ที่มาของทริปนี้ตามชื่อกระทู้เลยค่ะ งอนผู้ เลยจะหนีไปเที่ยวไหนก็ได้ใกล้ๆ กทม. แบบ 2 วัน 1 คืน ออกตัวก่อนว่าตัวเองไม่ใช่คนชอบออกนอกคอมฟอร์ทโซนเท่าไหร่ ไม่ค่อยขยันแบบ เฮ้ย ชั้นจะไปเที่ยวนู้นนี่นั่น เหมือน จขกท. รีวิวท่องเที่ยวคนอื่นนะ 5555 แต่ที่มาตั้งกระทู้ เพราะรู้สึกซาบซึ้งในกระทู้ก่อนหน้า ที่รีวิวจนทำให้เราไปเที่ยวคนเดียว ออกจากคอมฟอร์ทโซนสำเร็จ เลยจะมาเขียนรีวิวเล็กๆ น้อยๆ ถึงการไปเกาะสีชัง #เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนที่อ่านรีวิว เล็กน้อย
อันดับแรกเราจองที่พักก่อน วันหยุดเสาร์อาทิตย์ใช่ไหม จองเลยย ที่พักก็หาในเน็ตนี่แหละ ราคาก็เทียบเอาตามความสะดวก ไปคนเดียวก็สะดวกน้อยหน่อย (ถ้ามีคนมาหารด้วยก็น่าจะดีนะ 😭) อันไหนวิวสวย รีวิวดี ก็จองเลย! เราเลือกจอง ‘โอเชี่ยน วิว รีสอร์ท’ ชื่อก็บอกแล้วว่าวิวดี แค่นอนโง่ๆ ในห้องก็เห็นทะเล นี่แหละ สิ่งที่เราต้องการ
และฟ้าก็กลั่นแกล้งให้พนักงานอีกคนไม่มาทำงาน ให้เรามาแทนและสลับวันหยุดเป็นจันทร์ อังคารแทน เอ้า เที่ยววันธรรมดาก็ดี คนไม่เยอะ เย้!! ติดที่ จองที่พักไปแล้วจ่ายเงินแล้วเต็มจำนวน (คืออยากไปมาก) เลยโทรไปขอเลื่อนวันเข้าพัก เขาก็ให้เลื่อน ลุงใจดีมาก คุยด้วยเหมือนเราเป็นลูกเป็นหลาน อันนี้ดีตามรีวิวที่ผ่านมาเลยจ้า
การเดินทาง เราก็ไปหมอชิต นี่แหละนี่บอกว่าเปลี่ยน เพราตอนนี้คิวรถตู้ทั้งหลายย้ายมาอยู่ฝั่งตรงข้ามหมอชิต และแบ่งโซนอาคารตามภาค เหนือ ใต้ ตะวันออกไรงี้ เราว่ามันง่ายขึ้นนะ ประหยัดเวลาเดินหารถตู้ขึ้นเยอะเลย เข้าไปจะได้ยินเสียงตะโกนโวกเวกเรียกลูกค้า อ่านป้ายแล้วตามหารถไปศรีราชา ซึ่งส่วนมากรถที่ไปพัทยาก็จอดศรีราชา เออ ก็เลือกมาสักคันแหละ ไปถึงศรีราชาอยู่ ลงโรบินสันศรีราชา นั่งรถต่อไปเกาะลอย รถมันจะมีตุ๊กๆ 80.- มอไซค์ 30.- เอาที่สะดวกเลย ที่รู้ราคาเพราะนั่งมาทั้ง 2 อย่าง ไปคนเดียวก็มอไซค์โลด ถึงเกาะลอยก็ค่าเรือ 50.- ตามรีวิวอื่นๆ ใครจะไปช่วงลอยกระทงนี้เห็นว่าเกาะลอยจัดยิ่งใหญ่ มีร้านค้า มีเวทีนักร้องมากมาย ก็ไปได้นะจ้ะเรือออกทุกชั่วโมง นั่งเรือก็ 45 นาทีโดยประมาณจริงๆ ขากลับนะ ก็มีมอไซค์รถตุ๊กๆ มากมายมารอรับ เราก็ไปขึ้นรถที่ศรีราชากลับกทม. ได้เลย
