ปลายปี 2018 Apple เปิดตัว iPhone 3 รุ่น คือ iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR
ซึ่งแน่นอนว่าผมเป็น Fan Apple ก็เลยจัดเจ้า iPhone XS Max มาแล้ว
แต่ว่าเจ้า XR เองก็น่าสนใจดีเหมือนกัน ก็เลยสั่งมาลองเล่นดู ทั้งหมดที่จะเขียนต่อไปนี้ เป็นความรู้สึกล้วนๆ ของผมกับเจ้า iPhone XR นะครับ
เริ่มต้น
- ผมสั่ง iPhone XR ผ่าน Apple Store Korea (ตอนนี้ผมอยู่เกาหลีใต้ ไม่ได้เป็นผีน้อยนะเออ)
- ได้รับเครื่องภายใน 4 วัน (สั่งวันที่ Nov 2, 2018 ได้รับวันที่ Nov 6, 2018 เนื่องจากติดวันหยุด)
- ผมให้ที่อยู่โรงแรมไปใน Shipping Address
- วันที่เค้ามาส่ง ไม่มีใครโทรหาเลย มีแค่ข้อความภาษาเกาหลีส่งมาบอกว่า ฝากไว้กับคนชื่อ XXX (ใครฟะ)
- มารู้ภายหลังว่าคุณ XXX คือ Reception โรงแรม
- ราคารุ่น 128 GB ประมาณ 32000 บาท (แพงกว่าที่ไทยนิดนึง)
แกะกล่อง

- iPhone XR ตัวกล่องออกแบบมาค่อนข้างหลากสี
- สำหรับผมสั่งสีขาวมา หน้ากล่องก็จะเป็น Wallpaper ที่ออกแบบมาใช้ กับ iPhone XR สีขาว ลองเข้าไปดูคลิปแกะกล่องด้านล่างครับ
บอกเล่าความรู้สึก
- ตัวเครื่องตอนยังไม่เปิดสวยดีครับ ด้านหลังเหมือน iPhone 8 เลย แต่ด้านหน้าเป็น iPhone X ไม่มีปุ่ม Home
- เครื่องหนากว่า iPhone X/XS/XS Max นิดนึง กล้องหลังนูนหนาพอๆ กับเหรียญบาท
- อย่างที่รู้ ไม่มี Adapter lighting to 3.5 mm แถมมาให้แล้ว
เปิดเครื่องลองเล่น

- แรกเริ่มเปิดเครื่องขึ้นมา ความรู้สึกแรกเลยคือ ขอบจอมันจะหนาไปไหน
- จอ 6.1 จริงๆ ก็ไม่เล็ก แต่พอเจอขอบหนาๆ เข้าไป มันทำให้รู้สึกว่าจอมันเล็ก
- ขอบเครื่องเป็นอลูมิเนียม ข้อดีคือ มันไม่เป็นรอยขนแมว แต่ข้อเสียคือ มันไม่แข็งแรงเท่า
- เข้าใจว่าเป็นเหตผลที่ทำให้ iPhone XR หนากว่า X รุ่นอื่นๆ
- Pixel Density 326 ppi ไม่ได้แย่ เอาจริงๆ มองไม่เห็น Pixel
- การแสดงสีของจอทำได้ดีพอๆ กับ iPhone XS Max
- ความสว่างจอปรับสูงสุด แต่ยังสว่างไม่เท่า XS Max
- iPhone ก็คือ iPhone เท่าที่ผมใช้งาน iPhone X,XR,XS Max ทั้งหมดนั้นใช้งานได้ไหลลื่นไม่ต่างกันเลย แต่การสแกนใบหน้านั้น iPhone XS Max ทำได้ไวที่สุด
- กล้อง วิดีโอคุณภาพทำได้ดีพอๆ กับ iPhone XS Max
- กล้องถ่ายรูป เข้าใจว่าหลักๆ พัฒนาเรื่อง HDR และภาพถ่ายในที่แสงน้อย ลองดูภาพที่มาจากกล้องด้านล่างครับ

