
Sexual Violence
ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนไทยนะ เรื่องภัยข่มขืน โดยเฉพาะการข่มขืนผู้หญิง
วันนี้ผมจะมาพูดให้คุณฟัง 4 เรื่องหลักๆ
1. สถิติการข่มขืน
2. ทำยังไง… ถึงจะป้องกันถูกข่มขืน และ ถ้าถูกข่มขืนต้องทำยังไง
3. ถ้าเห็นการข่มขืน… ควรทำยังไง
4. (แถม) Quiz ทดสอบความรู้
มาเริ่มกันที่เรื่องแรก
สถิติการข่มขืน
จากการนั่งหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เจอหลายสถิติเลย ไม่ว่าจะเป็น
ของต่างประเทศ…
• 51% จาก 243 การคุกคามทางเพศ เกิดขึ้นจากโจรข่มขืนต่อเนื่อง ที่มีประวัติอาชญากรรมยาวเหยียด และมีแนวโน้มจะทำอาชญากรรมอีกครั้งในอนาคต
• การ Focus ที่คนที่จะทำความผิด และ อาชญากร จะช่วยลดอัตราการเกิดการคุกคามทางเพศได้
• กลุ่มคนที่ข่มขืน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ One-time (ทำครั้งแรก) และก็ Serial (อาชญากรต่อเนื่อง)
• สำหรับกลุ่ม Serial กลุ่มนี้มักจะลักพาตัวเหยื่อ และมักจะข่มขู่ด้วยการพูด การทำร้ายร่างกาย หรือ ใช้อาวุธ โดยกลุ่ม Serial มักจะทำการคุกคามทางเพศนอกสถานที่หรืออาคาร (outdoor) ประเภทเดิมพร้อมกับวิธีการและสภาวะแบบเดิม เช่น ลากเข้าพุ่มหญ้าก็ทำอย่างนั้นซ้ำๆ
• กลุ่ม Serial มันจะเป็นคนแปลกหน้า (แต่ก็มีที่รู้จักกับเหยื่อนะ)
• อีกกลุ่ม One time กลุ่มนี้มักจะทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยวเหยื่อ
• กลุ่ม One time มักจะทำการข่มขืนเหยื่อในบ้านของตัวโจรเอง บ้านของเหยื่อ หรือบ้านของคนที่รู้จัก โดยกลุ่ม One time มักจะข่มขืนเหยื่อร่วมกันหลายคน (Gang rapes)
• เหยื่อที่ถูกข่มขืนมักจะจำ ชื่อบางส่วน และ ป้ายทะเบียนรถของคนร้ายได้
• เหยื่อที่ถูกข่มขืนมักไม่กล้าติดต่อกับตำรวจบ่อยๆ จนดำเนินคดีเสร็จสมบูรณ์ (แย่จัง)
• เหยื่อที่ถูกข่มขืนมีมันจะมีอายุระหว่าง 2–70 ปี (เฉลี่ย 26 ปี)
• ยังมีคดีความอีกจำนวนมหาศาล ที่ยังดำเนินไม่สำเร็จ
ส่วนสถิติในไทย…
• ผู้หญิง 32,000 คนที่ถูกข่มขืน เกิดครึ่งเป็นนักเรียน (สถิติในปี 2013)
• แอลกอฮอล์มักเป็นปัจจัยหลัก ของการคุกคามทางเพศ
• 87 คดีข่มขืน เกิดขึ้นทุกวัน (ตลอด 15 นาที)
• ผู้ข่มขืนมักเป็นคนใกล้ตัวหรือคนที่เชื่อใจ
• เหยื่อที่ถูกข่มขืน: 6.6% เป็นเด็กเล็ก, 35.1% เป็นเหยื่ออายุ 11–15 ปี, 22% เป็นเหยื่ออายุ 16–20 ปี, 10.1% เป็นเหยื่ออายุ 26–30 ปี
• เหยื่อที่แก่ที่สุดอายุ 85 ปี ส่วนเหยื่อที่เด็กที่สุดอายุ 1 ปี
• คนร้ายที่ข่มขืน: 12.8% เป็นนักเรียนและนิสิต, 8.5% เป็นครู, 7.8% เป็นคนขับ Taxi
สถิติจาก the Matter เพิ่มเติม…

Source: the Matter

Source: the Matter

Source: the Matter

Source: the Matter

