เรื่องยาวครับ
ก่อนอื่น บอกก่อนว่าสภาพที่บ้านผมไม่เหมาะในการเลี้ยงสัตว์เลย เพราะที่บ้านไม่ชอบสัตว์เลี้ยง และที่ผ่านมา หมา แมว และนกที่เคยเลี้ยง "ตาย" หมด ด้วยเหตุผลหลักๆ คือ
- ที่บ้านไม่ได้มองสัตว์ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตแบบที่มีความรู้สึกเหมือนกัน ถ้ามันตายก็คือตาย จบ
- ที่บ้านไม่มีใครอยู่บ้านแบบตลอดเวลา
- ที่บ้านไม่เคยยอมให้พาสัตว์ไปหาหมอ เพราะมองว่า เดี๋ยวหมอก็จะฟันค่ารักษาหัวแบะ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์เลี้ยงตาย
- ที่บ้านเลี้ยงสัตว์แบบไม่ถูกวิธี
ส่วนตัวผม จริงๆ ผมเป็นคนเข้าใจความรู้สึกของสัตว์ เรียกมันว่า เขา หรือ น้อง ตลอด และทั้งหมา แมว นกที่ผมเลี้ยง ต่างก็ตายคามือผมมาทั้งนั้น ผมจึงคิดอยู่ว่ายังไงบ้านนี้ไม่ควรเลี้ยงสัตว์
ทีนี้ เรื่องมีอยู่ว่า คนที่บ้านผมไปเจอนกหงส์หยกมา ซึ่งเชื่องคนมาก ผมมองออกทันทีเลยว่า ต้องพลัดหลงกับเจ้าของ และด้วยการที่นกมันเชื่องกับคน ก็เลยไปติดคนที่บ้าน คนที่บ้านผมก็เห็นความน่ารัก ก็เลยช่วยเลี้ยงให้ และไปๆ มาๆ ก็อยากเลี้ยงเอง
ผมบอกเขาไปตั้งแต่วันแรกแล้วว่าจะประกาศหาเจ้าของ เขาบอกไม่ต้อง แต่ถ้าไม่มีคนติดต่อมาครบอาทิตย์ก็จะเลี้ยงต่อเอง ผมทำท่าจะขี่จักรยานออกไปสอบถามแถวบ้าน ก็บอกไม่ต้องไปหรอก (คือผมคิดมาตั้งแต่แรกแล้วว่า ถ้านกมีเจ้าของจริง แล้วมันเชื่องคนขนาดนี้ จะต้องเลี้ยงดูแบบรักมากแน่ๆ ยังไงก็ต้องคืน)
วันที่ 2 คนทางบ้านผมดันไปซื้อนกมาอีกตัว โดยไม่ฟังความเห็นของเพื่อนผมที่เลี้ยงนกอยู่แล้วว่า นกหงส์หยกไม่ต้องซื้อมาเพิ่ม ซื้อของเล่นให้มันก็พอ แล้วพวกจากร้านขายสัตว์เลี้ยงอาจจะติดเชื้อโรคมา แต่คนทางบ้านผมไม่ฟัง แล้วก็ซื้อมา แล้วตอนที่เอามา ก็ดันใส่กล่องเล็กมากๆ มา

คนที่บ้านบอกว่า ตอนอยู่ในร้านขายสัตว์เลี้ยง มันก็ร่าเริงดี แต่พอพามาที่บ้าน (โดยการจับใส่กล่องขนาดเล็กมากๆ แล้วพามาแบบขี่มอเตอร์ไซด์มา) ขาท่าทางเจ็บตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เพื่อนผมแนะนำยังไง คนทางบ้านผมทำคนละแบบ เช่น ต้องซื้อมาอีกกรงแล้วใส่แยก แต่ที่บ้านดันจับยัดใส่เข้าไปทั้งสองตัว เพื่อนผมแนะนำว่าขังในกรงไปก่อนให้มันคุ้นชินกับทางบ้าน ไปคลิบปีกมันด้วย แต่ที่บ้านดันปล่อยให้มันออกมาบินเล่น แต่ถึงเวลากินข้าวก็จะไปจับมันมาเข้ากรง
