เพิ่งคบกับแฟนฝรั่งได้2เดือน แต่รู้สึกอยากเลิก ทำไงดีคะ?

สวัสดีค่ะ เรารู้สึกอยากเลิกกับแฟนมาหลายรอบแล้ว แล้วก็อยากจะระบายเรื่องนี้กับใครซักคน เรื่องของเราอาจจะยาวนิดนึงนะคะ แต่เราอยากให้ทุกคนได้อ่านจริงๆ

               คือเราคบกับแฟนมาได้ประมาณเกือบ2เดือนแล้ว เรากับแฟนอายุเท่ากัน แฟนเราเป็นคนอเมริกันค่ะ ตอนนี้เราเรียนhigh school เกรด12ที่อเมริกาอยู่ เรารู้จักกับแฟนเราผ่านเพื่อน เพราะเขามาขอสแนปแชทเราจากเพื่อน ตอนแรกๆช่วงวันหยุดหรือหลังเลิกเรียนพวกเราก็ไปhang outด้วยกันบ่อยๆเป็นกลุ่ม ก็มีทั้งเพื่อนเขาแล้วก็เพื่อนเรา ทุกครั้งที่ไป เขาก็จะขับรถไปรับไปส่งเราทุกครั้ง ขับรถตอนดึกแค่ไหนเขาก็ไม่เคยบ่น เวลาเราอยู่คนเดียวที่โรงเรียนเค้าก็ชอบเดินมาชวนคุยด้วย เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนดีมากๆ แล้วก็มองเขาในฐานะเพื่อนมาตลอด จนหลายๆคนรอบตัวเริ่มมาบอกเราว่าเขาชอบเรานะ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มาขอเราเป็นแฟน เราก็ตอบตกลงเพราะอยากลองให้โอกาสเขาดู


               แต่จริงๆแล้วแฟนเราไม่ใช่สเปคเราเลย เขาเป็นฝรั่งตัวเล็ก หุ่นกลางๆ ไม่อ้วน ไม่ผอม สูงประมาณ160กว่าๆ หน้าตากลางๆแล้วก็เล่นกีฬาอะไรไม่ได้เลย ออกแนวอ่อนแอหน่อยๆ เรากับแฟนไม่เคยมีแฟนมาก่อนทั้งคู่ เพราะตอนเรียนที่ไทยเราเรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาตลอด ตอนแรกๆที่เริ่มคบกัน ก็ไม่ต่างกับตอนเป็นเพื่อนเท่าไหร่ แต่เรารู้สึกว่าเขาพยายามปรับตัวเข้าหาเรามากๆ ก่อนคบกันเขาเคยสูบบุหรี่ พอเขารู้ว่าเราไม่ชอบเขาก็พยายามเลิก แล้วก็ไม่สูบให้เราเห็น แต่บางทีท่าทางการเดินการพูดของเขาบางครั้งมันดูพยายามมากเกินจนไม่เป็นธรรมชาติ เหมือนเขาพยายามแสดงออกให้ดูดีตลอดเวลาจนเรารู้สึกประหม่า แล้วก็รู้สึกเกร็งๆตอนคุยกันมากกว่าตอนเป็นเพื่อนซะอีก



               ทีแรกเราก็คิดว่ามันจะดีขึ้น พวกเราจะคุยกันแบบปกติ ไม่ประหม่าหรือเกร็งกันได้ แต่ก็ไม่เลย เราเพิ่งรู้ตอนหลังคบกันว่าครอบครัวแฟนเราฐานะไม่ดี(เขาพูดเองเลยว่าครอบครัวเขาจน) แม่เขาทำงานเป็นครูที่โรงเรียน พ่อเขาว่างงาน แต่ตอนนี้เหมือนจะทำงานรับจ๊อบคล้ายๆสัปเหร่อดูแลศพที่โรงพยาบาล

               คือปีหน้าแฟนเราเขาจะgraduateจากโรงเรียนแล้ว แต่เขายังไม่รู้เลยว่าในอนาคตเขาอยากจะทำงานอะไร ในขณะที่เพื่อนเขาคนอื่นๆเริ่มสมัครเข้ามหาวิทยาลัยแล้วแต่เขายังดูไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เขาเคยบอกกับเพื่อนเราว่าเขาอยากทำงานในโรงงาน แล้วก็ทำงานเลยไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย ซึ่งเรารู้สึกไม่โอเคเลย



