สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแชร์สถานที่ท่องเที่ยว ที่ว่าจะไปง่ายก็ไม่เชิง จะไปยากก็ไม่ใช่ที่ภูเก็ต ที่นั่นก็คือ แหลมกระทิง......
เพิ่งได้ไปแหลมกระทิงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา (29 ตุลาคม 2561) เพราะน้องมาเที่ยวภูเก็ต แล้วนางอยากไปที่นี่ ส่วนตัวยังไม่เคยไป แต่ก็เป็นหนึ่งในที่ๆ อยากไปแต่ยังไม่มีใครไปด้วย (เลยต้องไปจัดล่ะ)
จากข้อมูลบอกว่า จะเห็นวิวทะเล 360 องศา (ของจริงไม่ถึงนะ แต่ใกล้เคียงมาก)

จากการหาข้อมูลหลายๆ ที่ ข้อมูลคือใช้เวลาเดินประมาณ 30-45 นาที ซึ่งค่อนข้างนาน สำหรับการเดินปกติ เมื่อเทียบกับระยะทางในแผนที่ แต่ก็เอาวะ อยากไปนี่ ยังไงก็จะไปล่ะ
พวกเราไปถึงจุดจอดรถที่หน้าโรงแรมบ้านกระทิงตอนประมาณ 9 โมงในวันที่ฟ้าใสกิ๊ก ลงจากรถคว้าเสื้อแขนยาวมาใส่กันแดด พกน้ำขวดเล็กคนละขวด เพราะเดินนานพอควร เจอพี่ยามใจดีบอกว่าให้เดินเลาะกำแพงโรงแรมลงไปที่หาด แล้วเดินไปทางขวามือ ประมาณ 1 ชั่วโมง (นั่นไง นานกว่าที่อ่านมาอีก) พอเดินลงมาถึงชายหาดก็จะเจอฝรั่งนอนอาบแดดอยู่ประปราย เราก็เริ่มเดินเลาะหาดไปทางขวา ช่วงแรกยังดูปกติดี เดินไต่หินที่ชายหาดไปเรื่อยๆ น้องบอกว่ารู้งี้ใส่รองเท้าแตะมาก็ได้นะ

แต่เดินมาอีกหน่อย ทรายเริ่มหายไปล่ะ มีแค่หินที่ริมทะเล ตอนนี้ทางซ้ายมือของเราเป็นทะเลที่น้ำใสสีครามสวย ทางขวาของเราเป็นภูเขาล่ะ จากก้อนหินต่อมาอีกหน่อยเริ่มเป็นหญ้าล่ะ

เราก็ตามรอยทางเดินไปเรื่อยๆ เดินไปก็เลือกไปได้เรื่อยๆ ว่าจะเดินแบบใกล้ๆ น้ำ รึสูงขึ้นไป คือมีทางหลากหลายนะ ตรงนี้น้องบอกว่าดีแล้วที่ใส่ผ้าใบมา ทางเดินก็ไม่ได้ราบเรียบซะทีเดียว มันเป็นทางเดินริมหน้าผา มีก้อนหินอยู่บนทางเป็นระยะๆ ต้องระวังในระดับนึงเลยทีเดียว ความชันของการเดินก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แรกๆ ก็ดูง่ายๆ หลังๆ มันเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ นะ มีหอบกันเลยทีเดียว มันเป็นการออกกำลังกายที่ดีนะ 555
เมื่อมาถึงจุดที่เห็นเค้าถ่ายรูปกันเยอะๆ อืมมมมมมม สวยจัง ขอบฟ้า ผืนน้ำ ภูเขาหญ้า ได้ยินเสียงนกร้อง ลมเย็นๆ พัดโดนหน้า เลยให้น้องปีนหินก้อนนั้นขึ้นไป จะถ่ายรูปให้ นางก็ขึ้นไปจ้า ดูไม่ได้มีความกลัวแต่อย่างใด เลยต้องบอกนางว่า อย่าตกลงไป ตามไปเก็บไม่ทันนะ เพราะมันชัน ไม่น่าจะวิ่งตามทันนะ