ประเด็นปัญหามันเริ่มมาจาก มีคนมาติดต่อหาผมในคืนวันนั้น แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ แต่ที่บ้านผมโมโหมาก เพราะจะเลี้ยงเอง บอกให้ผมบล็อกเฟสหรือไม่ต้องสนใจไปเลย (แต่ผมไม่ทำอย่างนั้น) บอกว่าเขาต้องอ้างว่าเป็นเจ้าของเพราะอยากเลี้ยงเอง แต่ผมเป็นคนขอให้เขาส่งรูปแสดงความเป็นเจ้าของมา แล้วผมกับเพื่อนก็ช่วยกันเช็คว่าใช่รึเปล่า ซึ่งมี % มากกว่าใช่
ทีนี้ มาดูก่อนว่า สภาพบ้านผมเป็นยังไงและเลี้ยงยังไง
ปกติผมจะทำงานร้านเน็ต ช่วงเวลานั้นเด็กยังปิดเทอม ผมก็ต้องออกไปดูร้านตลอดเวลา ที่บ้านจึงมีคนในบ้านคนนึงดูแลนก ผมจะเดินแวะกลับมาบ้างตอนกินข้าวและ 2 4 ทุ่มเพื่อเข้านอน มีน้องสาวคนหนึ่ง แต่น้องสาวอยู่หอ กลับมาบ้านก็ พฤหัส - วันอาทิตย์ และปกติวันเสาร์ - อาทิตย์ก็มักจะออกไปข้างนอก
ที่บ้านผมให้ผมบอกเขาไปว่า มีอีกคนแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเหมือนกัน ให้เขามาดูวันอาทิตย์ แต่คนที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ เขาขอร้องผมว่าให้เขามาดูตัวจริงหน่อย ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร พร้อมส่งรูปนกตอนเด็กๆ มาให้ผมเห็นว่าเขาเลี้ยงมาตั้งแต่มันยังเล็กๆ ผมจึงเลยบอกทางบ้านให้เขามาดู มันจะได้ไม่คาใจ
แน่นอนว่าผมโดนด่าแหลก เขาบอกว่า นกมันมาอยู่กับเราเพราะนกไม่มีวาสนาจะอยู่กับเจ้าของเก่าแล้ว แกไม่อยากเลี้ยงมันเหรอ ฯลฯ อะไรประมาณนั้น ผมเลยต้องทำตามที่บอก
วันที่คนที่บอกว่าเป็นเจ้าของมาดู (วันนั้นน้องสาวผมกลับมาบ้านพอดีและเห็นความน่ารักของนกด้วย ก็อยากเลี้ยง) เขามาเห็นนกแล้ว ร้องไห้โฮออกมาไม่หยุดเลย
นั่นคือสิ่งที่ผมคิดอยู่แล้วว่าจะต้องเจอ
คือลักษณะของนกนั้น แทบจะตรงตามที่เขาบอก 90% แต่ตอนนั้น นกมันบินไปหาเขาแล้วก็บินกลับมาหาคนทางบ้านซะมากกว่า (คือมันก็ดูแปลกๆ เพราะผมว่านกต้องจำเจ้าของได้ หรือมันยังจำไม่ได้ก็ไม่รู้เหมือนกัน)
ตอนแรกๆ เขาอยากพานกไปที่บ้าน เพื่อพากลับไปยังสภาพแวดล้อมที่นกคุ้นเคย แล้วพากลับมาก็ได้ แต่ที่บ้านปฏิเสธ เพราะบอกว่าถ้านกเห็นอะไรใหม่ๆ แล้วชอบ มันจะชอบก็ได้ เขาก็เลยพาผมกับที่บ้านไปดูว่าที่เบ้านเขามีนกเลี้ยงดูอย่างดีจริงๆ และโชว์ให้เห็นว่า นกที่หายไป ก็มีคู่ แล้วคู่เจ้าตัวก็หงอยจริงๆ (บ้านเขาห่างจากบ้านผมราว 2.2 โล โดยเขาบอกว่านกเขาหลุดไปตอนวันที่ฝนตก แล้วหายไปเป็นอาทิตย์)
