Lensmory
ออกเดินทาง "คนเดียว" ครั้งแรก
----------------------------------------------------------
อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง จ.สุพรรณบุรี
เป็นหนึ่งในลิสต์ที่ผมเคยอยากไปเมื่อนานมาแล้ว
แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดก่อนหน้านี้ ทำให้ไม่ได้จับกล้อง ท่องเที่ยว อีกเลย
ผ่านไปได้สักระยะ ที่สภาพจิตใจเริ่มดีขึ้นมา
เลยลองนั่งมองแผนที่ประเทศไทย และแผนที่โลก เลยรู้สึกได้ว่า
"ไม่ได้สิ ความฝันเรา จะทิ้งไม่ได้
และเรายังอยากถ่ายทอดมุมมองที่เราได้ไปเห็น ให้เพื่อนๆได้รับรู้อีก"
ผมจึงออกเดินทางอีกครั้ง โดยตั้งต้นจากลิสต์เดิมที่เคยอยากไป
----------------------------------------------------------
อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง เป็นสถานที่ที่อยู่ไม่ห่างไกลจาก กรุงเทพฯ
ขับรถไปไม่เกิน 3 ชั่วโมง เราจะเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของธรรมชาติ
ที่เราเหลือเพียงตัวนิดเดียว
อาจจะเป็นจากเหตุผลที่ว่า ที่อ่างเก็บน้ำนี้ ทั้งเงียบสงบ
และไร้สิ่งรบกวนใดๆ แม้แต่สัญญาณมือถือจากทุกค่าย
เหมาะกับคนที่อยากจะไปพักผ่อน นั่งคิดอะไรเพลินๆ
(เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ใช้เสียงได้ถึงแค่ 21:00 น. เท่านั้น)
----------------------------------------------------------
ค่าใช้จ่าย
ค่าเข้าอุทยาน - 20 บาท/คน
ค่ากางเต้นท์ - เต้นท์ละ 100 บาท
ค่าขันโตก(อาหารเย็น) - 300 บาท
ไม่รวมค่าน้ำมัน ผมเสียค่าใช้จ่ายให้กับ เสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมาไปแค่
420 บาทเท่านั้น
ด้วยราคานี้ แลกกับความสงบที่ได้มา
ผมว่า....... มันก็ค่อนข้างโอเคเลยนะ
----------------------------------------------------------
ลองไปดูบรรยากาศเงียบสงบ ท่ามกลางธรรชาติ ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ กันครับ
----------------------------------------------------------
อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง
ให้เราเลือกพักได้ทั้งแบบนอนแพของทางพื้นที่ หรือนอนแบบกางเต้นท์
ซึ่งมีห้องน้ำให้อาบน้ำ สะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลใจเรื่องความลำบาก
(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอัตราความอดทนของแต่ละคนด้วยนะ 5555+)
ภาพมุมสูงของอ่างเก็บน้ำแห่งนี้
หากใครอยากเดินทางไปพักผ่อนที่นี่
ผมแนะนำให้ไปถึงก่อนพระอาทิตย์ตกดินนะครับ
เพราะทางเจ้าหน้าที่อนุญาตให้รถเข้าได้ถึงแค่ 18:00 น.เท่านั้น
ซึ่งถ้าหากมาถึงเร็ว และจัดของอะไรเรียบร้อย
เขาก็มีบริการกิจกรรมทางน้ำไว้รองรับ
ทั้งว่ายน้ำเล่นโดยใส่ชูชีพ และเรือคายัคอย่างที่เห็นนี้
บรรยากาศยามเย็นของอ่างเก็บน้ำ
ทำให้นั่งคิดอะไรเพลินๆไปได้
หรือใครจะพกลำโพงไปฟังเพลงก็ได้เช่นกันนะ
แต่อย่าลืมว่าเขาให้ใช้เสียงถึงแค่ 21:00 น. เท่านั้นนะครับ
ยิ่งพระอาทิตย์ใกล้ตกดินเท่าไร
จำนวนประชากรนักท่องเที่ยว ที่นำเต้นท์มากาง
ก็เริ่มจะเยอะขึ้นเท่านั้น
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ไม่รับจองพื้นที่กางเต้นท์นะครับ
ใครมาก่อนได้ก่อน ได้เลือกที่ก่อนด้วย
ซึ่งถ้าเต็ม ก็เก็บกระเป๋ากลับบ้านกันได้เลย
(แต่ผมว่ามันไม่เต็มหรอก -*- แต่แค่ว่าเราจะเสียดายที่ไม่ได้นอนบริเวณริมอ่างเก็บน้ำเท่านั้นเอง)
อันนี้ Extra มา
คือผมเพิ่งกางเต้นท์เสร็จ หางตาเหลือบไปเห็นอะไรตำคุ่มๆไวๆ
มองขึ้นไป
ก็ไปเจอน้องม้าที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้
กำลังกินอาหารเย็นอย่างหน้าระรื่น
เลยขิเดินเข้าไปใกล้สักระยะ เก็บภาพมาสักหน่อย
เห็นม้ากิน ไอ้เราก็เริ่มหิว = =
ผมเลยทำการสั่ง "ขันโตก" กับพี่ๆเจ้าหน้าที่ไว้
ซึ่งพี่ๆเขาก็น่ารัก แจ้งว่าให้อาบน้ำ อาบท่าก่อน
แล้วค่อยมากินก็ได้
แต่ขอให้มารับขันโตกก่อน 19:00 น. เพราะพี่ๆแม่ครัวเขาจะกลับบ้าน ไปพักผ่อนเพื่อเอาแรงตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าไว้ขายนักท่องเที่ยวกัน
ราคาของขันโตกนี้คือ 300 บาท
และผม........ กินคนเดียว!!!!
