มี 4 เคสที่อยากให้เพื่อนๆ ในนี้ลองแสดงความคิดเห็นแล้วช่วยกันหาทางออก ทั้ง 4 เคส เกิดขึ้นในบริษัทเดียวกัน แต่ไม่ใช่เรื่องของผมเอง แต่เป็นคนใกล้ๆ มากๆ มีทั้งเพื่อนและพี่ น้อง ที่ผม รู้จัก ผมก็ทำงานบริษัท ผมรู้ว่าการโดนเอาเปรียบเป็นยังไง ผมรู้สึกไม่โอเค ตอนที่ได้ฟังเรื่องเหล่านี้
1. เคสทำงานไม่ได้ค่าจ้าง
อันนี้เป็นเคสของน้องผม เขาไปทำงานบริษัทนึง น้องผมคนนี้เพิ่งจบ ป.ตรี มีวุฒิ ไปสัมตำแหน่ง AE เขาให้เงินเดือน 35000 บาท ไม่รวมค่าคอม จากการคุยสัมภาษณ์ ซึ่งน้องผม ด้วยความที่ทำงานเป็นที่แรก ยังใหม่อยู่ ไม่เคยผ่านการสัมภาษณ์งาน พอได้เงินเดือนสูงมันก็สบายใจและไม่อะไรจะถามต่อ น้องผมทำงานเรียบร้อย มาทำงานตรงเวลา สายบ้างนิดหน่อย พอสิ้นเดือน ไม่ได้เงินเดือน โดยที่นายจ้างอ้างว่า "ช่วงทดลองงานไม่ได้เงินเดือนนะ" แต่! มีเด็กอีกคนนึงตำแหน่งเดียวกัน ทดลองงาน AE เช่นกัน ขายงานไม่ได้ นั่งไปเฉยๆวันนั้น แต่ได้เงินเดือน 13000 บาท ในช่วงโปร(ซึ่งคนนี้เป็นหลานของนายจ้าง) ส่วนน้องผมไม่ได้เงินเดือน แต่ปิดงานได้ ได้ค่าคอม 5000 บาท ซึ่ง 5000 บาท ใครมันมาทำงานได้แค่ ค่ารถก็หมดแล้ว ไหนจะค่ากินค่าอยู่ พอเข้าไปเจรจากับนายจ้างก็ไม่เป็นผล จบลงโดยการลาออก เพราะใครมันจะไปอยู่ได้กับเงินแค่ 5000 บาท น้อยกว่าแรงงานขั้นต่ำวันละ 300 บาทอีก น้องผมวุฒิก็มี ควรจะได้ขั้นต่ำ 15000 ด้วยซ้ำ และได้ข่าวว่า ตำแหน่ง AE คนเก่าๆ ช่วงทดลองงานได้เงินเดือนแค่ 10000 บาท แต่อย่างน้อยก็ยังได้ แต่น้องผมไม่ได้สักบาท น้องผมอาจจะพลาดเองที่ไม่ได้ตกลงตั้งแต่ตอนเซ็นสัญญา แต่มันน่าเกลียดไปไหมที่บริษัททำกับน้องผมแบบนี้?
2. ยิ่งทำงานเงินเดือนยิ่งน้อยลง
เป็นอีกเคสนึง ตอนทำงานเดือนแรก ได้เงินเดือน 13000 ผ่านโปรบอกได้ 25000 ผ่านโปรปุ๊ป ไม่เคยเงินเดือนแตะ 25000 อีกเลย แถมเงินเดือน 25000 ก็ไม่ใช่ 25000 จริงๆ แต่เป็น 13000 เท่าเดิมกับเงินสนับสนุน 12000 บาท ทุกเดือนเงินเดือนไม่เท่ากัน อ้างหักนู่นหักนี่ มีเดือนนึงโดนหักไปเป็นหมื่น จนต้องถามเหตุผลว่าหักเยอะขนาดนี้เพราะอะไร ได้คำตอบมาว่า เพราะชอบพูดคำว่าเดี๋ยว? คือสรุปแล้วคือหักเงินเดือนตามใจ? แล้วคนที่ซวยคือใคร คือลูกจ้าง ฐานเงินเดือนในแต่ละเดือนไม่เท่ากัน ทำธุรกรรมการเงินยาก ผ่านโปรเงินเดือน 25000 จะทำบัตรเครดิตก็ทำไม่ได้ เพราะฐานเงินเดือนจริงๆ แค่ 13000 บาท อันนี้เรียกว่าบริษัทเอาเปรียบไหม?