- โหมด Portrait ของกล้องหลัง ใช้ได้กับคนเท่านั้น
- การใช้งานโดยรวมเหมือน iPhone X เลย
คลิปรีวิวครับ
ทำไมต้อง Return
อย่างที่บอก ผมมี iPhone XS Max อยู่แล้ว และ iPhone XR ก็ไม่ได้น่าใช้เท่าไหร่เนื่องจาก
- ตัวเครื่องที่มีขอบจอที่หน้า พอเปิดจอมาแล้วไม่สวยเลย
- ออกแบบเครื่องหลากสีมาก็ไร้ความหมาย ถ้าตราบใดที่เรายังใส่เคส
- ราคา ผมมองว่า มันแพงนะ ถ้าจะซื้อรุ่นนี้ ถ้าคุณมีเงิน 30,000 เก็บเพิ่มอีกหน่อยไปเอา XS ดีกว่า หรือจะหาโปรโมชั่นดีๆ ของ iPhone X ก็ได้ ความเร็วไม่ต่างกันมาก
- หรือถ้าอยากประหยัด iPhone 8 plus เป็นทางเลือกที่ดูดีกว่านะ จอละเอียดกว่า กล้องหลังคู่ แถมเดี๋ยวนี้หาโปรโมชั่นดีๆ ได้ราคาไม่เกิน 20,000
- เรื่องความหลากสี คุณซื้อ iPhone X,XS ใส่เคสสีได้เหมือนกัน ใช่ว่าซื้อ XR มาแล้วจะไม่ใส่เคส
สรุปคือ iPhone XR เป็นมือถือที่ทำมาดีครับ แต่มีปัญหาที่การจัดสรรราคา เพราะผมมองไม่เห็นเลยว่ารุ่นนี้จะขายใคร
งั้นก็ Return เลยแล้วกัน

ไม่ได้เขียนรีวิวนาน ถ้าผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะครับ
ถ้ามีอะไรใหม่ ผมจะพยายามมารีวิวให้อ่านกัน ยังไงฝากทุกท่านติดตามด้วยนะครับ
https://www.youtube.com/c/iAroundTech
[CR] Review iPhone XR ที่เกาหลีใต้ ตั้งแต่เริ่มสั่ง Online ไปจนขอ Return
ซึ่งแน่นอนว่าผมเป็น Fan Apple ก็เลยจัดเจ้า iPhone XS Max มาแล้ว
แต่ว่าเจ้า XR เองก็น่าสนใจดีเหมือนกัน ก็เลยสั่งมาลองเล่นดู ทั้งหมดที่จะเขียนต่อไปนี้ เป็นความรู้สึกล้วนๆ ของผมกับเจ้า iPhone XR นะครับ
เริ่มต้น
- ผมสั่ง iPhone XR ผ่าน Apple Store Korea (ตอนนี้ผมอยู่เกาหลีใต้ ไม่ได้เป็นผีน้อยนะเออ)
- ได้รับเครื่องภายใน 4 วัน (สั่งวันที่ Nov 2, 2018 ได้รับวันที่ Nov 6, 2018 เนื่องจากติดวันหยุด)
- ผมให้ที่อยู่โรงแรมไปใน Shipping Address
- วันที่เค้ามาส่ง ไม่มีใครโทรหาเลย มีแค่ข้อความภาษาเกาหลีส่งมาบอกว่า ฝากไว้กับคนชื่อ XXX (ใครฟะ)
- มารู้ภายหลังว่าคุณ XXX คือ Reception โรงแรม
- ราคารุ่น 128 GB ประมาณ 32000 บาท (แพงกว่าที่ไทยนิดนึง)
แกะกล่อง
- สำหรับผมสั่งสีขาวมา หน้ากล่องก็จะเป็น Wallpaper ที่ออกแบบมาใช้ กับ iPhone XR สีขาว ลองเข้าไปดูคลิปแกะกล่องด้านล่างครับ
บอกเล่าความรู้สึก
- ตัวเครื่องตอนยังไม่เปิดสวยดีครับ ด้านหลังเหมือน iPhone 8 เลย แต่ด้านหน้าเป็น iPhone X ไม่มีปุ่ม Home
