สวัสดีและขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวพันทิปทุกท่านที่เข้ามาชมกระทู้นี้ซึ่งเป็นกระทู้แรกของผม หวังว่าคงทำให้บางท่านรำลึกถึงอดีตและเด็กรุ่นหลังรู้จัก dash เพิ่มขึ้นครับ ผมคนหนึ่งที่โตในยุค 90s และได้เป็นคนหนึ่งที่ครอบครองเจ้า Honda nova dash ปี 1997 ตั้งแต่สภาพป้ายแดงและใช้งานมาตลอด 10 ปี แต่ด้วยอายุของรถที่มากขึ้นและความสะดวกจึงต้องจอดทิ้งไว้ประมาณ 10 ปี จนตอนนี้มีเวลาว่างผนวกกับคิดถึงเสียง, กลิ่น และควัน ของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ทำให้ย้อนคิดถึงวันวานได้เป็นอย่างดี ก่อนอื่นต้องไปเอาเจ้า dash ออกจากห้องเก็บของก่อนหลังจากไม่ได้สนใจมา 10 ปี สภาพก็ตามที่เห็นในรูปครับ 555 (ถอนหายใจแพ้บ)





ก่อนอื่นขอเกริ่นเรื่อง Honda nova dash คร่าวๆ นะครับ ขออภัยหากผิดพลาด dash ถูกเรียกว่ารถกระเทยผมเห็นมันครั้งแรกในโบรชัวร์ที่เพื่อนนำมาห้องเรียนสมัย ป.6 (ค.ศ. 1993) ผมเห็นแล้วตกหลุมรักเลยครับเพราะมันเป็นรถที่สวยและทันสมัยมากๆในสายตาผมเพราะมีหม้อน้ำและเกียร์ 6 speeds ในตัวมีครัช และ 5 speeds ในตัวไม่มีคลัช จากนั้นมันก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนยอดขายสูงมากจนมีรุ่นพิเศษออกมาประมาณปี 1995 เรียกว่า dash SP1 ผลิตแค่ 10,000 คัน ก่อนที่จะออก dash ตาเพชรออกมาประมาณปลายปี 1995 เข้ากับยุคที่ไฟหน้าตาเพชรก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไปอีก โดยมีการปรับปรุงไฟหน้า, เกจวัดความร้อน, หม้อน้ำให้บางลงแต่ยาวขึ้น และมือจับท้าย ใน dash ตาเพชรจะเปลี่ยนลายเพียง 1 ครั้งก่อนจะปรับเป็น dash ท้ายแหลมประมาณปี 1998 คราวนี้เปลี่ยนชุดสีใหม่ทั้งหมดดูสวยและโฉบเฉียวมากขึ้นก็ได้รับความนิยมอย่างเช่นเคย ในรุ่นท้ายแหลมนี้จะมีปรับปรุงใหม่ในปี 2000 โดยเพิ่มระบบบำบัดไอเสียและเปลี่ยนสติกเกอร์ให้สวยขึ้นผลิตจนถึงปี 2002 จนหยุดผลิตไปเนื่องจากมาตฐานมลพิษที่จะประกาศใช้แต่ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ตอนนั้นผมยังงงกับฮอนด้าว่าทำไมหยุดผลิตซะงั้นทั้งๆ ที่ยี่ห้ออื่นยังขายอยู่ (yamaha speed) dash มันได้รับความนิยมจนมีคนแต่งเพลง "รักแท้แพ้แดช" จนโด่งดังซึ่งน่าจะแต่งสมัยปี 2000 เพราะแดชได้รับความนิยมสูงมากๆ ส่วนคนแต่งก็รุ่นน้องช่างยนต์ผมเองครับ 5555

จากการเกริ่นไปเสียยาวมาเข้าเรื่องเจ้า dash ของผมซึ่งตัวนี้เป็น Honda nova dash  ปี 1997 ก่อนเปลี่ยนเป็นท้ายแหลม ซึ่งลายนี้และสีนี้ผมมี 2 คัน คันที่นำเสนอนี้วิ่งมา 5 หมื่นกิโลเมตร ไม่เคยแกะเครื่องยนต์มีของเดิมครบทุกชิ้นยันสกรูยกเว้นกล่องไฟ, ท่อผ่า และล้อกับจานเบรค ก่อนอื่นก็ทำการรื้อเพื่อตรวจสอบความเสียหายของชิ้นส่วนต่างๆ ดังแสดงในรูปครับ





เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าปัญหาแบ่งเป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือ เรื่องสนิมและอะไหล่ที่เสื่อมสภาพ การจัดการเรื่องสนิมก็ทำการขัดออกพ่นใหม่ทุกชิ้นโดยใช้เบอร์สีเดิมของ ฮอนด้า ในส่วนอะไหล่ที่เสียหายหลักๆ คือ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เป็นยางทั้งหมดและล้างคาร์บูเรเตอร์ หลังจากทำสีและเปลี่ยนอะไหล่ก็ทำการประกอบ ดังแสดงในรูปครับ












หลังจากประกอบเสร็จหมดทุกอย่างที่นี้เราก็ไปทดลองวิ่งกันเลยครับดังรูปด้านล่าง









จากวันแรกที่ทำการนำออกจากห้องเก็บของใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ผลที่ได้มาพอใจมากครับ ทำให้ภาพอดีตที่ต่างๆ ของผมหวนคืนกลับมาอีกครั้ง ขอบคุณทุกท่านที่อ่านกระทู้นี้ ถ้าหากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ ส่วนใครที่กำลังปั้นรถในยุค 90s ก็มาแบ่งปันได้ หรือจะสอบถามข้อมูลในการฟื้นฟู dash ของผมก็สอบถามได้เลยครับ ขอบคุณมากครับ

***ปล. มีสมาชิกแนะนำให้เพิ่มรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการฟื้นชีพครั้งนี้ ขอบคุณที่ชี้แนะครับ ผมคงบอกได้เฉพาะค่าของซึ่งแต่ละพื้นที่อาจจะไม่เท่ากัน ส่วนค่าแรงนี้ผมคงบอกลำบากเพราะผมทำเองทั้งหมดครับ

สีสเปรย์ 10 กระป๋อง  1000 บาท (รวมสีทนไฟ)
กระดาษทรายเบอร์ 320, 800 และ 1000 ประมาณ 200 บาท
อุปกรณ์อื่นๆ เกี่ยวกับการทำสีประมาณ 500 บาท
ชุดซ่อมแม่ปั๊มล้อหน้าและหลังอย่างละชุด 240 บาท
น้ำมันเบรค 80 บาท
ไส้กรองอากาศ 75 บาท
ยางขนาดเดิมหน้าหลังประมาณ 1200 บาท
ลูกปืนเข็มสวิงอาร์ม 2 ตัว 160 บาท
ลูกปืนคอพร้อมถ้วยรอง 1 ชุด 120 บาท
ท่อน้ำมันเชื้อเพลิงและท่อ vacuum 120 บาท
หัวเทียน 45 บาท
น้ำหล่อเย็น 85 บาท

**ราคาเฉพาะค่าของสำหรับฟื้นชีพ dash คันนี้ประมาณ 3,825 บาทครับ ^^