ระหว่างทาง ก็มีเรือสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูป และชะนีไปคนเดียวอย่างเราตอนแรกนึกว่าจะนั่งหงอยๆ มองคู่รักข้างหน้าเค้าซบไหล่ชมวิวกัน แต่ว่าก็มีสัญญาน 4G เอาไว้อัพ IG story นาจา ดีจรุม อ่ะนี่ค่ะ ปารูปเรือ
พอถึงก็โทรให้ที่พักมารับ ซึ่งอันนี้แล้วแต่ที่ บางที่มารับ บางที่ให้ไปเอง ตอนจองก็ถามกันดีๆ สำหรับคนที่คิดจะไปสีชังนะ คุณไปเลือกเอาข้างหน้าได้เลยถ้ามีเวลาคือมีเยอะอ่ะ จนคิดว่า หาเอาข้างหน้าได้แน่ๆ คือมันมีที่พักกระจายทั่วเกาะเลย ที่อยู่ติดถนนใหญ่หาง่ายๆ ก็มี หรือจะเอาแบบวิวช่องเขาขาด วิวทะเลก็ลึกไปหน่อย ราคาก็ตามคุณภาพเลย ที่จขกท เลือกห้องแบบเห็นวิวเลย เพราะ... เผื่อขี้เกียจออกไปไหนก็จะได้นอนมองทะเลเลย ซึ่งวิวนี่ที่ได้มา ก็มี รีสอร์ท 5-6 ที่เรียงๆ ติดๆ วิวเดียวกันเลย
สำหรับที่พักนี้นะก็โอเคเลย มีอาหารเช้าให้ ลุงใจดีเหมือนดูแลลูกหลาน เข้า check in ก่อนเวาก็ได้ เพราะห้องว่าง เตียงนุ่ม แอร์เย็น มีทีวี น้ำอุ่น ระเบียงวิวช่องเขาขาด ที่พักก็มารับด้วย มีรถให้ใช้เลยของที่พัก แต่เขาคิดเงินนะ ก็ราคาปกติ 300 บาท 2 วัน (ถ้าวันเดียว 250 บาท) น้ำมันมีให้ ไม่ต้องเติมคืน ไปถึงเขาก็แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้เราฟังว่ามีอะไรตรงไหนบ้างซึ่งเราก็โหลดแผนที่ไปแล้ว ก็เข้าใจมากขึ้นนะ
การแต่งกายที่แนะนำ จริงๆ จขกท เตรียมหมวกปีกกว้างไปเดินสวยๆ ชุดกระโปรงพริ้วๆ ไปสวยๆ เลยนะ แต่บทสรุปของหมวกปีกกว้างคือ ทิ้งไว้ที่พัก เพราะขับมอไซค์คนเดียว หมวกคงปลิว 5555 แนะนำหมวกแคป ไม่น่าปลิว หรือแว่นตา ไอเทมนี้จำเป็นมาก เพราะแดดแรงและเราขับมอไซค์ลมเข้าตา ถ้าลืมเอามา มาหาซื้อได้นะ ร้านค้าพวกเสื้อผ้า แว่นตา มีอยู่ทั่วนะ ส่วนกระโปรงพลิ้วๆ ก็ใส่ได้ ถ้าขับมอไซค์ได้ ซึ่งเราขับได้ แต่มันคงตลกหน่อย 5555
สำหรับการขับมอไซค์ของชะนีขับรถไม่แข็งมากอย่างเรา เหย! ขับได้นะ ไม่ยาก ด้วยความที่รถที่นี่ก็ไม่มาก เกาะก็ไม่ได้ใหญ่มาก และเราก็ไม่ได้ไปไหนมากด้วย 55555 อะไรที่มันไกลๆ แหลมงู หาดยายทิม หรือปารีฮัทนั้น พักก่อน ขี้เกียจขับรถ 5555 แต่เอาจริงๆ ถ้าจะไปคิดว่าได้ ไม่ยาก ที่นี่ส่วนใหญ่เห็นมอไซค์ค่อยๆ ขับชาวบ้านก็เข้าใจแหละว่านักท่องเที่ยว 5555
