Gaggan The world most famous Indian restaurant (็lBangkok,Thailand)
หลังจากได้ฤกษ์ดองรีวิวมาเดือนกว่าๆ เนื่องจากภารกิจที่รัดตัว ผมก็หาเวลาพอจะรีวิวร้าน Gagganได้ในที่สุด Gagganถือเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่จองยาก เเละ ราคาเเพงที่สุดในไทย เเน่นอนว่าด้วยสรรพคุณขนาดนั้น Gagganต้องไม่ใช่ร้านอาหารธรรมดาๆแน่ๆ ด้วยมีดรีกรีถึงมิชลินสตาร์สองดาวหนึ่งในสามร้านของไทย ของ Michelinguide 2018 เเละ เป็น NO.5 ใน The world 50Best list (No.1 in Asia) ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Gagganเป็นหนึ่งในลิสร้านอาหารที่ดีที่สุดของไทยในใจหลายๆคน
Owner chef Gaggan Anand เกิดที่กัลกัตต้า ประเทศอินเดีย ก่อนจะย้ายมายังประเทศไทยหลังจากจบการศึกษาด้านอาหารในประเทศอินเดีย หลังจากนั้นGagganได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงานหลากหลายที่ทั้งไทยเเละต่างประเทศ ที่เห็นจะโดงดังที่สุดคือการได้ฝึกงานกับ Ferran Adrià ที่ร้านอาหารในตำนานที่ปิดตัวลงไปเเล้วอย่าง elBulli (3michelin stars, No.1 The world 50 best list ) ใครสนใจประวัติของคุณGaggan สามารถดูสารคดีเรื่อง Chef table ใน Netflix เพิ่มเติมได้ครับ (
https://www.netflix.com/title/80007945)
Gaggan จะเปิดวันละสองรอบ คือ 17.30 กับ 21.30 ใช้เวลารับประทานประมาสามถึงสี่ชั่วโมง เพราะฉะนั้นหากเป็นไปได้ผมเเนะนำเวลารอบ 17.30จะดีกว่าครับ สำหรับราคาอาหาร Gaggan experince นั้นสนนราคาที่ 6500++ ซึ่งเราต้องจ่ายมัดจำเวลาจองครับ
Gaggan เสริฟ์อาหารในสไตล์ progressive indian gastronomy ซึ่งเป็นการนำเสนออาหารอินเดีย ที่มีความหลากหลายมากกว่าที่เราๆคิด ผ่านรูปแบบของ Emoji เป็นเทสติ้งเมนูกว่าสามสิบจาน
โดยสรุปการไปGagganนั้นเป็นการเปิดประสบการณ์การทานอาหารที่ประทับใจผมมากๆครับ เทคนิคอันเเพรวพราวเเบบสมัยใหม่ผสมพสานกับอาหารอันหลากหลายของอินเดีย หากมีโอกาสผมคิดว่าบรรดานักชิมควรไปลอง Gaggan สักครั้งก่อนที่จะปิดตัวลงในปี2020
สำหรับอาหารจะเป็นอะไร จานไหนคือ Indian foiegrasไปดูได้จากรูปครับ (เนื่องจากกินมานานเเล้วดีเทลเล็กๆน้อยๆอาจผิดพลาด ยังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ)
Service : 8/10
Food: 9/10
WOW factor: 9/10
Value for money: 6/10
เเผนที่ :
https://goo.gl/maps/qzodZiqUttr
เวลาเปิดปิด: 17.30-24.00
ค่าเสียหาย: ~ 6500++ / person not included beverage
เว็บไซต์ร้าน:
http://eatatgaggan.com/menu.php

จานเเรกเป็นการเอาไวท์พีชจากยามากะตะของญี่ปุ่นไปเเช่เเข็งแล้วรับประทานกับยูซุเเยม จานนี้ให้รสเปรี้ยวหวานเย็นในปากหอมกลิ่นพีชจางๆ ผมค่อนข้างเซอรไพรซ์กับการเลือกเอาของที่เรียกว่าเกือบจะเป็นขนมหวานได้มาเริ่มเป็นจานเเรกมากๆ

