คืออย่างงี้ค่ะแฟนเราเป็นคนไต้หวัน( เขาทำงานบนเรือ)
ไม่รู้ว่ามันคือเวรกรรมหรือพรหมลิขิตที่ทำให้เราสองคนได้เจอกัน
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเรือของเขามาส่งของที่ไทยและเขาออกมาเที่ยวข้างนอกกับเพื่อน
เราเจอกันที่สยามสแควร์ อยู่ๆเขาก็เข้ามาถามเราว่า
เขา : ช็อปไนส์กี้ไปทางไหนครับ
เรา : ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายพอถึงแยกแล้วเลี้ยวขวาอีกที
เขา : ไปส่งผมได้มั้ยครับ ผมกลัวหลงทาง
เรา : ไม่ได้ ฉันกำลังต่อคิวซื้อชานมไข่มุกอยู่ (นึกในใจบ้าปะวะมาตั้งหลายคนกลัวหลงทำไม)
เขาไม่พูดอะไรได้แต่ยืนเก้ๆกังๆ เราเลยพูดไปว่างั้นเอาไอดีไลน์ฉันไปนะถ้าไม่เข้าใจก็ทักมาถามอีกที
เขา : ขอบคุณครับ (แล้วยิ้มหน้าบานไปเลย)
ตื่นเช้าวันใหม่เราเปิดมือถือเล่นตามปกติมีไลน์ทักมาว่า
...? : Goood morning. I sorry for late talk to you. I just have duty but now finish so I go back room to sleep. 4:02
เรานึกในใจใครวะทำไม่ต้องมารายงานตัวขนาดนี้ เรากดเข้าไปดูรูปโปรไฟล์
แต่กลับนึกไม่ออกว่าเป็นใคร เราส่งข้อความกลับไปว่า
Me : Who are you?
...? : oh you forget me? We meet at siam square yesterday.
Me : Ahhhh I remember.
...? : What are you doing?
Me : I just wake up.
...? : Today can you have dinner with me?
Me : Let me think one moment.
ทักไปถามเพื่อนผู้ชายนัดกินข้าวเอาไงดีวะ ไปดีป้ะ????
เพื่อนบอกไปเลยข้าวฟรีรอใครมาตัดริบบิ้น
: Hey you! Okay I can go.
...? : I finish work at 16:30 o’clock we can meet 17:30 or 18:00 o’clock
Me : ok. Meet at promprong station. Don’t late I don’t want long time wait.
มีความสั่งเขาห้ามมาสายแต่เรากลับไปช้ากว่าเขาต้องครึ่งชั่วโมง
At Emporium
ทักทายกันตามมารยาท เราเขิลมากเจอกันครั้งแรก
เขาเห็นเราสะพายเป้หนึ่งใบแล้วมือถือกระเป๋าอีกหนึ่งใบ
เขาบอกว่าผมขอถือกระเป๋าให้คุณนะ
ผมไม่อยากให้คุณลำบาก เราส่งกระเป๋าให้เขาแล้วแอบยิ้ม
เขาถามเราว่าคุณอยากทานอะไร เราบอกไปว่าอะไรก็ได้ง่ายๆไม่ซีเรียส
เขาพาเราไปกินอาหารญี่ปุ่น. ตอนนั้นเราไม่ค่อยอยากกินปลาดิบ
เพราะเคยกินตามตลาดนัดแล้วมันไม่อร่อยแถมยังคาวอีก
เราก็เลยไม่รู้จะสั่งอะไร. ตามสไตล์เด็กบ้านนอก
เราก็บอกให้เขาสั่งเลยอะไรก็ได้ เราไม่เคยกินอาหารญี่ปุ่น
แฟนเราสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะเลย เรียกได้ว่าเกือบทุกอย่างในร้าน
เราถามเขาว่าคุณทานหมดหรอสั่งมาเยอะขนาดนี้
เขาบอกว่าทานไม่หมดไม่เป็นไรผมแค่อยากรู้ว่าคุณชอบทานอะไร
(ใจเรานี่เริ่มหวั่นไหวกับผู้ชายคนนี้ละ)
เขาตักอาหารให้เราทาน ตักโน่นนี่นั่นให้เราทานเต็มไปหมด.
