เมื่อผมจบกราฟิกดีไซน์แต่มาเรียนภาษาจีนที่ไหหลำ

สวัสดีครับนี่เป็นกระทู้แรกของผมนะครับที่อยากจะมาเขียนมาแชร์ประสบการณ์ จริงๆ อยากจะเขียนมาสักพักแล้วแต่ว่าไม่มีเวลา (หรือขี้เกียจกันแน่ 55) เนื่องด้วยเจ้าของกระทู้เพิ่งเรียนจบและเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เรายังไม่ทำงานเลยเลือกที่จะมาเรียนต่อภาษาจีนครับ แต่ถามว่าเคยเรียนจีนมาก่อนมั้ย... ก็นะคิดอะไรอยู่เนี่ย เอาเถอะมาแล้วก็ต้องตั้งใจเรียนแหล่ะเนอะ

รู้จักกันคร่าวๆก่อน
• เจ้าของกระทู้เพิ่งเรียนจบ และจบกราฟิกดีไซน์มา ไม่ได้มีพื้นฐานภาษาจีนแต่อย่างใด (เรียนพินอินมา 5 ชม. ก่อนจะมาจีน)
• เจ้าของกระทู้มาอยู่ที่ไหหลำประมาณวันที่ 2 เดือนกันยายน อยู่มาเกือบสองเดือนแล้วแต่ว่าเพิ่งจะมาเขียนกระทู้
• เจ้าของกระทู้ได้รับทุนการศึกษาเป็นระยะเวลาสองเทอม 1 ปี ที่มหาวิทยาลัยไหหลำ (Hainan University 海南大学)
• เกาะไหหลำหรือไหหนาน (Hainan) เป็นมณฑลเล็กๆ อยู่ทางตอนใต้ของจีน อยู่ใกล้ไทยมากเดินทางโดยเครื่องบิน 1-2 ชม. ถึง
• นี่เป็นครั้งแรกของผมครับที่ได้ออกมาใช้ชีวิตอยู่ไกลบ้าน (ตอนอยู่ไทยผมไป-กลับบ้าน ไม่ได้อยู่หอ และเคยไปต่างประเทศแค่ครั้งเดียวก่อนหน้านี้คือมาที่ไหหลำนี่แหล่ะ)
• ถ้าใครไม่เคยเรียนจีนมาก่อนแนะนำให้เรียนมาครับ พูดได้ซักนิดก็ยังดี ผมไม่รู้ว่าเมืองอื่นเป็นยังไงแต่ที่นี่เขาไม่ค่อยพูดอังกฤษกันเลยนะครับ เวลาจะทำธุระอะไรลำบากมาก ช่วงแรกๆ ต้องให้พี่คนไทยช่วยเหลือตลอดเลย


สิ่งที่ควรเตรียมก่อนมา
• ความรู้ภาษาจีน ถ้ามาเริ่มต้นใหม่หมดที่นี่จะลำบากมาก อย่างน้อยเป็นมาซักนิดชีวิตจะดีขึ้น ผมมาแบบไม่มีอะไรเลยลำบาก
• ความรู้ภาษาอังกฤษเล็กน้อย เอาไว้พอสื่อสารกับเพื่อนต่างชาติได้จะได้คุยกับเพื่อนๆ รู้เรื่อง
• อาหารพวกอาหารสำเร็จรูปต่างๆ เช่น มาม่า กาแฟ เผื่อบางคนไม่ชอบอาหารที่นี่ (ผมคนนึงแหล่ะที่ไม่ค่อยชอบแต่ก็กินได้)
• เงิน ค่าครองชีพที่นี่ไม่แพงมาก สูงกว่าที่ไทยเล็กน้อย (ผมอยู่ กทม. ครับ แถวอ่อนนุช-พัฒนาการ) แนะนำให้เปิดบัญชีของธนาคารจีนที่ไทยเอาไว้ จะ ICBC หรือ Bank of China ก็ได้และให้คนที่บ้านโอนเงินมาให้ ผมเปิดของ ICBC เอาไว้ พอมากดที่นี่ก็จะไม่เสียค่าธรรมเนียมเลย
• กำลังใจดีๆ จากเพื่อนและครอบครัวหรือคนที่คุณรัก พร้อมแล้วก็โดดขึ้นเครื่องแล้วก็ไปเรียนกันเลยครับ