เขาบอกว่า ถ้าที่บ้านอยากเลี้ยงต่อก็ได้ แต่ต้องเอาคู่มันมาด้วย และต้องดูแลมันดีๆ (แต่ผมดูหน้าแล้ว ใจเขาไม่อยากให้บ้านผมเลี้ยงต่อ)
คนที่บ้านก็บอกมาว่า ให้เขารอจนถึงวันอาทิตย์ เพื่อรอให้อีกคน (ที่โกหก) มาดูก่อน ทางเขาก็ยอม
หลังจากนั้น ที่บ้านก็เลี้ยงดูนกกันตามปกติ จนคนที่บ้านเริ่มบ่นๆ เพราะเสียเวลาความเป็นส่วนตัว นอนกลางวันก็นอนไม่ได้ จะออกไปทำธุระก็ทำไม่ได้ เพราะนกมันจะบินมาเกาะตลอด ส่วนการเลี้ยงก็คือ เปิดกรงปล่อยให้นกทั้งสองตัวบินออกมา ตัวเขียวเริ่มร่าเริงขึ้น ส่วนตัวขาว (ตัวที่ซื้อมา) ซึ่งไม่เชื่องกับคน เวลาจับเข้ากรงก็ต้องไปจับมันเข้ากรงไป
ผ่านมาจนถึงวันอาทิตย์ คนที่บอกว่าเป็นเจ้าของยังไม่ติดต่อมา ทางบ้านผมบอกว่า ถ้าอาทิตย์นี้ไม่ติดต่อมาเลยก็ถือว่าเขาไม่เอาแล้ว และสั่งไม่ให้ผมทักเขาก่อน (แต่ผมว่าเขากำลังรอฝั่งผมติดต่อไป)

ทีนี้เรื่องล่าสุดก็คือ น้องตัวใหม่ เล็บมันยาวมาก แล้วมันบินไปเกาะมุ้งลวด แล้วผมไม่รู้ว่าที่บ้านเขาไปจับมันออกมายังไง ขามันเจ็บแบบในรูปนี้เลย จนผมคิดว่าจะพามันไป รพ. ซึ่งที่บ้านก็จะไม่ให้ผมพาไป เพราะมองว่าเดี๋ยวก็โดนค่ารักษาแพงๆ อีก
สุดท้าย ที่บ้านบอกว่า "จะไม่เลี้ยงแล้ว" แล้วจะให้ผมคืนเจ้าของไป ส่วนอีกตัวจะเอาไปคืนที่ร้านขายสัตว์ที่ซื้อมา ถ้าเขาไม่รับคืน ก็ "ให้เขาไปเลย" เพราะ "มันท่าทางไปไม่รอด" และ "เลี้ยงไปก็ทรมานมัน" และบอกว่า การเลี้ยงดูมันเป็น "ภาระ" ที่เขาไม่สามารถออกไปทำธุระส่วนตัวได้ จะกินข้าวก็ต้องหนีมากินข้าวที่หลังบ้าน (ปกติกินในบ้าน กรงวางตรงนั้น) เพราะถ้ากินต่อหน้านก มันก็จะมาแย่งกิน , ทำบ้านสกปรก , นอนกลางวันก็นอนไม่ได้ แถมไปไหนก็ไม่ได้เพราะมันจะบินมาเกาะตลอด
ผมก็บอกไปว่ามันฝึกได้ เขาบอกว่า "พูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายเนอะ"
ผมจึงรู้เลยว่าใจของคนที่บ้านยังเหมือนเดิม คือเห็นแค่ความน่ารักก็เลยอยากเลี้ยง แต่สภาพการเลี้ยงไม่เหมือนคนที่รักสัตว์ และเมื่อมองเห็นเป็นภาระ ก็เลยไม่อยากเลี้ยงแล้ว
แน่นอนแหละว่าผมก็ต้องช็อคบ้าง เพราะผมเองก็อยากจะดูแลตัวใหม่อยู่ แต่ผมก็คิดอยู่ว่า ต่อให้ผมพามันไปรักษาจนหาย แต่ถ้าที่บ้านทำอะไรตามใจชอบอีก มันจะไม่กลับมาบาดเจ็บอีกเหรอ? (เพราะขนาดว่าผมไม่ให้มันออกจากกรง ที่บ้านก็ดันจะปล่อยมันออกมาเลย)
