10 หนังระทึกขวัญเชิงจิตวิทยาชั้นดี ที่คุณอาจเคยมองข้ามในศตวรรษที่ 21


เป็นอีกเเนวหนังที่ผมค่อนข้างจะทำเป็นลิสต์บ่อยครั้ง เเต่เงื่อนไขสำคัญของลิสต์นี้จะคัดเอาหนังคุณภาพในศตวรรษที่ 21 ซึ่งอิงจากฐานผู้ชมที่โหวตในเว็บ IMDB
1. หนังที่มีคะแนนต่ำกว่า 7 เเต่มากกว่า 6 (6 < Rated IMDB < 7)
2. จำนวนคนโหวตจะอยู่ในหลักพันและหลักหมื่นเท่านั้น


'หนังระทึกขวัญเชิงจิตวิทยา' เป็นหนังพยายามกระตุ้นให้เกิดความจดจ่อ อยากรู้อยากเห็น หรือบางเรื่องจะมีการปกปิดเงื่อนงำหรือข้อสงสัยบางอย่างไว้ เเละที่สำคัญหนังยังพยายามเล่นกับกระบวนการความคิด อารมณ์ เเละพฤติกรรมของตัวละคร...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

10. Creepy (2016)

หากจำกัดความสั้นๆคงกล่าวได้ว่านี่คือ The Wailing แบบฉบับญี่ปุ่น จากการที่ทั้งสองถูกฉายไล่เลี่ยกันและลักษณะโครงเรื่องมีความคล้ายคลึงกันมาก กับปมฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดภายในหมู่บ้าน การเข้าไปสำรวจสถาบันครอบครัว และที่สำคัญคือการตั้งแง่กับตัวละครหนึ่งที่มีพฤติกรรมอันผิดแปลกและชวนให้สงสัยว่าเขาอาจเป็นฆาตกร โดยเรื่องนี้จะโฟกัสไปยังนักสืบที่ผันตัวไปเป็นอาจารย์มหาลัย ก่อนต้องเผชิญกับคดีปริศนาที่เชื่อมโยงไปยังชายสูงวัยที่อาศัยอยู่ใกล้บ้าน ซึ่งแม้ว่าหนังยังขาดลูกล่อลูกชนในการปั่นหัวคนดู และการเฉลยปมที่ไม่สามารถสร้างอิมแพคท์ได้อย่างที่ควร แต่หนังก็ยอดเยี่ยมมากๆในการสร้างความกดดัน บีบคั้นเหยื่อ จนเกิดความตระหนักถึงสภาวะสิ้นหวังอย่างแท้จริง








9. Borgman (2013)

ภัยคุกคามจากคนแปลกหน้าที่บ่อนทำลายสถาบันครอบครัวเป็นลักษณะพล็อตที่คล้ายคลึงกับหนังทริลเลอร์เชิงจิตวิทยาอย่าง Funny Games โดยปมของเรื่องจะถูกขยายโดยประเด็นทางศาสนาและชนชั้นทางสังคม กับพล็อตที่ว่าด้วยกลุ่มลัทธิปริศนาที่อาศัยอยู่ในป่า แต่ในวันหนึ่งกลับถูกไล่ล่า ต่างคนก็พากันหลบหนีและซ่อนตัวตามสถานที่ต่างๆภายในเมืองเพื่อรอการกลับมารวมตัวอีกครั้ง ซึ่งหนังจะโฟกัสไปยัง 'คามิล บอร์กแมน' ชายสูงวัยที่ไปแทรกซึมกับครอบครัวหนึ่ง แล้วทำการปั่นประสาท จุดชนวนความขัดแย้งผ่านการสร้างฝันร้ายและอาการเจ็บป่วยแก่คนในครอบครัว ก่อนจะนำไปสู่บทสรุปอันคุ้นชินของหนังลักษณะนี้








8. Helpless (2012)

ผลงานสืบสวนเชิงจิตวิทยาที่ถูกดัดแปลงจากนิยายของ Miyuki Miyabe ซึ่งพูดถึงชายหนุ่มที่พยายามสืบหาการหายตัวไปของคนรัก ที่เกิดขึ้นก่อนกำหนดการแต่งงานเพียงไม่นาน เรียกได้ว่าเป็นการเปิดปมอันน่าสนใจที่คนดูสามารถตั้งสมมติฐานไปต่างๆนานาทั้ง การลักพาตัวเรียกค่าไถ่ หรือจะเป็นปมแค้นส่วนตัว ก่อนหนังจะค่อยๆพาไปสำรวจเบื้องหลังของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยปริศนาและความจริงหลายอย่างที่จะสร้างความตกตะลึงแก่คนดู ขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งโทนเมโลดราม่าที่เป็นเอกลักษณ์ของหนังเกาหลี กับภาพแห่งความเศร้าโศก อาลัยอาวรณ์ของชายหนุ่มที่มีต่อหญิงสาวที่เปรียบเสมือนทุกสิ่งอย่างของชีวิต