มาถึงเกาะ เข้าที่พัก เก็บกระเป๋าปุ๊บ กินก่อน จัดไปอันนี้ไปคุยกับเพื่อนมา บังเอิญเพื่อนมาก่อนเราอาทิตย์นึง เพื่อนบอกต้องมาให้ได้นะร้านนี้ ‘ร้านป้าหน่อยริมทาง’ ดีจริงสมคำล่ำลือนะ มาคนเดียว กินได้ไม่เยอะเลย ถ้ามีคนมากินด้วยคงสั่งได้เยอะกว่านี้
ขับตรงมาจากร้านป้าหน่อย ก็ไปถึงพระที่นั่งจุฑาธุชราชฐาน ที่มีสถานที่ถ่ายรูปสวยๆ แต่ออกตัวก่อนว่า จขกท ก็ไม่ได้ถ่ายรูปสวยอะไร ถ่ายยังไม่ค่อยจะเป็นด้วยซ้ำไป 5555 สถานที่สวยๆ ที่ต้องมาอย่างสะพานอัษฎางค์ เรือนไม้ริมทะเล ถ้าขยันเดินก็เชิญขึ้นไปยังวัดอัษฎางค์นิมิตได้(ซึ่งเราไม่)
เราได้มากราบไหว้พระบรมรูปสมเด็จพระปิยะมหาราชด้วย ศึกษาประวัติมาคร่าวๆ ท่านโปรดที่จะประทับที่นี่มาก จึงสร้างเรือนที่ประทับ พระราชโอรสของท่านหลายพระองค์ประชวร และได้มาพักรักษาตัวที่เกาะสีชังจนหาย เนื่องจากแพทย์แนะนำให้มาพักตากอากาศในที่ที่อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงจนเกินไป ซึ่ง ที่นี่เป็นแบบนั่น โอเคเลยนะ อากาศดี ลมเย็นไม่ร้อนเกินไป คือแสงเป็นสีฟ้าตลอดอ่ะ แบบฟ้าสีฟ้า น้ำสีฟ้าแบบไม่ใส่ฟิลเตอร์เลย (รูปนี่ไม่ได้แต่งนะ สดๆจากกล้องเลย)
ต่อไปอีกที่นึง อยู่ไม่ไกลจากพระที่นั่งเท่าไหร่ คือหาดถ้ำพัง หาดทรายที่เดียวในเกาะนี้ ก็เขาบอกว่าทางลงเกาะโหดมาก เออ โหดนะ 555 แต่ได้ เชื่อสิ ขนาดชะนีขับรถไม่แข็งใส่กระโปรงพลิ้วๆ อย่างเรายังขับได้เลย พอไปถึง สวยงามตามท้องเรื่องจริงๆ นะ ความจริงเราเก็บที่นี่ไว้ไปวันที่สองตอนเช้า เพราะกลัวว่าวันที่สองจะไม่มีอะไรทำ 555 แต่ทางมันใกล้กัน คือมาเลยก็ได้นะจะได้ไม่ต้องขับรถย้อนไปย้อนมา 5555 แต่วนไปสัก 2 รอบก็ได้นะเกาะนี้ เพราะเวลาเหลือเยอะอยู่ 5555
จากนั้นสิ่งที่ต้องทำเลยคือขาดไม่ได้ถ้ามาสีชัง คือไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ซึ่ง.... เดินขึ้นบันไดเหนื่อยมาก แต่ก็ต้องเดิน 5555 แต่ข้างบนสวยมากนะ สวยจริงๆ
จริงๆ มีวัดอยู่ด้านบนด้วย มีรอยพระพุทธบาทอันผศักดิ์สิทธิ์ แต่พี่ที่รีสอร์ทแนะนำว่าทางโหด เออ โหดจริงขับรถต้องขึ้นเขาชันๆ ไว้ก่อนนะ แต่ถ้าใครสายลุย เชิญได้นะ ถ่ายรูปมาฝากด้วย