เขาจะคอยสังเกตเราเวลากิน ถ้าเราทำสีหน้าไม่ค่อยดี
เขาจะลากจานนั้นออกไป อันไหนที่เราดูชอบเขาจะลากมาไว้ใกล้เรา
เรียกได้ว่าของถูกกับของแพงคุณภาพมันต่างกันจริงๆ
ปลาดิบร้านนั้นอร่อยมาก เรากินแบบเขิลๆ
เขาบอกว่าไม่ต้องเขิลนะทำตัวให้สบายไม่ต้องเกรง
เขาคอยเอาผ้าเช็ดปาก เช็ดมือเราไม่ให้เราได้เลอะเลย
พอทานข้าวเสร็จเราถามเขาว่าเดินเล่นก่อนมั้ยหรือว่าจะกลับเลย
เขาบอกว่ายังพอมีเวลา เดินเล่นก่อนนะ ผมอยากอยู่กับคุณนานๆ
เราเขิลมากแบบบอกไม่ถูก @(฿7:!;฿,;)&/@?&

฿:฿:&&
เดินเล่นสักพักเขาขอจับมือเราเราก็ขว้ามือเขามาจับก่อนเลย
เพราะเราไม่ถือไงแค่จับมือไม่ได้ทำไรเสียหาย
เขาก็ยิ้มแล้วแอบหัวเราะเรา เราก็ถามว่าหัวเราะหัวไม
เราทำอะไรผิดหรอ เขาบอกว่าไม่มีอะไรแค่มองคุณแล้วมีความสุข
เราก็เดินไปคุยกันไปถามโน่นนี่นั่นไป
พอเหนื่อยเราก็นั่งเก้าอี้คุยกัน ถ่ายรูปด้วยกัน
เราซบไหล่เขาเพราะไม่อยากให้เขามองหน้าเรา
เขาก็เอามือลูบหัวเราเบาๆ แล้วถามไถ่ต่างๆนาๆ
จนถึง 21:00 ผมต้องกลับแล้วนะ ผมทำงานเที่ยงคืน
เราก็อ่อโอเค เดินไปส่งเขาที่วินมอไซค์ เขานั่งวินมอไซค์ไปท่าเรือ
เราก็นั่ง MRT กลับห้องพอถึงห้องแล้วเราก็เล่นมือถือตามสไตล์ของเรา
เขาทักมาว่า ผมถึงเรือแล้วนะจะอาบน้ำแล้วเตรียมตัวไปทำงาน
ปล. เขาทำงานแบบ 2 กะ เที่ยงวันถึง4โมงเย็น แล้วเที่ยงคืนถึงตี4
เราก็ตอบไปว่าเราถึงนานละ เขาก็ทำท่าทางแบบน้อยใจ
ทำไมถึงแล้วไม่ทักมาบอก เราก็ไม่รู้อ่ะคนไม่ได้เป็นไรกัน
เราทำตัวไม่ถูก. บอกก็บอกว่าผมชอบคุณนะ
ผมหวังว่าคุณคงจะชอบผมเหมือนกัน ฝันดีนะถ้าผมเลิกงาน
ผมจะบอกคุณนะ. ดูแลตัวเองด้วยดื่มน้ำเยอะๆ
เราก็ไม่ได้ตอบไปว่าชอบหรือไม่ชอบแค่บอกฝันดี จบ.
