แม่ - ลูก ตะลอนทัวร์ [ กรุงเทพฯ - ราชบุรี ] ลูกขี่ - แม่ซ้อน [ สองคน 1 คัน ] ก็มันส์ดีนะ

         สวัสดีครับผม   กระทู้นี้ก็ยังเหมือนเดิม คือ ไม่ใช่กระทู้รีวิว หรือ กระทู้ท่องเที่ยวแต่อย่างใด  แต่เป็นการเล่าสู่กันฟัง

ถึงการท่องเที่ยวของแม่กับลูกชาย  เหมือนเช่นเคยครับ     โดยทริปนี้  คุณลูกชายแจ้งว่า  วันเสาร์ – อาทิตย์  (ที่ผ่านมา)  

เค้าจะไปเที่ยวบ้านรุ่นพี่ที่จังหวัดราชบุรี   โดยจะไปกางเต็นท์นอนที่นั่น  1  คืน  เอาล่ะซิได้เที่ยวอีกแย้วววววว   ดีใจจริง ๆ  

จะได้ใส่หมวกกันน็อกแร้ววววว   ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ    คุณแม่รีบเตรียมของอย่างไว   เต็นท์ / ถุงนอน / เสื้อผ้า / รองเท้าแตะ

แล้วก็ฝากใส่รถกระบะเพื่อนเค้าไป    ส่วนเราสองคนก็สบายล่ะ  ตัวเปล่า ชิวล์ ๆ กับ มอเตอร์ไซด์ 1 คัน  พร้อมเที่ยวแล้วครับ


*****  เราออกจากกรุงเทพฯ เช้าวันเสาร์ตอนสาย ๆ ประมาณ  10.30 น.  ก็แหม....  ราชบุรีแค่นี้  บิดแป๊ปเดียวก็ถึงแร้วเนอะ  *****



  ก่อนออกก็ต้องเติมน้ำมัน   และก็เช็คลมยาง  สักนิดก่อนนะครับ  



ดีที่วันนี้  รถสิบล้อไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่  ดีจัง  และแล้วเราก็มาถึงราชบุรีแล้วครับ  


เรายังไม่ได้ตรงไปที่บ้านงานเลย   แต่เราจะแวะเที่ยวก่อน  คิดว่าเย็น ๆ ค่อยขี่ไปที่บ้านงานครับ  

โดยที่แรกคุณลูกชายแวะพาแม่มาเที่ยวที่  ณ สัทธา อุทยานไทย  ก็ โอ ดีนะครับ  บรรยากาศร่มรื่น










ถึงแม้แดดจะแรงไปนิด  แต่คนไม่เยอะเท่าไหร่  ทำให้เดินได้เรื่อย ๆ ค่อย ๆ เดิน ชิลล์ ๆ กันไป
  
ที่แม่ชอบมากก็จะเป็น ถ้ำพุทธชาดก  ที่จัดแสดงเรื่องราวของมหาโจรองคุลีมาล   บรรยากาศในถ้ำมันได้ฟิวส์ดีครับ





เมื่อเดินจนทั่วแล้ว   เราก็ออกเดินทางไปเที่ยวต่อครับ   สถานที่ต่อไปที่เราไปเที่ยว คือ  วัดถ้ำน้ำ ครับ



ก็เป็นวัดที่มีถ้ำ  มีน้ำอยู่ในถ้ำ  มีหินงอก หินย้อย  ภายในถ้ำก็ไม่ได้อึดอัด  อากาศถ่ายเทสะดวกดี   แต่ไม่มีคนเลยครับ
  
ตอนที่เราไป  มีเราเดินกันอยู่แค่ สองคน แม่ – ลูก แค่นั้นเองครับ  ภายในก็มีพระพุทธรูปให้กราบไหว้สักการะ  


เมื่อเดินจนเสร็จแล้วเราก็ออกเดินทางต่อครับ



ตามทางมีลิงเยอะมากเลยครับ  มีคนมาขายกล้วย   ขับขี่ก็ต้องระวัง ๆ นิดนึง  แต่บรรยากาศดีครับ




สถานที่ต่อไปก็คือ เขาแก่นจันทร์  เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดราชบุรี   มีคนเดินขึ้นมาออกกำลังกายกันเยอะ
  
ตอนเราไปถึง   คนกำลังทยอยกันเดินขึ้นมาด้านบน  บ้างก็ขี่จักรยานมา   เห็นว่าความสูงประมาณ  141 เมตร

เป็นจุดชมวิวชั้นดี เพราะสามารถมองเห็น ตัวเมืองราชบุรีได้แบบ 360 องศาเลยนะครับ     แม่ก็ตื่นตา  ตื่นใจ

เป็นธรรมดาแหละครับ   ยิ่งตอนที่ไปถึงพระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้วด้วย   บรรยากาศดีมาก ๆ เลยครับ








แต่เราก็ต้องรีบกลับ  เพื่อจะไปให้ถึงบ้านรุ่นพี่ก่อนมืด   เพราะได้ข่าวมาว่า  ทุกคนไปถึงกันหมดแล้ว  

