กลุ่มทรูมีรายได้จากการให้บริการโดยรวม 2.63 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2561 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนในอัตราร้อยละ 7.3 หรือร้อยละ 10.3
หากไม่รวมรายได้จากสัมปทานโทรศัพท์พื้นฐาน รายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตของรายได้และฐานลูกค้าทั้งธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ หากไม่รวมผลกระทบจากธุรกรรมการขายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม (DIF) EBITDA เติบโตร้อยละ 13.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 1.02 หมื่นล้านบาท ด้วยอัตรากำไร EBITDA margin ที่เพิ่มเป็นร้อยละ 38.4 ในไตรมาส 3 ปี 2561 เทียบกับร้อยละ 36.5 ในไตรมาส 3 ปี 2560 หากรวมธุรกรรมดังกล่าว EBITDA จะคงที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 8.9 พันล้านบาท
ในไตรมาส 3 ปี 2561 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ เท่ากับ 385 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2561 ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับขาดทุนสุทธิ 691 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนโดยกำไรจากการดำเนินงานที่มากขึ้น ดอกเบี้ยจ่ายสุทธิที่ลดลง และจากการถือหน่วยลงทุนใน DIF ของกลุ่มทรู
ทรูมูฟ เอช โดยในไตรมาส 3 ปี 2561 ทรูมูฟ เอช มีผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิ 6.778 แสนราย ทำให้ฐานลูกค้ารวมเพิ่มเป็น 28.8 ล้านราย แบ่งเป็นระบบรายเดือน 7.4 ล้านรายและระบบเติมเงิน 21.4 ล้านราย โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการต่อเดือนเท่ากับ 207 บาท
รายได้จากการให้บริการของทรูออนไลน์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า เป็น 9.4 พันล้านบาท
รายได้จากการให้บริการของทรูวิชั่นส์ อยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.7 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่จากการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ขณะที่อ่อนตัวร้อยละ 1.2 จากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมีรายได้ธุรกิจบันเทิงจากการจัดงานสำคัญ
TRUE-H ไตรมาส 3/2561 มีจำนวนผู้ใช้บริการ 28.8 ล้านรายเพิ่มขึ้น 6.778 แสนราย มีกำไรสุทธิเท่ากับ 385 ล้านบาท
หากไม่รวมรายได้จากสัมปทานโทรศัพท์พื้นฐาน รายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตของรายได้และฐานลูกค้าทั้งธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ หากไม่รวมผลกระทบจากธุรกรรมการขายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม (DIF) EBITDA เติบโตร้อยละ 13.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 1.02 หมื่นล้านบาท ด้วยอัตรากำไร EBITDA margin ที่เพิ่มเป็นร้อยละ 38.4 ในไตรมาส 3 ปี 2561 เทียบกับร้อยละ 36.5 ในไตรมาส 3 ปี 2560 หากรวมธุรกรรมดังกล่าว EBITDA จะคงที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 8.9 พันล้านบาท
ในไตรมาส 3 ปี 2561 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ เท่ากับ 385 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2561 ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับขาดทุนสุทธิ 691 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนโดยกำไรจากการดำเนินงานที่มากขึ้น ดอกเบี้ยจ่ายสุทธิที่ลดลง และจากการถือหน่วยลงทุนใน DIF ของกลุ่มทรู
ทรูมูฟ เอช โดยในไตรมาส 3 ปี 2561 ทรูมูฟ เอช มีผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิ 6.778 แสนราย ทำให้ฐานลูกค้ารวมเพิ่มเป็น 28.8 ล้านราย แบ่งเป็นระบบรายเดือน 7.4 ล้านรายและระบบเติมเงิน 21.4 ล้านราย โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการต่อเดือนเท่ากับ 207 บาท
รายได้จากการให้บริการของทรูออนไลน์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า เป็น 9.4 พันล้านบาท
รายได้จากการให้บริการของทรูวิชั่นส์ อยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.7 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่จากการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ขณะที่อ่อนตัวร้อยละ 1.2 จากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมีรายได้ธุรกิจบันเทิงจากการจัดงานสำคัญ