กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เราเขียนเลย ถ้าผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
การจดทะเบียนสมรสที่ญี่ปุ่น และทำวีซ่าอุปการะภรรยาไทย สามีเราเป็นคนญี่ปุ่นค่ะ เริ่มแรกเลยเราต้องทำการจดทะเบียนสมรส กับสามีเราค่ะ เราเตรียมเอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนสมรสที่เขตญี่ปุ่น
(เขตที่เราจดคือเขตเซตางายะ โตเกียวค่ะ) เอกสารมี
1.สำเนาทะเบียนบ้าน (เป็นแบบรับรองทะเบียนราษฏรคัดสำเนาจากที่เขตค่ะ เขตไหนก็ได้นะคะ)
2.ขอใบรับรองโสดค่ะ (อันนี้เรามอบอำนาจให้แม่ไปขอค่ะ มีพยานสองคน ผู้ใหญ่บ้าน และแม่เราผู้รับมอบอำนาจ รวมทั้งหมด4คนค่ะ ) แต่ละเขตจะไม่เหมือนกันนะคะ ให้โทรไปถามฝ่ายทะเบียนที่เขตที่เรามีทะเบียนบ้านก่อนค่ะ ใบรับรองโสดต้องขอที่อำเภอหรือเขตที่เรามีทะเบียนบ้านอยู่เท่านั้นนะคะ
3.หนังสือปฎิญาณตน (ดูตัวอย่างการเขตจากเว็ปสถานทูตญี่ปุ่นค่ะ)
4. ใบขอจดทะเบียนสมรส ของเราดาวน์โหลดมาจากในเว็ปค่ะ เลือกเอาลายที่ชอบค่ะ เอกสารส่วนของเรากรอกเองค่ะ กรอกเสร็จก็เซ็นชื่อ ใช้ปากกาสีดำเขียนนะคะ สามีก็กรอกเองค่ะ ถ้าใครเขียนไม่เป็นก็ให้สามีเขียนให้ค่ะ
5.สำเนาหนังสือเดินทางเราและสามี สำเนาบัตรประชาชนเรา
*เอกสารข้อ1,2,3ให้แปลเป็นภาษาญี่ปุ่น ลงวันที่ให้เรียบร้อยนะคะ*
หลังจากได้เอกสารหลักๆครบแล้วก็ส่งEMSไปบ้านสามีที่ญี่ปุ่นค่ะ (กรณีของเรา เราและสามีอยู่กรุงเทพค่ะ ต้องมอบอำนาจให้แม่สามีจดทะเบียนที่ญี่ปุ่นแทนค่ะ) เราส่งเอกสารไปญี่ปุ่นวันที่ 6 ตุลาคม 61 ถึงที่ญี่ปุ่นวันที่ 8 ตุลาคม 61 ถือว่าเร็วมากๆค่ะ แม่สามีว่างไปจดวันที่ 11 ตุลาคม 61 จดเสร็จ พอวันที่ 12 ตุลาคม 61 แม่ก็ไปขอใบรับรองสมรสให้ค่ะ (ใบที่เราได้มาไม่ใช่ทะเบียนครอบครัวนะคะ เป็นแค่ใบรับรองเฉยๆ ถ้าใครกลับมาจดสมรสที่ไทยเราแนะนำ ให้ขอทะเบียนครอบครัวมานะคะ ) พอจดทะเบียนสมรสเสร็จเรียบร้อยแล้ว แม่ก็ฝากเพื่อนสามีมาให้ในวันที่ 16 พอได้ใบมาบ่ายวันที่ 16 เราก็ไปที่สถานทูตญี่ปุ่นเลยค่ะ แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าขอใบรับรองไปจดสมรสที่เขตค่ะ ไปถึงเจ้าหน้าที่บอกว่าใบที่เราเอามามันทำไม่ได้ เราก็ดื้อค่ะ โทรหาแฟน ให้แฟนคุย สรุปคือถ้าจะทำ ก็ทำได้แค่ใบรับรองการแปลเท่านั้น ไม่ได้ใบรับรองการจดสมรสค่ะ (ทางที่ดีคือตอนจดญี่ปุ่นขอใบทะเบียนครอบครัวมาดีที่สุดค่ะ) เจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่าบางเขตก็จดได้ บางเขตก็จดไม่ได้ เราก็ยืนยันจะทำค่ะ (เพราะเราไม่มีเวลาค่ะ วีซ่าสามีเราจะหมดค่ะ)ก่อนทำเขาให้เราแปลเป็นภาษาอังกฤษมาเองนะคะ (เรากลับถึงบ้านเราติดต่อช่างแปล แปลเอกสารญี่ปุ่นเป็นอังกฤษค่ะ ค่าเสียหาย 900บาท ได้รับเอกสาร
