ธุรกิจประเภทนี้มันคือการหลอกลวงใช่มั้ยคะ? หรือยังไง? มันมีมานานหรือยังคะ? ช่วยบอกคนไม่มีความรู้หน่อยค่ะ

ใครที่กำลังอยู่ในช่วงหางานทำ แนะนำลองมาอ่านกระทู้นี้ดูนะคะ เพราะการหางานทำของเราทำให้เราได้ไปรู้จักธุรกิจประเภทหนึ่งที่ทำให้เราเฟลมากๆเลยล่ะค่ะ

ย้อนไปประมาณเดือนที่แล้ว เรากำลังเรียนอยู่ปวช.ปี3 ตอนนั้นอยู่ในช่วงปิดเทอม กำลังหางานทำเพื่อจะได้มีเงินส่งตัวเองเรียนต่อ เราก็เดินสมัครงานตามห้าง ร้านต่างๆ ทิ้งใบสมัครไว้หลายที่ ด้วยวุฒิม.3ก็จะหางานยากมากๆ
กระทั่งเราไปสะดุดตากับงานแห่งหนึ่งใกล้บ้านที่เราเจอในอินเทอร์เน็ต รายละเอียดข้อมูลเค้าจะบอกไว้ครบเลย

บริษัท....
รับสมัครพนักงานฝ่ายประสานงาน
ทุกเพศ
วุฒิม.3ขึ้นไป
ไม่ต้องมีประสบการณ์
อายุ18ปีขึ้นไป
เงินเดือนสตาร์ท 14,000
มีหน้าที่ ประสานงานแผนกต่างๆ ติดต่อให้ข้อมูลทางโทรศัพท์เพื่อประสานงานต่างๆ
ทำงาน 10.00-19.00
หยุดอาทิตย์ละ1วัน

เราเห็นละแบบ เฮ้ย น่าสนใจมากอะ งานคล้ายๆพวกออฟฟิศเลย แต่รับวุฒิต่ำมาก คือสงสัยนะว่าทำไมรับวุฒิต่ำจัง
เราเลยลองแอดไลน์ที่เค้าทิ้งไว้ ลองทักไปถามดู
ประมาณไม่ถึงชั่วโมง เค้าก็ตอบกลับมา คุยกันไปมาสรุป เค้านัดให้เราไปสัมภาษณ์งานพรุ่งนี้ โดยเตรียมเอกสารพวกบัตร ปชช. สำเนาวุฒิการศึกษา เอกสารต่างๆมาสัมภาษณ์งาน
ตอนนั้นเราก็ตกลงนะ แต่แอบสงสัยนิดนึงเลยลองเอาชื่อบริษัทไปค้นในกูเกิ้ล ก็ไม่พบข้อมูล แต่ก็แอบปลอบใจว่าอาจเป็นบริษัทเล็กๆไรงี้

วันต่อมา พอเราไปถึงสถานที่นัดสัมภาษณ์ก็ลองส่องบรรยากาศโดยรอบเผื่อเป็นการหลอกลวงขึ้นมา แต่ก็ไม่มีอะไรให้น่าสงสัย เพราะสถานที่นัดสัมภาษณ์เป็นตึกแถว3ชั้น ลักษณะคล้ายๆออฟฟิศ บรรยากาศโดยรอบดูหรูนิดๆ พอเราเปิดประตูเข้าไปก็เจอเค้าท์เตอร์ตั้งต้อนรับอยู่ คือดูหรูหรา สวยงามมากเลยนะ เฟอร์นิเจอร์สวย บรรยากาศดูสบายๆ
พี่ๆมาต้อนรับเราแบบอบอุ่นมาก เอาน้ำมาเสริฟ เอาใบสมัครมาให้กรอก  เราสังเกตเห็นว่า ไม่ใช่แค่เราที่ถูกนัดมาสัมภาษณ์ มีอีกประมาณ5คนที่ถูกนัดมาสัมภาษณ์งานเหมือนกัน