จานที่สองคือ โยเกริต์สอดไส้ด้วยเเกงรสหวาน ที่เเตกออกในปากทันทีเมื่อเคี้ยวสมชื่อ Yogurt explosion เป็นอีกหนึ่งในจานที่ผมชอบที่ประทับใจที่สุดในมื้อนี้ อาหารจานนี้เเสดงถึงความเชื่อมโยงของ Gaggan anand กับการฝึกงานที่ elBulli ได้อย่างชัดเจน

อาหารจานนี้เป็นจานที่สนุกที่สุดในมื้อครับ โดยบริกรจะนำจานมาเสริฟ์ให้เราพร้อมกับเพลงประกอบจังหวะชวนสนุกพร้อมเชิญชวนให้เรา เลียจาน!! โดยบริกรเเนะนำว่าให้เลียให้ซอสทั้งสามชนิดที่ประกอบด้วย ซอสพริก ครีมชีส เลม่อน เเละอวาคาโด้ผง ให้ได้ในครั้งเดียว จานนี้ให้รสชาติที่เเปลกใหม่ เผ็ดนิด มันหน่อย เปรี้ยวๆหวาน อร่อยดีครับเป็นจานที่สนุกมาก เเต่ส่วนตัวผมว่าเลียจานยากไปนิด ฮ่า

จานต่อมาเป็น ทาร์ตชีสนมเเพะที่ดัดเเปลงจากอาหารอินเดียจากราชาสถาน ชีสนมเเพะอุ่นๆที่เเตกในปากกับเเป้งที่กรอบบางหอมกลิ่นควันนิดนั้นอร่อยมาก เป็นอีกจานนึงที่ผมคิดว่าเป็นอาหารตะวันตกมากกว่าอาหารอินเดียเสียอีก ยอดเยี่ยมมากๆครับ

คำนี้คือคุกกี้มะเขือม่วงเเละไส้มะเขือม่วงโรยด้วยผงหน่อไม้ฟรั่ง เมื่อเข้าปากเนื้อคุ้กกี้ที่คล้ายเมอเเรงรสเค็มให้สัมผัสที่บางเบาตัดกับไส้รสเค็มหวานเนื้อเเน่น อร่อยดีครับ เเต่สิ่งที่เห็นจะทำให้จานนี้ยอดเยี่ยมมากขึ้นคือผงหน่อไม้ฟรั่งที่เพิ่มมิติด้วยรสขมนิดเเละความหอมชวน

จานที่มาเสริฟ์นั้นเป็นเหมือนจิ๊กซอให้เราต่อซึ่งบริกรจะนำเฉลยมาให้ตอนหลังครับ

จานนี้คือสป็อคเค้กทำจากข้าวมะพร้าวเเละเครื่องเทศทานกับโฟมเเกงถั่วเหลือง เค้กเป็นอาหารคาวหรือนี่คือสิ่งที่ผมคิดขึ้นในหัว เเว๊บต่อมาคือเเกงกินกับเค้กมันจะเป็นยังไง เเต่เมื่อชิมเเล้วความคิดผมก็เปลี่ยนไป สป็องเค้กหอมกลิ่นข้าวเเละมะพร้าวเผาที่ติดหวานนิดๆนั้นเข้ากับโฟมรสเเกงถั่วเหลืองรสเผ็ดหวานได้อย่างดี การใช้โฟมแกงทำให้เนื้อเค้กไม่สูญเสียผิวสัมผัสที่บางเบา เป็นจานที่น่าสนใจมากๆครับ

บอลดำคำนี้ทำจาก แป้งผสมถ่านสอดไส้ด้วยซัลโมซ่าครับ เวลากินต้องระวังนิดๆเพราะค่อนข้างร้อน

รังนกคำนี้คือมันฟรั่งทอดใส่ซอสฟริก ทานคู่กับบอลไวท์ช็อคโกเเลตไส้มอสซาเลล่าชีส คำนี้ผมชอบการพรีเซ็นท์เทชั่นที่ดูเรียบเเต่สะดุดตา เเต่รสชาตินั้นผมว่าค่อนข้างธรรมดาเเละไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับคำอื่น

เฉลยจิ๊กซอของเรานะครับเป็นรูปประเทศอินเดีย

จานต่อมาเป็นเห็ดเมา เห้ย คือขนมปังสอดไส้เเกงเห็ดพอชินี่ เป็นคำที่ผมชอบมากครับ ขนมปังข้างนอกที่กรอบเเละไม่เละเเม้มีเเกงเป็นไส้ ไส้เเกงเผ็ดเห็ดอุ่นๆหอมกลิ่นเห็ดเเละเครื่องเเกงนั้นก็อร่อยมากครับ