ต่อมาขับมาเรื่อยๆ ก็เจอช่องเขาขาด จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยสุดบนเกาะ ซึ่งงงง ควรมาตอนพระอาทิตย์ตก แต่ก็มาแล้วอ่ะ ถึงแล้ว ก็เที่ยวเลยแล้วกัน 5555 แล้วก็เหนื่อยแล้ว ขอกลับไปนอนโง่ๆ อยู่ที่พักก่อนนะ 5555
พระอาทิตย์ตกที่ที่พักก็ได้
หลังจากนอนฟังเสียงคลื่นโง่ๆ หายเหนื่อยแล้วก็ต้องไปหาอะไรกิน ซึ่งจริงๆ จะไปหาร้านปิ้งย่างทะเลเผา แล้วไปหาขนมกินที่ ‘Varandah Restaurant’ แต่ร้านที่เล็งไว้ปิด งั้นไป Varandah ทั้งคาวทั้งหวานเลยนะ การไปเที่ยววันธรรมดาคือ... ทั้งร้านเป็นของเรา เหมือนสั่งปิดร้านให้เรา 5555 อาหารดูดี สถานที่ดูดี พนักงานบริการดี รสชาติธรรมดา ราคาสูงประมาณแหล่งท่องเที่ยวทั่วไปรับได้ คิด service charge 10% vat อีก 7% ถ้าเอาร้านป้าหน่อยมาจัดจาน ใสสถานที่ที่นี่จะประเสริฐมาก
มืดแล้ว สีชังก็มืดเลย ไม่ค่อยมีแหล่งตื๊ดด เหมือนเกาะทั่วไป คนที่นี่น่าจะนอนหัวค่ำ แล้วตื่นแต่เช้ากันนะ เพราะ 7.30 อาหารเช้าก็มาแล้ว เมาขี้ตาไปเปิดประตูรับมาแบบงงๆ
และก็ขอจบรีวิวแบบงงๆ จบการประชดรัก ด้วยการมาเที่ยวเกาะแห่งคู่รัก ขากลับว่าจะหาของฝาก เออ หาไม่ได้จริงๆ เลยนั่งรถตู้จากศรีราชา ไปลงหนองมนเพื่อแวะซื้อ ข้าวหลามหนองมน ไปฝากผู้ที่งอนจนหนีเขามานี่แหละ #เอ้อ ก็เห็นแต่คนมีคู่เต็มไปหมดมาคนเดียวก็เปลี่ยวเนาะ #ครั้งหน้ามาด้วยกันเถอะ 55555
เมื่อชะนีงอนผู้ โบกรถตู้ไปเกาะสีชัง
อันดับแรกเราจองที่พักก่อน วันหยุดเสาร์อาทิตย์ใช่ไหม จองเลยย ที่พักก็หาในเน็ตนี่แหละ ราคาก็เทียบเอาตามความสะดวก ไปคนเดียวก็สะดวกน้อยหน่อย (ถ้ามีคนมาหารด้วยก็น่าจะดีนะ 😭) อันไหนวิวสวย รีวิวดี ก็จองเลย! เราเลือกจอง ‘โอเชี่ยน วิว รีสอร์ท’ ชื่อก็บอกแล้วว่าวิวดี แค่นอนโง่ๆ ในห้องก็เห็นทะเล นี่แหละ สิ่งที่เราต้องการ
และฟ้าก็กลั่นแกล้งให้พนักงานอีกคนไม่มาทำงาน ให้เรามาแทนและสลับวันหยุดเป็นจันทร์ อังคารแทน เอ้า เที่ยววันธรรมดาก็ดี คนไม่เยอะ เย้!! ติดที่ จองที่พักไปแล้วจ่ายเงินแล้วเต็มจำนวน (คืออยากไปมาก) เลยโทรไปขอเลื่อนวันเข้าพัก เขาก็ให้เลื่อน ลุงใจดีมาก คุยด้วยเหมือนเราเป็นลูกเป็นหลาน อันนี้ดีตามรีวิวที่ผ่านมาเลยจ้า