3. โดนไล่ออกเพราะไปสมัครงานใหม่
เคสนี้ ไปสัมภาษณ์งานปุ๊ป วันต่อมาโดนไล่ออกปั๊ป เอาจริงๆ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกๆ คน เวลาจะหางานใหม่คงไม่รอให้ตัวเองว่างงานหรอกใช่ไหม? คนส่วนใหญ่ ก็คงไปสัมภาษณ์ที่ใหม่ ที่ๆ ดีกว่า แล้วพอได้ที่ใหม่ ค่อยแจ้งลาออก เดือนต่อมาค่อยไปเริ่มต้นกับที่ใหม่ แต่! ที่นี่รู้ ด้วยวิธีไหนอันนี้ไม่ทราบ แต่เขาอ้างว่าเป็นการเห็นแก่ตัว และไล่ออกเพราะ เอาผลงานที่ทำบริษัทนี้ไปเป็นพอร์ต ใช้สมัครงานที่ใหม่ ซึ่งทำงานที่นี่มา เกือบปีนะ เอาผลงานทั้งหมดที่ตัวเองทำ ไปใช้สมัครงานที่ใหม่ มันผิดเหรอ ไม่ได้ใช้ในเชิงพาณิชย์ ไม่ได้หาเงินเข้ากระเป๋า แต่กลับโดนหาว่าทุจริต แถมบอกว่าถ้าใช้พอตนี้แล้วคุณได้งานถือว่าก็เป็นการทุจริตกับบริษัทแล้ว ตรรกะไหน? แล้วแบบนี้คนที่เค้าทำงานเก็บพอตๆ เข้าจะเก็บไปทำไม ถ้างานที่ทำมาถือเป็นทรัพย์สินบริษัท แต่เอาไปใช้เป็นผลงานตัวเองไม่ได้ ในเมื่อเราเป็นคนทำ ถึงบริษัทจะจ้างเราทำก็เถอะ แต่งานออกมาได้ด้วยแรงเรา ความคิดเรา ทุกๆ อย่าง ยังงี้ทำงานที่นี่เป็น 10 ปี ก็ไม่มีความหมายยังไงก็ไม่มีผลงาน?
4. มี Second job ไม่ได้
เป็นเรื่องของพนง. ที่โดนกดเงินเดือนจนอยู่ไม่ได้ มีภาระที่ต้องจ่าย จนต้องรับจ็อบเสริม แต่ไม่กระทบกับงานหลัก ซึ่งส่วนมากยุคนี้ ใครๆ ก็มี second job กันทั้งนั้นเพราะลำพังทำงานๆ เดียวมันอยู่ไม่ได้ คนนี้เป็นคนที่รับผิดชอบงานได้ดี ผลงานทั้งหมดของบริษัทมากจากคนๆ นี้ 80% และผลงานที่เป็นจ็อบเสริมของคนนั้น บริษัทยังโมเมไปใช้เป็นพอร์ตพรีเซ็นของบริษัทในช่วงที่บริษัทยังไม่มีผลงาน แต่พอเขาทำงานจ็อบเสริม ซึ่งจ็อบเสริมก็เป็นรายได้เสริมเล็กๆน้อยๆ พอช่วยให้ใช้ชีวิตสบายขึ้นนิดนึง แต่ทางบริษัทรู้ ด้วยอะไรไม่ทราบ แล้วไล่ออกรวมถึงแจ้งข้อหาทุจริต รวมถึงไม่อนุญาติให้นำผลงานที่ทำไปเป็นพอตโดยบอกว่าเป็นทรัพย์สินของบริษัท รวมทั้ง! นายจ้างลบไฟล์ทุกอย่างที่เป็นของส่วนตัวของคนนี้ ในกูเกิ้ลไดร์ฟ งานเสริมทุกอย่าง ของทุกอย่างที่เป็นของส่วนตัวไม่เกี่ยวกับบริษัท แบบนี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลไหม? ไม่ได้มีการเซ็นสัญญาแต่แรกว่าห้ามรับงานนอก งานอื่นๆ แต่จู่ๆ มาโดนปลดกลางอากาศแบบนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง?
