กระทู้ที่แล้วนะคะ
https://pantip.com/topic/38224989
*นี่คือเรื่องจริงทั้วหมดที่เราเจอมา ถ้าผิดพลาดอะไรยังไงขออภัยด้วย
*ขออภัยด้วยนะคะที่เราต้องมาตั้งในกระทู้คำถามเพราะเราไม่ได้เป็นสมาชิก
คือหลังจากคืนที่เราตั้งกระทู้ที่แล้ว เราก็ได้เริ่มทำที่ทุกคนแนะนำมา แต่ไม่ได้ทำทั้งหมดนะคะ เช่นไปทำบุญให้ เราไม่ค่อยมีเวลาเลยไม่ได้ไป แต่จะหาเวลาไปแน่นอนค่ะ. พอตกเย็นมาเราเลยตัดสินใจคุยกับแม่ค่ะว่าจะเอาพระไปไว้ที่เดิมดีไหม แม่เราก็ได้แต่หัวเราะ และบอกว่าให้ขอเลขขอเบอร์ ในใจเราตอนนั้นคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องตลกและมันไม่น่าขำด้วย เราเลยตอบกลับไปว่าแล้วไปเจอมาได้ไง แม่เลยบอกว่า
แม่: ไม่มีคนกราบไว้บูชาท่าน ท่านเลยออกมาให้เห็น เพราะท่านรู้ว่าจะมีคนมาเจอและจะดูแลท่านอย่างดี
ตอนนั้นเราไม่ได้เชื่ออะไรเยอะนะคะ เราได้แต่พยักหน้าแล้วล้มลงนอนต่อ เราคิดว่าถ้าคุยไปอีกคงไม่ได้รู้ความอะไรมากหรอก แถมไปเล่าให้ใครฟังใครเขาจะเชื่อ เรานั่งเล่นโทรศัพท์ไปสักพักเลยชี้ไปที่เราเจอเงาอีกครั้ง แต่แม่ก็ยังหัวเราะแล้วหาว่าเราบ้า ละเมอบ้างอะไรบ้าง คืนนั้นเราทั้งหรี่ตาทั้งนอนจ้องนาดนั้นเราคิดว่าไม่ได้ละเมอหรอก ชัดเจนขนาดนั้น. เราเลยตัดใจมานอนเล่นโทรศัพท์ต่อระหว่างนั้นก็ได้แต่คิดใจใจว่า
"ถ้าแน่จริงก็ออกมาให้เห็นอีกครั้งสิ" คืนนั้นเราไม่ได้ปิดไฟนอน เพราะกลัว

(ท้าเองดันกลัวเองซ่ะงั้น555) คืนนั้นเราไม่ได้เจออะไรนอกจากรู้สึกว่ามีคนมานอนข้างๆด้านซ้าย เพราะปกติเรานอนชิดขวาแต่วันนั้นไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกว่ามีคนมานอนด้วย แถมพอจะหันไปมองก็เหมือนมีคนไม่ให้มอง ขยับตัวไม่ได้ ได้แต่หันหน้าไปมองพอหันไปมอง็เหมือนว่าที่นอนมันบุบๆเหมือนมีคนนอนอยู่ เราเลยคิดว่ามันคงเป็นหมอนหรือตุ๊กตา แต่ตุ๊กตามันอยู่ข้างหัวเรานี่หว่า เราเลยเงียบสักพักคงคิดว่าตัวเองคิดมากไปเองเลยหลับตาลงเริ่มสวดมนต์นะโมสามจบ (เราจำได้แค่นี้ โดยตัวเราแล้วเป็นคนไม่ได้ชอบธรรมะเลย ตอนเด็กๆมักจะไปบวชชีพราหมณ์กับแม่ตลอด แต่พอมาหลังๆกลับไม่ชอบเอาซ่ะเลย และก่อนจะเกิดเรื่อง พี่ที่รู้จักก็มักจะชวนให้นั่งสมาธิ สวดมนต์บ้าง แต่เราก็ตอบว่า ไม่เป็นไร ตลอด) พอสวดเสร็จลืมตาขึ้นก็เป็นเหมือนเดิม คือตอนนั้นเราหงุดหงิดเล็กน้อยเลยหลับไป. พอตอนเช้าทุกอย่างก็ปกติเดินออกจากบ้านไปเรียน แต่พอเดินกลับบ้าน บ้าน(อพาร์ทเม้นท์) ที่เราอยู่จะอยู่ในซอย