พอผมบอกเรื่องนี้กับน้อง สาว น้องสาวก็ไม่ยอม คือน้องสาวผมอยากเลี้ยงตัวเขียว ไม่อยากให้เอาคืนเจ้าของ เพราะมันน่ารักและเชื่อง ผมเคยลองถามแล้วว่า เลี้ยงตัวลูกนกสิ แล้วทำให้มันเชื่องแบบตัวนี้เลย เจ้าตัวก็ไม่อยากเอาเพราะชอบตัวนี้มากกว่า
น้องสาวผมก็ไปคุยกับคนที่บ้าน (โดยที่เจ้าตัวไม่อยู่บ้าน) ก็ได้คำตอบมาว่า คนที่บ้านจะให้เลี้ยงต่อได้ แต่ "เขาจะไม่เลี้ยงแล้ว" และ ถ้าเจ้าของติดต่อมาก็จะคืนให้เขาไป ส่วนตัวใหม่ก็จะให้ผมเอาไปให้เพื่อนไปเลย
(เพื่อนผมเห็นสภาพที่บ้านผมแล้ว เขาเลยเสนอตัวยินดีดูแลต่อ เพราะเห็นแล้วว่าบ้านผมมีปัญหา ไม่เหมาะในการเลี้ยงสัตว์จริงๆ)
-------------------------------
ตอนนี้ผมคิดว่าผมมีตัวเลือกดังนี้
- ดูแลทั้งสองตัวต่อ แต่ต้องดูแลเอง และการที่ผมไม่ค่อยอยู่บ้าน อาจต้องขังมันไว้ในกรง ซึ่งผมจะไปซื้อกรงที่ใหญ่ขึ้นและซื้อของเล่นให้มันด้วย มันจะได้มีอะไรเล่น แต่นั่นแปลว่าต้องให้มันอยู่ในกรงตลอดเวลาที่ผมไม่อยู่
- เอาตัวใหม่ให้เพื่อนผมเลี้ยง เพราะเป็นหลักประกันว่ามันจะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่าแน่นอน
- คืนตัวเดิมให้คนที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ โดยการทักให้เขามารับ แต่อาจต้องแลกกับน้องสาวผมเสียใจ (เจ้าตัวดันเป็นโรคซึมเศร้าอีก ก็ไม่รู้ว่าถ้าทำไปแล้วเจ้าตัวจะคิดสั้น หรือเอามีดกรีดข้อมือตัวเองไหม เพราะเคยทำมาแล้ว)
-----------------------------
เอาจริงๆ ว่า ตอนนี้ ผมรู้สึกแบบเทามากๆ แล้วครับ เพราะไม่รู้ว่าอะไรผิดหรือถูกแล้ว
- นกควรคืนเจ้าของ แต่จะทำให้น้องสาวเสียใจ
- แต่ถ้าเก็บเลี้ยงต่อ เจ้าของอาจจะเสียใจอยู่ก็ได้ แม้ว่าเขาจะเอ่ยปากว่าให้ได้ก็ตาม เพราะตอนนี้ยังไม่เคลียรว่าตกลงแล้วใจเขายังอยากได้ไหม เนื่องจากถูกสั่งว่าห้ามติดต่อเขาก่อน
- แต่ที่บ้านสภาพแวดล้อมไม่เหมาะในการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะเมื่อคนที่บ้านจะไม่เลี้ยงมันต่อ แปลว่ามันจะต้องอยู่แต่ในกรงมากขึ้น โดยที่ผมจะมีเวลาอยู่กับมันน้อย
- ใจผมอยากดูแลมันต่อนะ แต่ต้องมีคนช่วยดู ไม่งั้นนกจะเหงา เอาจริง การมีสัตว์เลี้ยง มันคือภาระหน้าที่ที่ทุกคนในบ้านต้องช่วยกันอยู่แล้ว
-----------------------------
ผมไม่รู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำแล้วครับ มันมึนตื๊บไปหมด คิดอะไรไม่ออกแล้ว
ขอความเห็นหน่อยครับว่า ผมควรทำยังไงดี