ป.ล. บริษัทนี้ ไม่จ่ายประกันสังคมด้วยนะในตอนแรก เห็นว่า เดือนที่ 4-5 ถึงจะทำให้
ป.ล.2. นายจ้างชอบพูดว่า อย่าเอากฎหมายแรงงานมาใช้กับที่นี่
ป.ล.3. เรื่องยังมีเยอะกว่านี้นะ อยากรู้ว่าบริษัทอะไรหลังไมค์มาถามได้
ช่วยด้วยโดนเจ้านาย/บริษัทเอาเปรียบ สามารถทำอะไรได้บ้าง
1. เคสทำงานไม่ได้ค่าจ้าง
อันนี้เป็นเคสของน้องผม เขาไปทำงานบริษัทนึง น้องผมคนนี้เพิ่งจบ ป.ตรี มีวุฒิ ไปสัมตำแหน่ง AE เขาให้เงินเดือน 35000 บาท ไม่รวมค่าคอม จากการคุยสัมภาษณ์ ซึ่งน้องผม ด้วยความที่ทำงานเป็นที่แรก ยังใหม่อยู่ ไม่เคยผ่านการสัมภาษณ์งาน พอได้เงินเดือนสูงมันก็สบายใจและไม่อะไรจะถามต่อ น้องผมทำงานเรียบร้อย มาทำงานตรงเวลา สายบ้างนิดหน่อย พอสิ้นเดือน ไม่ได้เงินเดือน โดยที่นายจ้างอ้างว่า "ช่วงทดลองงานไม่ได้เงินเดือนนะ" แต่! มีเด็กอีกคนนึงตำแหน่งเดียวกัน ทดลองงาน AE เช่นกัน ขายงานไม่ได้ นั่งไปเฉยๆวันนั้น แต่ได้เงินเดือน 13000 บาท ในช่วงโปร(ซึ่งคนนี้เป็นหลานของนายจ้าง) ส่วนน้องผมไม่ได้เงินเดือน แต่ปิดงานได้ ได้ค่าคอม 5000 บาท ซึ่ง 5000 บาท ใครมันมาทำงานได้แค่ ค่ารถก็หมดแล้ว ไหนจะค่ากินค่าอยู่ พอเข้าไปเจรจากับนายจ้างก็ไม่เป็นผล จบลงโดยการลาออก เพราะใครมันจะไปอยู่ได้กับเงินแค่ 5000 บาท น้อยกว่าแรงงานขั้นต่ำวันละ 300 บาทอีก น้องผมวุฒิก็มี ควรจะได้ขั้นต่ำ 15000 ด้วยซ้ำ และได้ข่าวว่า ตำแหน่ง AE คนเก่าๆ ช่วงทดลองงานได้เงินเดือนแค่ 10000 บาท แต่อย่างน้อยก็ยังได้ แต่น้องผมไม่ได้สักบาท น้องผมอาจจะพลาดเองที่ไม่ได้ตกลงตั้งแต่ตอนเซ็นสัญญา แต่มันน่าเกลียดไปไหมที่บริษัททำกับน้องผมแบบนี้?
2. ยิ่งทำงานเงินเดือนยิ่งน้อยลง
เป็นอีกเคสนึง ตอนทำงานเดือนแรก ได้เงินเดือน 13000 ผ่านโปรบอกได้ 25000 ผ่านโปรปุ๊ป ไม่เคยเงินเดือนแตะ 25000 อีกเลย แถมเงินเดือน 25000 ก็ไม่ใช่ 25000 จริงๆ แต่เป็น 13000 เท่าเดิมกับเงินสนับสนุน 12000 บาท ทุกเดือนเงินเดือนไม่เท่ากัน อ้างหักนู่นหักนี่ มีเดือนนึงโดนหักไปเป็นหมื่น จนต้องถามเหตุผลว่าหักเยอะขนาดนี้เพราะอะไร ได้คำตอบมาว่า เพราะชอบพูดคำว่าเดี๋ยว? คือสรุปแล้วคือหักเงินเดือนตามใจ? แล้วคนที่ซวยคือใคร คือลูกจ้าง ฐานเงินเดือนในแต่ละเดือนไม่เท่ากัน ทำธุรกรรมการเงินยาก ผ่านโปรเงินเดือน 25000 จะทำบัตรเครดิตก็ทำไม่ได้ เพราะฐานเงินเดือนจริงๆ แค่ 13000 บาท อันนี้เรียกว่าบริษัทเอาเปรียบไหม?