คำนี้คือไอซครีมดอกกะหล่ำกับหน่อไม้ฟรั่ง ทานกับเจลลี่พริก คำนี้ผมชอบความเเปลกใหม่ของการกินไอศครีมที่มีรสผักบวกกับรสเผ็ด เเต่โดยส่วนตัวผมไม่ชอบรสเเบบนี้เเต่ถามว่ามันไม่อร่อยไหม คำตอบคงไม่ใช่เเน่นอนครับ ขึ้นกับความชอบส่วนบุคคลมากกว่า

จานนี้คือส้มตำทุกท่านคงไม่เชื่อเเละเราจะทานส้มตำกันเย็นๆทุกท่านคงยิ่งแปลกใจ คำนี้เป็นคำที่ผมชอบมากๆ โคนกรุบกรอบที่ทำจากพริก ไอซ์ครีมน้ำส้มตำเเละไส้มะละกอดิบ เปรี้ยวกรอบเข้ากันได้อย่างลงตัว การกินส้มตำเย็นๆให้ความรู้สึกที่เเปลกใหม่เเต่ผมมั่นใจว่าคำนี้ อร่อยมากๆครับ

คำนี้คือ puchka หรือข้าวเกรียบจากข้าวเเบบอินเดีย กับไส้จากเเกง ข้าวเกรียบข้างนอกมีความคล้ายกับข้าวจี่เเบบไทย ไส้ข้างในเป็นเเกงรสเผ็ดนิดๆ อร่อยเลยครับ

จานต่อมาคือ เชอรเบทมะเขือม่วง แอปเปิ้ลกรอบ แอปเปิ้ลดอง ไข่หอยเม่นจากฮ็อกไกโด เเละจิงเจอรเจล จานนี้เป็นอีกจานที่ผมชอบมากการจับคู่เเอบเปิ้ลดองรสเปรี้ยวหวานกับเขอเบทมะเขือม่วงเเละอูนินั้นลงตัวอย่างประทับใจ รสเปรี้ยวหวานสดชื่น เเละความหวานมันของไข่หอยเม่นถูกถักทอให้เข้ากันด้วยไอซ์ครีมรสมะเขือม่วง ยิ่งไปกว่านั้นคือเจลรสขิงที่ช่วยเพิ่มรสเผ็ดให้กับคำนี้อย่างสนุกสนาน ยอดเยี่ยมมากๆครับ

คำนี้อาจจะดูคล้ายอาหารญี่ปุ่นมากกว่าอาหารอินเดีย เป็นปลาชูโทโร่เบริน์นิดๆก่อนนำไปท็อปบนเมอเเรงจากซีฟู้ดดาชิ รับประทานกับเจลขิงเเละวาซาบิ เป็นจานที่เเสดงถึงความชอบในอาหารญี่ปุ่นของเชฟได้อย่างดี เเละแฝงกลิ่นอายเเละรสชาติของความเป็นญี่ปุ่นที่ถูกทำให้สวยเก๋ทันสมัยได้อย่างลงตัว

ซุปจานนี้เป็นอาหารพื้นถิ่นของอินเดียจากคำบอกเล่าของบริกร เป็นซุปนกกะทาเเละข้าวโพดหวานไทย เนื้อนกกะทาปรุงมาได้สุกกำลังดีไม่เหนียว ข้าวโพดที่หวานในปากตัดกับซุปรสเค็มที่หอมกลิ่นควันได้อย่างดี ที่เห็นจะไม่ชอบคือซุปที่ผมว่ารสเค็มไปนิด เเละกลิ่นควันในจานนี้ที่ดูฉุนไป

กุ้งลายเสือทันดูริ ทานกับBalchaoซอส รสเปรี้ยวหวานนำเผ็ดตามของ Balchao ช่วยชูรสหวานของกุ้งลายเสือที่ย่างได้สุกในเตาทันดูรอย่างยอดเยี่ยม เป็นจานที่อาจดูเรียบง่ายเมือเทียบกับจานอื่นเเต่ว่าอร่อยจริงๆครับ