ผมควรจะทำยังไงดี ที่บ้านไม่เหมาะเลี้ยงสัตว์ แต่เจอนกที่มีเจ้าของ แล้วก็จะเลี้ยง ต่อมาก็จะไม่เลี้ยง
ก่อนอื่น บอกก่อนว่าสภาพที่บ้านผมไม่เหมาะในการเลี้ยงสัตว์เลย เพราะที่บ้านไม่ชอบสัตว์เลี้ยง และที่ผ่านมา หมา แมว และนกที่เคยเลี้ยง "ตาย" หมด ด้วยเหตุผลหลักๆ คือ
- ที่บ้านไม่ได้มองสัตว์ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตแบบที่มีความรู้สึกเหมือนกัน ถ้ามันตายก็คือตาย จบ
- ที่บ้านไม่มีใครอยู่บ้านแบบตลอดเวลา
- ที่บ้านไม่เคยยอมให้พาสัตว์ไปหาหมอ เพราะมองว่า เดี๋ยวหมอก็จะฟันค่ารักษาหัวแบะ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์เลี้ยงตาย
- ที่บ้านเลี้ยงสัตว์แบบไม่ถูกวิธี
ส่วนตัวผม จริงๆ ผมเป็นคนเข้าใจความรู้สึกของสัตว์ เรียกมันว่า เขา หรือ น้อง ตลอด และทั้งหมา แมว นกที่ผมเลี้ยง ต่างก็ตายคามือผมมาทั้งนั้น ผมจึงคิดอยู่ว่ายังไงบ้านนี้ไม่ควรเลี้ยงสัตว์
ทีนี้ เรื่องมีอยู่ว่า คนที่บ้านผมไปเจอนกหงส์หยกมา ซึ่งเชื่องคนมาก ผมมองออกทันทีเลยว่า ต้องพลัดหลงกับเจ้าของ และด้วยการที่นกมันเชื่องกับคน ก็เลยไปติดคนที่บ้าน คนที่บ้านผมก็เห็นความน่ารัก ก็เลยช่วยเลี้ยงให้ และไปๆ มาๆ ก็อยากเลี้ยงเอง
ผมบอกเขาไปตั้งแต่วันแรกแล้วว่าจะประกาศหาเจ้าของ เขาบอกไม่ต้อง แต่ถ้าไม่มีคนติดต่อมาครบอาทิตย์ก็จะเลี้ยงต่อเอง ผมทำท่าจะขี่จักรยานออกไปสอบถามแถวบ้าน ก็บอกไม่ต้องไปหรอก (คือผมคิดมาตั้งแต่แรกแล้วว่า ถ้านกมีเจ้าของจริง แล้วมันเชื่องคนขนาดนี้ จะต้องเลี้ยงดูแบบรักมากแน่ๆ ยังไงก็ต้องคืน)
วันที่ 2 คนทางบ้านผมดันไปซื้อนกมาอีกตัว โดยไม่ฟังความเห็นของเพื่อนผมที่เลี้ยงนกอยู่แล้วว่า นกหงส์หยกไม่ต้องซื้อมาเพิ่ม ซื้อของเล่นให้มันก็พอ แล้วพวกจากร้านขายสัตว์เลี้ยงอาจจะติดเชื้อโรคมา แต่คนทางบ้านผมไม่ฟัง แล้วก็ซื้อมา แล้วตอนที่เอามา ก็ดันใส่กล่องเล็กมากๆ มา
คนที่บ้านบอกว่า ตอนอยู่ในร้านขายสัตว์เลี้ยง มันก็ร่าเริงดี แต่พอพามาที่บ้าน (โดยการจับใส่กล่องขนาดเล็กมากๆ แล้วพามาแบบขี่มอเตอร์ไซด์มา) ขาท่าทางเจ็บตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เพื่อนผมแนะนำยังไง คนทางบ้านผมทำคนละแบบ เช่น ต้องซื้อมาอีกกรงแล้วใส่แยก แต่ที่บ้านดันจับยัดใส่เข้าไปทั้งสองตัว เพื่อนผมแนะนำว่าขังในกรงไปก่อนให้มันคุ้นชินกับทางบ้าน ไปคลิบปีกมันด้วย แต่ที่บ้านดันปล่อยให้มันออกมาบินเล่น แต่ถึงเวลากินข้าวก็จะไปจับมันมาเข้ากรง