Source: the Matter
การป้องกันการข่มขืน…
ก่อนอื่นเลยต้องเข้าใจก่อนว่า การจะเกิดการข่มขืนอย่างสมบูรณ์ ต้องมี
3 อย่าง ได้แก่
เหยื่อ (ผู้ถูกกระทำ)
คนร้าย และ
โอกาส (ความเหมาะสม)
มีผลการวิจัยบอกว่า ผู้หญิงที่แต่งตัวยั่วยุอารมณ์ทางเพศ หรือ อยู่ในที่เปลี่ยว
มีโอกาสถูกข่มขืนถึง 70% นอกจากนี้ในหนังสือ DEVIANT AND CRIMINAL SEXUALITY (ปี 1993) ซึ่งเกิดจากการร่วมมือของพนักงาน FBI และ มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียร์ ได้โชว์ผลการวิจัยที่บอกว่า สถานที่ และ อายุของเหยื่อ ค่อนข้างเป็นปัจจัยในการเลือกข่มขืนของคนร้าย
การป้องกันการข่มขืน อาจใช้
ทฤษฎีสถานการณ์ (Situation Theory) เป็นแนวทางในการป้องกัน โดยการใช้ทฤษฎีนี้จะ Focus อยู่ 3 อย่าง
1. ลดช่องโอกาส
เช่น ไม่ไปในที่เปลี่ยว หากจำเป็นต้องไป ก็ต้องมีเพื่อนร่วมทางที่พอเหมาะกับเหตุร้ายที่อาจเกิดขื้น การแต่งกายของผู้หญิงไม่ยั่วยุ มีความรัดกุม ถอดยาก หรือถ้าหากคนที่มีศักยภาพที่จะข่มขืนและเป็นคนรู้จักหรือคุ้นเคย วิธีการป้องกันก็ไม่ควรไปในที่ลับตากับบุคคลดังกล่าวตามลำพัง อยู่กันสองต่อสอง หรือการที่จะไม่นั่งรถแท็กซี่เพียงคนเดียว เป็นต้น
2. เพิ่มความแข็งแรงให้กับผู้หญิง
เช่น ให้ผู้หญิงพกอุปกรณ์ป้องกันตัวเมื่อคราวจำเป็น (นกหวีด, สเปรย์พริกไทย, กรรไกร, ร่มกันแดด) รวมไปถึงฝึกการต่อสู้ป้องกันตัว (อย่าง Wing Chun หรือมวยยิปมัน ซึ่งเป็นมวยที่เหมาะกับคนตัวเล็กๆ และ ไม่จำเป็นต้องใช้คู่ในการฝึก; ฝึกได้ด้วยตัวคนเดียว)
3. การควบคุมคนร้าย/คนที่มีแนวโน้มจะข่มขืน
จริงๆเป็นหน้าที่ของชุมชน และสังคมทุกส่วน ในการกวดขันไม่ให้วัยรุ่นจับกลุ่มมั่วสุม รวมถึงเสนอกฎหมายในการ จัดทำฐานข้อมูลผู้กระทำผิดทางเพศ (SEX OFFENDER REGISTRATION ACT) แบบในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลผู้เคยกระทำผิดทางเพศ ไว้ ให้สาธารณชนเข้าถึงข้อมูล เพื่อช่วยกันระมัดระวังจับตาดู
ในเว็บไทยรัฐ ก็ได้แนะนำไว้เหมือนกัน
ว่าถ้าจะถูกข่มขืน ต้องทำยังไง…
…ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงแล้ว โอกาสรอดเหลือเพียง 5% ก็ต้องทำดังนี้
1. ตั้งสติให้ดี สูดหายใจลึกๆ เพื่อให้มีเลือดไปเลี้ยงสมองให้ตื่นตัว
2. หากยังไม่ถูกจู่โจมประชิดตัว ให้หาทางหลบหนีให้เร็ว
3. ประเมินสถานที่ว่า เป็นที่โล่ง เช่น ทุ่งนา ป่ากล้วย หรือ ห้องแคบๆ ถ้าเป็นห้องแคบๆ โอกาสรอดน้อยมาก
4. ถ้าเป็นเวลากลางคืน ให้วิ่งไปทางที่ที่มีแสงสว่าง หากระยะทางไกล ไม่ควรตะโกนร้องให้ใครช่วยเพราะจะเหนื่อยเปล่า และคนร้ายจะติดตามเราได้จากทิศทางเสียงที่เราตะโกน