แกงกะทิกับหอยเชลล์ที่เสริฟ์มาดิบเเละไอซ์ครีมมะพร้าว นั้นลงตัวอย่างเซอร์ไพรส์มากครับ แกงกะทิเข้ากันได้ดีกับนำ้มันจากเครื่องเทศเเละพริกช่วยชูรสหวานของหอยเชลล์ได้อย่างลงตัว การใส่หอมเจียวยิ่งช่วยเพิ่มสนุกในจานนี้ได้อย่างเหมาะเจาะ เป็นอีกจานที่ผมประทับใจมากๆนะครับ

จานต่อมาเป็นโมโม่ หรือเกี๊ยวเเบบอินเดียทำจากเเบล็คการ์ลิค ไส้เป็น หมู พริก มะม่วงเเละผักดอง เสริฟ์ในน้ำซุป จานนี้ผมชอบในความหลากรสเเละเท็กเจอร์ที่หลากหลายในคำนึงที่เคี้ยว ที่เเม้จะมีรสเผ็ดมันเค็มหวาน เเต่รสทุกรสยังมีความลงตัวเเละไม่ตีกับ เป็นการบาลานซ์ส่วนผสมได้อย่างลง เเละน่าสนใจมากครับ

ขาเเกะของGagganนั้นย่างมาได้นุ่มจนไม่จำเป็นต้องหั่นเราสามารถใช้ปากฉีกมันให้ขาดได้อย่างง่ายดาย รสเผ็ดนิดๆฉุนหน่อยที่ปลายลิ้นจาก พริกเขียว ผิวยุซุ เเละเครื่องเทศอินเดีย ช่วยดับกลิ่นสาบของเเกะที่ย่างในเตาทันดูรได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นเเกะที่อร่อยที่สุดจานนึงที่ผมเคยกินเลยครับ

จานนี้บริกรเรียกว่าห่อหมกอินเดีย หรือ Paturi โดย จานนี้ห่อปลากระพง มาซาล่าเขียว มัสตาร์ด รมควันด้วยไม้ซีดาร์ รสจานนี้ผมนึกถึงปลาเผากับน้ำจิ้มซีฟู้ด เเต่ Paturi ของอินเดียจะมีรสหวานเปรี้ยวน้อยกว่า กลิ่นเครื่องเทศมากกว่า อร่อยดีครับ อีกสิ่งที่ผมชอบคือกลิ่นหอมควันไม้ซีดาร์ที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับจานนี้ได้อย่างน่าสนใจ

เดทสตาร์ หรือเเกงเห็ดพอชินี่เเละถั่วกับข้าวบาสมาติที่เสริฟ์มาในภาชนะคล้ายกับเดทสตาร์ ข้าวบาสมาตินั้นค่อนข้างเเห้งกว่าข้าวหอมมะลิที่เราคุ้นเคยกันเเละค่อนข้างเเข็งพอควรครับ โดยส่วนตัวเหมาะกับการกินกับเเกงเพราะจะทำให้ข้าวไม่เเฉะเกินไป ตัวเเกงเห็ดพอชินี่นั้นอร่อยมากๆ ยิ่งได้ทานกับข้าวร้อนๆนั้นเข้ากันมาก เป็นหนึ่งในจานที่ผมชอบที่สุดในมื้อนี้

จานนี้เป็น มาสเมลโล่ที่ชวนให้เรานึกถึง Beauty & The Beast อันสีเเดงนั้นทำจากบีทรูท
ส่วนอันสีขาวนั้นคือ หัวไชเท้า ส่วนด้านล่างทำจากถั่วทองก้า ส่วนตัวชอบการพรีเซ้นท์เท่นอันสวยงาม เเต่ว่าส่วนตัวคิดว่าคำนี้ค่อนข้างหวานไปครับ

