[Eurovision Magazine] 42 ประเทศเข้าร่วมแข่งปีหน้า/ อัพเดทยูโรวิชั่นเอเชีย/ เปิดตัว 6 คนสุดท้ายชิงตัวแทนเยอรมนี &more


การประกวดเพลงชิงชนะเลิศแห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 64 (ยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์ 2019)
วันที่ 14, 16 และ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
ณ เทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล





วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561


เหลือเวลาอีก 186 วัน จะถึงรอบรองชนะเลิศกลุ่มแรก
เหลือเวลาอีก 188 วัน จะถึงรอบรอวชนะเลิศกลุ่มสอง
เหลือเวลาอีก 190 วัน จะถึงรอบชิงชนะเลิศ




สวัสดีค่ะสาวกยูโรวิชั่นและผู้อ่านทุกคน
กลับมาพบกับกระทู้ Eurovision Magazine กันอีกครั้งนะคะ
กลับมาครั้งนี้มีข่าวคราวมากมาย และมีข่าวสำคัญที่ต้องนำเสนอในกระทู้ครั้งนี้นะคะ
นอกจากนี้เรื่องราวสารพันในยูโรวิชั่นก็ยังมีให้เหมือนเดิม

เรามาเริ่มข่าวแรกเรื่องความพร้อมของเจ้าภาพอิสราเอลกันก่อนนะคะ
เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา เวปยูโรวิชั่นได้นำเสนอข่าวว่าอีบียูได้ประกาศประเทศที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในปีหน้า มีจำนวน 42 ประเทศ ซึ่งล้วนเป็นประเทศที่แข่งในปีนี้ ยกเว้นบัลแกเรียที่ขอถอนตัวเนื่องจากปัญหาทางการเงิน โดยมีประเทศและสถานีโทรทัศน์ที่รับผิดชอบดังนี้

Albania (RTSH)
Armenia (AMPTV)
Australia (SBS)
Austria (ORF)
Azerbaijan (İctimai TV)
Belarus (BTRC)
Belgium (RTBF)
Croatia (HRT)
Cyprus (CYBC)
Czech Republic (ČT)
Denmark (DR)
Estonia (ERR)
Finland (YLE)
France (FT)
FYR Macedonia (MKRTV)
Germany (ARD/NDR)
Georgia (GPB)
Greece (ERT)
Hungary (MTVA)
Iceland (RÚV)
Ireland (RTÉ)
Israel (IPBC/KAN)
Italy (RAI)
Latvia (LTV)
Lithuania (LRT)
Malta (PBS)
Moldova (TRM)
Montenegro (RTCG)
The Netherlands (AVROTROS)
Norway (NRK)
Poland (TVP)
Portugal (RTP)
Romania (TVR)
Russia (RTR)
San Marino (SMRTV)
Serbia (RTS)
Slovenia (RTVSLO)
Spain (RTVE)
Sweden (SVT)
Switzerland (SRG/SSR)
Ukraine (UA: PBC)
United Kingdom (BBC)


อย่างไรก็ตาม หลายคนที่คาดหวังว่าจะได้เห็นคาซัคสถาน โคโซโว และลิตเตนสไตน์เข้าร่วมการแข่งขันครั้งแรกในปีหน้ามีอันต้องผิดหวัง เพราะอีบียูไม่บอกถึงประเทศดังกล่าวแต่อย่างใด



ส่วนในเรื่องความพร้อมอื่นๆของเจ้าภาพ อิสราเอลได้เปิดเผยสถานที่ในการจัดการจับฉลากแบ่งสาย และสถานที่จัดพิธีเปิดแล้ว

โดยสถานที่จัดการจับฉลากแบ่งสายและพิธีส่งมอบการเป็นเจ้าภาพอย่างเป็นทางการจะจัดที่ศาลาว่าการเทลอาวีฟอาคารเก่า หรือ Beit Ha’ir ที่มีอายุเกือบ 100 ปี โดยปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งในเขตอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์ในเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และได้ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์การตั้งรกรากของชาวยิวในดินแดนปาเลสไตน์ ส่วนวันที่จะจัด จะจัดในวันที่ 28 มกราคมปีหน้า




ส่วนสถานที่จัดพิธีเปิด จะจัดที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเทลอาวีฟในวันที่ 12 พฤษภาคมปีหน้า




อิงข้อมูลจาก esckaz


ทีนี้มาดูแผนที่กันอีกครั้ง หลังเพิ่มสถานที่จัดอีกสองที่ ก็จะออกมาแบบนี้ค่ะ
ซึ่งจะกระจุกในเขตเมืองเก่าและบริเวณใกล้ที่จัดหมู่บ้านยูโรวิชั่นที่มีบรรยากาศริมทะเลสวยงาม





นอกจากเรื่องความพร้อมของอิสราเอลและจำนวนประเทศที่จะเข้าร่วมการแข่งปีนี้แล้ว ยังมีข่าวเรื่องดราม่าจากกลุ่มเคลื่อนไหวสนับสนุนปาเลสไตน์ที่ออกมาเคลื่อนไหวบอยคอตยูโรวิชั่นปีหน้าด้วยนะคะ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่ม BDS ที่เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านอิสราเอลจากกรณีปาเลสไตน์ได้ใช้เรื่องการเป็นเจ้าภาพยูโรวิชั่นของอิสราเอลมาใช้ในประเด็นทางการเมือง และมีการให้คนทั่วโลกลงชื่อบอยคอตทางออนไลน์ และผลคือมีข้อความบอตจำนวนมากจากกลุ่มนี้สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้เนตด้วย

ตัวอย่างเช่น...