5. ถ้าประเมินแล้วว่าวิ่งหนีไม่ทันแน่ ให้มองหาที่หลบซ่อน ที่คนร้ายไม่สามารถดึงตัวเราออกมาได้ เช่น มุดใต้ท้องรถยนต์ กอไผ่ หรือมองหาสิ่งที่พอทำเป็นอาวุธได้ เช่น ท่อนไม้ยาวๆ หรือปากกา ลูกกุญแจ ก้อนหิน กิ่งไม้เก็บซ่อนไว้กับตัว
6. ถ้าเป็นห้องแคบๆ ให้ร้องตะโกนให้คนช่วย เช่น ไฟไหม้ๆ
7. ถ้าหนีไม่ทันและถูกคนร้ายจับตัวได้แล้ว โอกาสรอดเหลือ 1% อย่ายอมให้คนร้ายทำให้เราหมดสติ เพราะถ้าหมดสติไปแล้ว โอกาสรอดเหลือ 0% และอาจถูกฆ่าตายได้
8. อย่ายอมให้คนร้ายทำให้เราหมดสติ คือ หากถูกล็อกคอหายใจไม่ออก แล้วเป็นนาทีชีวิต คนร้ายจะพยายามทำให้เราหยุดดิ้น หรือหยุดร้อง ซี่งเขาอาจบีบคอเราจนตาย หรือทำร้ายเราจนหมดสติ ต้องหยุดดิ้น แล้วบอกว่ายอมแล้วๆ อย่าฆ่าฉัน ฉันมีลูกเล็ก มีแม่แก่ๆ ที่ต้องเลี้ยงดู เผื่อคนร้ายจะปล่อยมือ
9. หากคนร้ายมีอาวุธร้ายแรง เช่น มีด หรือปืน ไม่ควรต่อสู้ ควรบอกว่ายอมแล้ว เพื่อหน่วงเวลาไว้
10. หากคนร้ายปล่อยมือให้รีบสูดหายใจเอาแรงกลับมา แล้วพยายามเจรจาต่อรอง เช่น ทำทีเป็นยอม บอกให้คนร้ายใจเย็นๆ
11. ต่อรองกับคนร้ายว่าอย่าข่มขืนเลย ถ้ามีทรัพย์สิน เช่น สร้อย แหวน ให้ปลดออกมา แล้วบอกว่าให้ไปเลย ปล่อยฉันไป จะไม่ไปแจ้งตำรวจ เผื่อคนร้ายเปลี่ยนใจ
12. หากต่อรองไม่สำเร็จ ให้ทำทีเป็นยอม แล้วบอกว่าสถานที่ไม่อำนวย ควรหาสถานที่ที่ดีกว่านี้ เพื่อหน่วงเวลา
13. ระหว่างเจรจา ควรบอกว่าเราเป็นกามโรค หรือมีประจำเดือน แล้วบอกว่าจะให้ทรัพย์สินแทน โดยเอาบัตร ATM ให้ไป และบอกรหัสลวงไป เผื่อคนร้ายจะไม่ข่มขืน
14. หากคนร้ายพยายามข่มขืนอีก ให้ทำทียอมจูบปาก และรอจังหวะกัดลิ้นคนร้ายให้เร็วและแรงที่สุดแล้วรีบดิ้นหลุดออกมา มิฉะนั้น อาจถูกทำร้ายจนเสียชีวิต
15. หากคนร้ายให้ช่วยสำเร็จความใคร่ ให้ฉวยโอกาสขณะคนร้ายถอดกางเกง แล้วเตะผ่าหมากคนร้ายให้เร็วและแรง แล้วรีบวิ่งหนี
16. หากถูกคนร้ายกดทับตัวอยู่ หากเป็นบริเวณป่า หรือพื้นดินให้เอากิ่งไม้ หรือปากกา ที่ซ่อนไว้ทิ่มตาคนร้าย แล้วรีบวิ่งหนี หรือถ้าเป็นพื้นทราย ให้กำทรายขว้างใส่ดวงตาคนร้ายในระยะประชิด ให้เข้าตาคนร้าย แล้วรีบวิ่งหนี
17. หากทำทุกอย่างแล้วยังถูกข่มขืน ก็ขอให้รักษาชีวิตเอาไว้ เพื่อไปแจ้งความให้ตำรวจตามจับกุมคนร้ายมารับโทษภายหลัง
18. หากที่เกิดเหตุเป็นห้องพักเรา เราควรซ่อนอาวุธไว้ในจุดใกล้ตัว มือเอื้อมถึง สามารถหยิบมาใช้ได้ และใช้การเจรจาต่อรองหน่วงเวลา เพื่อให้คนร้ายตายใจ เช่น บอกว่าควรใส่ถุงยางอนามัยก่อน เดี๋ยวจะไปหยิบให้ แล้วหากมีโอกาสให้รีบวิ่งเข้าห้องน้ำ ล็อกประตูขังตัวเองไว้ แล้วตะโกนว่าไฟไหม้ๆ
19. อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์ หากมีเวลาควรไปเข้าคอร์สเรียนการต่อสู้ป้องกันตัวเอาไว้บ้าง เพื่อเอาตัวรอดยามคับขัน ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
