จากประสบการณ์ของตัวกระผมเอง
ตอนนี้ก็ถือได้ว่าทำงานสบายมากขึ้นแล้ว ในระดับหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ทำงานอยู่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง
เงินเดือนก็พออยู่ได้ แต่ร่างกายและสุขภาพนั้นแย่มากด้วยคนไข้คนป่วยที่มากขึ้นทุกวัน จนแน่นโรงพยาบาลเต็มไปหมด
มีคนไข้ตั้งแต่ทารกยันคนชรามากมายก่ายกอง จนทำให้เป็นมันเป็นกับคล้ายๆแหล่งเพาะพันธ์ุเชื้อโรคที่แอบแฝงอยู่ในอากาศรอบตัว
ตอนทำงานที่ดังกล่าวพอเดินเข้าโรงพยาบาลผมต้องใส่แมสตลอด เพื่อป้องกัน (ไม่ได้ดูถูกสถานที่แต่ทำเพื่อป้องกันตัวเอง)
ซึ่งคนเราๆก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าโรงพยาบาลเป็นอย่างไรในเรื่องของสุขอนามัยลึกๆข้างใน อย่าหลอกตัวเองว่าโรงพยาบาลสะอาดซึ่งผมไม่เคยไว้ใจ
ตอนทำงานใช้ทุนแรกๆที่เป็นแพทย์ฝึกหัด ตอนนั้นไม่รู้จักว่าอะไรคือวันหยุด วันเสาร์อาทิตย์คืออะไร ข้าวเที่ยงได้กินตรงมั้ย ไม่เลย
คือตอนทำงานที่โรงพยาบาลภาครัฐสวัสดิการที่แพทย์จะได้ผมขออนุญาตไม่บอกนะครับ แต่มันไม่คุ้มเลยที่จะต้องอยู่ตรวจขนาดนั้น
บอกตรงๆไว้กระทู้นี้เลยครับว่าทำไมผมถึงตัดสินใจลาออกจากโรงพยาบาลรัฐแห่งนั้น เพราะ ทำงานหนักและได้นอนไม่ถึง 4 hr/d
ก็เลยตัดปัญหาโดยการทำงานให้ครบทุน พอครบก็ยื่นใบลาออกไปสมัคร รพ.เอกชนแห่งหนึ่งครับ
ทำให้ชีวิตดีขึ้น พ่อแม่สบายขึ้นมากรวมถึงของกระผมเองและครอบครัวด้วย
ขอบคุณความคิดของตัวเองวันนั้นที่ครั้งหนึ่งกล้าตัดสินใจที่จะทำแบบนั้นลงไปได้ ทั้งที่จริงๆแล้วไม่เคยคิดอยากจะทำ
ผมรักคนไข้ คุณตาคุณยายที่ผมเคยตรวจทุกท่านนะครับ แต่ผมก็รักสุขภาพ รักครอบครัวของผมมากกว่า
จนปัจจุบันทำงานที่เอกชนมา 17 ปีแล้วครับ ตั้งแต่ก้าวเข้าไปเป็นแพทย์เฉพาะทางเดินอาหารและตับให้กับ รพ.เอกชน
ผมตั้งใจอุทิศตนในหน้าที่แพทย์โดยให้การรักษาคนไข้อย่างเต็มที่มาโดยตลอด เน้นการรักษาที่ต้นเหตุของโรคและพยายามอธิบายถึงการเกิดการรักษาอย่างตรงตรงมา ไม่ชอบเห็นหน้าคนไข้บ่อยๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยากรักษาให้หายและไม่เป็นอีก เจอกันครั้งเดียวพอนะครั้งต่อไปท่านต้องสุขภาพแข็งแรงแล้ว
กราบขอบพระคุณที่ท่านๆทั้งหลาย ไว้ใจให้โรงพยาบาลของเราดูแลสุขภาพท่านมา แต่อย่ามาบ่อยๆ มาครั้งเดียวก็พอแล้ว
-----------------------------------------------------------------------------