ไม่ใช่แค่นั้น กลุ่มนี้ได้ปลุกปั่นให้ไปก่อกวนคอนเสิร์ตของเน็ตต้า แชมป์ปีนี้จากอิสราเอลที่จะมาเล่นคอนเสิร์ตในหลายเมืองในยุโรปอีกด้วย จนทำให้มีท่าที่ของยอน โอลาซาน หัวหน้าการจัดยูโรวิชั่นจากอีบียูได้ออกมาพูด โดยเวป นสพ. Haaretz ได้ไปสัมภาษณ์เขาในเรื่องนี้เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา


© Haaretz



โดยยอนได้บอกว่า "ถ้าคุณเป็นนักเคลื่อนไหวและมาอิสราเอลเพื่อใช้เรื่องยูโรวิชั่นมาแสงผลประโยชน์ทางจุดยืนของคุณ เราว่ามันไม่ใช่เรื่องที่สร้างสรรค์เท่าไหร่นะ" ซึ่งเจ้าตัวออกประกาศกร้าวว่าอย่าเอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวกับยูโรวิชั่นในครั้งนี้ นอกจากนี้เขาได้กล่าวว่า "ทางที่ดีที่สุดที่จะนำเสนออิสราเอลสู่สายตาโลกคืออิสราเอลจะต้องดำเนินการเป็นเจ้าภาพโดยปราศจากการแทรกแซงและการดำเนินการทางการเมือง และคนทั่วโลกจะได้เห็นว่ายูโรวิชั่นครั้งนี้เป็นการแข่งขันทางดนตรีจริงๆ" ซึ่งก็เป็นการเตือนรัฐบาลอิสราเอลไปอีกทางด้วย


ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าอิสราเอลจะสามารถเอาอยู่ในเรื่องนี้ และจะสามารถดำเนินการเป็นเจ้าภาพได้อย่างราบรื่นได้หรือไม่


นอกจากการเคลื่อนไหวของกลุ่ม BDS แล้ว ที่ไอร์แลนด์ก็มีการเคลื่อนไหวเหมือนกัน โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา พรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน มีการจัดการประชุมของพรรค ซึ่งมีการนำเรื่องบอยคอตยูโรวิชั่นที่อิสราเอลมาเป็นวาระในการประชุมด้วย




แต่ความโป๊ะยังกะพวกเขาไม่ได้อัพเดทข่าวสารความเป็นไปของโลกซะเลย เพราะพวกเขาบอกว่าจะบอยคอตถ้าอิสราเอลจะจัดยูโรวิชั่นที่เยรูซาเล็ม ทั้งๆที่เขาเลือกเมืองเจ้าภาพแล้วที่เทลอาวีฟเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา





เมื่อพูดถึงเรื่องเยรูซาเล็มที่หวังจะได้เป็นเจ้าภาพแล้ว เรานึกถึงเน็ตต้าขึ้นมาทันทีเลยล่ะค่ะ ถ้ายังจำกันได้ตอนนางได้แชมป์ใหม่ๆ นางบอกว่าปีหน้าเจอกันที่เยรูซาเล็ม ล่าสุดนางมาเปิดใจในเรื่องนี้ โดยให้สัมภาษณ์ในเวปเกย์สตาร์นิวส์ โดยเธอบอกว่า...



"ตอนฉันเป็นเด็ก ฉันได้รับการปลูกฝังว่าเมืองหลวงอิสราเอลคือที่เยรูซาเล็ม ฉันคิดว่าการเป็นเจ้าภาพก็ต้องเป็นที่เมืองหลวงสิ"

" แต่พอหลังพูดประโยคนั้นไป เราหางานเข้าให้ตัวเองซะแล้ว ฉันไม่คิดว่ามันจะทำให้ถูกพูดถึงกันอย่างดุเดือด แต่ฉันไม่สนว่าเขาจะพูดยังไงค่ะ"

" แต่ยังไงยูโรวิชั่นปีหน้าต้องจัดที่อิสราเอล ถ้าคำนวนระยะทางระหว่างสองเมือง ขับรถไปเพียง 45 นาทีเอง"


นอกจากนี้นางบอกว่านางจะไม่กลับไปแข่งยูโรวิชั่นอีก เพราะนางไม่อยากเป็นเหมือนศิลปินคนอื่นที่ต้องอาถรรพ์ที่ไม่มีใครลบได้ นอกจากจอห์นนี่ โลแกน (แชมป์สองสมัยคนแรกและคนเดียว จากไอร์แลนด์ในปี 1980 และ 1987) และนอกจากนั้นเธอพูดถึงความชอบเจป๊อปของนางที่เป็นที่มาชุดในเพลง Toy จนมีคนวิจารณ์เรื่องการยึดถือวัฒนธรรมต่างชาติของนาง และเรื่องการเอาชนะคำสบประมาทที่เธอเจอมาทั้งชีวิต สามารถดูบทสัมภาษณ์เพิ่มเติมในเวปที่แปะให้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่