สรุปในสรุป กรณีโอตะVIP บริษัทBNK48 office

1.ความพิการ น่าสงสาร : ตรรกะนี้พัง รู้สินะว่าคนไทยขี้สงสาร แต่คนพิการที่ขี้ขิง ขี้อวดและใช้คำพูดเชิงลามปามกับน้องที่พวกเรามองเป็นน้องเป็นลูกเป็นหลาน ความสงสารไม่มีครับ จบไป

2.ความVIP เส้นสาย : ผมเชื่อว่ามันมีมาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่คนนี้คนเดียว เพียงแค่ เค้าVIPเงียบ ไม่ขิงประกาศในsocial แบบอิตานี่ ถามว่าทำอะไรได้มั้ย ผมคงไม่ได้ครับ แค่อย่าให้น้องที่เราสนับสนุนต้องถูก ล่วงเกินทั้งทางความคิด คำพูด การกระทำ จากบุคคลที่พวกคุณเรียกว่าVIP

3. ความไร้มืออาชีพ : อันนี้ไม่ต้องบรรยายเยอะ ทุกคนที่ตามมานานย่อมประจักษ์ด้วยตัวเอง ที่ผมสังเกตุอีกประการคือ
ผมสงสารจ๊อบซังนะ เวลามีงานพังๆข่าวแย่ๆ ต้องออกมารับหน้าแทนพี่ชายตลอด แต่พอเวลารับรางวัล งานพูด งานเอาความดีความชอบ พี่ชายCEO นี่ไม่ค่อยพลาดนะครับ

4. BNK48 ไม่มีทางยั่งยืน เพราะคุณทำให้ความภักดีต่อbrand ลดลงทุกวันทุกปี บริษัทนี้อยู่ได้ด้วย ความรักของFCที่มีต่อน้อง แต่มีบริษัทมาเป็นตัวกลางค่อยเอาเงินจากความรู้สึกนี้ ก็เท่านั้น

บางคนเค้าคิดได้นะครับ "อย่าดูถูกกันให้มาก" อย่าเอาเด็กมาเป็นตัวประกัน ว่าคุณเป็นเจ้าของสัญญาเด็ก จะทำอะไรยังไงก็ได้ พวกนี้มันยอมหมด
partner ที่คุณพยายามหามา ก็คือเรื่องเงินล้วนๆ แต่อย่าให้ธุรกิจมันทำร้ายความรู้สึกกันบ่อยเกินไป ทั้งเมมเบอร์และโอตะ

ไม่มีไรครับ อึดอัดอยากระบาย อยากฝากข้อความถึงoffiicial เห็นว่า CEO เค้าตามอ่านเองตลอด