พูดถึง ปสก ตัวของกระผมเองแล้ว ก็มาพูดถึงความคิดของผู้ปกครองยุคใหม่กันบ้างครับ
ผมเห็นผู้ปกครองหลายท่านมาก ไม่ว่าจะในกระทู้เว็บ Pantip หรือเว็บบอร์ดอื่นๆ
70 % ส่วนใหญ่อยากให้ลูกเรียนแพทย์ เพราะจะได้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
มองว่าอาชีพแพทย์เป็นอาชีพที่มีเกียรติ เป็นอาชีพที่มีคนนับหน้าถือตา และที่สำคัญพวกเขามองว่าอาชีพนี้ทำแล้ว " รวย"
ซึ่งผมไม่ชอบอย่างยิ่งกับความคิดแบบนี้ ทำไมคุณเอาเด็กหนึ่งคนเอามนุษย์หนึ่งคนที่คุณสร้างขึ้นมา มาแบกรับความหวังของคุณครับ
การเรียนแพทย์นั้น เราถูกสั่งสอนมาเสมอว่าให้รู้จักการเสียสละ เราคือผู้ให้ เราคือผู้ให้การรักษาเยียวยาคนไข้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนในครอบครัว ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก ถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยพูดคุยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ในฐานะที่เราเป็นแพทย์ เราต้องรักษาเยียวยาให้กำลังใจคนไข้ให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ การเป็นแพทย์ต้องมาจากอุดมคติข้างใน ไม่ใช่อยากเป็นเพราะอยากรวย อยากมีเกียรติในสังคม
ถ้าคุณคิดแบบนี้หรือเด็กที่กำลังคิดแบบนี้นะครับ หยุดทำแบบนี้ซะ ถึงคุณทำได้คุณเรียนผ่านมันมาได้
ผมอยากถามสักคำว่าในใจลึกๆของคุณแล้ว คุณมาทำงานเพื่ออะไร เพื่อเงิน เพื่อจะได้นำความรู้ที่มีไปรักษาคนไข้ที่แปลกหน้า หรือเพื่อยกระดับชีวิตตัวเองกันแน่ ซึ่งผมค่อนข้างจะพูดไปในทางในโลกของความเป็นจริงมากกว่าที่จะหาข้ออ้างต่างๆมาพูดเพื่อให้ตัวเองดูดี เราต้องพูดที่สามารถสัมผัสได้และมันคือเรื่องจริงของสังคมไทยในปัจจุบัน
การกดดันบุตรหลานให้เรียนเป็นความคิดที่ผิดมาก ถ้าลูกหลานอยากเรียน อันดับแรกต้องถามก่อนว่าเขาชอบหรือเปล่า
ถามเขาสักคำว่า พร้อมที่จะเป็นผู้ให้แล้วหรือยัง พร้อมมั้ยกับการต้องอยู่เวรข้ามวันข้ามคืน พร้อมมั้ยที่ต้องขึ้นวอร์ดเป็น นศพ.เดินเวรตลอด /hr (4,5,6)
พร้อมมั้ยกับแรงกดดันจากอาจารย์แพทย์ที่ต้องเป็นคนตรวจเคสคนไข้ของเรา พร้อมมั้ยกับการเสียสละครั้งนี้ พร้อมมั้ยที่จะอยู่โหมเวรเช้ายันค่ำ บางวันทำตั้งแต่ 7.00 วันที่ 13 มกราคม ถึง 14 เช้ามกราคม 7.00 อีกวัน พร้อมมั้ยกับการไม่ได้นอนในช่วงทำงานใช้ทุน หนักนะครับ ผมบอกเลย
มี นศพ หลายคนมากในวอร์ดที่พูดว่ามาเรียนแพทย์เพราะคิดว่าเงินเดือนดี และพ่อแม่อยากให้เรียน