ประเด็นปัญหามันเริ่มมาจาก มีคนมาติดต่อหาผมในคืนวันนั้น แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ แต่ที่บ้านผมโมโหมาก เพราะจะเลี้ยงเอง บอกให้ผมบล็อกเฟสหรือไม่ต้องสนใจไปเลย (แต่ผมไม่ทำอย่างนั้น) บอกว่าเขาต้องอ้างว่าเป็นเจ้าของเพราะอยากเลี้ยงเอง แต่ผมเป็นคนขอให้เขาส่งรูปแสดงความเป็นเจ้าของมา แล้วผมกับเพื่อนก็ช่วยกันเช็คว่าใช่รึเปล่า ซึ่งมี % มากกว่าใช่
ทีนี้ มาดูก่อนว่า สภาพบ้านผมเป็นยังไงและเลี้ยงยังไง
ปกติผมจะทำงานร้านเน็ต ช่วงเวลานั้นเด็กยังปิดเทอม ผมก็ต้องออกไปดูร้านตลอดเวลา ที่บ้านจึงมีคนในบ้านคนนึงดูแลนก ผมจะเดินแวะกลับมาบ้างตอนกินข้าวและ 2 4 ทุ่มเพื่อเข้านอน มีน้องสาวคนหนึ่ง แต่น้องสาวอยู่หอ กลับมาบ้านก็ พฤหัส - วันอาทิตย์ และปกติวันเสาร์ - อาทิตย์ก็มักจะออกไปข้างนอก
ที่บ้านผมให้ผมบอกเขาไปว่า มีอีกคนแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเหมือนกัน ให้เขามาดูวันอาทิตย์ แต่คนที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ เขาขอร้องผมว่าให้เขามาดูตัวจริงหน่อย ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร พร้อมส่งรูปนกตอนเด็กๆ มาให้ผมเห็นว่าเขาเลี้ยงมาตั้งแต่มันยังเล็กๆ ผมจึงเลยบอกทางบ้านให้เขามาดู มันจะได้ไม่คาใจ
แน่นอนว่าผมโดนด่าแหลก เขาบอกว่า นกมันมาอยู่กับเราเพราะนกไม่มีวาสนาจะอยู่กับเจ้าของเก่าแล้ว แกไม่อยากเลี้ยงมันเหรอ ฯลฯ อะไรประมาณนั้น ผมเลยต้องทำตามที่บอก
วันที่คนที่บอกว่าเป็นเจ้าของมาดู (วันนั้นน้องสาวผมกลับมาบ้านพอดีและเห็นความน่ารักของนกด้วย ก็อยากเลี้ยง) เขามาเห็นนกแล้ว ร้องไห้โฮออกมาไม่หยุดเลย
นั่นคือสิ่งที่ผมคิดอยู่แล้วว่าจะต้องเจอ
คือลักษณะของนกนั้น แทบจะตรงตามที่เขาบอก 90% แต่ตอนนั้น นกมันบินไปหาเขาแล้วก็บินกลับมาหาคนทางบ้านซะมากกว่า (คือมันก็ดูแปลกๆ เพราะผมว่านกต้องจำเจ้าของได้ หรือมันยังจำไม่ได้ก็ไม่รู้เหมือนกัน)
ตอนแรกๆ เขาอยากพานกไปที่บ้าน เพื่อพากลับไปยังสภาพแวดล้อมที่นกคุ้นเคย แล้วพากลับมาก็ได้ แต่ที่บ้านปฏิเสธ เพราะบอกว่าถ้านกเห็นอะไรใหม่ๆ แล้วชอบ มันจะชอบก็ได้ เขาก็เลยพาผมกับที่บ้านไปดูว่าที่เบ้านเขามีนกเลี้ยงดูอย่างดีจริงๆ และโชว์ให้เห็นว่า นกที่หายไป ก็มีคู่ แล้วคู่เจ้าตัวก็หงอยจริงๆ (บ้านเขาห่างจากบ้านผมราว 2.2 โล โดยเขาบอกว่านกเขาหลุดไปตอนวันที่ฝนตก แล้วหายไปเป็นอาทิตย์)