7. Julia's Eyes (2010)

หนังระทึกขวัญสเปนจากงานเขียนบทของ Oriol Paulo ที่หลายคนอาจคุ้นเคยจากผลงาน The Invisible Guest และ The Body โดยหนังวางปมเกี่ยวกับ 'ซาร่าห์' หญิงตาบอดที่ผูกคอตายในบ้าน ก่อนจะโฟกัสไปยัง 'จูเลีย' น้องสาวที่พยายามสืบหาความจริง หลังรู้สึกระแคะระคายถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ ทั้งยังมีชายปริศนาที่มาพัวพันกับพี่สาวของเธอ ซึ่งตัวหนังโดดเด่นในการใช้ความมืดและข้อจำกัดการมองเห็นของตัวละครเพื่อขับบรรยากาศอันน่าสะพรึงและชวนลุ้นระทึก อีกทั้งปมหลักเรื่องฆาตกรก็ไม่ง่ายต่อการคาดเดา เพราะเมื่อสืบลึกลงไปปมปริศนาใหม่ก็ค่อยๆผุดขึ้น อีกทั้งเหล่าผู้ต้องสงสัยที่ควรอยู่ในสมมติฐานกลับกลายเป็นเหยื่อของฆาตกรที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด








6. The Chronicles of Evil (2015)

การวางปมในลักษณะของการสร้างเหตุการณ์ที่ดูจงใจ เพื่อต่อยอดการเล่นจังหวะระทึกขวัญที่แทรกสอดอยู่ระหว่างทางก่อนนำไปสู่การไขปมปริศนา นับเป็นเอกลักษณ์สำคัญของหนังทริลเลอร์เกาหลี รวมทั้งหนังเรื่องนี้ที่วางปมเกี่ยวกับ 'ชเวชางซิก' หัวหน้าทีมสืบสวนที่พลาดพลั้งไปฆ่าชายคนหนึ่งที่พยายามทำร้ายตน แต่ด้วยหน้าที่การงานที่กำลังรุ่งและไม่ต้องการให้มีประวัติด่างพร้อย เขาจึงเลือกที่จะอำพรางคดี โดยความน่าสนใจจะขึ้นกับ 2 สถานการณ์ชี้เป็นชี้ตายของตัวเอก ทั้งการปกปิดหลักฐานต่างๆของเหตุฆาตกรรมที่อาจโยงใยมาสู่ตัวเขา ทั้งยังต้องสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ที่กำลังเฝ้ามองเขาอยู่ในเงามืด ซึ่งนับเป็นจุดสำคัญของเรื่องที่จะนำไปสู่จุดหักเหมากมาย








5. Secret in Their Eyes (2015)

หนังสืบสวนเชิงจิตวิทยาที่เป็นการรีเมคผลงานชนะเลิศออสการ์หนังภาษาต่างประเทศของ Juan José Campanella ซึ่งฉบับรีเมคจะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ที่เป็นตัวขับเคลื่อนความโศกเศร้าและความแค้นจากลักษณะของคนรักเป็นสายใยแม่ลูก แต่ยังคงแก่นเรื่องการปล่อยวางจากการยึดติดกับอดีต ส่วนวิธีการเล่ายังคงใช้เทคนิค nonlinear แต่อาจดูไม่ลงตัวเท่าต้นฉบับ โดยตัดสลับภาพเหตุการณ์ในอดีตกับปัจจุบัน เพื่อเสริมแรงจูงใจในการกระทำและยังสื่อถึงความคิดตัวละครที่แปรเปลี่ยน ซึ่งหนังพูดถึงการฆาตกรรมซ่อนเงื่อนที่ไม่อาจหาฆาตกรตัวจริงได้ และผู้เคราะห์ร้ายเป็นลูกสาวของ 'เจส' เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ กระทั่งเวลาผ่านไป 13 ปี 'เรย์' ที่เป็นเพื่อนสนิทของเจส ก็พบเบาะแสสำคัญที่จะโยงใยไปถึงตัวฆาตกร








4. Parallel Life (2010)

แนวคิดเอกภพคู่ขนานที่ผูกปมฆาตกรรมในอดีตกับปัจจุบันเข้าด้วยกัน กลายเป็นเส้นเรื่องอันสลับซับซ้อนที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของหลายตัวละครเข้าด้วยกัน นับเป็นอีกหนึ่งความยอดเยี่ยมของ Kwon Ho-Young ชายผู้ชอบสรรสร้างพล็อตเรื่องแปลกๆ โดยปมเรื่องกล่าวถึงเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญที่เกิดกับภรรยาของผู้พิพากษา 'ซุก ฮยัน' ซึ่งในช่วงแรกจะเป็นการสืบจากคนที่มีส่วนได้เสียในการตัดสินคดีของผู้พิพากษา ก่อนจะโฟกัสไปยังชายปริศนาคนหนึ่งที่ชอบมาวนเวียนบริเวณจุดเกิดเหตุ ขณะที่อีกเส้นเรื่องก็มีนักโทษการเมืองที่ชอบกล่าวถึงแนวคิดเอกภพคู่ขนานและทฤษฎีสมคบคิดที่เกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์โลก แน่นอนว่าสองเส้นเรื่องมีความสัมพันธ์กันบางอย่าง ซึ่งหนังจะเก็บซ่อนและหลอกหล่อคนดู 3-4 ตลบ ก่อนจะเฉลยออกมาได้อย่างเหนือคาด