การเดินทาง เราก็ไปหมอชิต นี่แหละนี่บอกว่าเปลี่ยน เพราตอนนี้คิวรถตู้ทั้งหลายย้ายมาอยู่ฝั่งตรงข้ามหมอชิต และแบ่งโซนอาคารตามภาค เหนือ ใต้ ตะวันออกไรงี้ เราว่ามันง่ายขึ้นนะ ประหยัดเวลาเดินหารถตู้ขึ้นเยอะเลย เข้าไปจะได้ยินเสียงตะโกนโวกเวกเรียกลูกค้า อ่านป้ายแล้วตามหารถไปศรีราชา ซึ่งส่วนมากรถที่ไปพัทยาก็จอดศรีราชา เออ ก็เลือกมาสักคันแหละ ไปถึงศรีราชาอยู่ ลงโรบินสันศรีราชา นั่งรถต่อไปเกาะลอย รถมันจะมีตุ๊กๆ 80.- มอไซค์ 30.- เอาที่สะดวกเลย ที่รู้ราคาเพราะนั่งมาทั้ง 2 อย่าง ไปคนเดียวก็มอไซค์โลด ถึงเกาะลอยก็ค่าเรือ 50.- ตามรีวิวอื่นๆ ใครจะไปช่วงลอยกระทงนี้เห็นว่าเกาะลอยจัดยิ่งใหญ่ มีร้านค้า มีเวทีนักร้องมากมาย ก็ไปได้นะจ้ะเรือออกทุกชั่วโมง นั่งเรือก็ 45 นาทีโดยประมาณจริงๆ ขากลับนะ ก็มีมอไซค์รถตุ๊กๆ มากมายมารอรับ เราก็ไปขึ้นรถที่ศรีราชากลับกทม. ได้เลย
ระหว่างทาง ก็มีเรือสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูป และชะนีไปคนเดียวอย่างเราตอนแรกนึกว่าจะนั่งหงอยๆ มองคู่รักข้างหน้าเค้าซบไหล่ชมวิวกัน แต่ว่าก็มีสัญญาน 4G เอาไว้อัพ IG story นาจา ดีจรุม อ่ะนี่ค่ะ ปารูปเรือ
พอถึงก็โทรให้ที่พักมารับ ซึ่งอันนี้แล้วแต่ที่ บางที่มารับ บางที่ให้ไปเอง ตอนจองก็ถามกันดีๆ สำหรับคนที่คิดจะไปสีชังนะ คุณไปเลือกเอาข้างหน้าได้เลยถ้ามีเวลาคือมีเยอะอ่ะ จนคิดว่า หาเอาข้างหน้าได้แน่ๆ คือมันมีที่พักกระจายทั่วเกาะเลย ที่อยู่ติดถนนใหญ่หาง่ายๆ ก็มี หรือจะเอาแบบวิวช่องเขาขาด วิวทะเลก็ลึกไปหน่อย ราคาก็ตามคุณภาพเลย ที่จขกท เลือกห้องแบบเห็นวิวเลย เพราะ... เผื่อขี้เกียจออกไปไหนก็จะได้นอนมองทะเลเลย ซึ่งวิวนี่ที่ได้มา ก็มี รีสอร์ท 5-6 ที่เรียงๆ ติดๆ วิวเดียวกันเลย
สำหรับที่พักนี้นะก็โอเคเลย มีอาหารเช้าให้ ลุงใจดีเหมือนดูแลลูกหลาน เข้า check in ก่อนเวาก็ได้ เพราะห้องว่าง เตียงนุ่ม แอร์เย็น มีทีวี น้ำอุ่น ระเบียงวิวช่องเขาขาด ที่พักก็มารับด้วย มีรถให้ใช้เลยของที่พัก แต่เขาคิดเงินนะ ก็ราคาปกติ 300 บาท 2 วัน (ถ้าวันเดียว 250 บาท) น้ำมันมีให้ ไม่ต้องเติมคืน ไปถึงเขาก็แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้เราฟังว่ามีอะไรตรงไหนบ้างซึ่งเราก็โหลดแผนที่ไปแล้ว ก็เข้าใจมากขึ้นนะ