เขาบอกว่า ถ้าที่บ้านอยากเลี้ยงต่อก็ได้ แต่ต้องเอาคู่มันมาด้วย และต้องดูแลมันดีๆ (แต่ผมดูหน้าแล้ว ใจเขาไม่อยากให้บ้านผมเลี้ยงต่อ)
คนที่บ้านก็บอกมาว่า ให้เขารอจนถึงวันอาทิตย์ เพื่อรอให้อีกคน (ที่โกหก) มาดูก่อน ทางเขาก็ยอม
หลังจากนั้น ที่บ้านก็เลี้ยงดูนกกันตามปกติ จนคนที่บ้านเริ่มบ่นๆ เพราะเสียเวลาความเป็นส่วนตัว นอนกลางวันก็นอนไม่ได้ จะออกไปทำธุระก็ทำไม่ได้ เพราะนกมันจะบินมาเกาะตลอด ส่วนการเลี้ยงก็คือ เปิดกรงปล่อยให้นกทั้งสองตัวบินออกมา ตัวเขียวเริ่มร่าเริงขึ้น ส่วนตัวขาว (ตัวที่ซื้อมา) ซึ่งไม่เชื่องกับคน เวลาจับเข้ากรงก็ต้องไปจับมันเข้ากรงไป
ผ่านมาจนถึงวันอาทิตย์ คนที่บอกว่าเป็นเจ้าของยังไม่ติดต่อมา ทางบ้านผมบอกว่า ถ้าอาทิตย์นี้ไม่ติดต่อมาเลยก็ถือว่าเขาไม่เอาแล้ว และสั่งไม่ให้ผมทักเขาก่อน (แต่ผมว่าเขากำลังรอฝั่งผมติดต่อไป)
ทีนี้เรื่องล่าสุดก็คือ น้องตัวใหม่ เล็บมันยาวมาก แล้วมันบินไปเกาะมุ้งลวด แล้วผมไม่รู้ว่าที่บ้านเขาไปจับมันออกมายังไง ขามันเจ็บแบบในรูปนี้เลย จนผมคิดว่าจะพามันไป รพ. ซึ่งที่บ้านก็จะไม่ให้ผมพาไป เพราะมองว่าเดี๋ยวก็โดนค่ารักษาแพงๆ อีก
สุดท้าย ที่บ้านบอกว่า "จะไม่เลี้ยงแล้ว" แล้วจะให้ผมคืนเจ้าของไป ส่วนอีกตัวจะเอาไปคืนที่ร้านขายสัตว์ที่ซื้อมา ถ้าเขาไม่รับคืน ก็ "ให้เขาไปเลย" เพราะ "มันท่าทางไปไม่รอด" และ "เลี้ยงไปก็ทรมานมัน" และบอกว่า การเลี้ยงดูมันเป็น "ภาระ" ที่เขาไม่สามารถออกไปทำธุระส่วนตัวได้ จะกินข้าวก็ต้องหนีมากินข้าวที่หลังบ้าน (ปกติกินในบ้าน กรงวางตรงนั้น) เพราะถ้ากินต่อหน้านก มันก็จะมาแย่งกิน , ทำบ้านสกปรก , นอนกลางวันก็นอนไม่ได้ แถมไปไหนก็ไม่ได้เพราะมันจะบินมาเกาะตลอด
ผมก็บอกไปว่ามันฝึกได้ เขาบอกว่า "พูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายเนอะ"
ผมจึงรู้เลยว่าใจของคนที่บ้านยังเหมือนเดิม คือเห็นแค่ความน่ารักก็เลยอยากเลี้ยง แต่สภาพการเลี้ยงไม่เหมือนคนที่รักสัตว์ และเมื่อมองเห็นเป็นภาระ ก็เลยไม่อยากเลี้ยงแล้ว
แน่นอนแหละว่าผมก็ต้องช็อคบ้าง เพราะผมเองก็อยากจะดูแลตัวใหม่อยู่ แต่ผมก็คิดอยู่ว่า ต่อให้ผมพามันไปรักษาจนหาย แต่ถ้าที่บ้านทำอะไรตามใจชอบอีก มันจะไม่กลับมาบาดเจ็บอีกเหรอ? (เพราะขนาดว่าผมไม่ให้มันออกจากกรง ที่บ้านก็ดันจะปล่อยมันออกมาเลย)