แล้วทำยังไงดีล่ะ ถ้าเห็นคนกำลังจะถูกข่มขืน…
1. ตั้งสติก่อนลงมือช่วย
ไม่ทำอะไรที่อาจส่งผลร้าย หรือทำให้สถานการณ์แย่ลง
2. วิเคราะห์สถานการณ์
สิ่งหนึ่งที่คนร้ายทุกคนไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ก็คือ การที่มีคนเห็นหรือเข้ามาช่วย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้น หากคุณพบเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้ และเข้าใจถึงสภาพจิตใจของคนร้ายดังนี้ คุณก็จะคิดหาวิธีช่วยเหลือ หรือพลิกแพลงวิธีช่วยเหลือผู้ตกเป็นเหยื่อได้อีกมากมาย
3. มองหาแนวทางที่ดีที่สุด
และหยิบเอามาใช้อย่างมีสติ โดยรูปแบบการช่วยเหลืออาจแตกต่างกันไปตามแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น บางสถานการณ์ การตะโกนดังๆ ว่า “ไฟไหม้” แค่ตะโกนดังๆ คนร้ายอาจจะอาย และหนีไป
4. อย่าเลียนแบบ “ละครหรือหนัง”
การช่วยเหลือควรไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน หากจำเป็น หรือเห็นว่าโจรมีอาวุธ ก็ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
5. บันทึกหลักฐาน
ภาพเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกไว้สามารถเป็นหลักฐานอย่างดีในการจับตัวคนร้าย
Quiz ทดสอบความรู้
ผมได้ทำ Quiz มาให้ทุกคนทดสอบความรู้ในเรื่องนี้ครับ (ทำถูกทุกข้อจะได้ 29 คะแนน):
https://goo.gl/forms/tjsVSm6nSGC4kdSr1

คนที่ออกมาต่อต้าน Sexual Violence ในต่างประเทศ
อย่าลืมเอาความรู้พวกนี้ไปบอกคนที่คุณรู้จักและคนที่คุณรัก
สุดท้าย อย่าลืมพกสติไปไหนมาไหนด้วยล่ะ
ปล. ขอบคุณรุ่นพี่คนนึง (เขาไม่ให้บอกชื่อ 555) ที่ช่วยหาข้อมูลหลายๆอย่างด้วยครับ
References:
•
http://www.svri.org/documents/thailand
•
https://link.springer.com/content/pdf/10.1023%2FA%3A1023044408529.pdf
•
https://www.ncjrs.gov/pdffiles1/nij/210346.pdf
•
https://www.jstor.org/stable/pdf/584365.pdf?refreqid=excelsior%3A3204e157f24231aa8cf65353165b7bff
•
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4692457/pdf/nihms745990.pdf
•
http://icare.kapook.com/rape.php?ac=detail&s_id=37&id=2927
•
https://www.thairath.co.th/content/434898
•
https://today.line.me/TH/article/gqr71N?utm_source=ttshare
•
http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9550000068553
•
https://www.facebook.com/femaleinvestigatorthai/posts/1662352390675962
•
http://eprints.lancs.ac.uk/3515/1/Domesticviolencefindings_2004_5BritishCrimeSurvey276.pdf
•
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/75066
การข่มขืน… และสิ่งที่ควรปฏิบัติต่อมัน