รอบนี้เรือเขามาไทยทุกๆ2อาทิตย์ เราจะได้เจอกันทุก2อาทิตย์
เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปคบกันได้ไงทั้งๆที่ไม่เคยขอเป็นแฟน
แต่เขาดีมาก ดีทุกอย่างดูแลเราเหมือนเจ้าหญิง
เอาใจใส่แม้เรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่เคยมองข้ามความสำคัญของเรา
แต่เรารู้สึกเฉยๆมากกว่าเพราะเราคุยหลายคน
เขาคอยโทรหาเราตลอดเวลาที่เขาว่างจนเราลำคาน
บางทีเราออกไปเที่ยวกับเพื่อนเขาก็ไม่ค่อยยอมวางสาย
เพราะกลัวเราจะเป็นอันตรายอยากดูแลเราแม้กระทั่งอยู่ไกลกัน
วันนึงเขาค้นเจอเฟซบุ๊คของเราซึ่งในนั้นมีรูปเรากับแฟนเก่า
ซึ่งเราเลิกกันแล้วแต่เรายังอยากเก็บภาพไว้เพราะลืมเขาไม่ได้
เขาทักมาว่าผมเคยสัญญากับคุณว่าผมจะไม่มีความลับต่อคุณ
ตามที่คุณเคยบอกว่าคุณเกลียดการโกหก
แต่แล้วทำไมคุณโกหกผม หรือว่าเรื่องมันเป็นยังไงคุณบอกผมได้มั้ย
ถ้าคุณมีแฟนแล้วไม่เป็นไรเราเป็นแค่เพื่อนกันก้ได้
เรารู้สึกผิดมาก เราก็เลยบอกเขาไปว่าเราลืมแฟนเก่าไม่ได้
แต่ว่าเราเลิกกับแฟนเก่าไปสักพักแล้ว ณ ตอนนั้นความรู้แบบ
เรากลัวเสียเขามากๆ เราก็เลยถามเขาไปว่าคุณแน่ใจมั้ย
ที่จะคบกับฉันแล้วคุณแน่ใจมั้ยว่าจะไม่ทิ้งฉัน
เขาบอกว่ารักเรามากและไม่มีวันทิ้งเราแน่นอน
เราก็เลยบอกเขาว่างั้นฉันเชื่อใจคุณฉันจะลบรูปทั้งหมดแล้วเริ่มต้นใหม่กับคุณ
เราลบรูปแฟนเก่าในเฟสบุ๊คแล้วเลิกคุยกับผู้ชายทุกคนเพราะเขา
เรารู้สึกรักเขามาก ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่เรายิ่งรักเรามากขึ้น
เพราะความดีของเขาเราไม่เคยเจอผู้ชายที่ดูแลดีแบบนี้มาก่อน
ถึงแม้เราจะเจอกันแค่เดือนละ2ครั้งแต่ความรู้สึกของเราเหมือนมีเขาอยู่ข้างๆตลอดเวลา
เขาเป็นคนฉลาด คอยสอนเราในทุกๆเรื่อง เรามีความสุขมากที่ได้เจอ
และได้คุยกับเขา
เวลาผ่านไป 4เดือนถึงดวลาที่เขาต้องเปลี่ยนเรือแล้วเขามีวันหยุดคือหลังจากเสร็จงาน
จนถึงบริษัทเรียกตัวไปทำงาน ซึ่งนั่นก็คือมันไม่แน่นอน
เขากลับไต้หวันไปเราไม่ได้เจอกัน 1เดือนเราคิดถึงเขามาก
จากปกตินับวันนับคืนรอ 2อาทิย์เจอกันเราว่านานละนี่เกือนกว่าไม่ได้เจอ
ทรมานที่สุด แต่เขาก็คอยโทรหาเราตลอดไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
จนเขามีเวลาว่างเขาจองตั๋วเครื่องบินมาหาเราที่ไทย
กะอยู่เดือนกว่าหรือจนบริษัทเรียกตัวไปทำงาน
แต่แม่ของเขาไม่พอใจและเขาทะเลาะกับแม่หนักมาก
นี่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาคู่เรา!!!!!!?????
