ทริปยุโรปตะวันออก 3 ประเทศ 6 เมือง เที่ยวเอง 9 วัน 8 คืน - VIENNA


กระทู้ต่อจาก https://pantip.com/topic/38267677

14 ตุลาคม 2018
ถึงเวียนนาแล้วจ้า ใช้เวลาประมาณ 4 ชม.จากอัมมาน การผ่าน ตม.ที่เวียนนาไม่ยากเลยค่ะ เรายื่นพาสปอร์ตให้ จนท.
ไม่ถามอะไรเลย ผ่าน!! เข้ามาก็รอรับกระเป๋า แล้วก็เดินทางเข้าเมืองเวียนนากันเลยค่า

การเดินทางเข้าเมืองมีหลายวิธีค่ะ แต่เราเลือกใช้ OBB(การรถไฟออสเตรีย) ในสนามบินจะมีป้ายบอกทาง เดินตามป้ายไปเรื่อยๆเลยก็จะเข้าสู่สถานีรถไฟ มีตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ การใช้ไม่ยากค่ะ มีให้เลือกภาษาอังกฤษ เลือกสถานีที่เราจะไป จำนวนคนเดินทาง จะมีรอบรถไฟขึ้นมาให้เลือก เลือกแล้วก็จะให้จ่ายเงินค่ะ ขอบอกนิดนึงเรื่องการจ่ายเงิน ตู้จะรับเฉพาะเหรียญกับแบงค์เล็ก แล้วก็บัตรเครดิต ตอนนั้นเรามีแบงค์เล็กสุดคือ 50 ต้องเดินกลับขึ้นไปแลกในสนามบิน ใครที่พกแต่แบงค์ใหญ่ไป ก่อนออกจากสนามบินแวะร้านแลกเงินก่อนนะคะ จ่ายเงินแล้วเราจะได้ตั๋วที่มี QR Code มาค่ะ หลังจากนั้นก็ไปรอรถไฟที่ชานชาลาได้เลย ตรงนี้ลงไปแล้วอาจจะงงๆว่าขึ้นชานชาลาไหน เพราะป้ายตรงชานชาลาจะโชว์ชื่อสถานีปลายทาง แต่เราน่ะลงกลางทาง เพราะฉะนั้นสังเกตจากเวลาก็ได้ค่ะ ถ้าใช่เวลาที่เราจองก็คือขึ้นฝั่งนั้น รถไฟจะเข้าชานชาลาก่อนเวลาออกประมาณ 3 นาที และออกตรงเวลาเป๊ะ เผื่อเวลากันดีๆน้า (จริงๆที่ยุโรปก็ออกตรงเวลาเป๊ะทั้งรถบัสรถไฟ) รถไฟมาก็ขึ้นโบกี้ที่เป็นที่นั่งปกติอ่ะค่ะ (มันมีแบบ first class จ่ายแพงกว่า) ที่นั่งไม่ได้ระบุ ตรงไหนว่างก็นั่งได้เลยค่า แต่ถ้าอยู่ดีๆมีคนจะมานั่งที่เราแล้วโชว์ตั๋วว่าจองไว้แล้ว เราก็ต้องย้ายค่ะ และบนรถไฟมีที่วางกระเป๋าเดินทางจ้า เอากระเป๋าไปวางไว้แล้วหาที่นั่งใกล้ๆก็ได้ รถไฟออกไปสักพักจะมี จนท.มาตรวจตั๋ว เราก็เอาตั๋วให้เขาสแกนได้เลย ง่ายมากๆ

ใช้เวลา 15 นาทีเราก็มาถึงสถานี Wien HBF. ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่พักเรานั่นเองค่า
เราพักกันที่ Motel One Wien Hauptbahnhof ซึ่งเป็น chain hotel ในเครือ Motel One จ้า ไม่ใช่ม่านรูดแต่อย่างใดเด้อ
ออกจากสถานีมา เดินไปโรงแรมใกล้นิดเดียวเอง ใกล้จริงๆค่ะ สะดวกมากๆ เนื่องจากไปถึงก็สี่โมงเย็นแล้ว เลย check in เข้าที่พักวางกระเป๋า แล้วออกไปเที่ยวต่อเลย วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ค่ะ ซึ่งต้องบอกไว้เลยว่า วันอาทิตย์ที่เวียนนาช่างเงียบเหงา ถนนช้อปปิ้งปิด พวกพิพิธภัณฑ์ก็ปิดเร็ว มีไม่กี่ที่เปิดถึงดึกๆ

เราไปหาซื้อ Vienna City Card ในสถานีรถไฟ จุดขายอยู่ตรง Information Center เราซื้อแบบ Red Card 48 hrs. ราคา 25 ยูโร บัตรนี้นอกจากจะโดยสารรถสาธารณะได้ แล้วยังใช้เป็นส่วนลดการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ด้วยค่ะ แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยเข้าสถานที่ท่องเที่ยวอยากใช้แค่โดยสารรถเฉยๆ แนะนำซื้ออีกแบบนึงราคาถูกกว่า ลองถามที่ Info เลยก็ได้ค่ะ
ปล. การใช้ตั๋วครั้งแรกจะต้องเอาตั๋งไป Valid ที่ตู้สีฟ้าเล็กๆก่อนค่ะ หันด้านที่เป็นBarcodeสอดเข้าไปในตู้แล้วมันจะแสตมป์วันที่และเวลามาให้
ได้พาสมาแล้วก็เดินทางกันเลยยย แผนในวันนี้คือ Austrian National Library และ House of Music ค่ะ