ผมว่าความคิดแบบนี้ควรหยุดและทิ้งมันไปได้แล้ว กระผมสงสารคนไข้คนป่วยที่เขากำลังถูกเด็กวินิจฉัยโรค
มันเหมือนไม่ได้มาหน้าที่ตรงนี้อย่างเต็มใจ เหมือนทำเพราะเรียนมาแล้ว เหมือนทำเพราะเงิน เหมือนทำเพราะอะไรหลายๆอย่างซึ่งผมขออนุญาตไม่ตอบ
นศพ หลายคนที่พอทำงานใช้ทุนเสร็จแล้ว ส่วนมากจะพากันไปในเรื่องของความงามกันเยอะมาก
เพราะเมืองไทยกำลังได้รับความนิยมในเรื่องของการศัลยกรรม
ซึ่งผมมองว่ามันเยอะเกินไป เกินไปแถมไร้คุณภาพ เคสหลุด เคสเน่า เคสสยองจากคลินิกเถื่อนมีทุกวัน
สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกผู้ปกครองและน้องๆที่กำลังคิดอยากจะเรียนแพทย์หรือกำลังเรียนอยู่
ให้ฉุดคิดสักนิดว่าจริงๆแล้ว คุณมาในสายนี้ คุณมาเพื่ออะไร
น้องๆที่กำลังเรียนในชั้นมอปลายแล้วคิดจะเรียนแพทย์ ลองถามตัวหนูดูซิ
ว่าหนูอยากเป็นหมอเพื่ออะไร ถ้าพ่อแม่ให้เรียน ตัวหนูล่ะ หนูโอเคมั้ย ชอบรึเปล่า ลองตอบ
ถ้าไม่ชอบ แต่เรียนเพราะที่บ้านหวัง ก็จงคิดว่า การทำงานที่หนักและต้องรับผิดชอบชีวิตคนอื่น หนูมีความสุขหรือเปล่า
พ่อแม่โปรดอย่าบังคับลูกหลานให้เรียน ถ้าลูกไม่อยากเรียน
มันจะกระทบไปหมดทั้งจิตใจเด็ก และที่น่าสงสารเลยคือคนไข้ที่บุตรหลานเป็นผู้รักษา
ไม่ได้ใช้ใจในการรักษา ก็ไม่ต้องมาเป็นแพทย์
มาเรียนแพทย์แต่สุดท้ายเราทุกคนมีทางเลือก ก็เลือกที่จะสบายโดยการไปเรียนด้านความงามกันหมด
เหลือแพทย์อายุรศาสตร์กันกี่คน กับประชาชนที่ผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น มันไม่เกิดความสมดุลเท่าที่สมควร
ถ้ารักจะเป็นแพทย์ ผมก็สนับสนุนเต็มที่ ดีซะอีกจะได้มาช่วยแบ่งงานกัน
แต่ขอให้ทำด้วยใจรัก ทำด้วยความรัก การทำงานแบบมีความสุขและสนุกไปกับสิ่งที่ทำ ผมถือว่าไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
แค่อย่าหักโหมจนทำร้ายตัวเองก็ถือว่าดี เพราะงานไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต คนเราทุกคนก็ต้องการเวลาว่างของตัวเองกันทั้งนั้น
แพทย์ทำงานหนัก แต่แพทย์ก็มีเวลาไปเที่ยวได้ ไปต่างประเทศได้ตามความเหมาะสมที่ทุกอาชีพมีอยู่แล้ว
อย่าทำงานจนป่วยเพราะแบบนั้นสิ่งที่เราทำมาตลอดมันเหมือนกับเราเอาเงินมารักษาตัวเอง ซึ่งมันก็ไม่ค่อยจะคุ้มสักเท่าไหร่
แต่กระผมเห็นว่าพ่อแม่หลายคน ชอบบังคับบุตรหลานให้เรียนหมอ ผมว่ามันเป็นการทรมานอนาคตเด็กนะครับ
เรียนอะไรก็ได้ ขอแค่มองถึงความเป็นจริงว่าในอนาคตข้างหน้าเราสามารถเอามันไปใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงดูตัวเองได้มั้ย