เขาขอโทษเราที่ผิดสัญญาและมาอยู่กับเราที่ไทยแค่3อาทิตย์
เราแอบไปทำนมมาไม่บอกเขา เขามาถึงไทยเราถึงบอกเขา
แฟนเราเป็นคนแอนตี้ศัลยกรรมมากนี่คือเหตุผลทำไมแอบทำ
แต่นั้นก็เหอะผู้หญิงทุกคนอยากสวย.. เขาโกรธเรามาก
แต่ในความโกรธนี้คือความห่วงใยมากกว่า
กลัวว่าทำมาแล้วจะมีปัญหาเหมือนที่เป็นข่าว ต่างๆนาๆ
แต่เขาก็ดูแลเราดีมาก ทำกับข้าวให้กิน ซักผ้า ทำความสะอาดห้อง
ทำทุกอย่างให้เราเพราะเราทำอะไรไม่ได้เลย
เรายิ่งรักเขามากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกๆวันที่อยู่กับเขาเรามีความสุขมากถึงแม้บางเวลาทะเลาะกัน
แต่เขาก็ยังนอนกอดเราดูแลเราดีเหมือนเดิม
จนเราอยากให้เขาอยู่กับเราตลอดไป ไม่อยากให้เขากลับเลย
แต่แล้วเขาก็ต้องกลับเพราะไม่อยากทะเลาะกับแม่
เราก็เข้าใจแฟนนะนั่นคือแม่เขาถึงแม้จะรักเรามากแค่ไหน
แม่ก็ต้องมากก่อนเสมอ,,,,,
แม่เขาไม่เคยพูดว่าไม่ชอบเราหรือไม่อยากให้คบกับเรา
เราก็ได้แต่คิดว่าเขาคงไม่อยากให้ลูกเขาใช้เงินเยอะ
คิดในแง่ดีมาตลอด แต่แล้วเราตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินไปหาเขาที่ไต้หวัน
1 อาทิตย์ เขาอยากให้เราไปเที่ยว ไปดูประเทศเขา
แต่แล้วใกล้ถึงวันที่เราจะไปประมาณ10กว่าวัน
แฟนเราถามว่าเลื่อนตัวเครื่องบินได้มั้ย
มาแค่4วันได้มั้ย เราก็บอกไปว่าตั๋วเราเลื่อนไม่ได้และคืนเงินไม่ได้ด้วย
เราก็ถามเขาว่าทำไมหรอ มีอะไรรึป้าว
เขาก็ไม่ค่อยกล้าพูดเราก็บอกว่าบอกมาเหอะมีปัญหาอะไร
เขาบอกว่าแม่เขาบ่นว่าทำไมเราต้องมาหาเขา
ทำไมต้องหาเรื่องเสียตังค์ทำไมไม่เก็บตังค์ไว้เผื่อฉุกเฉิน
เราแปลกใจมากทำไมเขาต้องคอยกีดกันไม่ให้เราอยู่ด้วยกัน
ทั้งๆที่เราซื้อตั๋วเองเราไม่ได้ใช้เงินลูกเขาเลย
เรารู้สึกโกรธมากว่าทำไมต้องขัดขวางเรา
เพราะอะไรเราทำอะไรผิด ไม่ชอบเราหรือไม่อยากให้คบ
ทำไมไม่บอกเราตรงๆ เราจะได้ตัดใจไม่ใช่คอยกรดกันแบบนี้
เราบอกแฟนไปว่างั้นไม่เป็นไรไม่ต้องเลื่อนหรอก
เราไม่ไปแล้วล่ะ เราไม่อยากให้คุณทะเลาะกับแม่
เขาก็ไม่ยอม เขาอยากเจอเราแม้4วันก็อยากเจอ
เราบอกว่าเสียดายตังค์ตั๋วมันคืนไม่ได้ต้องซื้อใหม่อย่างเดียว
เราไม่อยากให้เสียตังค์ไปมากกว่านี้
เราเลยคิดว่าไม่ไปดีกว่า เราสงสารแฟนมาก
รู้สึกว่าเขาไม่มีความสุข ใจนึงเขากลัวว่าเราจะโกรธ
อีกใจนึงเราก็ต้องฟังแม่เขา อันนี้มันแน่นอนอยู่ละ
เราบอกเขาว่าถ้าแม่คุณไม่อยากให้คบกันบอกฉันตรงๆได้นะ
ฉันไม่โกรธหรอก แต่ไม่อยากเห็นคุณทะเลาะกับแม่บ่อยๆ
เขาบอกว่าถึงแม้แม่จะจะเอ่ยปากมาว่าไม่ให้คบ
เขาก็จะคบเขาไม่มีวันทิ้งเราแน่นอน
เขามีงานทำ เขาหาเงินเอง ทำไมต้องมาบงการชีวิตเขา
เราสับสนมาก อึดอัดที่เป็นแบบนี้ กลัวว่าวันนึงเขาจะถูกบังคับให้เลิกกับเรา
เราควรจะเลิกกับเขาตั้งแต่ตอนนี้หรือสู้ต่อไปดีคะ???