               ตอนวันเกิดเรา เพื่อนเรากับแฟนเราก็จัดงานเลี้ยงให้ เพื่อนเรามีของขวัญให้เรา จะชิ้นเล็กชิ้นน้อยแค่ไหนเราก็ชอบทุกอัน แต่แฟนเราไม่มีของให้ เขาบอกเราว่าเขาไม่มีเงิน ซึ่งในตอนนั้นเราก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ยังเข้าใจเขาอยู่ จนมีวันนึงเขาชวนเราไปกินข้าวที่ร้านอาหาร เป็นร้านทั่วๆไป แล้วเขาก็ชวนเราสั่งเช็ตประหยัด ประมาณว่าถ้าสั่งเมนูประหยัด2คนจะได้ลดราคา เราก็ไม่ได้ว่าอะไรเหมือนเดิมก็ทำตามเขาไป จนพนักงานเสิร์ฟอาหารจานแรกเป็นชีสแท่งประมาณ10กว่าชิ้น แฟนเราก็กินชีสนั่นเกินครึ่งซะอีก เราก็ไม่ได้ว่าอะไรเหมือนเดิม คิดซะว่าเขาหิวอยู่ พอกินข้าวกันอิ่มแล้ว แฟนเราก็อาสาออกให้ มื้อนั้นเราจำได้ว่าราคารวม2คนแล้วคือ20ดอลล่า(600กว่าบาท) เขาก็จ่ายแบบรูดบัตรเครดิตไปเพราะไม่มีเงินสด เราจะออกเงินให้เขาก็ไม่เอา อาหารที่กินเหลือแฟนเราก็เก็บใส่กล่องกลับบ้าน

               เวลาเพื่อนชวนไปเที่ยวหรือไปไหน เขาก็ไม่ค่อยอยากไปเพราะเขาไม่มีเงิน เขาบอกว่าครอบครัวเขาให้เงินเขาเดือนละ10ดอลล่า(300กว่าบาท) ที่เหลือคือเขาต้องทำงานpart timeหาเอง ทำให้เราไม่กล้าชวนเขาไปเที่ยวเหมือนกัน ทีแรกเราก็พยายามไม่คิดที่จะเลิกนะ เพราะรู้สึกสงสารเขา แต่ตอนนี้คือรู้สึกว่าเรากับแฟนต่างกันมากเลย ก่อนหน้านี้คือเราไม่รู้สึกอยากที่จะมีแฟนเลยนะ เรารู้สึกว่าเราอยู่คนเดียวได้ ถ้าเราจะมีแฟนซักคนก็ควรเป็นคนที่เราอยากจะอยู่ด้วยจริงๆ อยากใช้ชีวิตในอนาคตด้วยกัน เป็นคนที่ปรึกษากันได้ทุกเรื่อง ซึ่งเรารู้สึกว่าอยู่กับคนนี้ไม่รู้สึกถึงความมั่นคงเลย

               เราควรจะทำยังไงดีคะทุกคน ตอนนี้เราไม่กล้ามองหน้าแฟนเราตรงๆ หรือคุยกันปกติด้วยซ้ำเพราะเรารู้สึกผิดมากๆ รบกวนขอคำแนะนำจากทุกๆคนทีค่ะ😭🙏🏻
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
คุณไม่ได้มีความรักและรักเขามาตั้งแต่ต้น    แต่คุณตกลงรับปากเป็นแฟนกันแบบเสียไม่ได้
และยิ่งเมื่อมารู้ว่าเขาจน และอาจจะไม่มีอนาคต(ในความคิดของคุณ) บวกกับความรู้สึกที่ไม่ได้รักมาตั้งแต่ต้นกลายเป็นแรงผลักเล็กๆ ภายใจที่อยากจะผละหรือตีจาก

คุณบอกว่า "เราก็ไม่ได้ว่าอะไร" ถี่  แสดงว่าแม้ปากคุณ "ไม่ได้ว่าอะไร"    แต่ใจคุณกำลังว่าครับ   ไม่งั้นคุณคงไม่เขียนระบายคำๆ นี้ออกมาบ่อยๆ

