โพลเผยปชช.45% ไม่เปลี่ยนใจจากพรรคเดิม
https://www.dailynews.co.th/politics/676482
สวนดุสิตโพล สำรวจพบปชช.45.15%ไม่เปลี่ยนใจ เลือกพรรคเดิม ชำแหละ5 พรรคการเมืองควรทำอย่างไร ระบุคนสนใจติดตามมากที่สุด รปช.50.95%จาก"เทพเทือก"เดินพบประชาชน ตามมาด้วย พปช.46.67%
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 7-10 พ.ย. 2561 จำนวนทั้งสิ้น 1,176 คน ในหัวข้อ
"พรรคการเมืองควรทำอย่างไรถึงจะโดนใจประชาชน" เพื่อสะท้อนถึงการเลือกตั้ง ส.ส. ที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2562 ส่งผลให้พรรคการเมืองต่างๆ ทั้งพรรคการเมืองเก่าและพรรคการเมืองใหม่ออกมาเคลื่อนไหว แข่งขันกันลงพื้นที่เดินสายหาเสียงกับประชาชนมากขึ้น
โดยเมื่อถามประชาชนคิดอย่างไร? กับ
“พรรคการเมือง” ที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้
เริ่มจาก พรรคพลังประชารัฐ ประชาชนมองว่า
อันดับ 1 เป็นพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลอย่างชัดเจน มีรัฐมนตรีร่วมบริหารพรรค 46.67%
อันดับ 2 ถูกจับตามอง มีกลุ่มสามมิตร ดึงนักการเมืองดังๆเข้าร่วม 32.38%
อันดับ 3 มีความได้เปรียบ มีเวลาเตรียมพร้อมมากกว่าพรรคอื่นๆ 20.95%
ด้านพรรคเพื่อไทย ประชาชนมองว่า
อันดับ 1 ประสบปัญหาทั้งภายในและภายนอก รอดูว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร 50.34%
อันดับ 2 มีกระแสข่าวการยุบพรรค และเตรียมจัดตั้งพรรคใหม่ 34.16%
อันดับ 3 เป็นพรรคที่คนส่วนใหญ่ยังสนใจติดตามข่าว โดยเฉพาะข่าวอดีตนายกฯ ทักษิณ 15.50%
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ประชาชนมองว่า
อันดับ 1 การชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เป็นประเด็นทางการเมืองที่น่าสนใจ 37.53%
อันดับ 2 ควรปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ๆ เพื่อขยายฐานเสียงให้มากขึ้น 32.65%
อันดับ 3 ควรจัดการเรื่องภายในพรรคให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง 29.82%
ขณะที่พรรคอนาคตใหม่
อันดับ 1 เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีนโยบาย แนวคิดทันสมัย น่าสนใจ 38.60%
อันดับ 2 ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ไม่มีผลงานทางการเมืองให้เห็น 35.67%
อันดับ 3 มีการลงพื้นที่หาเสียง พบเห็นตามสื่อต่างๆมากขึ้น 25.73%
ส่วนพรรครวมพลังประชาชาติไทย
อันดับ 1 นายสุเทพ เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการหาเสียงของพรรค 50.95%
อันดับ 2 จากการลงพื้นที่ที่ผ่านมา มีกระแสต่อต้านมากกว่าตอบรับ 31.56%
อันดับ 3 สมาชิกพรรคคนอื่นๆ ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก 17.49%
เมื่อถามว่า พรรคการเมืองควรทำอย่างไร? จึงจะโดนใจประชาชน
อันดับ 1 ไม่ใส่ร้าย โจมตี หาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับพรรคคู่แข่ง 38.76%
อันดับ 2 ต้องทำเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง 34.86%
อันดับ 3 มีความสามัคคี ทำงานเป็นทีม คัดเลือกผู้สมัครที่ดี เหมาะสม 33.90%
อันดับ 4 ชูนโยบายที่ทำได้จริง เน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ 30.48%
อันดับ 5 มีจุดยืน เดินหน้าหาเสียงอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม 15.52%
สุดท้ายเมื่อถามถึงเหตุผลในการเปลี่ยนใจและไม่เปลี่ยนใจในการเลือกพรรคการเมืองของประชาชน ณ วันนี้ โดยเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พบว่า
อันดับ 1 ไม่เปลี่ยนใจ 45.15% เพราะ ชอบพรรคการเมือง ชอบผู้สมัคร มีผลงานให้เห็น มีคนเก่ง มีประสบการณ์ ช่วยเหลือประชาชนได้ดี อยากให้สานงานต่อ ต้องการสนับสนุนพรรคนี้ต่อไป ฯลฯ
อันดับ 2 ยังไม่ตัดสินใจ รอดูก่อน 33.57%
และอันดับ 3 เปลี่ยนใจ 21.28% เพราะผลงานไม่น่าพอใจ ทำไม่ได้ตามที่พูด มีพรรคการเมืองใหม่ๆ ที่น่าสนใจหลายพรรค มีตัวเลือกมากขึ้นผู้สมัครหน้าใหม่หลายคน อยากลองเปิดโอกาสให้พรรคอื่นดูบ้าง ฯลฯ.