ถ้าเลิกกับเขาทั้งๆที่เขาไม่ได้ผิดอะไรเราจะดูแย่มากมั้ย?
แล้วถ้าเราเดินหน้าต่อไปแม่เขาจะยังเป็นแบบนี้อยู่หรือป่าว?
เราท้อจัง.... ใครมีประสบการณ์แบบนี้แนะนำหน่อยว่าเราควรทำยังไง
รู้สึกอัดอัดครอบครัวแฟน
ไม่รู้ว่ามันคือเวรกรรมหรือพรหมลิขิตที่ทำให้เราสองคนได้เจอกัน
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเรือของเขามาส่งของที่ไทยและเขาออกมาเที่ยวข้างนอกกับเพื่อน
เราเจอกันที่สยามสแควร์ อยู่ๆเขาก็เข้ามาถามเราว่า
เขา : ช็อปไนส์กี้ไปทางไหนครับ
เรา : ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายพอถึงแยกแล้วเลี้ยวขวาอีกที
เขา : ไปส่งผมได้มั้ยครับ ผมกลัวหลงทาง
เรา : ไม่ได้ ฉันกำลังต่อคิวซื้อชานมไข่มุกอยู่ (นึกในใจบ้าปะวะมาตั้งหลายคนกลัวหลงทำไม)
เขาไม่พูดอะไรได้แต่ยืนเก้ๆกังๆ เราเลยพูดไปว่างั้นเอาไอดีไลน์ฉันไปนะถ้าไม่เข้าใจก็ทักมาถามอีกที
เขา : ขอบคุณครับ (แล้วยิ้มหน้าบานไปเลย)
ตื่นเช้าวันใหม่เราเปิดมือถือเล่นตามปกติมีไลน์ทักมาว่า
...? : Goood morning. I sorry for late talk to you. I just have duty but now finish so I go back room to sleep. 4:02
เรานึกในใจใครวะทำไม่ต้องมารายงานตัวขนาดนี้ เรากดเข้าไปดูรูปโปรไฟล์
แต่กลับนึกไม่ออกว่าเป็นใคร เราส่งข้อความกลับไปว่า
Me : Who are you?
...? : oh you forget me? We meet at siam square yesterday.
Me : Ahhhh I remember.
...? : What are you doing?
Me : I just wake up.
...? : Today can you have dinner with me?
Me : Let me think one moment.
ทักไปถามเพื่อนผู้ชายนัดกินข้าวเอาไงดีวะ ไปดีป้ะ????
เพื่อนบอกไปเลยข้าวฟรีรอใครมาตัดริบบิ้น
: Hey you! Okay I can go.
...? : I finish work at 16:30 o’clock we can meet 17:30 or 18:00 o’clock
Me : ok. Meet at promprong station. Don’t late I don’t want long time wait.
มีความสั่งเขาห้ามมาสายแต่เรากลับไปช้ากว่าเขาต้องครึ่งชั่วโมง
At Emporium
ทักทายกันตามมารยาท เราเขิลมากเจอกันครั้งแรก
เขาเห็นเราสะพายเป้หนึ่งใบแล้วมือถือกระเป๋าอีกหนึ่งใบ
เขาบอกว่าผมขอถือกระเป๋าให้คุณนะ
ผมไม่อยากให้คุณลำบาก เราส่งกระเป๋าให้เขาแล้วแอบยิ้ม
เขาถามเราว่าคุณอยากทานอะไร เราบอกไปว่าอะไรก็ได้ง่ายๆไม่ซีเรียส
เขาพาเราไปกินอาหารญี่ปุ่น. ตอนนั้นเราไม่ค่อยอยากกินปลาดิบ
เพราะเคยกินตามตลาดนัดแล้วมันไม่อร่อยแถมยังคาวอีก
เราก็เลยไม่รู้จะสั่งอะไร. ตามสไตล์เด็กบ้านนอก
เราก็บอกให้เขาสั่งเลยอะไรก็ได้ เราไม่เคยกินอาหารญี่ปุ่น
แฟนเราสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะเลย เรียกได้ว่าเกือบทุกอย่างในร้าน
เราถามเขาว่าคุณทานหมดหรอสั่งมาเยอะขนาดนี้
เขาบอกว่าทานไม่หมดไม่เป็นไรผมแค่อยากรู้ว่าคุณชอบทานอะไร
(ใจเรานี่เริ่มหวั่นไหวกับผู้ชายคนนี้ละ)
เขาตักอาหารให้เราทาน ตักโน่นนี่นั่นให้เราทานเต็มไปหมด.