- เครื่องหนากว่า iPhone X/XS/XS Max นิดนึง กล้องหลังนูนหนาพอๆ กับเหรียญบาท
- อย่างที่รู้ ไม่มี Adapter lighting to 3.5 mm แถมมาให้แล้ว
เปิดเครื่องลองเล่น
- จอ 6.1 จริงๆ ก็ไม่เล็ก แต่พอเจอขอบหนาๆ เข้าไป มันทำให้รู้สึกว่าจอมันเล็ก
- ขอบเครื่องเป็นอลูมิเนียม ข้อดีคือ มันไม่เป็นรอยขนแมว แต่ข้อเสียคือ มันไม่แข็งแรงเท่า
- เข้าใจว่าเป็นเหตผลที่ทำให้ iPhone XR หนากว่า X รุ่นอื่นๆ
- Pixel Density 326 ppi ไม่ได้แย่ เอาจริงๆ มองไม่เห็น Pixel
- การแสดงสีของจอทำได้ดีพอๆ กับ iPhone XS Max
- ความสว่างจอปรับสูงสุด แต่ยังสว่างไม่เท่า XS Max
- iPhone ก็คือ iPhone เท่าที่ผมใช้งาน iPhone X,XR,XS Max ทั้งหมดนั้นใช้งานได้ไหลลื่นไม่ต่างกันเลย แต่การสแกนใบหน้านั้น iPhone XS Max ทำได้ไวที่สุด
- กล้อง วิดีโอคุณภาพทำได้ดีพอๆ กับ iPhone XS Max
- กล้องถ่ายรูป เข้าใจว่าหลักๆ พัฒนาเรื่อง HDR และภาพถ่ายในที่แสงน้อย ลองดูภาพที่มาจากกล้องด้านล่างครับ
- โหมด Portrait ของกล้องหลัง ใช้ได้กับคนเท่านั้น
- การใช้งานโดยรวมเหมือน iPhone X เลย
คลิปรีวิวครับ
ทำไมต้อง Return
อย่างที่บอก ผมมี iPhone XS Max อยู่แล้ว และ iPhone XR ก็ไม่ได้น่าใช้เท่าไหร่เนื่องจาก
- ตัวเครื่องที่มีขอบจอที่หน้า พอเปิดจอมาแล้วไม่สวยเลย
- ออกแบบเครื่องหลากสีมาก็ไร้ความหมาย ถ้าตราบใดที่เรายังใส่เคส
- ราคา ผมมองว่า มันแพงนะ ถ้าจะซื้อรุ่นนี้ ถ้าคุณมีเงิน 30,000 เก็บเพิ่มอีกหน่อยไปเอา XS ดีกว่า หรือจะหาโปรโมชั่นดีๆ ของ iPhone X ก็ได้ ความเร็วไม่ต่างกันมาก
- หรือถ้าอยากประหยัด iPhone 8 plus เป็นทางเลือกที่ดูดีกว่านะ จอละเอียดกว่า กล้องหลังคู่ แถมเดี๋ยวนี้หาโปรโมชั่นดีๆ ได้ราคาไม่เกิน 20,000
- เรื่องความหลากสี คุณซื้อ iPhone X,XS ใส่เคสสีได้เหมือนกัน ใช่ว่าซื้อ XR มาแล้วจะไม่ใส่เคส
สรุปคือ iPhone XR เป็นมือถือที่ทำมาดีครับ แต่มีปัญหาที่การจัดสรรราคา เพราะผมมองไม่เห็นเลยว่ารุ่นนี้จะขายใคร
งั้นก็ Return เลยแล้วกัน
ไม่ได้เขียนรีวิวนาน ถ้าผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะครับ
ถ้ามีอะไรใหม่ ผมจะพยายามมารีวิวให้อ่านกัน ยังไงฝากทุกท่านติดตามด้วยนะครับ
https://www.youtube.com/c/iAroundTech
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้