Sexual Violence
ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนไทยนะ เรื่องภัยข่มขืน โดยเฉพาะการข่มขืนผู้หญิง
วันนี้ผมจะมาพูดให้คุณฟัง 4 เรื่องหลักๆ
1. สถิติการข่มขืน
2. ทำยังไง… ถึงจะป้องกันถูกข่มขืน และ ถ้าถูกข่มขืนต้องทำยังไง
3. ถ้าเห็นการข่มขืน… ควรทำยังไง
4. (แถม) Quiz ทดสอบความรู้
มาเริ่มกันที่เรื่องแรก
สถิติการข่มขืน
จากการนั่งหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เจอหลายสถิติเลย ไม่ว่าจะเป็น
ของต่างประเทศ…
• 51% จาก 243 การคุกคามทางเพศ เกิดขึ้นจากโจรข่มขืนต่อเนื่อง ที่มีประวัติอาชญากรรมยาวเหยียด และมีแนวโน้มจะทำอาชญากรรมอีกครั้งในอนาคต
• การ Focus ที่คนที่จะทำความผิด และ อาชญากร จะช่วยลดอัตราการเกิดการคุกคามทางเพศได้
• กลุ่มคนที่ข่มขืน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ One-time (ทำครั้งแรก) และก็ Serial (อาชญากรต่อเนื่อง)
• สำหรับกลุ่ม Serial กลุ่มนี้มักจะลักพาตัวเหยื่อ และมักจะข่มขู่ด้วยการพูด การทำร้ายร่างกาย หรือ ใช้อาวุธ โดยกลุ่ม Serial มักจะทำการคุกคามทางเพศนอกสถานที่หรืออาคาร (outdoor) ประเภทเดิมพร้อมกับวิธีการและสภาวะแบบเดิม เช่น ลากเข้าพุ่มหญ้าก็ทำอย่างนั้นซ้ำๆ
• กลุ่ม Serial มันจะเป็นคนแปลกหน้า (แต่ก็มีที่รู้จักกับเหยื่อนะ)
• อีกกลุ่ม One time กลุ่มนี้มักจะทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยวเหยื่อ
• กลุ่ม One time มักจะทำการข่มขืนเหยื่อในบ้านของตัวโจรเอง บ้านของเหยื่อ หรือบ้านของคนที่รู้จัก โดยกลุ่ม One time มักจะข่มขืนเหยื่อร่วมกันหลายคน (Gang rapes)
• เหยื่อที่ถูกข่มขืนมักจะจำ ชื่อบางส่วน และ ป้ายทะเบียนรถของคนร้ายได้
• เหยื่อที่ถูกข่มขืนมักไม่กล้าติดต่อกับตำรวจบ่อยๆ จนดำเนินคดีเสร็จสมบูรณ์ (แย่จัง)
• เหยื่อที่ถูกข่มขืนมีมันจะมีอายุระหว่าง 2–70 ปี (เฉลี่ย 26 ปี)
• ยังมีคดีความอีกจำนวนมหาศาล ที่ยังดำเนินไม่สำเร็จ
ส่วนสถิติในไทย…
• ผู้หญิง 32,000 คนที่ถูกข่มขืน เกิดครึ่งเป็นนักเรียน (สถิติในปี 2013)
• แอลกอฮอล์มักเป็นปัจจัยหลัก ของการคุกคามทางเพศ
• 87 คดีข่มขืน เกิดขึ้นทุกวัน (ตลอด 15 นาที)
• ผู้ข่มขืนมักเป็นคนใกล้ตัวหรือคนที่เชื่อใจ
• เหยื่อที่ถูกข่มขืน: 6.6% เป็นเด็กเล็ก, 35.1% เป็นเหยื่ออายุ 11–15 ปี, 22% เป็นเหยื่ออายุ 16–20 ปี, 10.1% เป็นเหยื่ออายุ 26–30 ปี
• เหยื่อที่แก่ที่สุดอายุ 85 ปี ส่วนเหยื่อที่เด็กที่สุดอายุ 1 ปี
• คนร้ายที่ข่มขืน: 12.8% เป็นนักเรียนและนิสิต, 8.5% เป็นครู, 7.8% เป็นคนขับ Taxi
สถิติจาก the Matter เพิ่มเติม…
Source: the Matter
Source: the Matter
Source: the Matter
Source: the Matter