ผมกับภรรยา(คนอังกฤษ)  แตกต่างกันทุกอย่าง   เธอสูงกว่าผมเยอะ (ผมสูงเท่าๆ แฟนฝรั่งของคุณ)   เรารักกัน...ต่อมาเมื่อเธอตระหนักว่าเราแตกต่างกันมาก   (ตอนนั้นผมเป็นครูดอยอาสาที่เชียงใหม่เงินเดือนไม่ถึงสี่พัน  เธอสอนที่มหาลัยในอังกฤษ (อายุเราเท่ากัน)   เธอเป็นฝ่ายขอเลิกกับผม   เรายังรักกันดีแต่ห่วงอนาคตว่า "จะไปกันไม่ได้"   ผมยอมให้เธอจากไปเกือบสองปี (ผมรู้ดีว่าด้อยกว่าทุกด้าน และเล่นตัวลำบาก 555) ผมยังรักเธอมาตลอด คิดถึงเธอทุกวัน เขียนจดหมาย (สม้ัยนั้นไม่มีอีเมล์) ถึงเธอทุกวัน   วันไหนขับมอเตอร์ไซดลงดอยเข้ามาในเมืองก็รวบรวมส่งถึงเธอทีเดียวเลยเป็นหลายสิบหน้า   ผมทำอย่างนี้อยู่สองปี  แล้วเธอก็กลับมาหาผม  เราแต่งงานกันในที่สุด   ตอนนี้เราแต่งงานกันมา 27 กว่าปีแล้ว    ผมพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ลูกผู้ชายจะทำได้เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกว่าเราแตกต่างกันมาก    และตอนนี้ผมเป็นครูสอนที่โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในอังกฤษมา16 ปีแล้ว....

ผมคิดว่า   คุณอย่าไปเอาเรื่องความแตกต่าง มาเป็น "เงื่อนไข" ให้มากเลยครับ  มันไม่แฟร์ (เขาเลือกเกิดไม่ได้)  ในเมื่อคุณไม่มีความรักและไม่ได้มีใจให้เขามาตั้งแต่ต้น   การบอกเลิกน่าจะง่ายกว่ากรณีของผมหากเปรียบเทียบกัน   อย่าเข้าใจผิดว่าผมกำลังตำหนิคุณนะครับ  Reading between the lines.... ผมคิดว่าคุณเป็นคนขี้เกรงใจและเอาใจใส่ความรู้สึกคนอื่นได้ดี    ถ้ามามัวแต่แคร์ว่าเขาจะเจ็บด้วยที่คุณขอบอกเลิก....ยิ่งคุณประวิงเวลาไปเท่าไหร่   ความเจ็บก็จะยิ่งทวีคูณทั้งตัวคุณและเขา     ผมเชื่อว่าเขาต้องรับได้.....

ขอให้โชคดีครับ
ความคิดเห็นที่ 9
อ่านจบแล้ว พบว่า น้องเองแค่อยากลอง อยากรู้ว่าความรัก การมีแฟนเป็นอย่างไร แต่พอลองแล้วน้องพบว่า น้องไม่ชอบ
ถามว่าจะเลิกอย่างไร ก็คงต้องบอกความจริงไปตรง ๆ นั้นแหละ เพราะสุดท้าย ยังไงน้องก็ต้องเลิกอยู่ดี จะวันนี้ หรือวันหน้า
มันก็ได้ผลลัพธ์เดียวกัน คือ "เลิก"

บอกความจริงให้เค้ารู้ซะ ถึงไม่เป็นแฟน แต่ก็เป็นเพื่อนกันได้ น้องมันเด็ก ประสบการณ์ยังน้อย แต่เรื่องความรัก ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่
บอกเหตุผลไปตรง ๆ นั้นแหละ

ขอนอกเรื่อง พี่อยากจะบอกว่า ผู้ชายคนนี้มีข้อดีนะ เป็นคนรู้จักกิน รู้จักใช้ ทำงานเก็บเงินเอง เค้ารู้ค่าของเงิน อนาคตพี่รับรองว่า
เค้าจะมีชีวิตที่เป็นสุข เพราะเค้าจะคิดเรื่องใช้เงินอย่างไรให้คุ้มค่า เค้าโตเกินตัวจริง ๆ และมีวุฒิภาวะที่เป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ
การที่เค้าไม่ทำอะไรเกินตัว มีเงินแค่นี้ ก็คิดแค่นี้ แสดงความเค้ามีความพอในตัวเอง เค้าวางแผนการเงินเก่ง เค้ารู้ว่าถ้าจ่ายเงินเท่ากัน
แต่ได้ของมาเยอะกว่า อนาคตพี่บอกเลยว่า เค้าจะไม่มีทางอับจน ถึงต่อให้เค้ายังจนอยู่ แต่เค้าก็จะเป็นคนจนที่มีความสุข เค้าไม่ทะเยอทะยาน
อยากได้โน้นนี้ ไม่ได้อยากไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่ได้อยากไปดูหนัง (ทั้ง ๆ ที่ในใจเค้าอยากไปเต็มแก่) แต่เค้าก็อดทน เพราะเค้าไม่อยากทำตัว
เป็นภาระให้กับครอบครัว พี่ขอชื่นชมผู้ชายคนนี้นะ

ขอให้น้องโชคดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่