อย่ามองแค่ว่าคณะนี้เรียนง่าย เออเรียนดีกว่าจบง่ายดี แต่จบไปแล้วไม่เป็นที่ต้องการของตลาดก็ไม่มีประโยชน์เพราะคุณต้องเริ่มใหม่
แบบนี้เสียเวลา ผมเลยอยากจะบอกว่าก่อนจะทำอะไรให้มองไปข้างหน้า มองเห็นอนาคตว่ามันคุ้มมั้ยที่จะลงทุนไปกับมัน
ผมกล้าพูด เพราะผมผ่านมาหมดแล้ว รู้ซึ้งว่ากว่าจะได้ทำงานในจุดที่สบายแล้วก็เหนื่อยจนเกือบหน้ามืดเป็นลมคาโต๊ะตรวจเหมือนกัน
กลับบ้านทีก็อยากจะนอนยาวๆไม่พูดคุยกับใคร ส่งผลเสียมาถึงสุขภาพและความสัมพันธ์ในครอบครัว เยอะครับเล่าก็ไม่หมด
แต่ถ้าทำแล้วมีความสุข เลือกที่จะทำ ก็ไม่ผิดอะไรเพียงแต่ต้องแยะแยะเวลาให้เป็น เราทุกคนมีสิทธิ์เลือก คุณเลือกแล้วคุณก็ต้องทำให้ดีที่สุดครับ
อยากรวยอย่าเรียนหมอ ให้ไปทำอย่างอื่นน่าจะรวยเร็วกว่า
อย่าตั้งความหวัง อย่าบังคับลูกให้เรียนแพทย์ เพราะคนที่ลำบาก อืดอัดใจคือตัวเด็ก ไม่ใช่ตัวคุณ
ถ้าท่านเป็นแพทย์แล้วทางฐานไว้ให้ลูกของท่านเรียนเหมือนท่าน ถ้าลูกคุณพร้อมจะเรียน หรือรักที่จะเรียนเหมือนท่าน ก็ยินดีด้วยครับ
วงการแพทย์ต้องการแพทย์ที่พร้อมทั้งสภาพจิตใจและความแน่วแน่ในการอุทิศตนที่มีต่อรักษาคนไข้
ฝากเอาไว้
อย่าเรียนแพทย์เพราะอยากรวย หยุดทำแบบนั้นกับลูกหลานและอ้างเพราะความหวังดีของท่านเลย
ตอนนี้ก็ถือได้ว่าทำงานสบายมากขึ้นแล้ว ในระดับหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ทำงานอยู่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง
เงินเดือนก็พออยู่ได้ แต่ร่างกายและสุขภาพนั้นแย่มากด้วยคนไข้คนป่วยที่มากขึ้นทุกวัน จนแน่นโรงพยาบาลเต็มไปหมด
มีคนไข้ตั้งแต่ทารกยันคนชรามากมายก่ายกอง จนทำให้เป็นมันเป็นกับคล้ายๆแหล่งเพาะพันธ์ุเชื้อโรคที่แอบแฝงอยู่ในอากาศรอบตัว
ตอนทำงานที่ดังกล่าวพอเดินเข้าโรงพยาบาลผมต้องใส่แมสตลอด เพื่อป้องกัน (ไม่ได้ดูถูกสถานที่แต่ทำเพื่อป้องกันตัวเอง)
ซึ่งคนเราๆก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าโรงพยาบาลเป็นอย่างไรในเรื่องของสุขอนามัยลึกๆข้างใน อย่าหลอกตัวเองว่าโรงพยาบาลสะอาดซึ่งผมไม่เคยไว้ใจ
ตอนทำงานใช้ทุนแรกๆที่เป็นแพทย์ฝึกหัด ตอนนั้นไม่รู้จักว่าอะไรคือวันหยุด วันเสาร์อาทิตย์คืออะไร ข้าวเที่ยงได้กินตรงมั้ย ไม่เลย
คือตอนทำงานที่โรงพยาบาลภาครัฐสวัสดิการที่แพทย์จะได้ผมขออนุญาตไม่บอกนะครับ แต่มันไม่คุ้มเลยที่จะต้องอยู่ตรวจขนาดนั้น
