ตามหัวข้อเลยครับ เมื่อวานนี้ 09/11/18 ผมได้พาแฟนไปหาหมอที่รพ แห่งหนึ่งแถวๆกิ่งแก้ว โดยใช้สิทธิประกันสังคมของแฟนผม อาการของแฟนผมคือ ไข้ขึ้น 38 องศา เจ็บคอ แล้วไอมีน้ำมูก เป็นแบบนี้มา 2 วันแล้วกินยาก็ยังไม่ดีขึ้น พอถึงคิวเข้าห้องตรวจ หมอก็ไม่ตรวจอะไรมากเลยแต่ เอาหูฟังมาทาบที่อกแฟนผม เอาไฟมาส่องที่ภายในลำคอ แล้วให้ยากินกลับบ้าน จบ!!!!!! แค่นั้น แล้วยาที่ให้มาก็เป็นยาเดิมๆเหมือนทุกๆครั้ง ยาที่ผมคิดว่าผมไปหาซื้อยาพวกนี้จากร้านเภสัชแถวบ้านก็ได้ เช่นยาไทรินอล ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ มีแค่นั้น 3 ห่อ ถ้าจะให้แบบนี้ผมคงไม่ต้องเสียค่าน้ำมันขับรถเพื่อไปหาหมอถึงรพหรอก และหมอก็ไม่มีการตรวจเลือดเพื่อหาว่าเป็นไข้หวัดใหญ่รึไม่ ไม่มีการตรวจอย่างอื่นเพิ่มเติม จนถึงวันนี้ 10/11/18 ไข้แฟนผมยังไม่มีทีท่าว่าลด อาการอย่างอื่นยังคงเป็นเหมือนเดิม หลังจากที่กินยาไปแล้ว ทำไมอะครับผมไม่เข้าใจว่าการที่เราจ่ายเงินประกันสังคมทุกๆเดือน สะสมไว้แล้วไม่ได้ใช้ มาใช้ทีเจอแบบนี้ผมว่าเอาเงินที่จะจ่ายเข้าประกันสังคมทุกๆเดือนเดือนละเกือบพันบาท หยอดกระปุกเก็บไว้ไปหา หมอรพเอกชนที่เค้าตรวจรักษาให้ดีกว่านี้ดีกว่ามั้ยครับ ผมถามหน่อยครับว่าเคยมีเคสใช้สิทธิประกันสังคมรักษาแล้วตายมีมั้ยครับผมล่ะอยากรู้จริงๆ คนหาเช้ากินค่ำแบบพวกผมเวลาไม่สบายทีก็มีประกันสังคมที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายล่ะครับเพราะเงินไม่พอรักษาที่รพเอกชน ผมล่ะเศร้าใจจริงๆกับระบบของประเทศที่มีสวัสดิการแบบนี้ให้ประชาชนคนระดับล่างๆ สุดท้ายผมคงต้องไปหายืมเงินคนอื่นเพื่อมารักษาแฟนผม คงเป็นทางออกสุดท้ายที่ดีที่สุดแล้วเพราะถ้าหวังพึ่งประกันสังคมคงไม่มีทางหายแน่ๆ
ทำไมใช้สิทธิประกันสังคมแล้วมันห่วยแบบนี้