ส่วนพี่ๆที่ต้อนรับเราก็คุยแบบเป็นกันเองมาก ต้อนรับเราดีมาก จนเราในตอนนั้นไม่รู้สึกสงสัยอะไรละ ก็กรอกใบสมัครไป แล้วก็ลองถามสิ่งที่เราสงสัยคร่าวๆด้วย
พี่เค้าก็ตอบว่า เงินเดือนสตาร์ท14,000จริง รายละเอียดเป็นไปตามที่ระบุเลย เดี๋ยวอีกสักพักจะให้เข้าไปสัมภาษณ์งาน ประมาณนี้

ตอนนั้นเราก็ไลน์บอกแม่ด้วยความดีใจ
แม่หนูอาจจะได้งานแล้วนะ งานดูโอเค อาจจะได้ไม่ต้องไปเป็นเด็กเสริฟไรงี้
พอถึงเวลาเค้านัดสัมภาษณ์ ปรากฏว่าไม่ได้เป็นการสัมภาษณ์ตัวต่อตัว แต่สัมภาษณ์พร้อมกันหมดเลย แล้วเหมือนไม่ใช่การสัมภาษณ์ เหมือนเป็นการมาฟังบรรยายมากว่า

สิ่งที่พี่เค้าพูดก็จะเกี่ยวกับแนะนำบริษัทของเค้าว่าเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของแอพพลิเคชั่นชนิดหนึ่งขอไม่บอกชื่อ แต่คล้ายๆบัตรสะสมแต้มที่ให้ลูกค้าจ่ายเงินแล้วได้คะแนนสะสมกลับมา  แต่ตัวนี้จะไม่ใช่บัตร เป็นแอพพลิเคชั่นที่บันทึกเวลาลูกค้าจ่ายเงินซื้ออะไรก็แล้วแต่ แล้วสามารถสะสมเป็นคะแนน ไปแลกกลับเป็นเงินได้อีกที  

แล้วเค้าก็ให้ดูใบรับรอง ใบทะเบียนการค้าต่างๆที่ยืนยันว่าบริษัทนี้ถูกกฏหมายและมีตัวตนอยู่จริงๆ ประมาณนี้ เราก็อ๋อๆ น่าสนใจมาก

จากนั้นเค้าก็บรรยายต่อว่า หน้าที่ของเราคือติดต่อประสานงาน คอยต้อนรับคนที่มาสัมภาษณ์งาน คอยให้ข้อมูล บรรยายเกี่ยวกับบริษัทนี้ให้ผู้ที่มาสัมภาษณ์
คือทำงานเหมือนที่พวกพี่ๆเค้าทำในวันนี้เลย
เค้ายังบอกอีกว่า เป็นงานที่รับประกันว่าภายใน1-2ปี คุณสามารถประสบความสำเร็จ มีเงินเดือนห้าหมื่นต่อเดือนแน่นอนหากคุณขยัน พร้อมทั้งยกตัวอย่าง บุคคลที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยแนบบัตร ปชช. ของบุคคลนั้น รูปบ้านรูปรถ ที่เพิ่งออกใหม่ มายืนยันด้วยว่าเค้าประสบความสำเร็จจริง
ในใจเราก็แบบโห น่าสนใจมาก อยากทำ

หลังจากนั้น เค้าก็บรรยายต่อว่า
รายได้หลักของเรา จะอยู่ที่...ถ้าเราหาคนมาสัมภาณ์งานได้1คน เราจะได้ 100บาท
แล้วถ้าคนที่เรานัดมาสัมภาษณ์ตกลงทำงานกับเรา เราจะได้เงินเพิ่มอีกคนละ500บาท