ไม่หมดสิวะครับ เยอะขนาดนี้
แต่ก็ต้องลองให้ครบทุกอย่างที่พี่ๆแม่ครัวอุส่าห์ตั้งใจทำให้เรา
ปลาเผา
ต้มยำกระดูกหมู
ไข่เจียว
ผักเคียง
และน้ำพริก
(มีข้าวสวยให้อีก 1 โถถ้วน)
สำหรับค่ากางเต้นท์
หากเรานำเต้นท์ไปเอง
เจ้าหน้าที่จะขอเก็บ 100 บาทต่อหลัง
และต้องเก็บตั๋วนี้ไว้ด้วยนะครับ
ช่วงหัวค่ำๆ พี่ๆเขาจะเดินมาตรวจตั๋วด้วยล่ะ
ถึงเวลา ล่าช้าง แล้ววววววววว
T^T ฮือออออออออ
คืนที่ผมไป อุส่าห์มีโอกาสที่พระจันทร์ขึ้นช้า
ทำให้เราได้เห็ยดาวพาดฟ้าเรียงราย
แต่น่าเสียดายที่เมฆเยอะมาก
ผมให้เห็นเจ้าตัวแสบ โผล่มาแค่กระจุกนึงหลังก้อนเมฆ
นี่ก็อีกกระจุกนึง T^T
ผมเฝ้าอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง จนพระจันทร์เริ่มขึ้นสูง
เลยยอมแพ้ขอตัวไปนอนดีกว่า
เช้าตื่นมา
ก็พบกับบรรยากาศอย่างนี้หน้าบ้าน (เต้นท์)
พ้นไปแปปเดียว
พระอาทิตย์เริ่มขึ้นสูง ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเราควรจะเก็บเต้นท์
แล้วออกจากบริเวณอ่างเก็บน้ำ
เพราะอุณหภูมิก็ขึ้นสูงเช่นกัน
แต่ก็ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศที่ต่างออกไปจากตอนเช้ามืด
ทำให้ได้ฟีลที่หลากหลายจริงๆ
ก่อนกลับ ก็สามารถมาแวะหาอะไรกินที่ สหกรณ์ ชุมชน
ที่ผมมาหวดขันโตกเมื่อคืนกันได้
พี่ๆเจ้าหน้าที่เขามีบริการอาหารตามสั่งสำหรับนักท่องเที่ยวไว้รอแล้ว
...................................................