การแต่งกายที่แนะนำ จริงๆ จขกท เตรียมหมวกปีกกว้างไปเดินสวยๆ ชุดกระโปรงพริ้วๆ ไปสวยๆ เลยนะ แต่บทสรุปของหมวกปีกกว้างคือ ทิ้งไว้ที่พัก เพราะขับมอไซค์คนเดียว หมวกคงปลิว 5555 แนะนำหมวกแคป ไม่น่าปลิว หรือแว่นตา ไอเทมนี้จำเป็นมาก เพราะแดดแรงและเราขับมอไซค์ลมเข้าตา ถ้าลืมเอามา มาหาซื้อได้นะ ร้านค้าพวกเสื้อผ้า แว่นตา มีอยู่ทั่วนะ ส่วนกระโปรงพลิ้วๆ ก็ใส่ได้ ถ้าขับมอไซค์ได้ ซึ่งเราขับได้ แต่มันคงตลกหน่อย 5555
สำหรับการขับมอไซค์ของชะนีขับรถไม่แข็งมากอย่างเรา เหย! ขับได้นะ ไม่ยาก ด้วยความที่รถที่นี่ก็ไม่มาก เกาะก็ไม่ได้ใหญ่มาก และเราก็ไม่ได้ไปไหนมากด้วย 55555 อะไรที่มันไกลๆ แหลมงู หาดยายทิม หรือปารีฮัทนั้น พักก่อน ขี้เกียจขับรถ 5555 แต่เอาจริงๆ ถ้าจะไปคิดว่าได้ ไม่ยาก ที่นี่ส่วนใหญ่เห็นมอไซค์ค่อยๆ ขับชาวบ้านก็เข้าใจแหละว่านักท่องเที่ยว 5555
มาถึงเกาะ เข้าที่พัก เก็บกระเป๋าปุ๊บ กินก่อน จัดไปอันนี้ไปคุยกับเพื่อนมา บังเอิญเพื่อนมาก่อนเราอาทิตย์นึง เพื่อนบอกต้องมาให้ได้นะร้านนี้ ‘ร้านป้าหน่อยริมทาง’ ดีจริงสมคำล่ำลือนะ มาคนเดียว กินได้ไม่เยอะเลย ถ้ามีคนมากินด้วยคงสั่งได้เยอะกว่านี้
ขับตรงมาจากร้านป้าหน่อย ก็ไปถึงพระที่นั่งจุฑาธุชราชฐาน ที่มีสถานที่ถ่ายรูปสวยๆ แต่ออกตัวก่อนว่า จขกท ก็ไม่ได้ถ่ายรูปสวยอะไร ถ่ายยังไม่ค่อยจะเป็นด้วยซ้ำไป 5555 สถานที่สวยๆ ที่ต้องมาอย่างสะพานอัษฎางค์ เรือนไม้ริมทะเล ถ้าขยันเดินก็เชิญขึ้นไปยังวัดอัษฎางค์นิมิตได้(ซึ่งเราไม่)
เราได้มากราบไหว้พระบรมรูปสมเด็จพระปิยะมหาราชด้วย ศึกษาประวัติมาคร่าวๆ ท่านโปรดที่จะประทับที่นี่มาก จึงสร้างเรือนที่ประทับ พระราชโอรสของท่านหลายพระองค์ประชวร และได้มาพักรักษาตัวที่เกาะสีชังจนหาย เนื่องจากแพทย์แนะนำให้มาพักตากอากาศในที่ที่อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงจนเกินไป ซึ่ง ที่นี่เป็นแบบนั่น โอเคเลยนะ อากาศดี ลมเย็นไม่ร้อนเกินไป คือแสงเป็นสีฟ้าตลอดอ่ะ แบบฟ้าสีฟ้า น้ำสีฟ้าแบบไม่ใส่ฟิลเตอร์เลย (รูปนี่ไม่ได้แต่งนะ สดๆจากกล้องเลย)