วิวอลังการแบบเกือบจะ 360 องศา ทำเอาสตันท์ไปแป๊บนึงเหมือนกันนะ (ไม่มีรูปพาโนราม่า มือสั่น ถ่ายไม่ได้อ่ะ) หลังจากที่หายเหนื่อยจากการเดินต่อเนื่องแบบไม่พักมากได้สัก 45 นาที (รีวิวเป็นจริง ใช้เวลาประมาณนี้) คือระหว่างทางเดิน มันไม่ร่มเงาให้พักเลยจริงๆ เลยต้องเดินรวดเดียวไปเลย เราก็คำนวณเวลาผิดด้วย ถ้ามาช่วงบ่ายอาจจะไม่ร้อนมากขนาดนี้ เดินไปถึงเกือบจะ 10 โมงล่ะ พักแป๊บนึง แล้วก็ถ่ายรูปด้วยความเมามัน คือการถ่ายรูปในแดดจัดๆ นี่ ถ่ายยังไงก็สวยใช่มั้ย แต่คนถ่ายกับคนถูกถ่ายก็จะไหม้กันไปตามระเบียบ

ตอนเดินกลับแนะนำว่าให้กลับทางที่เราเดินมา เพราะเราจะรู้มุม รู้ว่าทางจะเป็นแบบไหน พอดีตอนกลับ เราเลือกเส้นทางที่ไม่ใช้เส้นทางเดิม (เพราะปีนขึ้นภูเขาไปชันพอสมควรเลย) การจิกเท้าลงในทางที่ไม่คุ้นเคยนั้น สร้างความทรมานได้เหลือเชื่อนะ
สรุปสิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนจะไปแหลมกระทิง
1. ฟิตร่างกายพอสมควร เพราะทางเดินมีความทรหดในระดับนึง
2. พกน้ำขวดเล็กไปด้วย ทาครีมกันแดด ใส่เสื้อแขนยาว หมวก แว่นตา เอาไปให้พร้อมนะ เพราะแดดแรง
3. รองเท้าควรเป็นผ้าใบหรือรองเท้าที่กระชับเท้าและไม่หลุดถ้าต้องปีน
4. ถ้าจะมาดูพระอาทิตย์ตก แนะนำว่าอย่ารถจนพระอาทิตย์ตก เพราะถ้ามืดแล้วการเดินจะยิ่งลำบากขึ้นอีกหลายเท่าตัว มันไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างเลย
5. เลือกไปในวันฟ้าใส ไม่ใช่หลังฝนตก เพราะทางเดินจะค่อนข้างลื่นถ้าเปียก
[CR] แหลมกระทิง ภูเก็ต ไปไม่ยากถ้าอยากไป
เพิ่งได้ไปแหลมกระทิงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา (29 ตุลาคม 2561) เพราะน้องมาเที่ยวภูเก็ต แล้วนางอยากไปที่นี่ ส่วนตัวยังไม่เคยไป แต่ก็เป็นหนึ่งในที่ๆ อยากไปแต่ยังไม่มีใครไปด้วย (เลยต้องไปจัดล่ะ)
จากข้อมูลบอกว่า จะเห็นวิวทะเล 360 องศา (ของจริงไม่ถึงนะ แต่ใกล้เคียงมาก)
จากการหาข้อมูลหลายๆ ที่ ข้อมูลคือใช้เวลาเดินประมาณ 30-45 นาที ซึ่งค่อนข้างนาน สำหรับการเดินปกติ เมื่อเทียบกับระยะทางในแผนที่ แต่ก็เอาวะ อยากไปนี่ ยังไงก็จะไปล่ะ
พวกเราไปถึงจุดจอดรถที่หน้าโรงแรมบ้านกระทิงตอนประมาณ 9 โมงในวันที่ฟ้าใสกิ๊ก ลงจากรถคว้าเสื้อแขนยาวมาใส่กันแดด พกน้ำขวดเล็กคนละขวด เพราะเดินนานพอควร เจอพี่ยามใจดีบอกว่าให้เดินเลาะกำแพงโรงแรมลงไปที่หาด แล้วเดินไปทางขวามือ ประมาณ 1 ชั่วโมง (นั่นไง นานกว่าที่อ่านมาอีก) พอเดินลงมาถึงชายหาดก็จะเจอฝรั่งนอนอาบแดดอยู่ประปราย เราก็เริ่มเดินเลาะหาดไปทางขวา ช่วงแรกยังดูปกติดี เดินไต่หินที่ชายหาดไปเรื่อยๆ น้องบอกว่ารู้งี้ใส่รองเท้าแตะมาก็ได้นะ