เขาจะคอยสังเกตเราเวลากิน ถ้าเราทำสีหน้าไม่ค่อยดี
เขาจะลากจานนั้นออกไป อันไหนที่เราดูชอบเขาจะลากมาไว้ใกล้เรา
เรียกได้ว่าของถูกกับของแพงคุณภาพมันต่างกันจริงๆ
ปลาดิบร้านนั้นอร่อยมาก เรากินแบบเขิลๆ
เขาบอกว่าไม่ต้องเขิลนะทำตัวให้สบายไม่ต้องเกรง
เขาคอยเอาผ้าเช็ดปาก เช็ดมือเราไม่ให้เราได้เลอะเลย
พอทานข้าวเสร็จเราถามเขาว่าเดินเล่นก่อนมั้ยหรือว่าจะกลับเลย
เขาบอกว่ายังพอมีเวลา เดินเล่นก่อนนะ ผมอยากอยู่กับคุณนานๆ
เราเขิลมากแบบบอกไม่ถูก @(฿7:!;฿,;)&/@?&
เดินเล่นสักพักเขาขอจับมือเราเราก็ขว้ามือเขามาจับก่อนเลย
เพราะเราไม่ถือไงแค่จับมือไม่ได้ทำไรเสียหาย
เขาก็ยิ้มแล้วแอบหัวเราะเรา เราก็ถามว่าหัวเราะหัวไม
เราทำอะไรผิดหรอ เขาบอกว่าไม่มีอะไรแค่มองคุณแล้วมีความสุข
เราก็เดินไปคุยกันไปถามโน่นนี่นั่นไป
พอเหนื่อยเราก็นั่งเก้าอี้คุยกัน ถ่ายรูปด้วยกัน
เราซบไหล่เขาเพราะไม่อยากให้เขามองหน้าเรา
เขาก็เอามือลูบหัวเราเบาๆ แล้วถามไถ่ต่างๆนาๆ
จนถึง 21:00 ผมต้องกลับแล้วนะ ผมทำงานเที่ยงคืน
เราก็อ่อโอเค เดินไปส่งเขาที่วินมอไซค์ เขานั่งวินมอไซค์ไปท่าเรือ
เราก็นั่ง MRT กลับห้องพอถึงห้องแล้วเราก็เล่นมือถือตามสไตล์ของเรา
เขาทักมาว่า ผมถึงเรือแล้วนะจะอาบน้ำแล้วเตรียมตัวไปทำงาน
ปล. เขาทำงานแบบ 2 กะ เที่ยงวันถึง4โมงเย็น แล้วเที่ยงคืนถึงตี4
เราก็ตอบไปว่าเราถึงนานละ เขาก็ทำท่าทางแบบน้อยใจ
ทำไมถึงแล้วไม่ทักมาบอก เราก็ไม่รู้อ่ะคนไม่ได้เป็นไรกัน
เราทำตัวไม่ถูก. บอกก็บอกว่าผมชอบคุณนะ
ผมหวังว่าคุณคงจะชอบผมเหมือนกัน ฝันดีนะถ้าผมเลิกงาน
ผมจะบอกคุณนะ. ดูแลตัวเองด้วยดื่มน้ำเยอะๆ
เราก็ไม่ได้ตอบไปว่าชอบหรือไม่ชอบแค่บอกฝันดี จบ.