วันนี้ผมจะมาเล่าอะไร
• จริงๆ ก็อาจจะไม่ได้มาเล่าอะไรมากคือผมเอารูปที่ผมถ่ายไว้ตอนอยู่ที่นี่มาลงให้ดูมากกว่า และก็บันทึกต่างๆ ที่ผมเขียนเอาไว้ น่าจะเป็นแบบนั้น
• ตอนท้ายของกระทู้จะสรุปให้ฟังว่าสองเดือนที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง
• จริงๆ ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะเขียนอะไรบ้าง แนะนำกันมาได้นะครับ ช่วงแรกๆ ที่อยู่ที่นี่ผมตั้งใจว่าจะถ่ายรูปทุกวันถ่ายไปถ่ายมา content หมด ช่วงหลังๆ เลยมาวาดรูปแทน แต่เอาจริงๆ แค่เรียนหนังสือก็เหนื่อยแล้วนะ สำหรับผมปัญหาในการเรียนที่นี่คือการที่เราจำตัวอักษรจีนไม่ได้ ผมเรียนรู้เรื่องนะน่าจะซัก 50-60% แต่บางทีทำข้อสอบไม่ได้เพราะลืมวิธีเขียนตัวอักษรจีน T-T
• บางรูปแคปชั่นอาจจะหยาบนิดนึงครับ ขอโทษด้วย
• พร้อมแล้วก็ไปดูชีวิตผมกันเลยดีกว่าครับ หัวเราะ

บันทึกการเดินทางของฉัน

002 วันแรกที่พวกเรามาถึงกว่าจะจัดการธุระอะไรเสร็จก็เย็นแล้ว เย็นวันนั้นพี่ยุ่น (เดี๋ยวจะมีเขียนอธิบายว่าพี่ยุ่นคือใครนะครับ) เลยพาเราพวกผมไปกินข้าวที่ร้านอาหารข้างทางตรงซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ใกล้มหาลัยที่สุด บรรยากาศคล้ายๆ ข้างทางบ้านเราเพียงแต่ว่าดูเป็นระเบียบกว่า

003 โรงอาหารที่ใกล้หอที่สุด อยู่ตรงข้ามกับหอที่อยู่ตอนนี้เลย โรงอาหารนี้ก็ดูดีเลยนะ สภาพโต๊ะยังดูใหม่ สีโต๊ะสวยงามสดใสมาก ส่วนเรื่องอาหารไว้รอเลยผมพูดยาวแน่ๆ 555

004 มหาลัยที่ผมมาเรียนมีเนื้อที่ค่อนข้างใหญ่ ภายในมหาลัยไม่ได้มีแค่นักศึกษาเดิน บางทีเราเดินๆ อยู่จะเห็นคนหลากหลายวัยทำ activities ต่างๆ มากมาย ส่วนนี่ก็ถ่ายระหว่างที่กำลังเดินไปทำบัตรค่าไฟหอพัก


006 'รถเมล์' นี่คือสิ่งแรกที่ผมเห็นว่าดีกว่าที่บ้านเรา ดีกว่ายังไงเหรอ? รถเมล์ทุกคันมีแอร์ สามารถจ่ายเป็นเงินสดหรือแสกน qr code ก็ได้ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1 หยวน


008 หน้าตาของบะหมี่ที่ซื้อจากร้านเมื่อกี้ ตอนที่สั่งนี่คิดว่าน่าจะเหมือนบ้านเราที่ต้องมีเนื้อสัตว์มาให้บ้างแหล่ะวะ แต่ว่าผมคิดผิด ไม่เลย ไม่มีเลย เป็นบะหมี่ที่มีไข่เจียวข้างบนและเศษผักอีกเล็กน้อยเพื่อที่ไม่ให้อาหารดูไร้สีสันเกินไป