ตอนกลางคืนนี้ไม่มีไฟติดเลยและเปลี่ยวมาก พอเรากำลังเข้าซอย เราได้ยินเสียงเท้าคนเดินหนักๆเดินตามหลังเรามาตลอด พอมาถึงกลางทางเราเลยหันไปมองแต่ไม่มีคน นอกซ่ะจากมีผู้หญิงซึ่งอยู่โรงเรียนเดียวกันเดินนำหน้าไปไกลมาก เราหันไปรอบๆไม่มีคนอยู่จะว่าเป็นเสียงใบไม้ตกลงมาก็ไม่ใช่ จะว่าคิดหรือเป็นจิตปรุงแต่งขึ้นมาก็ไม่ใช่เพราะตอนนั้นเรากำลังเดินอ่านหนังสืออยู่ ใจจดจ่ออยู่แต่หนังสือตรงหน้า เมื่อเราเดินเข้าบ้านไปมีความรู้สึกหนึ่งคือเหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว ในบ้านเหมือนมีคนอยู่ตั้งสามถึงสี่คนเหมือนว่าเขารอเรากลับบ้านอยู่ แต่ตอนนั้นพ่อเลี้ยงเราออกไปหาพี่สาวเขาซึ่งอยู่อีกที่และไกลมาก ส่วนแม่เราออกไปทำงาน. เราเลยยืนอยู่ตรงประตูสักพัก ใจเริ่มเต้นผิดปกติ แต่ตอนนั้นเริ่มเลยทำตัวเหมือนนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเอากระเป๋าไปวาง แต่ตอนที่เราเดินผ่านเราหันไปจ้องพระที่เก็บมาได้สักพักนึง เพราะเหตุผลอะไรก็ไม่รู้เราได้แต่ยืนจ้อง ตอนนั้นเองเรารู้สึกเหมือนมีคนพยายามคุยกับเรา แต่เราไม่ได้ยินเสียงได้แต่ยืนจ้องแล้วเดินเข้าไปในห้อง ตอนนั้นเราเองก็เหมือนมีคนเดินตามมาเราตัดใจว่าจะมาก็มาแต่อย่ามายุ่งให้มันมากเกินไปเพราะไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัว แต่คือตอนนั้นใจเต้นแรงมาก. เรานอนลงเล่นโทรศัพท์ไปสักพักแล้วหลับไปเพราะเพลีย พอตื่นนอนมาประมาณสามทุ่ม เรารีบเดินไปปิดผ้าม่านที่ห้องนั่งเล่นเพราะมันมืดแล้ว พอเราเดินไป เชื่อไหมคะ ว่าผ้าม่านที่ปกติแล้วแม่เราจะเปิดไว้ทุกครั้ง ตอนนี้มันปิดมิดชิดมาก เมื่อเย็นวันนั้นเราเดินเข้าบ้านมาก็เห็นมันเปิดอยู่ แต่ทำไมตอนนี้มันปิด เรายืนมองอยู่สักพักจึงโทรหาพ่อเลี้ยงว่าตอนนี้อยู่ไหน เขาก็บอกว่ายังอยู่ที่บ้านพี่เขาอยู่เลยจะกลับอีกสี่วันเราเลยวางสายแล้วโทรหาแม่ แม่ก็บอกว่ายังอยู่ที่ทำงานวันนี้จะกลับดึกเพราะวันนี้วันเกิดเพื่อน และแม่ถามต่อว่ามีอะไร เราตอบไปว่าเปล่าไม่มีอะไรหรอกแค่สงสัยว่าทำไมวันนี้กลับดึก พอพูดจบเราเลยวางสายไป ตอนนั้นคือเรากลัวได้แต่ยืนแช่อยู่อย่างนั้นขนาดจะเดินหันหลังกลับเข้าห้องก็ไม่กล้าได้แต่ยืนมองผ้าม่าน เม่าตกใจ พอยืนอยู่สักพักเราเลยกลั้นใจเดินกลับห้องไปช้าๆ ในใจคืออยากวิ่งน่ะแต่วิ่งไม่ออก พอมาถึงในห้องก็นอนเล่นโทรศัพท์เผื่อจะหายแล้วเราก็เผลอหลับไปอีกครั้ง