พอผมบอกเรื่องนี้กับน้อง สาว น้องสาวก็ไม่ยอม คือน้องสาวผมอยากเลี้ยงตัวเขียว ไม่อยากให้เอาคืนเจ้าของ เพราะมันน่ารักและเชื่อง ผมเคยลองถามแล้วว่า เลี้ยงตัวลูกนกสิ แล้วทำให้มันเชื่องแบบตัวนี้เลย เจ้าตัวก็ไม่อยากเอาเพราะชอบตัวนี้มากกว่า
น้องสาวผมก็ไปคุยกับคนที่บ้าน (โดยที่เจ้าตัวไม่อยู่บ้าน) ก็ได้คำตอบมาว่า คนที่บ้านจะให้เลี้ยงต่อได้ แต่ "เขาจะไม่เลี้ยงแล้ว" และ ถ้าเจ้าของติดต่อมาก็จะคืนให้เขาไป ส่วนตัวใหม่ก็จะให้ผมเอาไปให้เพื่อนไปเลย
(เพื่อนผมเห็นสภาพที่บ้านผมแล้ว เขาเลยเสนอตัวยินดีดูแลต่อ เพราะเห็นแล้วว่าบ้านผมมีปัญหา ไม่เหมาะในการเลี้ยงสัตว์จริงๆ)
-------------------------------
ตอนนี้ผมคิดว่าผมมีตัวเลือกดังนี้
- ดูแลทั้งสองตัวต่อ แต่ต้องดูแลเอง และการที่ผมไม่ค่อยอยู่บ้าน อาจต้องขังมันไว้ในกรง ซึ่งผมจะไปซื้อกรงที่ใหญ่ขึ้นและซื้อของเล่นให้มันด้วย มันจะได้มีอะไรเล่น แต่นั่นแปลว่าต้องให้มันอยู่ในกรงตลอดเวลาที่ผมไม่อยู่
- เอาตัวใหม่ให้เพื่อนผมเลี้ยง เพราะเป็นหลักประกันว่ามันจะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่าแน่นอน
- คืนตัวเดิมให้คนที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ โดยการทักให้เขามารับ แต่อาจต้องแลกกับน้องสาวผมเสียใจ (เจ้าตัวดันเป็นโรคซึมเศร้าอีก ก็ไม่รู้ว่าถ้าทำไปแล้วเจ้าตัวจะคิดสั้น หรือเอามีดกรีดข้อมือตัวเองไหม เพราะเคยทำมาแล้ว)
-----------------------------
เอาจริงๆ ว่า ตอนนี้ ผมรู้สึกแบบเทามากๆ แล้วครับ เพราะไม่รู้ว่าอะไรผิดหรือถูกแล้ว
- นกควรคืนเจ้าของ แต่จะทำให้น้องสาวเสียใจ
- แต่ถ้าเก็บเลี้ยงต่อ เจ้าของอาจจะเสียใจอยู่ก็ได้ แม้ว่าเขาจะเอ่ยปากว่าให้ได้ก็ตาม เพราะตอนนี้ยังไม่เคลียรว่าตกลงแล้วใจเขายังอยากได้ไหม เนื่องจากถูกสั่งว่าห้ามติดต่อเขาก่อน
- แต่ที่บ้านสภาพแวดล้อมไม่เหมาะในการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะเมื่อคนที่บ้านจะไม่เลี้ยงมันต่อ แปลว่ามันจะต้องอยู่แต่ในกรงมากขึ้น โดยที่ผมจะมีเวลาอยู่กับมันน้อย
- ใจผมอยากดูแลมันต่อนะ แต่ต้องมีคนช่วยดู ไม่งั้นนกจะเหงา เอาจริง การมีสัตว์เลี้ยง มันคือภาระหน้าที่ที่ทุกคนในบ้านต้องช่วยกันอยู่แล้ว
-----------------------------
ผมไม่รู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำแล้วครับ มันมึนตื๊บไปหมด คิดอะไรไม่ออกแล้ว
ขอความเห็นหน่อยครับว่า ผมควรทำยังไงดี