ในใจตอนนั้นก็ฉุกคิดละ อ่าว เป็นงานที่ต้องหาคนมาสัมภาษณ์เหรอ  เออเป็นงานที่แปลกดี ไม่เคยได้ยิน แต่ก็ทำได้นะ แค่หาคนมาสัมภาษณ์เอง แต่พอรู้ว่าเราไม่มีเงินเดือนหลักนะ เราจะได้เงินจากการหาคนมาสัมภาษณ์เท่านั้นก็เริ่มคิดมากละ แต่ก็เอาวะ ลองทำดู หางานใหม่ยากจะตาย
แล้วก็มาถึงจุดพีค
คือฟังไปฟังมา มันต้องมีค่าสมัครในการเริ่มงานคนละ4,800บาท
เฮ้ย เริ่มไม่ใช่ละ สมัครงานอะไรต้องเสียเงินก่อนทำงานเยอะขนาดนี้ด้วย
อันที่จริง ถ้าไปทำงานที่อื่นอาจจะต้องมีค่าใช้จ่าย เช่นค่าชุดฟอร์ม แต่เค้าจะหักจากเงินเดือน ไม่ใช่มาเก็บสดๆต่อหน้าแบบนี้นี่นา  ในใจตอนนี้เริ่มคิดละว่าไม่ทำอะ ไม่มีเงินมาเสียค่าสมัครแบบนี้หรอก  ไม่ใช่เงินน้อยๆด้วย

เริ่มรู้สึกเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ๆเค้าถึงต้อนรับเราดีขนาดนี้ทั้งๆที่เรามาสมัครงาน มาขอสัมภาษณ์งานเพื่อที่จะได้ทำงานร่วมกับเค้า
ที่แท้ก็เป็นเพราะเค้าได้เงินจากคนที่มาสมัครงานนี่เอง แต่ลึกๆก็สงสัยมากว่าเป็นงานอะไรกันวะ งง ไม่เคยเห็นมาก่อน เก็บเงินจากคนที่มาสัมภาษณ์งานเนี่ยนะ??

พอเค้าบรรยายเสร็จ พี่ๆก็ยังไม่ปล่อยตัวเราและคนอื่นๆไป
ก็นัดมาคุยตัวต่อตัวอีก เค้ายื่นใบเซ็นสัญญาทำงานร่วมกับบริษัทนี้ให้เรา  ก่อนเซ็นเราก็ถามเค้าแบบละเอียดอีกที
“คือหนูมีเงินเดือนหลักสตาร์ทอยู่แล้ว14,000เหรอคะ ไม่รวมค่าคอมหรือที่หาคนมาสัมภาษณ์อะค่ะ”
/ใช่ รายได้หนูจะมาจากการหาคนมาสัมภาษณ์ตรงนี้ เหมือนที่พี่ทำ เงินเดือนหนูมากกว่า14,000แน่นอน/

เค้าตอบแบบนี้ ในใจเราแบบอะไรวะ มันเข้าใจคำถามกรูมั้ยเนี่ย
แต่ก็แบบไม่ถามต่อ
“แล้วหนูต้องเสียค่าสมัคร4,800เหรอคะ”
/ใช่ค่ะ ทุกการสมัครงานเราต้องเสียค่าสมัครอยู่แล้ว(เหรอฟะ?)  ซึ่งเงิน4,800นี้ หนูจะได้ คู่มือการทำงาน ชุดฟอร์มทำงาน แล้วก็คอลลาเจนสองกล่อง ปกติคอลลาเจนตัวนี้กล่องละ 4,800เลยนะ แต่หนูได้ไปเลย2กล่อง/
แล้วพี่เค้าก็หยิบคอลลาเจนมาให้เราดู
ตอนนั้นคือเราอึ้งกิมกี่ไปเลยอะ  คือเหมือนไอที่เราสงสัยมาเมื่อกี๊ มันคลี่คลายหมดแล้วอะ  นี่มันขายคอลลาเจนนี่หว่า งานที่ให้เราไปทำคือขายคอลลาเจน แต่เอาไอพวกสัมภาษณ์งาน พวกแอพพลิเคชั่นบังหน้าเท่านั้นเอง อะไรวะเนี่ย ในใจตอนนั้นคือแบบงงไปหมด เอ๋อ-เลยแหละ
นาทีนั้น มีพี่อีกคนนึง ประกาศขึ้นมาก่อน
“ขออนุญาตนะคะ เดี๋ยวขอสาธิตคอลลาเจนตัวนี้ให้ผู้ที่มาสัมภาษณ์ดูก่อนนะคะ”
แล้วก็เค้าก็เอาน้ำเปล่ามาแก้วนึง สักพัก หยิบทิงเจอร์เบตาดีน ที่ใช้ทาแผลสดเทใส่ลงแก้วน้ำ น้ำจะกลายเป็นสีเลือด
“เราจะสาธิตว่าตอนนี้น้ำเเก้วนี้มีสารปนเปื้อนนะคะ จากนั้นเราจะลองเทคอลลาเจนลงไปในแก้ว แล้วคนดูรอบนึง  น้ำก็จะกลับมาใสเหมือนเดิมนะคะ ซึ่งแน่นอนว่า คอลลาเจนตัวนี้ช่วยปกป้องร่างกายของเราจากมลพิษและสิ่งปนเปื้อนแน่นอนค่ะ”