คำนี้ผมค่อนข้างชอบครับ เป็นเเป้งทำจานกะทิ เเยมลิ้นจี่เเละไอศรีม ความกรอบหอมกระทิของตัวเเป้งเข้ากันได้อย่างลงตัวกับเเยมหนึบหนับเปรี้ยวหวาน ก่อนจะเพิ่มความตื่นเต้นด้วยไอศรีมรสหวานเย็น เป็นขนมหวานที่สนุกสนามเเละอร่อยมากครับ
[CR] รีวิวร้าน Gaggan หนึ่งในร้านอาหารที่ดีสุดในโลก
หลังจากได้ฤกษ์ดองรีวิวมาเดือนกว่าๆ เนื่องจากภารกิจที่รัดตัว ผมก็หาเวลาพอจะรีวิวร้าน Gagganได้ในที่สุด Gagganถือเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่จองยาก เเละ ราคาเเพงที่สุดในไทย เเน่นอนว่าด้วยสรรพคุณขนาดนั้น Gagganต้องไม่ใช่ร้านอาหารธรรมดาๆแน่ๆ ด้วยมีดรีกรีถึงมิชลินสตาร์สองดาวหนึ่งในสามร้านของไทย ของ Michelinguide 2018 เเละ เป็น NO.5 ใน The world 50Best list (No.1 in Asia) ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Gagganเป็นหนึ่งในลิสร้านอาหารที่ดีที่สุดของไทยในใจหลายๆคน
Owner chef Gaggan Anand เกิดที่กัลกัตต้า ประเทศอินเดีย ก่อนจะย้ายมายังประเทศไทยหลังจากจบการศึกษาด้านอาหารในประเทศอินเดีย หลังจากนั้นGagganได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงานหลากหลายที่ทั้งไทยเเละต่างประเทศ ที่เห็นจะโดงดังที่สุดคือการได้ฝึกงานกับ Ferran Adrià ที่ร้านอาหารในตำนานที่ปิดตัวลงไปเเล้วอย่าง elBulli (3michelin stars, No.1 The world 50 best list ) ใครสนใจประวัติของคุณGaggan สามารถดูสารคดีเรื่อง Chef table ใน Netflix เพิ่มเติมได้ครับ (https://www.netflix.com/title/80007945)
Gaggan จะเปิดวันละสองรอบ คือ 17.30 กับ 21.30 ใช้เวลารับประทานประมาสามถึงสี่ชั่วโมง เพราะฉะนั้นหากเป็นไปได้ผมเเนะนำเวลารอบ 17.30จะดีกว่าครับ สำหรับราคาอาหาร Gaggan experince นั้นสนนราคาที่ 6500++ ซึ่งเราต้องจ่ายมัดจำเวลาจองครับ
Gaggan เสริฟ์อาหารในสไตล์ progressive indian gastronomy ซึ่งเป็นการนำเสนออาหารอินเดีย ที่มีความหลากหลายมากกว่าที่เราๆคิด ผ่านรูปแบบของ Emoji เป็นเทสติ้งเมนูกว่าสามสิบจาน
โดยสรุปการไปGagganนั้นเป็นการเปิดประสบการณ์การทานอาหารที่ประทับใจผมมากๆครับ เทคนิคอันเเพรวพราวเเบบสมัยใหม่ผสมพสานกับอาหารอันหลากหลายของอินเดีย หากมีโอกาสผมคิดว่าบรรดานักชิมควรไปลอง Gaggan สักครั้งก่อนที่จะปิดตัวลงในปี2020
สำหรับอาหารจะเป็นอะไร จานไหนคือ Indian foiegrasไปดูได้จากรูปครับ (เนื่องจากกินมานานเเล้วดีเทลเล็กๆน้อยๆอาจผิดพลาด ยังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ)
Service : 8/10