เค้าไปช่วยกันจัดสถานที่  แต่เราสองคน แม่ – ลูก ยัง หลั่นล้ากันอยู่นี่   และที่สำคัญเรายังไม่เคยไปบ้านเค้าเลย  

แถมทางที่จะไปนั้นก็ไม่ค่อยมีไฟข้างทางเท่าไหร่   เพราะฉะนั้นเราจึงรีบบิดอย่างไว  เพื่อไม่ให้ถึงมืดเกินไป
  
แต่ถึงจะรีบอย่างไร  มันก็มืดอยู่ดี   มืดแบบมองไม่เห็นอะไรเลยครับ   เราได้แต่ขับไปเรื่อย ๆ ตาม GPS ไป  

ดีที่ไม่ค่อยมีรถใหญ่  และรถก็ไม่เยอะด้วยครับ   และแล้วก็ถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ
  



บรรยากาศน่ะเหรอครับ  มองไม่เห็นหรอกครับว่ามันเป็นอย่างไร   รู้แค่ว่า  มันเป็นลานกว้าง ๆ รอบ ๆ

ก็มีเต็นท์กางอยู่บ้างประปรายทั่วไป   ส่วนที่กลางลานนั้น  ก็เริ่มดื่ม  เริ่มปิ้งย่าง  กันแล้ว   บรรยากาศที่ถ่ายมา

ก็ได้มาประมาณนี้แหละครับ   เราก็รีบกางเต็นท์  แล้วก็เริ่มปาร์ตี้แหละครับ  แฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ๆ


ตัดภาพมาที่ตอนเช้าเลยล่ะกันนะครับ   บรรยากาศก็อย่างที่เห็นแหละครับ  สวยงามตามท้องเรื่อง  

แต่เมื่อคืนแทบไม่รู้เลยว่า   บรรยากาศมันจะสวยงามขนาดนี้






หลังจากเก็บเต็นท์นอน  และทานอาหารเช้าเสร็จ  เราก็ออกเดินทางต่อเพื่อที่จะไปเที่ยวน้ำตกกันครับ  
  
โดยเราสองคนแม่ - ลูก  ขี่รถออกมาก่อน   โดยระหว่างทางเราก็แวะวัดเพื่อทำบุญครับ    ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า  

ที่จังหวัดราชบุรีจะมีเขาเยอะขนาดนี้   นี่ถ้าอากาศเย็นหน่อยนะ  จะฟินกว่านี้แน่นอนเลย








เดินทางต่อกันเลยนะครับ




ถึงแร้วววครับผม   “น้ำตก”  อืม......   แต่มันไม่เหมือนที่คิดไว้




ชื่อสถานที่นี้ ก็คือ   อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน   มันเป็นฟิวล์แบบอ่างเก็บน้ำ  มีสถานที่ให้กางเต็นท์   

แต่เค้าก็บอกว่ามีน้ำตกนะครับ  แต่อยู่ด้านในลึกเข้าไปอีก   แต่แม่ไม่ได้เข้าไปหรอกครับ   อยู่แค่กลาง ๆ ทาง ก็พอ  แค่นี้ก็สวยแล้วครับ   








ก็เลยต้องถ่ายรูปเก็บไว้หน่อย   เพราะนาน ๆ จะพาพี่เสือมาเที่ยวน้ำตก  เคยพาไปแต่ภูเขา




สักพักเพื่อน ๆ ของเราก็ตามมา   เด็ก ๆ ก็เล่นน้ำสักพักใหญ่ ๆ  แล้วก็ถึงเวลาแยกย้าย  เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ครับผม








ระหว่างทางกลับกรุงเทพฯ    เมื่อเจอโลเกชั่นสวย ๆ เราก็แวะถ่ายรูป  ไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย อิ อิ






ขากลับ เราขี่วิ่งเข้าเส้นในเพื่อจะไปเที่ยวอัมพวาต่อครับ   ระหว่างทางก็ไม่ร้อนด้วย  เพราะมีต้นมะพร้าว  

รถก็ไม่เยอะ   แวะเติมน้ำมัน  แล้วก็วิ่งเรื่อย ๆ เพื่อจะไปกินข้าวที่อัมพวาครับ




สวัสดีอัมพวา....   ถึงแล้วครับ  แต่คนเยอะมาก  คงเพราะเป็นตอนเย็นแล้ว  

ถือว่า ภารกิจเสร็จสิ้นครับ  เพราะได้กินข้าวแล้ว  ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ




ทริปนี้ เรียกได้ว่า  เป็นทริปเรียกน้ำย่อย  เป็นทริปเตรียมความพร้อม  เพราะต้นเดือนหน้า  มีวันหยุดหลายวัน  

เราสองคนคิดไว้ว่า  จะขี่ขึ้นเหนือกัน   แล้วแม่จะกลับมาเล่าให้ฟังนะครับผม
  



จบแล้วครับ  สำหรับทริปเล็ก ๆ  ในวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์  แล้วเจอกันทริปหน้านะครับผม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่