ส่วนกุเหรอ เอ๋อ-ดิ นี่มันขายคอลลาเจน มันขายคอลลาเจนโว้ย ตอนนั้นแบบพูดไรไม่ออกแล้วอะ ไม่รู้จะอธิบายกับตัวเองยังไงแล้วอะ
แล้วก็ยิ่งเอ๋อเข้าไปใหญ่เมื่อคนที่มาร่วมสัมภาษณ์เหมือนกับเราตกลงทำงานนี้และควัก4,800จ่ายแบบสดๆ เฮ้ย เมิงไม่รู้ตัวเลยเหรอว่านี่มันขายตรง  
เราหันกลับมามองหน้าพี่ที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งเราพูดไปเลยว่าไม่ทำค่ะ
พี่เค้าก็ถาม ทำไมอะ แล้วก็สาธยายบรรยายอีกกว่าสิบนาทีว่างานนี้มันดีนะ มั่นใจแน่นอนว่าเราจะต้องประสบความสำเร็จ อย่างงู้นอย่างงี้ คือไม่เข้าสมองเราเลยค่ะ เราก็ยืนยันคำเดิมว่าไม่ทำ แต่เค้าก็ไม่ยอมปล่อยเรา ก็นั่งบรรยายอีกหลายกว่านาทีว่าจะไปเป็นลูกจ้างเค้าทำไมอย่างงู้นอย่างงี้  คือพูดยาวมากกกก. ในใจยอมรับนะว่าพี่เค้าพูดเก่ง มีสปิริตในการโน้มน้าวใจคนที่สูงมาก  
แต่เราทำงานนี้ไม่ได้จริงๆ เราไม่มีเงิน4,800มาจ่าย เราไม่ได้อยากขายคอลลาเจน เราอยากได้งานที่มีเงินเดือน นี่มันไม่ใช่งานฝ่ายประสานงานแบบที่เค้าบอกไว้เลย แล้วนี่มันคือการหลอกลวง
แต่พอรู้ว่าเค้าไม่ยอมปล่อยเราไปแน่ๆ
เราเลยบอกว่า หนูไม่มีตังค์ค่ะ เพราะสิ่งที่เค้าต้องการจากเราคือเงิน ถ้าเราไม่มี เค้าก็จะไม่สนใจเราแน่
พี่เค้าก็เงียบไปสักพักนึงแล้วบอก งั้นตอนนี้หนูวางมัดจำไว้600 แล้วที่เหลือค่อยหักจากเงินเดือนตอนเงินเดือนแรกออก
เราก็พูดไปอีกว่า ไม่มีเงินค่ะ 600ก็ไม่มี
คุยไปคุยมา พี่เค้าก็ลดจาก600เหลือ300
บอกว่า วางไว้300ก็ได้
เหอะๆ ในใจเราตอนนั้นคือโคตรมั่นใจเลยว่านี่มันคือการหลอกลวง มันไม่ใช่งานฝ่ายประสานงาน
เราก็ตอบพี่เค้าไปอีกว่า ไม่มีเงินค่ะ
พี่เค้าบอก หนูไม่พกตังค์เลยเหรอ ในบัญชีล่ะ สมัยนี้ไม่มีใครไม่ใช้แอพโอนเงินในโทรศัพท์นะ พี่เค้าพูดพร้อมมองมาที่โทรศัพท์ไอโฟน6ของเรา
เออ ใช้ไอโฟน6แต่ไม่มีตัง300 กุรู้ว่าเมิงคิดแบบนี้
สุดท้าย พอรู้ว่าเค้าไม่ยอมปล่อยเราไปแน่นอน เลยโกหกไปว่า  งั้นบ่ายสามหนูเข้ามา จ่ายครบเลย4,800 ต้องโทรไปขออนุญาตแม่ก่อน
พี่เค้าก็บอกอีกว่า “พี่เจอมาเยอะแล้ว ส่วนใหญ่ไม่กลับมาหรอก”
เราเลยสวนไปว่า “ทำไมอะ ทำไมเค้าถึงไม่กลับมาล่ะคะ งานนี้มันน่าทำมากเลยนะคะ ทำไมถึงไม่กลับมา”
พี่เค้าก็เงียบ พูดไม่ออกเลย หึ
“เอาเป็นว่า อย่าไปบอกแม่เรานะว่าเอามาจ่ายค่ากล่องพวกนี้(ชี้ไปที่คอลลาเจน) บอกว่าเอามาเป็นค่าสมัครงานฝ่ายประสานงานนะ”
เราก็พยักหน้าๆอืมๆแล้วเดินออกมาจากร้านเลย ทุกคนภายในร้านที่ตอนแรกบริการเราอย่างดีพากันพูดแบบ “ทำไมไม่ตกลงทำอะน้อง ไม่มีที่ไหนรับละนะ”