Food: 9/10 WOW factor: 9/10
Value for money: 6/10
เเผนที่ : https://goo.gl/maps/qzodZiqUttr
เวลาเปิดปิด: 17.30-24.00
ค่าเสียหาย: ~ 6500++ / person not included beverage
เว็บไซต์ร้าน: http://eatatgaggan.com/menu.php
จานเเรกเป็นการเอาไวท์พีชจากยามากะตะของญี่ปุ่นไปเเช่เเข็งแล้วรับประทานกับยูซุเเยม จานนี้ให้รสเปรี้ยวหวานเย็นในปากหอมกลิ่นพีชจางๆ ผมค่อนข้างเซอรไพรซ์กับการเลือกเอาของที่เรียกว่าเกือบจะเป็นขนมหวานได้มาเริ่มเป็นจานเเรกมากๆ
จานที่สองคือ โยเกริต์สอดไส้ด้วยเเกงรสหวาน ที่เเตกออกในปากทันทีเมื่อเคี้ยวสมชื่อ Yogurt explosion เป็นอีกหนึ่งในจานที่ผมชอบที่ประทับใจที่สุดในมื้อนี้ อาหารจานนี้เเสดงถึงความเชื่อมโยงของ Gaggan anand กับการฝึกงานที่ elBulli ได้อย่างชัดเจน
อาหารจานนี้เป็นจานที่สนุกที่สุดในมื้อครับ โดยบริกรจะนำจานมาเสริฟ์ให้เราพร้อมกับเพลงประกอบจังหวะชวนสนุกพร้อมเชิญชวนให้เรา เลียจาน!! โดยบริกรเเนะนำว่าให้เลียให้ซอสทั้งสามชนิดที่ประกอบด้วย ซอสพริก ครีมชีส เลม่อน เเละอวาคาโด้ผง ให้ได้ในครั้งเดียว จานนี้ให้รสชาติที่เเปลกใหม่ เผ็ดนิด มันหน่อย เปรี้ยวๆหวาน อร่อยดีครับเป็นจานที่สนุกมาก เเต่ส่วนตัวผมว่าเลียจานยากไปนิด ฮ่า
จานต่อมาเป็น ทาร์ตชีสนมเเพะที่ดัดเเปลงจากอาหารอินเดียจากราชาสถาน ชีสนมเเพะอุ่นๆที่เเตกในปากกับเเป้งที่กรอบบางหอมกลิ่นควันนิดนั้นอร่อยมาก เป็นอีกจานนึงที่ผมคิดว่าเป็นอาหารตะวันตกมากกว่าอาหารอินเดียเสียอีก ยอดเยี่ยมมากๆครับ
คำนี้คือคุกกี้มะเขือม่วงเเละไส้มะเขือม่วงโรยด้วยผงหน่อไม้ฟรั่ง เมื่อเข้าปากเนื้อคุ้กกี้ที่คล้ายเมอเเรงรสเค็มให้สัมผัสที่บางเบาตัดกับไส้รสเค็มหวานเนื้อเเน่น อร่อยดีครับ เเต่สิ่งที่เห็นจะทำให้จานนี้ยอดเยี่ยมมากขึ้นคือผงหน่อไม้ฟรั่งที่เพิ่มมิติด้วยรสขมนิดเเละความหอมชวน
จานที่มาเสริฟ์นั้นเป็นเหมือนจิ๊กซอให้เราต่อซึ่งบริกรจะนำเฉลยมาให้ตอนหลังครับ
จานนี้คือสป็อคเค้กทำจากข้าวมะพร้าวเเละเครื่องเทศทานกับโฟมเเกงถั่วเหลือง เค้กเป็นอาหารคาวหรือนี่คือสิ่งที่ผมคิดขึ้นในหัว เเว๊บต่อมาคือเเกงกินกับเค้กมันจะเป็นยังไง เเต่เมื่อชิมเเล้วความคิดผมก็เปลี่ยนไป สป็องเค้กหอมกลิ่นข้าวเเละมะพร้าวเผาที่ติดหวานนิดๆนั้นเข้ากับโฟมรสเเกงถั่วเหลืองรสเผ็ดหวานได้อย่างดี การใช้โฟมแกงทำให้เนื้อเค้กไม่สูญเสียผิวสัมผัสที่บางเบา เป็นจานที่น่าสนใจมากๆครับ
บอลดำคำนี้ทำจาก แป้งผสมถ่านสอดไส้ด้วยซัลโมซ่าครับ เวลากินต้องระวังนิดๆเพราะค่อนข้างร้อน