วันที่ 17 ช่วงบ่ายๆ ค่ะ พอเช้าวันนั้นประมาน 11 โมง นักแปลบอกได้เอกสารแล้ว เราเลยเอาไปยื่นเลยค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่าจะโทรแจ้งค่ะ สรุปเช้า
วันที่ 18 แปดโมงเช้า สถานทูตโทรมาค่ะบอกเอกสารเราต้องแก้ไข วันนั้นเราติดงานด้วย ขอลาพักก่อนเวลา ไป11 โมงค่ะ รับเอกสารมาแก้ไข บ่ายโมงครึ่งวันนั้น เราก็เอาเอกสารไปส่ง พร้อมชำระเงิน เอกสารของเราเป็นการรับรองการแปลค่ะ จ่ายไปทั้งหมด 2,700บาท 2ชุดค่ะ (เราคิดว่าถ้าเอาไปจดทะเบียนและขอวีซ่าต้องใช้คนละชุด แต่เราคิดผิดค่ะ เวลาขอวีซ่าเขาขออันที่เราใช้จดที่เขตค่ะ เราเสียตังฟรีๆเลยคะ เซ็ง) มาต่อค่ะ
เช้าวันศุกร์ที่19 เราไปรับเอกสารที่สถานทูตญี่ปุ่นเราต้องเอามาแปลไทย แปลไทยเสร็จเราต้องไปรับรองเอกสารที่นิติกรณ์ ที่MRTคลองเตย เปิดใหม่เลยค่ะ ค่าแปลเอกสาร 2 ใบ 700 บาทค่ะ รับรอง 2ชุด 800 บาทค่ะ เจ้าหน้าที่นัดมารับวันที่24ตุลาคมค่ะ ติดวันปิยะอีก แงๆ 555
เช้าวันที่24เราไปรับเอกสารลุ้นมากๆค่ะ ว่าจะได้แก้เอกสารไหม สรุปผ่านฉลุยค่ะ พอได้เอกสาร ( เอาเอกสารมาถ่ายเก็บไว้ซัก2-3ชุดนะคะ ) ถ่ายเอกสารเรียบร้อยแล้ว เราขับรถไปเขตบางรักเลยค่ะ ไปคนเดียวค่ะ เจ้าหน้าที่ ที่เขตบอกว่าเอกสารเราใช้ไม่ได้ เรานี่แทบจะร้องไห้เลยค่ะ ยืนเถียงเจ้าหน้าที่ตั้งนานสุดท้ายเขาก็เอาเอกสารให้หัวหน้าดู สรุปคือถ้าอยากทำต้องร้องกระทรวงอะไรไม่รู้ค่ะ เราไม่อยากพูดมากขอบคุณแล้ว ถือเอกสารออกมาเลยค่ะ ตอนนั้นคือหัวมึนตึบหมดแล้วคะ (คุยคนเดียวว่าเราต้องสู้ๆ555) ขับรถไปเขตใกล้ที่สุดคือเขตสัมพันธวงค์ค่ะ เจ้าหน้าที่ถามอยู่แถวนี้หรอ เราบอกว่าเรามาสรรพากร เราเลยแวะมาที่นี่ (ไม่อยากไปเขตบางรัก คนเยอะ555) เจ้าหน้าที่ก็ดูเอกสารแปปเดียว บอกเอาพยานสองคน (เรานี่ รีบวิ่งออกไปร้านค้าเลยค่ะ) ให้แม่ค้ามาเป็นพยานให้ สรุปวันนั้นเราก็จดทะเบียนได้แล้วค่ะ เย้ๆๆๆๆ สรุประยะเวลาในการขอเอกสาร แปลเอกสาร ทำเรื่องทั้งที่ไทยและญี่ปุ่น รวมทั้งหมดเป็นเวลา 36 ค่ะ
ต่อไปหลังจากเราจดทะเบียนสมรส ได้ คร.22 มาเรียบร้อยแล้ว แฟนเราไม่มีวีซ่าเข้ามานะคะ เป็นวีซ่าแบบ ผ.30 /ผผ.30 ( Visa on arrival ) หมดวันที่ 11 พฤศจิกายน 61 มาถึงเวลาที่เราเตรียมเอกสารแล้วค่ะ
เอกสารขอรับและเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา (รหัส O ) กรณีสมรส (การขอแบบนี้ต้องมีวีซ่ามากกว่า15วันนะคะ น้อยกว่านั้นไม่ได้ค่ะ)
1.แบบฟอร์ม ตม.87
2.สำเนาหนังสือเดินทาง (ถ่ายมาทุกหน้าค่ะ)
3.รูปถ่าย2 นิ้ว1 รูปเงิน 2,000 บาท
4.สำเนาบัตรประชาชนภรรยาพร้อมตัวจริง สำเนาทะเบียนบ้าน
5.ใบทะเบียนสมรสตัวจริง ,ใบรับรองที่ได้จากสถานทูตพร้อมรับรองนิติกรณ์, คร.22 ตัวจริงและสำเนา (ใบหย่าตัวจริงและสำเนา)
6.หนังสือรับรองเงินฝากมีเงินอยู่ 400,000บาท (เป็นชื่อสามีเพียงคนเดียว)
7.สมุดบัญชีเล่มจริง (รวมทั้งถ่ายสำเนาทุกหน้า) เป็นชื่อสามีเพียงคนเดียว
8.แผนที่บ้าน
9.รูปถ่ายในบ้าน ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หน้าบ้าน หน้าตึก หน้าเลขที่บ้าน (รูปคู่เวลาเราไปเที่ยว) ปริ้นสีหน้าละ 2รูป
10.สัญญาเช่ามีชื่อของสามีหรือภรรยาก็ได้ค่ะ
11.ใบแจ้งคนต่างด้าวพักอาศัย ตม.30 ต้องมี (ให้แจ้งวันที่ต่างด้าวเข้าพักภายใน 24 ชั่วโมง)
12.ใบรับรองการทำงานของภรรยา สัญญาจ้างภรรยา (กรณีที่สามีเราไม่ได้ทำงาน) ของเราสามีไม่ได้ทำงานค่ะ55
เอกสารของเรามีแค่นี้ค่ะ ตอนเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ ก็แค่ถามเราเจอกันที่ไหน อยู่กันกี่ปีแล้ว ทำไมถึงแต่งงาน ไม่มีอะไรมากค่ะ
กรณีเราเจ้าหน้าที่บอกจะมีเจ้าหน้าที่ไปตรวจบ้านนะ แค่นี้ค่ะ เป็นอันเรียบร้อย เราไปยื่นวันที่ 26ตุลาคม 61 เจ้าหน้าที่นัดไปฟังผลวันที่ 9 พฤศจิกายน ค่ะ
วันที่29ตุลาคม61 เจ้าหน้าที่ ตม . โทรมาค่ะ แต่วันนั้นเรามีสอบที่มหาลัย เราเลยขอเจ้าหน้าที่ว่าเป็นพรุ่งนี้ได้ไหม เจ้าหน้าที่โอเคค่ะ
วันที่ 30 ตุลาคม 61 เจ้าหน้าที่โทรหาเราประมาณ 19.30 เราอยู่บ้านค่ะ เจ้าหน้าที่ก็สอบถามเรา สอบถามพยาน เราให้พี่ยามที่ตึกนั่นแหละค่ะ เป็นพยานเซ็นรับรองให้ เจ้าหน้าที่ก็ขอดูหนังสือเดินทางแฟน ถ่ายทะเบียนสมรส สมุดบัญชี ถ่ายสัญญาเช่า ถ่ายรูปที่เราเอาแขวงผนังโชว์ ถ่ายรูปเราคู่สามีในบ้าน และถ่ายรูปเราสามีและพยานที่ประตูบ้านให้เห็นเลขที่บ้าน เจ้าหน้าที่ใจดีค่ะ เป็นกันเองมากๆ เรางี้ปลื้มเลยคะ เรียบร้อยค่ะ ไม่ยากเลย
วันที่ 9 พฤศจิกายน 61แฟนเราไปแต่เช้าค่ะ สายๆ ก็ได้รับแสตมป์วีซ่าภรรยาไทยค่ะ
พึ่งได้วันนี้สดๆร้อนๆเลยนะคะ ลงวันที่ 26.10.61หมดวันที่ 23.01.62 ค่ะ เรากะว่าจะไปต่อวีซ่า1ปี ให้สามีวันที่ 13เดือนหน้าค่ะ ต่อได้ก่อนวีซ่าหมด 45 วันค่ะ หวังว่าสิ่งที่เราบอกมานี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนไม่มากก็น้อยค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