เราเงียบไม่ตอบ ตอนนั้นไม่รู้จะพูดไรด้วยแหละ ระหว่างที่ขับมอเตอร์ไซต์ น้ำตาเราไหลออกมาเลย ก็ขับวนหางานกันต่อไป แล้วก็ไม่คิดจะกลับไปที่นั่นอีกเลย แต่ครั้งนี้จะเป็นประสบการณ์อย่างดีเลยแหละ
คิดแล้วก็เศร้า อุตส่าห์คิดว่าจะได้งานทำแล้วเชียว
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
หลอกลวงแน่อยู่แล้วค่ะ  
งานขายตรงปัจจุบันนี้เปลี่ยนร่างไปมาเพื่อให้คนไม่คิดว่าเป็นขายตรง มีทุกรูปแบบ

แล้วพี่จะบอกว่า น้องเป็นคนมีศักยภาพนะ
ตัดสินจากที่เขียนกระทู้นี้ ตัดสินแบบมองว่าน้องกำลังมาสมัครงาน

ใช้ภาษาไทยได้ดี ถูกต้อง  
การเรียบเรียงเรื่องราว เล่าได้เข้าใจดี  
มีความสงสัย ในสิ่งที่ดูไม่มีเหตุผล
มีไหวพริบ  ใช้คำปฏิเสธเป็น
มีความหนักแน่น  ไม่ทำคือไม่ทำ เพราะบางคนถ้าไม่กล้า ก็จะวางเงินมัดจำแล้วค่อยหนี  คิดว่าเสียนิดหน่อยช่างมันเถอะ

เนี่ย ที่จะบอกคือ  อย่าท้อนะคะ  
มีงานดีๆรอคนแบบน้องอยู่

ตอนนี้หาเงินเรียนอาจหางานยากหน่อย แต่ขอให้อดทน เรียนให้จบสูงๆ และไปทำงานในสายงานที่เราชอบ  
ในสังคม แทบทุกคนตัดสินกันที่ภายนอกค่ะ
เพราะว่าเราไม่ได้รู้จักกันมาแต่เด็ก ฉะนั้นวุฒิการศึกษา เกรดเฉลี่ย  บุคลิกเมื่อแรกเจอ  คือสิ่งที่คนใช้ตัดสินเราทั้งสิ้น
สร้างโอกาสให้ตัวเองเยอะๆ  

เป็นกำลังใจให้นะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่