รังนกคำนี้คือมันฟรั่งทอดใส่ซอสฟริก ทานคู่กับบอลไวท์ช็อคโกเเลตไส้มอสซาเลล่าชีส คำนี้ผมชอบการพรีเซ็นท์เทชั่นที่ดูเรียบเเต่สะดุดตา เเต่รสชาตินั้นผมว่าค่อนข้างธรรมดาเเละไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับคำอื่น
เฉลยจิ๊กซอของเรานะครับเป็นรูปประเทศอินเดีย
จานต่อมาเป็นเห็ดเมา เห้ย คือขนมปังสอดไส้เเกงเห็ดพอชินี่ เป็นคำที่ผมชอบมากครับ ขนมปังข้างนอกที่กรอบเเละไม่เละเเม้มีเเกงเป็นไส้ ไส้เเกงเผ็ดเห็ดอุ่นๆหอมกลิ่นเห็ดเเละเครื่องเเกงนั้นก็อร่อยมากครับ
คำนี้คือไอซครีมดอกกะหล่ำกับหน่อไม้ฟรั่ง ทานกับเจลลี่พริก คำนี้ผมชอบความเเปลกใหม่ของการกินไอศครีมที่มีรสผักบวกกับรสเผ็ด เเต่โดยส่วนตัวผมไม่ชอบรสเเบบนี้เเต่ถามว่ามันไม่อร่อยไหม คำตอบคงไม่ใช่เเน่นอนครับ ขึ้นกับความชอบส่วนบุคคลมากกว่า
จานนี้คือส้มตำทุกท่านคงไม่เชื่อเเละเราจะทานส้มตำกันเย็นๆทุกท่านคงยิ่งแปลกใจ คำนี้เป็นคำที่ผมชอบมากๆ โคนกรุบกรอบที่ทำจากพริก ไอซ์ครีมน้ำส้มตำเเละไส้มะละกอดิบ เปรี้ยวกรอบเข้ากันได้อย่างลงตัว การกินส้มตำเย็นๆให้ความรู้สึกที่เเปลกใหม่เเต่ผมมั่นใจว่าคำนี้ อร่อยมากๆครับ
คำนี้คือ puchka หรือข้าวเกรียบจากข้าวเเบบอินเดีย กับไส้จากเเกง ข้าวเกรียบข้างนอกมีความคล้ายกับข้าวจี่เเบบไทย ไส้ข้างในเป็นเเกงรสเผ็ดนิดๆ อร่อยเลยครับ
จานต่อมาคือ เชอรเบทมะเขือม่วง แอปเปิ้ลกรอบ แอปเปิ้ลดอง ไข่หอยเม่นจากฮ็อกไกโด เเละจิงเจอรเจล จานนี้เป็นอีกจานที่ผมชอบมากการจับคู่เเอบเปิ้ลดองรสเปรี้ยวหวานกับเขอเบทมะเขือม่วงเเละอูนินั้นลงตัวอย่างประทับใจ รสเปรี้ยวหวานสดชื่น เเละความหวานมันของไข่หอยเม่นถูกถักทอให้เข้ากันด้วยไอซ์ครีมรสมะเขือม่วง ยิ่งไปกว่านั้นคือเจลรสขิงที่ช่วยเพิ่มรสเผ็ดให้กับคำนี้อย่างสนุกสนาน ยอดเยี่ยมมากๆครับ
คำนี้อาจจะดูคล้ายอาหารญี่ปุ่นมากกว่าอาหารอินเดีย เป็นปลาชูโทโร่เบริน์นิดๆก่อนนำไปท็อปบนเมอเเรงจากซีฟู้ดดาชิ รับประทานกับเจลขิงเเละวาซาบิ เป็นจานที่เเสดงถึงความชอบในอาหารญี่ปุ่นของเชฟได้อย่างดี เเละแฝงกลิ่นอายเเละรสชาติของความเป็นญี่ปุ่นที่ถูกทำให้สวยเก๋ทันสมัยได้อย่างลงตัว
ซุปจานนี้เป็นอาหารพื้นถิ่นของอินเดียจากคำบอกเล่าของบริกร เป็นซุปนกกะทาเเละข้าวโพดหวานไทย เนื้อนกกะทาปรุงมาได้สุกกำลังดีไม่เหนียว ข้าวโพดที่หวานในปากตัดกับซุปรสเค็มที่หอมกลิ่นควันได้อย่างดี ที่เห็นจะไม่ชอบคือซุปที่ผมว่ารสเค็มไปนิด เเละกลิ่นควันในจานนี้ที่ดูฉุนไป
กุ้งลายเสือทันดูริ ทานกับBalchaoซอส รสเปรี้ยวหวานนำเผ็ดตามของ Balchao ช่วยชูรสหวานของกุ้งลายเสือที่ย่างได้สุกในเตาทันดูรอย่างยอดเยี่ยม เป็นจานที่อาจดูเรียบง่ายเมือเทียบกับจานอื่นเเต่ว่าอร่อยจริงๆครับ