การจดทะเบียนสมรสที่ญี่ปุ่นและการขอวีซ่าอุปการะภรรยาไทย
การจดทะเบียนสมรสที่ญี่ปุ่น และทำวีซ่าอุปการะภรรยาไทย สามีเราเป็นคนญี่ปุ่นค่ะ เริ่มแรกเลยเราต้องทำการจดทะเบียนสมรส กับสามีเราค่ะ เราเตรียมเอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนสมรสที่เขตญี่ปุ่น
(เขตที่เราจดคือเขตเซตางายะ โตเกียวค่ะ) เอกสารมี
1.สำเนาทะเบียนบ้าน (เป็นแบบรับรองทะเบียนราษฏรคัดสำเนาจากที่เขตค่ะ เขตไหนก็ได้นะคะ)
2.ขอใบรับรองโสดค่ะ (อันนี้เรามอบอำนาจให้แม่ไปขอค่ะ มีพยานสองคน ผู้ใหญ่บ้าน และแม่เราผู้รับมอบอำนาจ รวมทั้งหมด4คนค่ะ ) แต่ละเขตจะไม่เหมือนกันนะคะ ให้โทรไปถามฝ่ายทะเบียนที่เขตที่เรามีทะเบียนบ้านก่อนค่ะ ใบรับรองโสดต้องขอที่อำเภอหรือเขตที่เรามีทะเบียนบ้านอยู่เท่านั้นนะคะ
3.หนังสือปฎิญาณตน (ดูตัวอย่างการเขตจากเว็ปสถานทูตญี่ปุ่นค่ะ)
4. ใบขอจดทะเบียนสมรส ของเราดาวน์โหลดมาจากในเว็ปค่ะ เลือกเอาลายที่ชอบค่ะ เอกสารส่วนของเรากรอกเองค่ะ กรอกเสร็จก็เซ็นชื่อ ใช้ปากกาสีดำเขียนนะคะ สามีก็กรอกเองค่ะ ถ้าใครเขียนไม่เป็นก็ให้สามีเขียนให้ค่ะ
5.สำเนาหนังสือเดินทางเราและสามี สำเนาบัตรประชาชนเรา
*เอกสารข้อ1,2,3ให้แปลเป็นภาษาญี่ปุ่น ลงวันที่ให้เรียบร้อยนะคะ*
หลังจากได้เอกสารหลักๆครบแล้วก็ส่งEMSไปบ้านสามีที่ญี่ปุ่นค่ะ (กรณีของเรา เราและสามีอยู่กรุงเทพค่ะ ต้องมอบอำนาจให้แม่สามีจดทะเบียนที่ญี่ปุ่นแทนค่ะ) เราส่งเอกสารไปญี่ปุ่นวันที่ 6 ตุลาคม 61 ถึงที่ญี่ปุ่นวันที่ 8 ตุลาคม 61 ถือว่าเร็วมากๆค่ะ แม่สามีว่างไปจดวันที่ 11 ตุลาคม 61 จดเสร็จ พอวันที่ 12 ตุลาคม 61 แม่ก็ไปขอใบรับรองสมรสให้ค่ะ (ใบที่เราได้มาไม่ใช่ทะเบียนครอบครัวนะคะ เป็นแค่ใบรับรองเฉยๆ ถ้าใครกลับมาจดสมรสที่ไทยเราแนะนำ ให้ขอทะเบียนครอบครัวมานะคะ ) พอจดทะเบียนสมรสเสร็จเรียบร้อยแล้ว แม่ก็ฝากเพื่อนสามีมาให้ในวันที่ 16 พอได้ใบมาบ่ายวันที่ 16 เราก็ไปที่สถานทูตญี่ปุ่นเลยค่ะ แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าขอใบรับรองไปจดสมรสที่เขตค่ะ ไปถึงเจ้าหน้าที่บอกว่าใบที่เราเอามามันทำไม่ได้ เราก็ดื้อค่ะ โทรหาแฟน ให้แฟนคุย สรุปคือถ้าจะทำ ก็ทำได้แค่ใบรับรองการแปลเท่านั้น ไม่ได้ใบรับรองการจดสมรสค่ะ (ทางที่ดีคือตอนจดญี่ปุ่นขอใบทะเบียนครอบครัวมาดีที่สุดค่ะ) เจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่าบางเขตก็จดได้ บางเขตก็จดไม่ได้ เราก็ยืนยันจะทำค่ะ (เพราะเราไม่มีเวลาค่ะ วีซ่าสามีเราจะหมดค่ะ)ก่อนทำเขาให้เราแปลเป็นภาษาอังกฤษมาเองนะคะ (เรากลับถึงบ้านเราติดต่อช่างแปล แปลเอกสารญี่ปุ่นเป็นอังกฤษค่ะ ค่าเสียหาย 900บาท ได้รับเอกสาร