Source: the Matter
การป้องกันการข่มขืน…
ก่อนอื่นเลยต้องเข้าใจก่อนว่า การจะเกิดการข่มขืนอย่างสมบูรณ์ ต้องมี
3 อย่าง ได้แก่ เหยื่อ (ผู้ถูกกระทำ) คนร้าย และ โอกาส (ความเหมาะสม)
มีผลการวิจัยบอกว่า ผู้หญิงที่แต่งตัวยั่วยุอารมณ์ทางเพศ หรือ อยู่ในที่เปลี่ยว
มีโอกาสถูกข่มขืนถึง 70% นอกจากนี้ในหนังสือ DEVIANT AND CRIMINAL SEXUALITY (ปี 1993) ซึ่งเกิดจากการร่วมมือของพนักงาน FBI และ มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียร์ ได้โชว์ผลการวิจัยที่บอกว่า สถานที่ และ อายุของเหยื่อ ค่อนข้างเป็นปัจจัยในการเลือกข่มขืนของคนร้าย
การป้องกันการข่มขืน อาจใช้ทฤษฎีสถานการณ์ (Situation Theory) เป็นแนวทางในการป้องกัน โดยการใช้ทฤษฎีนี้จะ Focus อยู่ 3 อย่าง
1. ลดช่องโอกาส
เช่น ไม่ไปในที่เปลี่ยว หากจำเป็นต้องไป ก็ต้องมีเพื่อนร่วมทางที่พอเหมาะกับเหตุร้ายที่อาจเกิดขื้น การแต่งกายของผู้หญิงไม่ยั่วยุ มีความรัดกุม ถอดยาก หรือถ้าหากคนที่มีศักยภาพที่จะข่มขืนและเป็นคนรู้จักหรือคุ้นเคย วิธีการป้องกันก็ไม่ควรไปในที่ลับตากับบุคคลดังกล่าวตามลำพัง อยู่กันสองต่อสอง หรือการที่จะไม่นั่งรถแท็กซี่เพียงคนเดียว เป็นต้น
2. เพิ่มความแข็งแรงให้กับผู้หญิง
เช่น ให้ผู้หญิงพกอุปกรณ์ป้องกันตัวเมื่อคราวจำเป็น (นกหวีด, สเปรย์พริกไทย, กรรไกร, ร่มกันแดด) รวมไปถึงฝึกการต่อสู้ป้องกันตัว (อย่าง Wing Chun หรือมวยยิปมัน ซึ่งเป็นมวยที่เหมาะกับคนตัวเล็กๆ และ ไม่จำเป็นต้องใช้คู่ในการฝึก; ฝึกได้ด้วยตัวคนเดียว)
3. การควบคุมคนร้าย/คนที่มีแนวโน้มจะข่มขืน
จริงๆเป็นหน้าที่ของชุมชน และสังคมทุกส่วน ในการกวดขันไม่ให้วัยรุ่นจับกลุ่มมั่วสุม รวมถึงเสนอกฎหมายในการ จัดทำฐานข้อมูลผู้กระทำผิดทางเพศ (SEX OFFENDER REGISTRATION ACT) แบบในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลผู้เคยกระทำผิดทางเพศ ไว้ ให้สาธารณชนเข้าถึงข้อมูล เพื่อช่วยกันระมัดระวังจับตาดู
ในเว็บไทยรัฐ ก็ได้แนะนำไว้เหมือนกัน ว่าถ้าจะถูกข่มขืน ต้องทำยังไง…
…ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงแล้ว โอกาสรอดเหลือเพียง 5% ก็ต้องทำดังนี้
1. ตั้งสติให้ดี สูดหายใจลึกๆ เพื่อให้มีเลือดไปเลี้ยงสมองให้ตื่นตัว
2. หากยังไม่ถูกจู่โจมประชิดตัว ให้หาทางหลบหนีให้เร็ว
3. ประเมินสถานที่ว่า เป็นที่โล่ง เช่น ทุ่งนา ป่ากล้วย หรือ ห้องแคบๆ ถ้าเป็นห้องแคบๆ โอกาสรอดน้อยมาก
4. ถ้าเป็นเวลากลางคืน ให้วิ่งไปทางที่ที่มีแสงสว่าง หากระยะทางไกล ไม่ควรตะโกนร้องให้ใครช่วยเพราะจะเหนื่อยเปล่า และคนร้ายจะติดตามเราได้จากทิศทางเสียงที่เราตะโกน