009 รูปนี้เป็นรูปแรกที่ผมวาดตอนอยู่ที่นี่ครับ ไม่ได้วาดนานมือตกมากๆ ตอนนี้ผมอยู่ที่นี่ได้ซัก 2-3 วันแล้ว ตั้งแต่วันแรกสิ่งที่รู้สึกว่าอยู่ในชีวิตประจำวันมาโดยตลอดคือ 'ฝน' และ 'มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า' อยู่ที่ไทยผมไม่เคยพกร่มเลย แต่อยู่ที่นี่ร่มคือสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะนอกจากฝนที่ไม่สามารถจะเดาได้ว่าจะตกตอนไหนแล้วแดดที่นี่ก็แรงกว่าไทยด้วย (ผมลืมพกหลายรอบตอนนี้ผิวดำขึ้นเยอะมากแล้ว)

010 ไม่อยากจะนึกถึง 555 เอาเป็นว่ากลุ่มของพวกผมมีปัญหาเล็กน้อยทำให้ตอนแรกพวกผมต้องไปอยู่ที่หอนี้ ซึ่งเหมือนจริงๆ แล้วมันจะเป็นหอของคนจีน แต่ตอนหลังก็ได้ย้ายมาหอนักศึกษาต่างชาติแล้ว ชีวิตดีขึ้นแปดหมื่นเท่า


012 ซุปเปอร์มาร์เก็ตนี้เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ผมไปบ่อยที่สุด สินค้าที่นี่บางอย่างราคาใกล้เคียงกับไทย แต่หลายๆ อย่างก็ราคาแพงกว่ามาก พวกสบู่ ยาสระผม เครื่องนอน หมอนผ้าห่ม ราคาแพงกว่าไทยเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว


014 เป็นวันที่ผมโชคร้าย อวสานอาหารเช้า


016 รูปนี้อาจจะยาวนิดนึง นี่คือรูมเมทที่ดีที่สุดในโลก (ผมไม่เคยอยู่หอเลยไม่เคยมีรูมเมท) ‘คุณรณกร’ คุณรณกรเป็นชายหนุ่มร่างไม่ใหญ่ ชอบใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว มีหนวดเล็กน้อย และสะพายกล้องอยู่เสมอ นี่น่าจะเป็นคำอธิบายของพี่กรได้ดีที่สุด ผมคุยกับพี่กรพอรู้เรื่อง เพราะว่าพี่กรเป็นช่างภาพ ซึ่งตัวผมก็ถ่ายรูปง่อยๆ อยู่แล้ว เราเลยพอจะคุยกันได้บ้าง พี่กรเป็นคนที่พึ่งพาได้เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าบางทีอาจจะเบลอๆ ไปบ้าง แต่พี่กรก็ดูเป็นผู้ใหญ่ในบางที ถึงบุคลิกเขาจะแปลกๆ ไปบ้าง แต่ผมก็ขอพูดเลยว่าผมดีใจมากๆ ที่ได้รู้จักชายคนนี้



รูปสุดท้ายนะครับ เป็นรูปภาพงานปฐมนิเทศน์ของนักศึกษาต่างชาติ เดี๋ยวจะลงรูปแบบครอปชัดๆในความคิดเห็นที่สองนะครับ กับรูปอื่นๆ ขอลงในความคิดเห็นที่สองนะครับ

สรุปคร่าวๆของกระทู้นี้นะครับ
• เดี๋ยวในความคิดเห็นที่สองผมจะมาลงรูปต่อนะครับแต่ว่าอาจจะไม่มีเขียนอธิบายแล้วเป็นแค่แคปชั่นอย่างเดียวเพราะหลังๆ เรียนเยอะไม่มีเวลาเขียนบันทึกหรืออะไรเลย
• หากใครไม่เคยมาศึกษาต่อต่างประเทศและมีโอกาส แนะนำให้มานะครับ มันเป็นโอกาสที่ดีในการค้นพบอะไรใหม่ๆ ผมถ้าไม่ได้ทุนยังไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกไหม
• กระทู้นี้ก็คงจบด้วยรูปที่ผมถ่ายไว้ กระทู้หน้าไม่รู้ว่าจะตั้งอะไร ใครมีอะไรจะเสนอแนะบอกได้เลยนะครับ
• หากใครอยากถามอะไรคอมเมนต์ถามไว้ได้เลยนะครับ ยินดีตอบหรือจะหลังไมค์ไม่ว่ากัน หัวเราะ

สุดท้ายแล้วขอพื้นที่เล็กน้อยครับ หากชอบสิ่งที่ผมคิด เขียน หรือวาด สามารถติดตามกันได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบคุณมากครับ หัวเราะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่