แต่เดินมาอีกหน่อย ทรายเริ่มหายไปล่ะ มีแค่หินที่ริมทะเล ตอนนี้ทางซ้ายมือของเราเป็นทะเลที่น้ำใสสีครามสวย ทางขวาของเราเป็นภูเขาล่ะ จากก้อนหินต่อมาอีกหน่อยเริ่มเป็นหญ้าล่ะ
เราก็ตามรอยทางเดินไปเรื่อยๆ เดินไปก็เลือกไปได้เรื่อยๆ ว่าจะเดินแบบใกล้ๆ น้ำ รึสูงขึ้นไป คือมีทางหลากหลายนะ ตรงนี้น้องบอกว่าดีแล้วที่ใส่ผ้าใบมา ทางเดินก็ไม่ได้ราบเรียบซะทีเดียว มันเป็นทางเดินริมหน้าผา มีก้อนหินอยู่บนทางเป็นระยะๆ ต้องระวังในระดับนึงเลยทีเดียว ความชันของการเดินก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แรกๆ ก็ดูง่ายๆ หลังๆ มันเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ นะ มีหอบกันเลยทีเดียว มันเป็นการออกกำลังกายที่ดีนะ 555
เมื่อมาถึงจุดที่เห็นเค้าถ่ายรูปกันเยอะๆ อืมมมมมมม สวยจัง ขอบฟ้า ผืนน้ำ ภูเขาหญ้า ได้ยินเสียงนกร้อง ลมเย็นๆ พัดโดนหน้า เลยให้น้องปีนหินก้อนนั้นขึ้นไป จะถ่ายรูปให้ นางก็ขึ้นไปจ้า ดูไม่ได้มีความกลัวแต่อย่างใด เลยต้องบอกนางว่า อย่าตกลงไป ตามไปเก็บไม่ทันนะ เพราะมันชัน ไม่น่าจะวิ่งตามทันนะ
วิวอลังการแบบเกือบจะ 360 องศา ทำเอาสตันท์ไปแป๊บนึงเหมือนกันนะ (ไม่มีรูปพาโนราม่า มือสั่น ถ่ายไม่ได้อ่ะ) หลังจากที่หายเหนื่อยจากการเดินต่อเนื่องแบบไม่พักมากได้สัก 45 นาที (รีวิวเป็นจริง ใช้เวลาประมาณนี้) คือระหว่างทางเดิน มันไม่ร่มเงาให้พักเลยจริงๆ เลยต้องเดินรวดเดียวไปเลย เราก็คำนวณเวลาผิดด้วย ถ้ามาช่วงบ่ายอาจจะไม่ร้อนมากขนาดนี้ เดินไปถึงเกือบจะ 10 โมงล่ะ พักแป๊บนึง แล้วก็ถ่ายรูปด้วยความเมามัน คือการถ่ายรูปในแดดจัดๆ นี่ ถ่ายยังไงก็สวยใช่มั้ย แต่คนถ่ายกับคนถูกถ่ายก็จะไหม้กันไปตามระเบียบ
ตอนเดินกลับแนะนำว่าให้กลับทางที่เราเดินมา เพราะเราจะรู้มุม รู้ว่าทางจะเป็นแบบไหน พอดีตอนกลับ เราเลือกเส้นทางที่ไม่ใช้เส้นทางเดิม (เพราะปีนขึ้นภูเขาไปชันพอสมควรเลย) การจิกเท้าลงในทางที่ไม่คุ้นเคยนั้น สร้างความทรมานได้เหลือเชื่อนะ
สรุปสิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนจะไปแหลมกระทิง
1. ฟิตร่างกายพอสมควร เพราะทางเดินมีความทรหดในระดับนึง
2. พกน้ำขวดเล็กไปด้วย ทาครีมกันแดด ใส่เสื้อแขนยาว หมวก แว่นตา เอาไปให้พร้อมนะ เพราะแดดแรง
3. รองเท้าควรเป็นผ้าใบหรือรองเท้าที่กระชับเท้าและไม่หลุดถ้าต้องปีน
4. ถ้าจะมาดูพระอาทิตย์ตก แนะนำว่าอย่ารถจนพระอาทิตย์ตก เพราะถ้ามืดแล้วการเดินจะยิ่งลำบากขึ้นอีกหลายเท่าตัว มันไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างเลย
5. เลือกไปในวันฟ้าใส ไม่ใช่หลังฝนตก เพราะทางเดินจะค่อนข้างลื่นถ้าเปียก
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้