5. ถ้าประเมินแล้วว่าวิ่งหนีไม่ทันแน่ ให้มองหาที่หลบซ่อน ที่คนร้ายไม่สามารถดึงตัวเราออกมาได้ เช่น มุดใต้ท้องรถยนต์ กอไผ่ หรือมองหาสิ่งที่พอทำเป็นอาวุธได้ เช่น ท่อนไม้ยาวๆ หรือปากกา ลูกกุญแจ ก้อนหิน กิ่งไม้เก็บซ่อนไว้กับตัว
6. ถ้าเป็นห้องแคบๆ ให้ร้องตะโกนให้คนช่วย เช่น ไฟไหม้ๆ
7. ถ้าหนีไม่ทันและถูกคนร้ายจับตัวได้แล้ว โอกาสรอดเหลือ 1% อย่ายอมให้คนร้ายทำให้เราหมดสติ เพราะถ้าหมดสติไปแล้ว โอกาสรอดเหลือ 0% และอาจถูกฆ่าตายได้
8. อย่ายอมให้คนร้ายทำให้เราหมดสติ คือ หากถูกล็อกคอหายใจไม่ออก แล้วเป็นนาทีชีวิต คนร้ายจะพยายามทำให้เราหยุดดิ้น หรือหยุดร้อง ซี่งเขาอาจบีบคอเราจนตาย หรือทำร้ายเราจนหมดสติ ต้องหยุดดิ้น แล้วบอกว่ายอมแล้วๆ อย่าฆ่าฉัน ฉันมีลูกเล็ก มีแม่แก่ๆ ที่ต้องเลี้ยงดู เผื่อคนร้ายจะปล่อยมือ
9. หากคนร้ายมีอาวุธร้ายแรง เช่น มีด หรือปืน ไม่ควรต่อสู้ ควรบอกว่ายอมแล้ว เพื่อหน่วงเวลาไว้
10. หากคนร้ายปล่อยมือให้รีบสูดหายใจเอาแรงกลับมา แล้วพยายามเจรจาต่อรอง เช่น ทำทีเป็นยอม บอกให้คนร้ายใจเย็นๆ
11. ต่อรองกับคนร้ายว่าอย่าข่มขืนเลย ถ้ามีทรัพย์สิน เช่น สร้อย แหวน ให้ปลดออกมา แล้วบอกว่าให้ไปเลย ปล่อยฉันไป จะไม่ไปแจ้งตำรวจ เผื่อคนร้ายเปลี่ยนใจ
12. หากต่อรองไม่สำเร็จ ให้ทำทีเป็นยอม แล้วบอกว่าสถานที่ไม่อำนวย ควรหาสถานที่ที่ดีกว่านี้ เพื่อหน่วงเวลา
13. ระหว่างเจรจา ควรบอกว่าเราเป็นกามโรค หรือมีประจำเดือน แล้วบอกว่าจะให้ทรัพย์สินแทน โดยเอาบัตร ATM ให้ไป และบอกรหัสลวงไป เผื่อคนร้ายจะไม่ข่มขืน
14. หากคนร้ายพยายามข่มขืนอีก ให้ทำทียอมจูบปาก และรอจังหวะกัดลิ้นคนร้ายให้เร็วและแรงที่สุดแล้วรีบดิ้นหลุดออกมา มิฉะนั้น อาจถูกทำร้ายจนเสียชีวิต
15. หากคนร้ายให้ช่วยสำเร็จความใคร่ ให้ฉวยโอกาสขณะคนร้ายถอดกางเกง แล้วเตะผ่าหมากคนร้ายให้เร็วและแรง แล้วรีบวิ่งหนี
16. หากถูกคนร้ายกดทับตัวอยู่ หากเป็นบริเวณป่า หรือพื้นดินให้เอากิ่งไม้ หรือปากกา ที่ซ่อนไว้ทิ่มตาคนร้าย แล้วรีบวิ่งหนี หรือถ้าเป็นพื้นทราย ให้กำทรายขว้างใส่ดวงตาคนร้ายในระยะประชิด ให้เข้าตาคนร้าย แล้วรีบวิ่งหนี
17. หากทำทุกอย่างแล้วยังถูกข่มขืน ก็ขอให้รักษาชีวิตเอาไว้ เพื่อไปแจ้งความให้ตำรวจตามจับกุมคนร้ายมารับโทษภายหลัง
18. หากที่เกิดเหตุเป็นห้องพักเรา เราควรซ่อนอาวุธไว้ในจุดใกล้ตัว มือเอื้อมถึง สามารถหยิบมาใช้ได้ และใช้การเจรจาต่อรองหน่วงเวลา เพื่อให้คนร้ายตายใจ เช่น บอกว่าควรใส่ถุงยางอนามัยก่อน เดี๋ยวจะไปหยิบให้ แล้วหากมีโอกาสให้รีบวิ่งเข้าห้องน้ำ ล็อกประตูขังตัวเองไว้ แล้วตะโกนว่าไฟไหม้ๆ
19. อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์ หากมีเวลาควรไปเข้าคอร์สเรียนการต่อสู้ป้องกันตัวเอาไว้บ้าง เพื่อเอาตัวรอดยามคับขัน ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