รอบนี้เรือเขามาไทยทุกๆ2อาทิตย์ เราจะได้เจอกันทุก2อาทิตย์
เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปคบกันได้ไงทั้งๆที่ไม่เคยขอเป็นแฟน
แต่เขาดีมาก ดีทุกอย่างดูแลเราเหมือนเจ้าหญิง
เอาใจใส่แม้เรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่เคยมองข้ามความสำคัญของเรา
แต่เรารู้สึกเฉยๆมากกว่าเพราะเราคุยหลายคน
เขาคอยโทรหาเราตลอดเวลาที่เขาว่างจนเราลำคาน
บางทีเราออกไปเที่ยวกับเพื่อนเขาก็ไม่ค่อยยอมวางสาย
เพราะกลัวเราจะเป็นอันตรายอยากดูแลเราแม้กระทั่งอยู่ไกลกัน
วันนึงเขาค้นเจอเฟซบุ๊คของเราซึ่งในนั้นมีรูปเรากับแฟนเก่า
ซึ่งเราเลิกกันแล้วแต่เรายังอยากเก็บภาพไว้เพราะลืมเขาไม่ได้
เขาทักมาว่าผมเคยสัญญากับคุณว่าผมจะไม่มีความลับต่อคุณ
ตามที่คุณเคยบอกว่าคุณเกลียดการโกหก
แต่แล้วทำไมคุณโกหกผม หรือว่าเรื่องมันเป็นยังไงคุณบอกผมได้มั้ย
ถ้าคุณมีแฟนแล้วไม่เป็นไรเราเป็นแค่เพื่อนกันก้ได้
เรารู้สึกผิดมาก เราก็เลยบอกเขาไปว่าเราลืมแฟนเก่าไม่ได้
แต่ว่าเราเลิกกับแฟนเก่าไปสักพักแล้ว ณ ตอนนั้นความรู้แบบ
เรากลัวเสียเขามากๆ เราก็เลยถามเขาไปว่าคุณแน่ใจมั้ย
ที่จะคบกับฉันแล้วคุณแน่ใจมั้ยว่าจะไม่ทิ้งฉัน
เขาบอกว่ารักเรามากและไม่มีวันทิ้งเราแน่นอน
เราก็เลยบอกเขาว่างั้นฉันเชื่อใจคุณฉันจะลบรูปทั้งหมดแล้วเริ่มต้นใหม่กับคุณ
เราลบรูปแฟนเก่าในเฟสบุ๊คแล้วเลิกคุยกับผู้ชายทุกคนเพราะเขา
เรารู้สึกรักเขามาก ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่เรายิ่งรักเรามากขึ้น
เพราะความดีของเขาเราไม่เคยเจอผู้ชายที่ดูแลดีแบบนี้มาก่อน
ถึงแม้เราจะเจอกันแค่เดือนละ2ครั้งแต่ความรู้สึกของเราเหมือนมีเขาอยู่ข้างๆตลอดเวลา
เขาเป็นคนฉลาด คอยสอนเราในทุกๆเรื่อง เรามีความสุขมากที่ได้เจอ
และได้คุยกับเขา
เวลาผ่านไป 4เดือนถึงดวลาที่เขาต้องเปลี่ยนเรือแล้วเขามีวันหยุดคือหลังจากเสร็จงาน
จนถึงบริษัทเรียกตัวไปทำงาน ซึ่งนั่นก็คือมันไม่แน่นอน
เขากลับไต้หวันไปเราไม่ได้เจอกัน 1เดือนเราคิดถึงเขามาก
จากปกตินับวันนับคืนรอ 2อาทิย์เจอกันเราว่านานละนี่เกือนกว่าไม่ได้เจอ
ทรมานที่สุด แต่เขาก็คอยโทรหาเราตลอดไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
จนเขามีเวลาว่างเขาจองตั๋วเครื่องบินมาหาเราที่ไทย
กะอยู่เดือนกว่าหรือจนบริษัทเรียกตัวไปทำงาน
แต่แม่ของเขาไม่พอใจและเขาทะเลาะกับแม่หนักมาก
นี่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาคู่เรา!!!!!!?????
