินเสียงสัญญาณระฆังเพื่อลงมาทำวัดเช้า
6.หลังจากทำวัดเช้าเสร็จก็รับประทานอาหารเช้า ล้างจาน
จากนั้นก็แยกย้ายไปทำความสะอาดที่พัก ทำภาระกิจส่วนตัว และปฎิบัติธรรม
ท่านสามารถเดินจงกรมหรือนั่งสมาธิได้ที่พักของท่าน หรือไปปฎิบัติที่ศาลาธรรมวิจัย หรือ ถ้ำอุดมสันติ
( ถ้าถ้ำล็อคอยู่ท่านสามารถขอกุญแจกับแม่ชีได้)
7.พอสัก 11 โมง ท่านจะได้ยินเสียงระฆังดังขึ้นเพื่อรับประทานอาหาร เที่ยง
หลังจาก รับประทานอาหาร ล้างจานเสร็จ ก็แยกย้ายปฎิบัติของใครของมันเช่นเดิม
8.การเดินทางกลับ ผู้ที่ไม่ได้เอารถไปสามารถ ติดรถกระบะที่ไปจ่ายตลาดของเขาสวนหลวงได้
โดยรถจะจอดให้ตรงคิวรถตู้ค่ะ (เวลารถออก ประมาน 8 โมง เวลาที่แน่นอน สอบถามกับทางแม่ชีอีกครั้งในวันกลับค่ะ)
หมายเหตุ กิจวัตรประจำวันก็จะมีทำวัดเช้าเย็น กวาดที่พักรอบๆ แยกย้ายกันปฎิบัติด้วยตนเอง ตารางเวลาที่แน่ชัดท่านสามารถสอบถามกับทางแม่ชีได้ค่ะ (การรับปนะทานอาหาร แล้วแต่ผู้ปฎิบัติเอง จะทาน มื้อเดียวหรือ 2 มื้อ ก็แล้วแต่นักปฎิบัติเอง สำหรับน้ำดื่มท่านสามารถติดต่อสอบถามกับทางแม่ชี หรือกดเอาที่โรงครัว ที่ทานรับประทานอาหาร)