แล้วทำยังไงดีล่ะ ถ้าเห็นคนกำลังจะถูกข่มขืน…
1. ตั้งสติก่อนลงมือช่วย
ไม่ทำอะไรที่อาจส่งผลร้าย หรือทำให้สถานการณ์แย่ลง
2. วิเคราะห์สถานการณ์
สิ่งหนึ่งที่คนร้ายทุกคนไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ก็คือ การที่มีคนเห็นหรือเข้ามาช่วย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้น หากคุณพบเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้ และเข้าใจถึงสภาพจิตใจของคนร้ายดังนี้ คุณก็จะคิดหาวิธีช่วยเหลือ หรือพลิกแพลงวิธีช่วยเหลือผู้ตกเป็นเหยื่อได้อีกมากมาย
3. มองหาแนวทางที่ดีที่สุด
และหยิบเอามาใช้อย่างมีสติ โดยรูปแบบการช่วยเหลืออาจแตกต่างกันไปตามแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น บางสถานการณ์ การตะโกนดังๆ ว่า “ไฟไหม้” แค่ตะโกนดังๆ คนร้ายอาจจะอาย และหนีไป
4. อย่าเลียนแบบ “ละครหรือหนัง”
การช่วยเหลือควรไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน หากจำเป็น หรือเห็นว่าโจรมีอาวุธ ก็ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
5. บันทึกหลักฐาน
ภาพเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกไว้สามารถเป็นหลักฐานอย่างดีในการจับตัวคนร้าย
Quiz ทดสอบความรู้
ผมได้ทำ Quiz มาให้ทุกคนทดสอบความรู้ในเรื่องนี้ครับ (ทำถูกทุกข้อจะได้ 29 คะแนน):
https://goo.gl/forms/tjsVSm6nSGC4kdSr1
คนที่ออกมาต่อต้าน Sexual Violence ในต่างประเทศ
อย่าลืมเอาความรู้พวกนี้ไปบอกคนที่คุณรู้จักและคนที่คุณรัก
สุดท้าย อย่าลืมพกสติไปไหนมาไหนด้วยล่ะ
ปล. ขอบคุณรุ่นพี่คนนึง (เขาไม่ให้บอกชื่อ 555) ที่ช่วยหาข้อมูลหลายๆอย่างด้วยครับ
References:
• http://www.svri.org/documents/thailand
• https://link.springer.com/content/pdf/10.1023%2FA%3A1023044408529.pdf
• https://www.ncjrs.gov/pdffiles1/nij/210346.pdf
• https://www.jstor.org/stable/pdf/584365.pdf?refreqid=excelsior%3A3204e157f24231aa8cf65353165b7bff
• https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4692457/pdf/nihms745990.pdf
• http://icare.kapook.com/rape.php?ac=detail&s_id=37&id=2927
• https://www.thairath.co.th/content/434898
• https://today.line.me/TH/article/gqr71N?utm_source=ttshare
• http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9550000068553
• https://www.facebook.com/femaleinvestigatorthai/posts/1662352390675962
• http://eprints.lancs.ac.uk/3515/1/Domesticviolencefindings_2004_5BritishCrimeSurvey276.pdf
• https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/75066