ภาพนี้ เป็นภาพที่ทำให้คิดถึงการเดินทางเก่าๆ
แต่เมื่อเวลาผ่าน อะไรๆก็ไม่เหมือนเดิม
เวลายังเดินไปข้างหน้า แล้วเราจะหยุดเดินได้ยังไง
ผมเองก็ยังคงต้องเดินทางต่อไป
แม้บทใหม่นี้ จะเป็นการเดินทางด้วยตัวคนเดียวก็ตาม
สุดท้ายนี้
สำหรับเพจใหม่เพิ่งคลอดเพจนี้
ก็อยากฝากเพื่อนๆไว้ก่อน
อาจจะยังไม่ชินกับการทำรีวิวคนเดียว
(ที่ไม่ค่อยได้ถ่ายคน)
แต่จะพยายามพัฒนาฝีมือทั้งการถ่ายและการเขียน
เพื่อทำรีวิวดีๆให้เพื่อนๆได้ชมกันอีกครั้ง
ยังไงก็ขอฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ
ช่วยกันแชร์ ช่วยกัน Like ด้วยน้าาาาาา
https://www.facebook.com/lensmory
ไว้พบกันนะคร้าบบบบบบบบบบ
#lensmory
#ความทรงจำผ่านเลนส์
[CR] Lensmory - อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง จ.สุพรรณบุรี อยู่กับธรรมชาติในวันที่เหนื่อยล้า
Lensmory
ออกเดินทาง "คนเดียว" ครั้งแรก
----------------------------------------------------------
อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง จ.สุพรรณบุรี
เป็นหนึ่งในลิสต์ที่ผมเคยอยากไปเมื่อนานมาแล้ว
แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดก่อนหน้านี้ ทำให้ไม่ได้จับกล้อง ท่องเที่ยว อีกเลย
ผ่านไปได้สักระยะ ที่สภาพจิตใจเริ่มดีขึ้นมา
เลยลองนั่งมองแผนที่ประเทศไทย และแผนที่โลก เลยรู้สึกได้ว่า
"ไม่ได้สิ ความฝันเรา จะทิ้งไม่ได้
และเรายังอยากถ่ายทอดมุมมองที่เราได้ไปเห็น ให้เพื่อนๆได้รับรู้อีก"
ผมจึงออกเดินทางอีกครั้ง โดยตั้งต้นจากลิสต์เดิมที่เคยอยากไป
----------------------------------------------------------
อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง เป็นสถานที่ที่อยู่ไม่ห่างไกลจาก กรุงเทพฯ
ขับรถไปไม่เกิน 3 ชั่วโมง เราจะเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของธรรมชาติ
ที่เราเหลือเพียงตัวนิดเดียว
อาจจะเป็นจากเหตุผลที่ว่า ที่อ่างเก็บน้ำนี้ ทั้งเงียบสงบ
และไร้สิ่งรบกวนใดๆ แม้แต่สัญญาณมือถือจากทุกค่าย
เหมาะกับคนที่อยากจะไปพักผ่อน นั่งคิดอะไรเพลินๆ
(เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ใช้เสียงได้ถึงแค่ 21:00 น. เท่านั้น)
----------------------------------------------------------
ค่าใช้จ่าย
ค่าเข้าอุทยาน - 20 บาท/คน
ค่ากางเต้นท์ - เต้นท์ละ 100 บาท
ค่าขันโตก(อาหารเย็น) - 300 บาท
ไม่รวมค่าน้ำมัน ผมเสียค่าใช้จ่ายให้กับ เสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมาไปแค่
420 บาทเท่านั้น
ด้วยราคานี้ แลกกับความสงบที่ได้มา
ผมว่า....... มันก็ค่อนข้างโอเคเลยนะ
----------------------------------------------------------
ลองไปดูบรรยากาศเงียบสงบ ท่ามกลางธรรชาติ ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ กันครับ
----------------------------------------------------------
อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง
ให้เราเลือกพักได้ทั้งแบบนอนแพของทางพื้นที่ หรือนอนแบบกางเต้นท์
ซึ่งมีห้องน้ำให้อาบน้ำ สะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลใจเรื่องความลำบาก
(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอัตราความอดทนของแต่ละคนด้วยนะ 5555+)
ภาพมุมสูงของอ่างเก็บน้ำแห่งนี้
หากใครอยากเดินทางไปพักผ่อนที่นี่
ผมแนะนำให้ไปถึงก่อนพระอาทิตย์ตกดินนะครับ
เพราะทางเจ้าหน้าที่อนุญาตให้รถเข้าได้ถึงแค่ 18:00 น.เท่านั้น
ซึ่งถ้าหากมาถึงเร็ว และจัดของอะไรเรียบร้อย
เขาก็มีบริการกิจกรรมทางน้ำไว้รองรับ
ทั้งว่ายน้ำเล่นโดยใส่ชูชีพ และเรือคายัคอย่างที่เห็นนี้
บรรยากาศยามเย็นของอ่างเก็บน้ำ
ทำให้นั่งคิดอะไรเพลินๆไปได้
หรือใครจะพกลำโพงไปฟังเพลงก็ได้เช่นกันนะ
แต่อย่าลืมว่าเขาให้ใช้เสียงถึงแค่ 21:00 น. เท่านั้นนะครับ
ยิ่งพระอาทิตย์ใกล้ตกดินเท่าไร
จำนวนประชากรนักท่องเที่ยว ที่นำเต้นท์มากาง
ก็เริ่มจะเยอะขึ้นเท่านั้น
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ไม่รับจองพื้นที่กางเต้นท์นะครับ
ใครมาก่อนได้ก่อน ได้เลือกที่ก่อนด้วย
ซึ่งถ้าเต็ม ก็เก็บกระเป๋ากลับบ้านกันได้เลย
(แต่ผมว่ามันไม่เต็มหรอก -*- แต่แค่ว่าเราจะเสียดายที่ไม่ได้นอนบริเวณริมอ่างเก็บน้ำเท่านั้นเอง)
อันนี้ Extra มา
คือผมเพิ่งกางเต้นท์เสร็จ หางตาเหลือบไปเห็นอะไรตำคุ่มๆไวๆ
มองขึ้นไป
ก็ไปเจอน้องม้าที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้
กำลังกินอาหารเย็นอย่างหน้าระรื่น
เลยขิเดินเข้าไปใกล้สักระยะ เก็บภาพมาสักหน่อย
เห็นม้ากิน ไอ้เราก็เริ่มหิว = =
ผมเลยทำการสั่ง "ขันโตก" กับพี่ๆเจ้าหน้าที่ไว้
ซึ่งพี่ๆเขาก็น่ารัก แจ้งว่าให้อาบน้ำ อาบท่าก่อน
แล้วค่อยมากินก็ได้
แต่ขอให้มารับขันโตกก่อน 19:00 น. เพราะพี่ๆแม่ครัวเขาจะกลับบ้าน ไปพักผ่อนเพื่อเอาแรงตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าไว้ขายนักท่องเที่ยวกัน
ราคาของขันโตกนี้คือ 300 บาท
และผม........ กินคนเดียว!!!!