บอกตรงๆไว้กระทู้นี้เลยครับว่าทำไมผมถึงตัดสินใจลาออกจากโรงพยาบาลรัฐแห่งนั้น เพราะ ทำงานหนักและได้นอนไม่ถึง 4 hr/d
ก็เลยตัดปัญหาโดยการทำงานให้ครบทุน พอครบก็ยื่นใบลาออกไปสมัคร รพ.เอกชนแห่งหนึ่งครับ
ทำให้ชีวิตดีขึ้น พ่อแม่สบายขึ้นมากรวมถึงของกระผมเองและครอบครัวด้วย
ขอบคุณความคิดของตัวเองวันนั้นที่ครั้งหนึ่งกล้าตัดสินใจที่จะทำแบบนั้นลงไปได้ ทั้งที่จริงๆแล้วไม่เคยคิดอยากจะทำ
ผมรักคนไข้ คุณตาคุณยายที่ผมเคยตรวจทุกท่านนะครับ แต่ผมก็รักสุขภาพ รักครอบครัวของผมมากกว่า
จนปัจจุบันทำงานที่เอกชนมา 17 ปีแล้วครับ ตั้งแต่ก้าวเข้าไปเป็นแพทย์เฉพาะทางเดินอาหารและตับให้กับ รพ.เอกชน
ผมตั้งใจอุทิศตนในหน้าที่แพทย์โดยให้การรักษาคนไข้อย่างเต็มที่มาโดยตลอด เน้นการรักษาที่ต้นเหตุของโรคและพยายามอธิบายถึงการเกิดการรักษาอย่างตรงตรงมา ไม่ชอบเห็นหน้าคนไข้บ่อยๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยากรักษาให้หายและไม่เป็นอีก เจอกันครั้งเดียวพอนะครั้งต่อไปท่านต้องสุขภาพแข็งแรงแล้ว
กราบขอบพระคุณที่ท่านๆทั้งหลาย ไว้ใจให้โรงพยาบาลของเราดูแลสุขภาพท่านมา แต่อย่ามาบ่อยๆ มาครั้งเดียวก็พอแล้ว
-----------------------------------------------------------------------------
พูดถึง ปสก ตัวของกระผมเองแล้ว ก็มาพูดถึงความคิดของผู้ปกครองยุคใหม่กันบ้างครับ
ผมเห็นผู้ปกครองหลายท่านมาก ไม่ว่าจะในกระทู้เว็บ Pantip หรือเว็บบอร์ดอื่นๆ
70 % ส่วนใหญ่อยากให้ลูกเรียนแพทย์ เพราะจะได้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
มองว่าอาชีพแพทย์เป็นอาชีพที่มีเกียรติ เป็นอาชีพที่มีคนนับหน้าถือตา และที่สำคัญพวกเขามองว่าอาชีพนี้ทำแล้ว " รวย"
ซึ่งผมไม่ชอบอย่างยิ่งกับความคิดแบบนี้ ทำไมคุณเอาเด็กหนึ่งคนเอามนุษย์หนึ่งคนที่คุณสร้างขึ้นมา มาแบกรับความหวังของคุณครับ
การเรียนแพทย์นั้น เราถูกสั่งสอนมาเสมอว่าให้รู้จักการเสียสละ เราคือผู้ให้ เราคือผู้ให้การรักษาเยียวยาคนไข้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนในครอบครัว ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก ถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยพูดคุยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ในฐานะที่เราเป็นแพทย์ เราต้องรักษาเยียวยาให้กำลังใจคนไข้ให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ การเป็นแพทย์ต้องมาจากอุดมคติข้างใน ไม่ใช่อยากเป็นเพราะอยากรวย อยากมีเกียรติในสังคม