1. Austrian National Library (Österreichische Nationalbibliothek) https://www.onb.ac.at/en/
การเดินทาง : ขึ้น U3 ไปสถานี Karlsplatz จะไปโผล่ตรง state opera แล้วเดินต่อไปอีกค่ะ จะผ่าน Albertina แล้วเลาะไปเรื่อยๆจะเจอรูปปั้นใครสักคนขี่ม้า ตึกข้างหลังเป็นทางเข้าค่ะ ทางเข้ามีหลายทาง
เปิดทำการวัน อังคาร - เสาร์ 9.00-21.00 , อาทิตย์ 9.00-18.00 , ปิดทำการวันจันทร์
และใช่ค่ะ ดิฉันไปวันอาทิตย์ซึ่งปิดหกโม๊งงงงงง คุณพระ รีบมากก แต่สรุปว่ามัวแต่มึนทาง โอ้เอ้กัน พอไปถึงก็ 17.45 น. อีก 15 น.เขาก็ปิด ก็เลยตัดสินใจไม่เข้าค่ะ เพราะคงไม่คุ้มค่าตั๋ว ก็เลยได้แต่ถ่ายรูปด้านนอกมา

อันนี้เอารูปด้านในจากในเวปมาให้ดูค่ะ อลังการมาก เสียดายจริงๆ
--------------------------------------------------------------------------------------
2. Café Sacher
เดินออกมาจากสำนักหอสมุดด้วยความหดหู่ แล้วก็เกิดอาการหิวค่ะ หาของกินดีกว่า แถวนั้นมีร้านอาหารหลายร้านมาก แต่ไม่รู้จะเลือกร้านไหน พอดีเห็นร้านนี้คนต่อแถวยาว เลยหาข้อมูลดู เป็นร้านชื่อดัง แบบว่ามาต้องมากินที่นี่ โดยเฉพาะเค้ก Sacher เป็นของเด็ดประจำร้าน ก็เลยเอาร้านนี้แหละ ลองดู!
รอคิวประมาณ 15 น. ก็ได้เข้าร้าน ส่วนอาหารก็จิ้มมั่วๆมาอ่ะค่ะ นี่คือของที่สั่งมา มีไส้กรอก เค้ก แล้วก็ชาเอิร์ลเกรย์
บรรยากาศในร้านตกแต่งสวยหรูค่ะ สไตล์ผู้ดี การบริการดี ส่วนรสชาดของอาหาร ก็โอเคค่ะ Sacher Torte ตัวช้อกโกแลตอร่อย แต่มันจะมีเลเยอร์ที่เป็นแยมแอพริคอทเปรี้ยวๆหน่อย มีคนบอกอร่อย แต่เรารู้สึกว่ามันไม่เข้ากันยังไงก็ไม่รู้55 แต่ก็อย่าลืมไปชิมกันนะคะ
--------------------------------------------------------------------------------------
3. House of Music (Haus der Musik) http://www.hausdermusik.com/ เปิดทุกวัน 10.00 - 22.00
ทานอาหารเสร็จก็เดินมาเรื่อยๆ เพื่อไป House of Music ตอนไปถึงก็สองทุ่มแล้ว เขาจะมีตั๋วตอนกลางคืนซึ่งขายหลัง 20.00 เป็นต้นไปค่ะ ถูกกว่าตั๋วปกติ ที่ใช้ pass มาลดราคาอีก ตรงที่ขายตั๋วมีรับฝากของ ส่วนตัวเป็นคนชอบฟังดนตรีคลาสสิคอยู่แล้วค่ะ ก็เลยอยากมาที่นี่ บนตึกจะมีหลายชั้น แต่ละชั้นก็จะมีเรื่องราวให้ดู มีอะไรให้เล่นเยอะเลยค่ะ บันไดเปียโน มีเพลงให้ฟัง มีสาระความรู้ พวกประวัติของเสียง การกำเนิดเสียง ความถี่เสียง เครื่องดนตรีต่างๆ อู้ยยย เยอะแยะไปหมด มีทั้งแบบใส่หูฟัง และอ่านเอา เล่นสนุกจนเพลินไปเลยจ้า พนักงานขึ้นมาเชิญลงเลยเด้อออ เพราะเขาจะปิดแล้ว55

นี่เพื่อนเราเอง และบันไดเปียโนของนาง เล่นตรงนี้นานมาก

ในห้องนี้จะมีเพลงให้ฟัง
มีเกมให้เราสร้างทำนองของเราเอง แต่ถ้าจะโหลดออกมาต้องเสียเงินค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปตรงนี้มา มัวแต่ถ่ายคลิป

ห้องประวัตินักดนตรี (มีประวัติของศิลปินหลายท่านเลยค่ะ)
ห้องนี้ตอนเดินเข้ามาถึงกับผงะเลยอ่ะ ข้างล่างภาพมีพนักงานสองคนนั่งคุยกันอยู่ นึกว่าใครมายืนฟังด้วย
เรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องดนตรี
ปล. เราไปที่นี่ตอนกลางคืนวันอาทิตย์ คนแทบไม่มีค่ะ เจอไม่กี่คนเอง บรรยากาศจะหลอนๆนิดนึงฮ่ะ แบบจะเลี้ยวไปอีกทางก็จะลุ้นๆว่ามีอะไรมั้ย นึกว่าไปแคสหนังผี 555555

จบแล้วค่ะ วันแรกของเรา หลังจากนั้นก็นั่งเมโทรกลับมาที่พัก นอนเก็บแรง
ส่วนวันต่อไปก็ยังอยู่ในเวียนนาเหมือนเดิม จะไปเที่ยวพระราชวังต่างๆกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่