บทเกือบจะสรุป เลือดข้นคนจาง คนทำดีโดนประณาม คนร้ายได้รับความเห็นใจ และคนที่อยู่เฉยๆกลายเป็นฮีโร่ ?



หลังจากดูตอนเกือบสุดท้ายของ เลือดข้นคนจาง หรือ InFamilyWeTrust แล้วรู้สึกหงุดหงิดพอสมควรกับบทที่หลายฉากหลายตอนไม่ค่อยสมเหตุผล

แต่มองข้ามเรื่องนั้นไปก่อน เพราะนัยแฝงในเรื่องก็ดูค่อนข้างจะผิดเพี้ยนหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ อี้ ที่กลายมาเป็นผู้ร้ายในสายตาคนทั้งบ้าน รวมถึงคนในสังคม ทั้งๆที่เขาเป็นคนซึ่งพยายามทำความด ความถูกต้อง กับการช่วยเหลือน้องชายตัวเองให้รอดพ้นจากคดีฆ่าคนตาย

จุดนี้สะท้อนถึงความอ่อนด้อยของกระบวนการยุติธรรมและตำรวจ ที่คนในครอบครัวเหยื่อหรือแพะ ต้องตามหาหลักฐานมาพิสูจน์ความจริงด้วยตัวเอง คำพูดที่ พีท บอกตอนมาต่อย อี้ ว่า ใช้วิธีสกปรกในการหาหลักฐาน แล้ว อี้ ตอบกลับว่า มันมีวิธีอื่นที่ดีกว่านั้นไหม คือคำพูดถูกต้องที่สุดแล้ว

ถามว่าถ้า อี้ ไม่ทำแบบนั้น เต้ย จะถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานฆ่าคนตายและติดคุก ถามว่าถ้าศาลพิพากษาแล้วจะเป็นอย่างไร คือแก้ไขอะไรไม่ได้เลยนะ ถ้าศาลตัดสินแล้ว กระบวนการรื้อฟื้นคดียุ่งยากและใช้เวลานานมากๆ เต้ย ต้องติดคุกฟรีๆ จากสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ คำพูดของ เหม่เหม ที่บอกว่าให้พ่อกับตัวเองกบดานอยู่ฮ่องกง เต้ย ไม่ติดคุกหรอกเพราะเดี๋ยวพ่อที่เป็นตำรวจก็ช่วย จึงเป็นคำที่เด็กสาวใช้หลอกพ่อตัวเองไม่ให้มอบตัว ความจริงคือ เหม่เหม ตั้งใจให้ เต้ย ติดคุกแทนพ่อ

ดังนั้น สิ่งที่ อี้ ทำอาจจะไม่เหมาะสมถูกใจคน แต่เป็นสิ่งที่ค่อนข้างไปทางถูกต้องที่สุดแล้วตามหลักกฏหมายและกระบวนการยุติธรรม เมื่อเทียบกับพฤติกรรมของตัวละครอื่นๆ โดยเฉพาะ เวกัส ที่เอาเข้าจริงมีความผิดหลายกระทงไม่แพ้ เหม่เหม สองคนนี้โกหกเรื่อยๆ

ส่วนตัวมองว่ากรณี อี้ กับ เวกัส เป็นเรื่องของ ความถูกต้อง กับ ความเหมาะสม ทั้งสองคนสุดโต่งทั้งคู่ คนที่ดูพอดีน่าจะเป็น พีท ปัญหาของตระกูลนี้คือ คนในบ้านไม่คุยกัน ทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นเล็ก แต่ อี้ คือคนที่น่าเห็นใจที่สุดในเรื่อง

โอเค อี้ ผิดที่โกหกแฟน แอบเข้าบ้านคนอื่น (ตัวละครในเรื่องตัวอื่นก็ทำ) ใช้ปืนและมือถือเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้หลักฐาน แต่เขาก็ไม่ได้เลวขนาดใส่กระสุนลงไป เขาแค่อยากช่วยน้องชาย สิ่งที่เขาทำถูกต้อง แต่ดันไม่ถูกใจสายดราม่า