ต่อไปอีกที่นึง อยู่ไม่ไกลจากพระที่นั่งเท่าไหร่ คือหาดถ้ำพัง หาดทรายที่เดียวในเกาะนี้ ก็เขาบอกว่าทางลงเกาะโหดมาก เออ โหดนะ 555 แต่ได้ เชื่อสิ ขนาดชะนีขับรถไม่แข็งใส่กระโปรงพลิ้วๆ อย่างเรายังขับได้เลย พอไปถึง สวยงามตามท้องเรื่องจริงๆ นะ ความจริงเราเก็บที่นี่ไว้ไปวันที่สองตอนเช้า เพราะกลัวว่าวันที่สองจะไม่มีอะไรทำ 555 แต่ทางมันใกล้กัน คือมาเลยก็ได้นะจะได้ไม่ต้องขับรถย้อนไปย้อนมา 5555 แต่วนไปสัก 2 รอบก็ได้นะเกาะนี้ เพราะเวลาเหลือเยอะอยู่ 5555
จากนั้นสิ่งที่ต้องทำเลยคือขาดไม่ได้ถ้ามาสีชัง คือไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ซึ่ง.... เดินขึ้นบันไดเหนื่อยมาก แต่ก็ต้องเดิน 5555 แต่ข้างบนสวยมากนะ สวยจริงๆ
จริงๆ มีวัดอยู่ด้านบนด้วย มีรอยพระพุทธบาทอันผศักดิ์สิทธิ์ แต่พี่ที่รีสอร์ทแนะนำว่าทางโหด เออ โหดจริงขับรถต้องขึ้นเขาชันๆ ไว้ก่อนนะ แต่ถ้าใครสายลุย เชิญได้นะ ถ่ายรูปมาฝากด้วย
ต่อมาขับมาเรื่อยๆ ก็เจอช่องเขาขาด จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยสุดบนเกาะ ซึ่งงงง ควรมาตอนพระอาทิตย์ตก แต่ก็มาแล้วอ่ะ ถึงแล้ว ก็เที่ยวเลยแล้วกัน 5555 แล้วก็เหนื่อยแล้ว ขอกลับไปนอนโง่ๆ อยู่ที่พักก่อนนะ 5555
พระอาทิตย์ตกที่ที่พักก็ได้
หลังจากนอนฟังเสียงคลื่นโง่ๆ หายเหนื่อยแล้วก็ต้องไปหาอะไรกิน ซึ่งจริงๆ จะไปหาร้านปิ้งย่างทะเลเผา แล้วไปหาขนมกินที่ ‘Varandah Restaurant’ แต่ร้านที่เล็งไว้ปิด งั้นไป Varandah ทั้งคาวทั้งหวานเลยนะ การไปเที่ยววันธรรมดาคือ... ทั้งร้านเป็นของเรา เหมือนสั่งปิดร้านให้เรา 5555 อาหารดูดี สถานที่ดูดี พนักงานบริการดี รสชาติธรรมดา ราคาสูงประมาณแหล่งท่องเที่ยวทั่วไปรับได้ คิด service charge 10% vat อีก 7% ถ้าเอาร้านป้าหน่อยมาจัดจาน ใสสถานที่ที่นี่จะประเสริฐมาก
มืดแล้ว สีชังก็มืดเลย ไม่ค่อยมีแหล่งตื๊ดด เหมือนเกาะทั่วไป คนที่นี่น่าจะนอนหัวค่ำ แล้วตื่นแต่เช้ากันนะ เพราะ 7.30 อาหารเช้าก็มาแล้ว เมาขี้ตาไปเปิดประตูรับมาแบบงงๆ
และก็ขอจบรีวิวแบบงงๆ จบการประชดรัก ด้วยการมาเที่ยวเกาะแห่งคู่รัก ขากลับว่าจะหาของฝาก เออ หาไม่ได้จริงๆ เลยนั่งรถตู้จากศรีราชา ไปลงหนองมนเพื่อแวะซื้อ ข้าวหลามหนองมน ไปฝากผู้ที่งอนจนหนีเขามานี่แหละ #เอ้อ ก็เห็นแต่คนมีคู่เต็มไปหมดมาคนเดียวก็เปลี่ยวเนาะ #ครั้งหน้ามาด้วยกันเถอะ 55555