3. Swimming Pool (2003)

เมื่อถึงจุดไคลแม็กซ์คนดูจะตั้งคำถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ก่อนไล่ทบทวนถึงคำใบ้ที่ปรากฏระหว่างทางโดยเฉพาะบทสนทนาของสองตัวละครหลัก ซึ่งหัวใจสำคัญของหนังเสมือนการสะท้อนวัฏจักรชีวิตของคนที่เป็นนักเขียน และในเรื่องจะพูดถึง 'ซาร่า' นักเขียนนิยายแนวฆาตกรรมสืบสวน ที่เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายในงานเขียนสไตล์เดิมๆ จนฝั่งหัวหน้าแนะนำให้เธอไปที่บ้านพักในฝรั่งเศสเพื่อหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ เพื่อนำไปสู่ปมสำคัญของเรื่องที่เธอได้พบกับ 'จูลี่' สาวบิทซ์ซึ่งเป็นลูกของหัวหน้า ที่ชอบพาชายแปลกหน้ามาเป็นคู่หลับนอน ก่อนหนังจะค่อยๆเชื่อมโยงสองตัวละครเข้าหากันเพื่อนำไปสู่บทสรุปที่ย้อนไปตั้งคำถามกับคนดู








2. Stay (2005)

ความฝันกับความจริงที่ถูกบิดเบือนจนกลายเป็นเรื่องราวอันซับซ้อนที่ยากต่อการถอดรหัส นับเป็นหนังรูปแบบเดียวกับ Mulholland Drive, Lost Highway ทว่าเรื่องนี้กลับค่อยๆเลือนหายไปจากความทรงจำของคนดู อาจเนื่องด้วยจุดหักเหที่ปัจจุบันถูกใช้กันบ่อยครั้ง และการเล่าแบบ nonlinear ที่ต้องมีสมาธิในการลำดับเหตุการณ์ อีกทั้งการเข้าถึงยากของเนื้อหาในเชิงจิตวิทยาและการเชื่อมโยงสัญญะก็เป็นสิ่งที่หลายคนไม่อาจรับมันไหว โดยปมหนังพูดถึง 'เฮนรี่' ชายหนุ่มที่วางแผนจะฆ่าตัวตายในวันครบรอบวันเกิด ทางจิตแพทย์ของเขาอย่าง 'เเซม' ที่รับรู้เรื่องนี้จึงเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดและต้องไขชนวนเหตุจูงใจก่อนเรื่องน่าเศร้าจะเกิดขึ้น ขณะเดียวกันโลกแห่งความจริงที่แซมเคยรับรู้กลับค่อยๆพร่าเลือน








1. Stoker (2013)

ก้าวสำคัญของ Park Chan-wook ในการโชว์ฝีมือบนเวทีระดับสากล กับหนังทริลเลอร์เชิงจิตวิทยาที่ได้รับอิทธิพลจาก Shadow of a Doubt ในรูปแบบพล็อตที่กล่าวถึงครอบครัวที่ต้องเผชิญการมาเยือนของญาติมิตรที่มีเบื้องหลังไม่ชอบมาพากล พร้อมปรุงแต่งรสชาติให้ออกมาดุดัน เผ็ดร้อน และดูจิตยิ่งกว่าเดิมตามสไตล์ผู้กำกับ เมื่อหนังพยายามอธิบายแรงขับภายในที่ส่งผลต่อการสร้างบุคลิกซึ่งเห็นได้ชัดในช่วงของการย่างเข้าวัยรุ่น เปรียบได้กับปมอีเลคตร้าของ 'อินเดีย' ตัวเอกสาวที่ต้องสูญเสียพ่ออันเป็นที่รัก และความสัมพันธ์ของแม่กับลุงที่มาในฐานะตัวแทนพ่อ จึงเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีต่อการเป็นปรปักษ์กับแม่ตัวเอง
.
.
.
.
.
.
.

ทวิตเตอร์เพจ @Review_Me_ พูดคุยหนังทั่วไปเเละซีรีส์(โดยเฉพาะฝั่งเกาหลี)



ขออนุญาตฝากเพจนะครับ

https://www.facebook.com/Criticalme



เเละขออนุญาตฝากไอจีเพจด้วยนะครับ @review_me__
เป็นพื้นที่สำหรับรีวิวหนังสือนิยายต่างๆโดยเฉพาะแนวสืบสวน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่