ถ้าคุณคิดแบบนี้หรือเด็กที่กำลังคิดแบบนี้นะครับ หยุดทำแบบนี้ซะ ถึงคุณทำได้คุณเรียนผ่านมันมาได้
ผมอยากถามสักคำว่าในใจลึกๆของคุณแล้ว คุณมาทำงานเพื่ออะไร เพื่อเงิน เพื่อจะได้นำความรู้ที่มีไปรักษาคนไข้ที่แปลกหน้า หรือเพื่อยกระดับชีวิตตัวเองกันแน่ ซึ่งผมค่อนข้างจะพูดไปในทางในโลกของความเป็นจริงมากกว่าที่จะหาข้ออ้างต่างๆมาพูดเพื่อให้ตัวเองดูดี เราต้องพูดที่สามารถสัมผัสได้และมันคือเรื่องจริงของสังคมไทยในปัจจุบัน
การกดดันบุตรหลานให้เรียนเป็นความคิดที่ผิดมาก ถ้าลูกหลานอยากเรียน อันดับแรกต้องถามก่อนว่าเขาชอบหรือเปล่า
ถามเขาสักคำว่า พร้อมที่จะเป็นผู้ให้แล้วหรือยัง พร้อมมั้ยกับการต้องอยู่เวรข้ามวันข้ามคืน พร้อมมั้ยที่ต้องขึ้นวอร์ดเป็น นศพ.เดินเวรตลอด /hr (4,5,6)
พร้อมมั้ยกับแรงกดดันจากอาจารย์แพทย์ที่ต้องเป็นคนตรวจเคสคนไข้ของเรา พร้อมมั้ยกับการเสียสละครั้งนี้ พร้อมมั้ยที่จะอยู่โหมเวรเช้ายันค่ำ บางวันทำตั้งแต่ 7.00 วันที่ 13 มกราคม ถึง 14 เช้ามกราคม 7.00 อีกวัน พร้อมมั้ยกับการไม่ได้นอนในช่วงทำงานใช้ทุน หนักนะครับ ผมบอกเลย
มี นศพ หลายคนมากในวอร์ดที่พูดว่ามาเรียนแพทย์เพราะคิดว่าเงินเดือนดี และพ่อแม่อยากให้เรียน
ผมว่าความคิดแบบนี้ควรหยุดและทิ้งมันไปได้แล้ว กระผมสงสารคนไข้คนป่วยที่เขากำลังถูกเด็กวินิจฉัยโรค
มันเหมือนไม่ได้มาหน้าที่ตรงนี้อย่างเต็มใจ เหมือนทำเพราะเรียนมาแล้ว เหมือนทำเพราะเงิน เหมือนทำเพราะอะไรหลายๆอย่างซึ่งผมขออนุญาตไม่ตอบ
นศพ หลายคนที่พอทำงานใช้ทุนเสร็จแล้ว ส่วนมากจะพากันไปในเรื่องของความงามกันเยอะมาก
เพราะเมืองไทยกำลังได้รับความนิยมในเรื่องของการศัลยกรรม
ซึ่งผมมองว่ามันเยอะเกินไป เกินไปแถมไร้คุณภาพ เคสหลุด เคสเน่า เคสสยองจากคลินิกเถื่อนมีทุกวัน
สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกผู้ปกครองและน้องๆที่กำลังคิดอยากจะเรียนแพทย์หรือกำลังเรียนอยู่
ให้ฉุดคิดสักนิดว่าจริงๆแล้ว คุณมาในสายนี้ คุณมาเพื่ออะไร
น้องๆที่กำลังเรียนในชั้นมอปลายแล้วคิดจะเรียนแพทย์ ลองถามตัวหนูดูซิ
ว่าหนูอยากเป็นหมอเพื่ออะไร ถ้าพ่อแม่ให้เรียน ตัวหนูล่ะ หนูโอเคมั้ย ชอบรึเปล่า ลองตอบ
ถ้าไม่ชอบ แต่เรียนเพราะที่บ้านหวัง ก็จงคิดว่า การทำงานที่หนักและต้องรับผิดชอบชีวิตคนอื่น หนูมีความสุขหรือเปล่า
พ่อแม่โปรดอย่าบังคับลูกหลานให้เรียน ถ้าลูกไม่อยากเรียน
มันจะกระทบไปหมดทั้งจิตใจเด็ก และที่น่าสงสารเลยคือคนไข้ที่บุตรหลานเป็นผู้รักษา