3. โดนไล่ออกเพราะไปสมัครงานใหม่
เคสนี้ ไปสัมภาษณ์งานปุ๊ป วันต่อมาโดนไล่ออกปั๊ป เอาจริงๆ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกๆ คน เวลาจะหางานใหม่คงไม่รอให้ตัวเองว่างงานหรอกใช่ไหม? คนส่วนใหญ่ ก็คงไปสัมภาษณ์ที่ใหม่ ที่ๆ ดีกว่า แล้วพอได้ที่ใหม่ ค่อยแจ้งลาออก เดือนต่อมาค่อยไปเริ่มต้นกับที่ใหม่ แต่! ที่นี่รู้ ด้วยวิธีไหนอันนี้ไม่ทราบ แต่เขาอ้างว่าเป็นการเห็นแก่ตัว และไล่ออกเพราะ เอาผลงานที่ทำบริษัทนี้ไปเป็นพอร์ต ใช้สมัครงานที่ใหม่ ซึ่งทำงานที่นี่มา เกือบปีนะ เอาผลงานทั้งหมดที่ตัวเองทำ ไปใช้สมัครงานที่ใหม่ มันผิดเหรอ ไม่ได้ใช้ในเชิงพาณิชย์ ไม่ได้หาเงินเข้ากระเป๋า แต่กลับโดนหาว่าทุจริต แถมบอกว่าถ้าใช้พอตนี้แล้วคุณได้งานถือว่าก็เป็นการทุจริตกับบริษัทแล้ว ตรรกะไหน? แล้วแบบนี้คนที่เค้าทำงานเก็บพอตๆ เข้าจะเก็บไปทำไม ถ้างานที่ทำมาถือเป็นทรัพย์สินบริษัท แต่เอาไปใช้เป็นผลงานตัวเองไม่ได้ ในเมื่อเราเป็นคนทำ ถึงบริษัทจะจ้างเราทำก็เถอะ แต่งานออกมาได้ด้วยแรงเรา ความคิดเรา ทุกๆ อย่าง ยังงี้ทำงานที่นี่เป็น 10 ปี ก็ไม่มีความหมายยังไงก็ไม่มีผลงาน?
4. มี Second job ไม่ได้
เป็นเรื่องของพนง. ที่โดนกดเงินเดือนจนอยู่ไม่ได้ มีภาระที่ต้องจ่าย จนต้องรับจ็อบเสริม แต่ไม่กระทบกับงานหลัก ซึ่งส่วนมากยุคนี้ ใครๆ ก็มี second job กันทั้งนั้นเพราะลำพังทำงานๆ เดียวมันอยู่ไม่ได้ คนนี้เป็นคนที่รับผิดชอบงานได้ดี ผลงานทั้งหมดของบริษัทมากจากคนๆ นี้ 80% และผลงานที่เป็นจ็อบเสริมของคนนั้น บริษัทยังโมเมไปใช้เป็นพอร์ตพรีเซ็นของบริษัทในช่วงที่บริษัทยังไม่มีผลงาน แต่พอเขาทำงานจ็อบเสริม ซึ่งจ็อบเสริมก็เป็นรายได้เสริมเล็กๆน้อยๆ พอช่วยให้ใช้ชีวิตสบายขึ้นนิดนึง แต่ทางบริษัทรู้ ด้วยอะไรไม่ทราบ แล้วไล่ออกรวมถึงแจ้งข้อหาทุจริต รวมถึงไม่อนุญาติให้นำผลงานที่ทำไปเป็นพอตโดยบอกว่าเป็นทรัพย์สินของบริษัท รวมทั้ง! นายจ้างลบไฟล์ทุกอย่างที่เป็นของส่วนตัวของคนนี้ ในกูเกิ้ลไดร์ฟ งานเสริมทุกอย่าง ของทุกอย่างที่เป็นของส่วนตัวไม่เกี่ยวกับบริษัท แบบนี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลไหม? ไม่ได้มีการเซ็นสัญญาแต่แรกว่าห้ามรับงานนอก งานอื่นๆ แต่จู่ๆ มาโดนปลดกลางอากาศแบบนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง?
ป.ล. บริษัทนี้ ไม่จ่ายประกันสังคมด้วยนะในตอนแรก เห็นว่า เดือนที่ 4-5 ถึงจะทำให้
ป.ล.2. นายจ้างชอบพูดว่า อย่าเอากฎหมายแรงงานมาใช้กับที่นี่
ป.ล.3. เรื่องยังมีเยอะกว่านี้นะ อยากรู้ว่าบริษัทอะไรหลังไมค์มาถามได้