JJNY : "ดุสิตโพล" โพลเผยปชช.45% ไม่เปลี่ยนใจจากพรรคเดิม / "นิด้าโพล" โพลชี้ปชช.ส่วนใหญ่ไปเลือกตั้งแน่นอน
https://www.dailynews.co.th/politics/676482
สวนดุสิตโพล สำรวจพบปชช.45.15%ไม่เปลี่ยนใจ เลือกพรรคเดิม ชำแหละ5 พรรคการเมืองควรทำอย่างไร ระบุคนสนใจติดตามมากที่สุด รปช.50.95%จาก"เทพเทือก"เดินพบประชาชน ตามมาด้วย พปช.46.67%
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 7-10 พ.ย. 2561 จำนวนทั้งสิ้น 1,176 คน ในหัวข้อ"พรรคการเมืองควรทำอย่างไรถึงจะโดนใจประชาชน" เพื่อสะท้อนถึงการเลือกตั้ง ส.ส. ที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2562 ส่งผลให้พรรคการเมืองต่างๆ ทั้งพรรคการเมืองเก่าและพรรคการเมืองใหม่ออกมาเคลื่อนไหว แข่งขันกันลงพื้นที่เดินสายหาเสียงกับประชาชนมากขึ้น
โดยเมื่อถามประชาชนคิดอย่างไร? กับ “พรรคการเมือง” ที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้
เริ่มจาก พรรคพลังประชารัฐ ประชาชนมองว่า
อันดับ 1 เป็นพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลอย่างชัดเจน มีรัฐมนตรีร่วมบริหารพรรค 46.67%
อันดับ 2 ถูกจับตามอง มีกลุ่มสามมิตร ดึงนักการเมืองดังๆเข้าร่วม 32.38%
อันดับ 3 มีความได้เปรียบ มีเวลาเตรียมพร้อมมากกว่าพรรคอื่นๆ 20.95%
ด้านพรรคเพื่อไทย ประชาชนมองว่า
อันดับ 1 ประสบปัญหาทั้งภายในและภายนอก รอดูว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร 50.34%
อันดับ 2 มีกระแสข่าวการยุบพรรค และเตรียมจัดตั้งพรรคใหม่ 34.16%
อันดับ 3 เป็นพรรคที่คนส่วนใหญ่ยังสนใจติดตามข่าว โดยเฉพาะข่าวอดีตนายกฯ ทักษิณ 15.50%
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ประชาชนมองว่า
อันดับ 1 การชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เป็นประเด็นทางการเมืองที่น่าสนใจ 37.53%
อันดับ 2 ควรปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ๆ เพื่อขยายฐานเสียงให้มากขึ้น 32.65%
อันดับ 3 ควรจัดการเรื่องภายในพรรคให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง 29.82%
ขณะที่พรรคอนาคตใหม่
อันดับ 1 เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีนโยบาย แนวคิดทันสมัย น่าสนใจ 38.60%
อันดับ 2 ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ไม่มีผลงานทางการเมืองให้เห็น 35.67%
อันดับ 3 มีการลงพื้นที่หาเสียง พบเห็นตามสื่อต่างๆมากขึ้น 25.73%
ส่วนพรรครวมพลังประชาชาติไทย
อันดับ 1 นายสุเทพ เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการหาเสียงของพรรค 50.95%
อันดับ 2 จากการลงพื้นที่ที่ผ่านมา มีกระแสต่อต้านมากกว่าตอบรับ 31.56%
อันดับ 3 สมาชิกพรรคคนอื่นๆ ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก 17.49%
เมื่อถามว่า พรรคการเมืองควรทำอย่างไร? จึงจะโดนใจประชาชน
อันดับ 1 ไม่ใส่ร้าย โจมตี หาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับพรรคคู่แข่ง 38.76%
อันดับ 2 ต้องทำเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง 34.86%
อันดับ 3 มีความสามัคคี ทำงานเป็นทีม คัดเลือกผู้สมัครที่ดี เหมาะสม 33.90%
อันดับ 4 ชูนโยบายที่ทำได้จริง เน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ 30.48%
อันดับ 5 มีจุดยืน เดินหน้าหาเสียงอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม 15.52%
สุดท้ายเมื่อถามถึงเหตุผลในการเปลี่ยนใจและไม่เปลี่ยนใจในการเลือกพรรคการเมืองของประชาชน ณ วันนี้ โดยเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พบว่า
อันดับ 1 ไม่เปลี่ยนใจ 45.15% เพราะ ชอบพรรคการเมือง ชอบผู้สมัคร มีผลงานให้เห็น มีคนเก่ง มีประสบการณ์ ช่วยเหลือประชาชนได้ดี อยากให้สานงานต่อ ต้องการสนับสนุนพรรคนี้ต่อไป ฯลฯ
อันดับ 2 ยังไม่ตัดสินใจ รอดูก่อน 33.57%
และอันดับ 3 เปลี่ยนใจ 21.28% เพราะผลงานไม่น่าพอใจ ทำไม่ได้ตามที่พูด มีพรรคการเมืองใหม่ๆ ที่น่าสนใจหลายพรรค มีตัวเลือกมากขึ้นผู้สมัครหน้าใหม่หลายคน อยากลองเปิดโอกาสให้พรรคอื่นดูบ้าง ฯลฯ.