วันที่ 17 ช่วงบ่ายๆ ค่ะ พอเช้าวันนั้นประมาน 11 โมง นักแปลบอกได้เอกสารแล้ว เราเลยเอาไปยื่นเลยค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่าจะโทรแจ้งค่ะ สรุปเช้า
วันที่ 18 แปดโมงเช้า สถานทูตโทรมาค่ะบอกเอกสารเราต้องแก้ไข วันนั้นเราติดงานด้วย ขอลาพักก่อนเวลา ไป11 โมงค่ะ รับเอกสารมาแก้ไข บ่ายโมงครึ่งวันนั้น เราก็เอาเอกสารไปส่ง พร้อมชำระเงิน เอกสารของเราเป็นการรับรองการแปลค่ะ จ่ายไปทั้งหมด 2,700บาท 2ชุดค่ะ (เราคิดว่าถ้าเอาไปจดทะเบียนและขอวีซ่าต้องใช้คนละชุด แต่เราคิดผิดค่ะ เวลาขอวีซ่าเขาขออันที่เราใช้จดที่เขตค่ะ เราเสียตังฟรีๆเลยคะ เซ็ง) มาต่อค่ะ
เช้าวันศุกร์ที่19 เราไปรับเอกสารที่สถานทูตญี่ปุ่นเราต้องเอามาแปลไทย แปลไทยเสร็จเราต้องไปรับรองเอกสารที่นิติกรณ์ ที่MRTคลองเตย เปิดใหม่เลยค่ะ ค่าแปลเอกสาร 2 ใบ 700 บาทค่ะ รับรอง 2ชุด 800 บาทค่ะ เจ้าหน้าที่นัดมารับวันที่24ตุลาคมค่ะ ติดวันปิยะอีก แงๆ 555
เช้าวันที่24เราไปรับเอกสารลุ้นมากๆค่ะ ว่าจะได้แก้เอกสารไหม สรุปผ่านฉลุยค่ะ พอได้เอกสาร ( เอาเอกสารมาถ่ายเก็บไว้ซัก2-3ชุดนะคะ ) ถ่ายเอกสารเรียบร้อยแล้ว เราขับรถไปเขตบางรักเลยค่ะ ไปคนเดียวค่ะ เจ้าหน้าที่ ที่เขตบอกว่าเอกสารเราใช้ไม่ได้ เรานี่แทบจะร้องไห้เลยค่ะ ยืนเถียงเจ้าหน้าที่ตั้งนานสุดท้ายเขาก็เอาเอกสารให้หัวหน้าดู สรุปคือถ้าอยากทำต้องร้องกระทรวงอะไรไม่รู้ค่ะ เราไม่อยากพูดมากขอบคุณแล้ว ถือเอกสารออกมาเลยค่ะ ตอนนั้นคือหัวมึนตึบหมดแล้วคะ (คุยคนเดียวว่าเราต้องสู้ๆ555) ขับรถไปเขตใกล้ที่สุดคือเขตสัมพันธวงค์ค่ะ เจ้าหน้าที่ถามอยู่แถวนี้หรอ เราบอกว่าเรามาสรรพากร เราเลยแวะมาที่นี่ (ไม่อยากไปเขตบางรัก คนเยอะ555) เจ้าหน้าที่ก็ดูเอกสารแปปเดียว บอกเอาพยานสองคน (เรานี่ รีบวิ่งออกไปร้านค้าเลยค่ะ) ให้แม่ค้ามาเป็นพยานให้ สรุปวันนั้นเราก็จดทะเบียนได้แล้วค่ะ เย้ๆๆๆๆ สรุประยะเวลาในการขอเอกสาร แปลเอกสาร ทำเรื่องทั้งที่ไทยและญี่ปุ่น รวมทั้งหมดเป็นเวลา 36 ค่ะ
ต่อไปหลังจากเราจดทะเบียนสมรส ได้ คร.22 มาเรียบร้อยแล้ว แฟนเราไม่มีวีซ่าเข้ามานะคะ เป็นวีซ่าแบบ ผ.30 /ผผ.30 ( Visa on arrival ) หมดวันที่ 11 พฤศจิกายน 61 มาถึงเวลาที่เราเตรียมเอกสารแล้วค่ะ
เอกสารขอรับและเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา (รหัส O ) กรณีสมรส (การขอแบบนี้ต้องมีวีซ่ามากกว่า15วันนะคะ น้อยกว่านั้นไม่ได้ค่ะ)