กลับกัน ชะชากรรมของ กรกันต์ น่าตลกมากที่แทบไม่มีส่วนสำคัญในคดี แต่กลับถูกทำให้เหมือนเป็นฮีโร่ ด้วยการทิ้งหลักฐานสำคัญในคดีเพียงฉากเดียว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้สิ่งที่เขาและคนในครอบครัวคนอื่นยกเว้น เวกัส ทำคือ อยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรสักอย่าง ทว่ากลับมีภาพเป็นครอบครัวสุขสันต์ที่สุด จนหลายคนลืมภาพที่เขาโกหกคนในครอบครัวเพื่อขอรถคันใหม่ โดยอ้างชื่อลูกชาย การติดการพนัน และการเที่ยวเล่นไปวันๆ ไม่ทำงานทำการ

จุดนี้ไม่แน่ใจว่าต้องการจะสื่อว่าอะไร อยู่เฉยๆ อย่าไปยุ่งกับอะไร แล้วจะมีความสุข? ถ้าทำให้คนดูเข้าใจแบบนี้ถือเป็นแนวคิดที่ค่อนข้างน่ากลัว เพราะส่วนใหญ่คนไทยก็คิดแบบนี้กันอยู่แล้วเป็นทุนเดิม คือเวลาที่มีเรื่องอะไร ใครมีปัญหา ไม่เกี่ยวก็อย่าไปยุ่ง เดี๋ยวตัวเองจะเดือดร้อน แต่ในกรณีนี้ ขนาดเรื่องเกิดในครอบครัวตัวเอง บ้านกรกันต์ ยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน คุยกันแต่เรื่องเที่ยว เอิ่มมมม

เอาเข้าจริงคนที่เลวสุดในเรื่องส่วนตัวมองว่าเป็น เหม่เหม ด้วยซํ้า เพราะตั้งใจทำในทุกความผิด ขณะที่ เมธ ทำไปด้วยความบันดาลโทสะ อารมณ์ชั่ววูบ มีความรู้สึกผิด แต่ เหม่เหม ดูไม่รู้สึกผิดเลย เห็นแก่ตัว แถมตอนที่คนในครอบครัวไปง้อ ขอให้ไปอยู่ด้วย ก็ดันไปทำโกรธใส่เขา คือคนอื่นต้องโกรธเธอมะ

รองจากสองคนนี้คนที่เลวถัดมาคือ คริส วางยาคนจนแท้ง เท่ากับฆ่าคนตาย เพราะความเห็นแก่ตัว โลภ อยากให้ลูกตัวเองเป็นตั่วซุง (หลานชายคนโตของลูกชายในบ้าน)

เลวถัดจากคริส เต้ย ส่องญาติตัวเอง แอบติดกล้อง ปีนเข้าบ้าน ถือว่าหมิ่นเหม่ต่อการเป็นอาชญากรรมมาก ไม่แน่ว่าหากไม่มีคดียิงประเสริฐ ก็คงเป็นคดีที่เต้ยไปทำอะไรกับเหม่เหมหรือเปล่า? บ้านภัสสรไม่ควรลืมเรื่องนี้ รวมถึงต้องอบรมให้หนัก การอยู่ผิดที่ผิดเวลาจนโดนจับจึงเป็นผลกรรมที่เกิดจากการกระทำของเขาเองล้วนๆ น่าสงสาร แต่ก็ไม่ควรเห็นใจมาก เพราะต่อให้ไม่โดนคดียิงคนตาย ก็มีคดีบุกรุก และคดีแอบถ่าย โทษจำคุกหลายปี

สรุป การตายของประเสริฐ เลือดข้นคนจาง เกิดจากครอบครัวของเขาและตัวเขาเอง ที่ปกปิกความผิดของ คริส ที่วางยาเมียเมธ อากง รู้สึกผิดเลยวาดรูป และขอโทษเมธก่อนตาย ขณะที่ อาม่า กับ ประเสริฐ กลัวเสื่อมเสียชื่อเสียงตระกูลจึงเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ไม่บอกใคร ไม่ดำเนินคดีกับ คริส ปล่อยให้เรื่องราวผ่านไป ทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งแม้ว่าบ้านนี้เป็นคนจีน แต่นิสัยแบบ ลืมๆมันไปเถอะ นี่มันเวรี่ไทยสุดๆ

จบครับ (เขียนก่อนตอนอวสานฉาย 8 ชั่วโมง)

นกไซเบอร์ https://www.facebook.com/cyberbirdmovie
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่