แกงกะทิกับหอยเชลล์ที่เสริฟ์มาดิบเเละไอซ์ครีมมะพร้าว นั้นลงตัวอย่างเซอร์ไพรส์มากครับ แกงกะทิเข้ากันได้ดีกับนำ้มันจากเครื่องเทศเเละพริกช่วยชูรสหวานของหอยเชลล์ได้อย่างลงตัว การใส่หอมเจียวยิ่งช่วยเพิ่มสนุกในจานนี้ได้อย่างเหมาะเจาะ เป็นอีกจานที่ผมประทับใจมากๆนะครับ
จานต่อมาเป็นโมโม่ หรือเกี๊ยวเเบบอินเดียทำจากเเบล็คการ์ลิค ไส้เป็น หมู พริก มะม่วงเเละผักดอง เสริฟ์ในน้ำซุป จานนี้ผมชอบในความหลากรสเเละเท็กเจอร์ที่หลากหลายในคำนึงที่เคี้ยว ที่เเม้จะมีรสเผ็ดมันเค็มหวาน เเต่รสทุกรสยังมีความลงตัวเเละไม่ตีกับ เป็นการบาลานซ์ส่วนผสมได้อย่างลง เเละน่าสนใจมากครับ
ขาเเกะของGagganนั้นย่างมาได้นุ่มจนไม่จำเป็นต้องหั่นเราสามารถใช้ปากฉีกมันให้ขาดได้อย่างง่ายดาย รสเผ็ดนิดๆฉุนหน่อยที่ปลายลิ้นจาก พริกเขียว ผิวยุซุ เเละเครื่องเทศอินเดีย ช่วยดับกลิ่นสาบของเเกะที่ย่างในเตาทันดูรได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นเเกะที่อร่อยที่สุดจานนึงที่ผมเคยกินเลยครับ
จานนี้บริกรเรียกว่าห่อหมกอินเดีย หรือ Paturi โดย จานนี้ห่อปลากระพง มาซาล่าเขียว มัสตาร์ด รมควันด้วยไม้ซีดาร์ รสจานนี้ผมนึกถึงปลาเผากับน้ำจิ้มซีฟู้ด เเต่ Paturi ของอินเดียจะมีรสหวานเปรี้ยวน้อยกว่า กลิ่นเครื่องเทศมากกว่า อร่อยดีครับ อีกสิ่งที่ผมชอบคือกลิ่นหอมควันไม้ซีดาร์ที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับจานนี้ได้อย่างน่าสนใจ
เดทสตาร์ หรือเเกงเห็ดพอชินี่เเละถั่วกับข้าวบาสมาติที่เสริฟ์มาในภาชนะคล้ายกับเดทสตาร์ ข้าวบาสมาตินั้นค่อนข้างเเห้งกว่าข้าวหอมมะลิที่เราคุ้นเคยกันเเละค่อนข้างเเข็งพอควรครับ โดยส่วนตัวเหมาะกับการกินกับเเกงเพราะจะทำให้ข้าวไม่เเฉะเกินไป ตัวเเกงเห็ดพอชินี่นั้นอร่อยมากๆ ยิ่งได้ทานกับข้าวร้อนๆนั้นเข้ากันมาก เป็นหนึ่งในจานที่ผมชอบที่สุดในมื้อนี้
จานนี้เป็น มาสเมลโล่ที่ชวนให้เรานึกถึง Beauty & The Beast อันสีเเดงนั้นทำจากบีทรูท
ส่วนอันสีขาวนั้นคือ หัวไชเท้า ส่วนด้านล่างทำจากถั่วทองก้า ส่วนตัวชอบการพรีเซ้นท์เท่นอันสวยงาม เเต่ว่าส่วนตัวคิดว่าคำนี้ค่อนข้างหวานไปครับ
คำนี้ผมค่อนข้างชอบครับ เป็นเเป้งทำจานกะทิ เเยมลิ้นจี่เเละไอศรีม ความกรอบหอมกระทิของตัวเเป้งเข้ากันได้อย่างลงตัวกับเเยมหนึบหนับเปรี้ยวหวาน ก่อนจะเพิ่มความตื่นเต้นด้วยไอศรีมรสหวานเย็น เป็นขนมหวานที่สนุกสนามเเละอร่อยมากครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น