ไม่หมดสิวะครับ เยอะขนาดนี้
แต่ก็ต้องลองให้ครบทุกอย่างที่พี่ๆแม่ครัวอุส่าห์ตั้งใจทำให้เรา
ปลาเผา
ต้มยำกระดูกหมู
ไข่เจียว
ผักเคียง
และน้ำพริก
(มีข้าวสวยให้อีก 1 โถถ้วน)
สำหรับค่ากางเต้นท์
หากเรานำเต้นท์ไปเอง
เจ้าหน้าที่จะขอเก็บ 100 บาทต่อหลัง
และต้องเก็บตั๋วนี้ไว้ด้วยนะครับ
ช่วงหัวค่ำๆ พี่ๆเขาจะเดินมาตรวจตั๋วด้วยล่ะ
ถึงเวลา ล่าช้าง แล้ววววววววว
T^T ฮือออออออออ
คืนที่ผมไป อุส่าห์มีโอกาสที่พระจันทร์ขึ้นช้า
ทำให้เราได้เห็ยดาวพาดฟ้าเรียงราย
แต่น่าเสียดายที่เมฆเยอะมาก
ผมให้เห็นเจ้าตัวแสบ โผล่มาแค่กระจุกนึงหลังก้อนเมฆ
นี่ก็อีกกระจุกนึง T^T
ผมเฝ้าอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง จนพระจันทร์เริ่มขึ้นสูง
เลยยอมแพ้ขอตัวไปนอนดีกว่า
เช้าตื่นมา
ก็พบกับบรรยากาศอย่างนี้หน้าบ้าน (เต้นท์)
พ้นไปแปปเดียว
พระอาทิตย์เริ่มขึ้นสูง ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเราควรจะเก็บเต้นท์
แล้วออกจากบริเวณอ่างเก็บน้ำ
เพราะอุณหภูมิก็ขึ้นสูงเช่นกัน
แต่ก็ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศที่ต่างออกไปจากตอนเช้ามืด
ทำให้ได้ฟีลที่หลากหลายจริงๆ
ก่อนกลับ ก็สามารถมาแวะหาอะไรกินที่ สหกรณ์ ชุมชน
ที่ผมมาหวดขันโตกเมื่อคืนกันได้
พี่ๆเจ้าหน้าที่เขามีบริการอาหารตามสั่งสำหรับนักท่องเที่ยวไว้รอแล้ว
...................................................
ภาพนี้ เป็นภาพที่ทำให้คิดถึงการเดินทางเก่าๆ
แต่เมื่อเวลาผ่าน อะไรๆก็ไม่เหมือนเดิม
เวลายังเดินไปข้างหน้า แล้วเราจะหยุดเดินได้ยังไง
ผมเองก็ยังคงต้องเดินทางต่อไป
แม้บทใหม่นี้ จะเป็นการเดินทางด้วยตัวคนเดียวก็ตาม
สุดท้ายนี้
สำหรับเพจใหม่เพิ่งคลอดเพจนี้
ก็อยากฝากเพื่อนๆไว้ก่อน
อาจจะยังไม่ชินกับการทำรีวิวคนเดียว
(ที่ไม่ค่อยได้ถ่ายคน)
แต่จะพยายามพัฒนาฝีมือทั้งการถ่ายและการเขียน
เพื่อทำรีวิวดีๆให้เพื่อนๆได้ชมกันอีกครั้ง
ยังไงก็ขอฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ
ช่วยกันแชร์ ช่วยกัน Like ด้วยน้าาาาาา
https://www.facebook.com/lensmory
ไว้พบกันนะคร้าบบบบบบบบบบ
#lensmory
#ความทรงจำผ่านเลนส์
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น