ในฝันตอนนั้นเราไปอยู่ที่ไหนสักที่เป็นป่าสีเขียวดอกไม้เต็มไปหมด มีแม่น้ำใหญ่พอสมควรตั้งอยู่ระหว่างกลางป่า น้ำใสมาก ตอนนั้นเองมีผู้ชายใส่เครื่องแบบไทย หน้าตาคมเดินมาหาเราแล้วยิ้มบางๆให้ แล้วพูดว่า "ถึงเวลาแล้วน่ะ กลับบ้านได้แล้ว พวกเรารออยู่" ไอ้เราก็งงว่าใครรออยู่ เลยตอบไปว่า "อยู่ได้สักพักด้วยได้ แต่คงกลับไปด้วยไม่ได้เพราะเราต้องไปเรียน" ผู้ชายคนนั้นไม่ได้แสดงท่าทีโกธรเราได้แต่ยิ้มบางๆแล้วพยักหน้า เขาเดินนำหน้าเราไปแล้วพูดคุยเรื่องราวต่างๆ จนรู้ตัวอีกทีเขาก็พาเราไปวัด แล้วบอกว่า "ทำบุญบ้างน่ะ และเจ้าคงอยู่ได้ไม่นานหรอก อีกไม่นานเจ้าก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม" เรานี่งงหนักกว่าเดิมอีก พอพูดจบเราก็สะดุ้งตื่นแล้วรีบหยุดสมุดมาจดเรื่องราวต่างๆในฝัน ตอนนั้นเราได้แต่นั่งคิดว่า
นี่ตรูไปทำอะไรให้ใครมาวะ?

ตอนนั้นคือเราได้แต่นั่งคิดว่ามาเตือนหรือจะมาเอาเราไปอยู่ด้วย
เดี๋ยวมาต่อน๊า
ขออภัยอีกครั้งถ้าติดแท็กผิด
เรื่องเล่าหลังจากคืนวันนั้น
*นี่คือเรื่องจริงทั้วหมดที่เราเจอมา ถ้าผิดพลาดอะไรยังไงขออภัยด้วย
*ขออภัยด้วยนะคะที่เราต้องมาตั้งในกระทู้คำถามเพราะเราไม่ได้เป็นสมาชิก
คือหลังจากคืนที่เราตั้งกระทู้ที่แล้ว เราก็ได้เริ่มทำที่ทุกคนแนะนำมา แต่ไม่ได้ทำทั้งหมดนะคะ เช่นไปทำบุญให้ เราไม่ค่อยมีเวลาเลยไม่ได้ไป แต่จะหาเวลาไปแน่นอนค่ะ. พอตกเย็นมาเราเลยตัดสินใจคุยกับแม่ค่ะว่าจะเอาพระไปไว้ที่เดิมดีไหม แม่เราก็ได้แต่หัวเราะ และบอกว่าให้ขอเลขขอเบอร์ ในใจเราตอนนั้นคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องตลกและมันไม่น่าขำด้วย เราเลยตอบกลับไปว่าแล้วไปเจอมาได้ไง แม่เลยบอกว่า
แม่: ไม่มีคนกราบไว้บูชาท่าน ท่านเลยออกมาให้เห็น เพราะท่านรู้ว่าจะมีคนมาเจอและจะดูแลท่านอย่างดี
ตอนนั้นเราไม่ได้เชื่ออะไรเยอะนะคะ เราได้แต่พยักหน้าแล้วล้มลงนอนต่อ เราคิดว่าถ้าคุยไปอีกคงไม่ได้รู้ความอะไรมากหรอก แถมไปเล่าให้ใครฟังใครเขาจะเชื่อ เรานั่งเล่นโทรศัพท์ไปสักพักเลยชี้ไปที่เราเจอเงาอีกครั้ง แต่แม่ก็ยังหัวเราะแล้วหาว่าเราบ้า ละเมอบ้างอะไรบ้าง คืนนั้นเราทั้งหรี่ตาทั้งนอนจ้องนาดนั้นเราคิดว่าไม่ได้ละเมอหรอก ชัดเจนขนาดนั้น. เราเลยตัดใจมานอนเล่นโทรศัพท์ต่อระหว่างนั้นก็ได้แต่คิดใจใจว่า
"ถ้าแน่จริงก็ออกมาให้เห็นอีกครั้งสิ" คืนนั้นเราไม่ได้ปิดไฟนอน เพราะกลัว
นี่ตรูไปทำอะไรให้ใครมาวะ?
เดี๋ยวมาต่อน๊า
ขออภัยอีกครั้งถ้าติดแท็กผิด