หาต้นตอแห่งเหตุ แล้วสำนึก แก้ทุกข์ ด้วยหลักอริยสัจ ๔
๑. ฉลาดเกิน เลยรู้มากแต่ไม่จริง
มักทำให้พลาดและเสียโอกาส
สำคัญตนผิด
แก้ไขเหตุแห่งทุกข์ไม่ได้ เดือดร้อน
๒. เราต้องรู้จักป้องกันไม่ใช่รอการแก้ไขถึงจะทำบุญ
ทำทานแค่ไหนก็แก้ทุกข์ไม่ได้
หากไม่รู้เหตุแห่งทุกข์นั้น
ต้องรู้เหตุแห่งทุกข์นั้น
ถึงจะแก้ได้
๓. เรารู้ว่าผิด
แต่ไม่รู้สาเหตุแห่งการทำผิด
แก้ผิดนั้นไม่ได้
หากไม่รู้เหตุมาแห่งผิดนั้น
ต่อให้สำนึก
แต่ก็จะทำผิดซ้ำซาก
สะสมความเดือดร้อนวุ่นวาย
๔. อริยสัจ ๔ แก้ทุกข์ได้
แต่ต้องรู้จักพิจารณาให้ถึงต้นตอมูลฐานแห่งเหตุ
จึงจะแก้ไขได้จริง
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
หาต้นตอแห่งเหตุ แล้วสำนึก แก้ทุกข์ ด้วยหลักอริยสัจ ๔
๑. ฉลาดเกิน เลยรู้มากแต่ไม่จริง
มักทำให้พลาดและเสียโอกาส
สำคัญตนผิด
แก้ไขเหตุแห่งทุกข์ไม่ได้ เดือดร้อน
๒. เราต้องรู้จักป้องกันไม่ใช่รอการแก้ไขถึงจะทำบุญ
ทำทานแค่ไหนก็แก้ทุกข์ไม่ได้
หากไม่รู้เหตุแห่งทุกข์นั้น
ต้องรู้เหตุแห่งทุกข์นั้น
ถึงจะแก้ได้
๓. เรารู้ว่าผิด
แต่ไม่รู้สาเหตุแห่งการทำผิด
แก้ผิดนั้นไม่ได้
หากไม่รู้เหตุมาแห่งผิดนั้น
ต่อให้สำนึก
แต่ก็จะทำผิดซ้ำซาก
สะสมความเดือดร้อนวุ่นวาย
๔. อริยสัจ ๔ แก้ทุกข์ได้
แต่ต้องรู้จักพิจารณาให้ถึงต้นตอมูลฐานแห่งเหตุ
จึงจะแก้ไขได้จริง
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์