ไม่ได้ใช้ใจในการรักษา ก็ไม่ต้องมาเป็นแพทย์
มาเรียนแพทย์แต่สุดท้ายเราทุกคนมีทางเลือก ก็เลือกที่จะสบายโดยการไปเรียนด้านความงามกันหมด
เหลือแพทย์อายุรศาสตร์กันกี่คน กับประชาชนที่ผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น มันไม่เกิดความสมดุลเท่าที่สมควร
ถ้ารักจะเป็นแพทย์ ผมก็สนับสนุนเต็มที่ ดีซะอีกจะได้มาช่วยแบ่งงานกัน
แต่ขอให้ทำด้วยใจรัก ทำด้วยความรัก การทำงานแบบมีความสุขและสนุกไปกับสิ่งที่ทำ ผมถือว่าไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
แค่อย่าหักโหมจนทำร้ายตัวเองก็ถือว่าดี เพราะงานไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต คนเราทุกคนก็ต้องการเวลาว่างของตัวเองกันทั้งนั้น
แพทย์ทำงานหนัก แต่แพทย์ก็มีเวลาไปเที่ยวได้ ไปต่างประเทศได้ตามความเหมาะสมที่ทุกอาชีพมีอยู่แล้ว
อย่าทำงานจนป่วยเพราะแบบนั้นสิ่งที่เราทำมาตลอดมันเหมือนกับเราเอาเงินมารักษาตัวเอง ซึ่งมันก็ไม่ค่อยจะคุ้มสักเท่าไหร่
แต่กระผมเห็นว่าพ่อแม่หลายคน ชอบบังคับบุตรหลานให้เรียนหมอ ผมว่ามันเป็นการทรมานอนาคตเด็กนะครับ
เรียนอะไรก็ได้ ขอแค่มองถึงความเป็นจริงว่าในอนาคตข้างหน้าเราสามารถเอามันไปใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงดูตัวเองได้มั้ย
อย่ามองแค่ว่าคณะนี้เรียนง่าย เออเรียนดีกว่าจบง่ายดี แต่จบไปแล้วไม่เป็นที่ต้องการของตลาดก็ไม่มีประโยชน์เพราะคุณต้องเริ่มใหม่
แบบนี้เสียเวลา ผมเลยอยากจะบอกว่าก่อนจะทำอะไรให้มองไปข้างหน้า มองเห็นอนาคตว่ามันคุ้มมั้ยที่จะลงทุนไปกับมัน
ผมกล้าพูด เพราะผมผ่านมาหมดแล้ว รู้ซึ้งว่ากว่าจะได้ทำงานในจุดที่สบายแล้วก็เหนื่อยจนเกือบหน้ามืดเป็นลมคาโต๊ะตรวจเหมือนกัน
กลับบ้านทีก็อยากจะนอนยาวๆไม่พูดคุยกับใคร ส่งผลเสียมาถึงสุขภาพและความสัมพันธ์ในครอบครัว เยอะครับเล่าก็ไม่หมด
แต่ถ้าทำแล้วมีความสุข เลือกที่จะทำ ก็ไม่ผิดอะไรเพียงแต่ต้องแยะแยะเวลาให้เป็น เราทุกคนมีสิทธิ์เลือก คุณเลือกแล้วคุณก็ต้องทำให้ดีที่สุดครับ
อยากรวยอย่าเรียนหมอ ให้ไปทำอย่างอื่นน่าจะรวยเร็วกว่า
อย่าตั้งความหวัง อย่าบังคับลูกให้เรียนแพทย์ เพราะคนที่ลำบาก อืดอัดใจคือตัวเด็ก ไม่ใช่ตัวคุณ
ถ้าท่านเป็นแพทย์แล้วทางฐานไว้ให้ลูกของท่านเรียนเหมือนท่าน ถ้าลูกคุณพร้อมจะเรียน หรือรักที่จะเรียนเหมือนท่าน ก็ยินดีด้วยครับ
วงการแพทย์ต้องการแพทย์ที่พร้อมทั้งสภาพจิตใจและความแน่วแน่ในการอุทิศตนที่มีต่อรักษาคนไข้
ฝากเอาไว้