1.แบบฟอร์ม ตม.87
2.สำเนาหนังสือเดินทาง (ถ่ายมาทุกหน้าค่ะ)
3.รูปถ่าย2 นิ้ว1 รูปเงิน 2,000 บาท
4.สำเนาบัตรประชาชนภรรยาพร้อมตัวจริง สำเนาทะเบียนบ้าน
5.ใบทะเบียนสมรสตัวจริง ,ใบรับรองที่ได้จากสถานทูตพร้อมรับรองนิติกรณ์, คร.22 ตัวจริงและสำเนา (ใบหย่าตัวจริงและสำเนา)
6.หนังสือรับรองเงินฝากมีเงินอยู่ 400,000บาท (เป็นชื่อสามีเพียงคนเดียว)
7.สมุดบัญชีเล่มจริง (รวมทั้งถ่ายสำเนาทุกหน้า) เป็นชื่อสามีเพียงคนเดียว
8.แผนที่บ้าน
9.รูปถ่ายในบ้าน ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หน้าบ้าน หน้าตึก หน้าเลขที่บ้าน (รูปคู่เวลาเราไปเที่ยว) ปริ้นสีหน้าละ 2รูป
10.สัญญาเช่ามีชื่อของสามีหรือภรรยาก็ได้ค่ะ
11.ใบแจ้งคนต่างด้าวพักอาศัย ตม.30 ต้องมี (ให้แจ้งวันที่ต่างด้าวเข้าพักภายใน 24 ชั่วโมง)
12.ใบรับรองการทำงานของภรรยา สัญญาจ้างภรรยา (กรณีที่สามีเราไม่ได้ทำงาน) ของเราสามีไม่ได้ทำงานค่ะ55
เอกสารของเรามีแค่นี้ค่ะ ตอนเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ ก็แค่ถามเราเจอกันที่ไหน อยู่กันกี่ปีแล้ว ทำไมถึงแต่งงาน ไม่มีอะไรมากค่ะ
กรณีเราเจ้าหน้าที่บอกจะมีเจ้าหน้าที่ไปตรวจบ้านนะ แค่นี้ค่ะ เป็นอันเรียบร้อย เราไปยื่นวันที่ 26ตุลาคม 61 เจ้าหน้าที่นัดไปฟังผลวันที่ 9 พฤศจิกายน ค่ะ
วันที่29ตุลาคม61 เจ้าหน้าที่ ตม . โทรมาค่ะ แต่วันนั้นเรามีสอบที่มหาลัย เราเลยขอเจ้าหน้าที่ว่าเป็นพรุ่งนี้ได้ไหม เจ้าหน้าที่โอเคค่ะ
วันที่ 30 ตุลาคม 61 เจ้าหน้าที่โทรหาเราประมาณ 19.30 เราอยู่บ้านค่ะ เจ้าหน้าที่ก็สอบถามเรา สอบถามพยาน เราให้พี่ยามที่ตึกนั่นแหละค่ะ เป็นพยานเซ็นรับรองให้ เจ้าหน้าที่ก็ขอดูหนังสือเดินทางแฟน ถ่ายทะเบียนสมรส สมุดบัญชี ถ่ายสัญญาเช่า ถ่ายรูปที่เราเอาแขวงผนังโชว์ ถ่ายรูปเราคู่สามีในบ้าน และถ่ายรูปเราสามีและพยานที่ประตูบ้านให้เห็นเลขที่บ้าน เจ้าหน้าที่ใจดีค่ะ เป็นกันเองมากๆ เรางี้ปลื้มเลยคะ เรียบร้อยค่ะ ไม่ยากเลย
วันที่ 9 พฤศจิกายน 61แฟนเราไปแต่เช้าค่ะ สายๆ ก็ได้รับแสตมป์วีซ่าภรรยาไทยค่ะ
พึ่งได้วันนี้สดๆร้อนๆเลยนะคะ ลงวันที่ 26.10.61หมดวันที่ 23.01.62 ค่ะ เรากะว่าจะไปต่อวีซ่า1ปี ให้สามีวันที่ 13เดือนหน้าค่ะ ต่อได้ก่อนวีซ่าหมด 45 วันค่ะ หวังว่าสิ่งที่เราบอกมานี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนไม่มากก็น้อยค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