เขาขอโทษเราที่ผิดสัญญาและมาอยู่กับเราที่ไทยแค่3อาทิตย์
เราแอบไปทำนมมาไม่บอกเขา เขามาถึงไทยเราถึงบอกเขา
แฟนเราเป็นคนแอนตี้ศัลยกรรมมากนี่คือเหตุผลทำไมแอบทำ
แต่นั้นก็เหอะผู้หญิงทุกคนอยากสวย.. เขาโกรธเรามาก
แต่ในความโกรธนี้คือความห่วงใยมากกว่า
กลัวว่าทำมาแล้วจะมีปัญหาเหมือนที่เป็นข่าว ต่างๆนาๆ
แต่เขาก็ดูแลเราดีมาก ทำกับข้าวให้กิน ซักผ้า ทำความสะอาดห้อง
ทำทุกอย่างให้เราเพราะเราทำอะไรไม่ได้เลย
เรายิ่งรักเขามากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกๆวันที่อยู่กับเขาเรามีความสุขมากถึงแม้บางเวลาทะเลาะกัน
แต่เขาก็ยังนอนกอดเราดูแลเราดีเหมือนเดิม
จนเราอยากให้เขาอยู่กับเราตลอดไป ไม่อยากให้เขากลับเลย
แต่แล้วเขาก็ต้องกลับเพราะไม่อยากทะเลาะกับแม่
เราก็เข้าใจแฟนนะนั่นคือแม่เขาถึงแม้จะรักเรามากแค่ไหน
แม่ก็ต้องมากก่อนเสมอ,,,,,
แม่เขาไม่เคยพูดว่าไม่ชอบเราหรือไม่อยากให้คบกับเรา
เราก็ได้แต่คิดว่าเขาคงไม่อยากให้ลูกเขาใช้เงินเยอะ
คิดในแง่ดีมาตลอด แต่แล้วเราตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินไปหาเขาที่ไต้หวัน
1 อาทิตย์ เขาอยากให้เราไปเที่ยว ไปดูประเทศเขา
แต่แล้วใกล้ถึงวันที่เราจะไปประมาณ10กว่าวัน
แฟนเราถามว่าเลื่อนตัวเครื่องบินได้มั้ย
มาแค่4วันได้มั้ย เราก็บอกไปว่าตั๋วเราเลื่อนไม่ได้และคืนเงินไม่ได้ด้วย
เราก็ถามเขาว่าทำไมหรอ มีอะไรรึป้าว
เขาก็ไม่ค่อยกล้าพูดเราก็บอกว่าบอกมาเหอะมีปัญหาอะไร
เขาบอกว่าแม่เขาบ่นว่าทำไมเราต้องมาหาเขา
ทำไมต้องหาเรื่องเสียตังค์ทำไมไม่เก็บตังค์ไว้เผื่อฉุกเฉิน
เราแปลกใจมากทำไมเขาต้องคอยกีดกันไม่ให้เราอยู่ด้วยกัน
ทั้งๆที่เราซื้อตั๋วเองเราไม่ได้ใช้เงินลูกเขาเลย
เรารู้สึกโกรธมากว่าทำไมต้องขัดขวางเรา
เพราะอะไรเราทำอะไรผิด ไม่ชอบเราหรือไม่อยากให้คบ
ทำไมไม่บอกเราตรงๆ เราจะได้ตัดใจไม่ใช่คอยกรดกันแบบนี้
เราบอกแฟนไปว่างั้นไม่เป็นไรไม่ต้องเลื่อนหรอก
เราไม่ไปแล้วล่ะ เราไม่อยากให้คุณทะเลาะกับแม่
เขาก็ไม่ยอม เขาอยากเจอเราแม้4วันก็อยากเจอ
เราบอกว่าเสียดายตังค์ตั๋วมันคืนไม่ได้ต้องซื้อใหม่อย่างเดียว
เราไม่อยากให้เสียตังค์ไปมากกว่านี้
เราเลยคิดว่าไม่ไปดีกว่า เราสงสารแฟนมาก
รู้สึกว่าเขาไม่มีความสุข ใจนึงเขากลัวว่าเราจะโกรธ
อีกใจนึงเราก็ต้องฟังแม่เขา อันนี้มันแน่นอนอยู่ละ
เราบอกเขาว่าถ้าแม่คุณไม่อยากให้คบกันบอกฉันตรงๆได้นะ
ฉันไม่โกรธหรอก แต่ไม่อยากเห็นคุณทะเลาะกับแม่บ่อยๆ
เขาบอกว่าถึงแม้แม่จะจะเอ่ยปากมาว่าไม่ให้คบ
เขาก็จะคบเขาไม่มีวันทิ้งเราแน่นอน
เขามีงานทำ เขาหาเงินเอง ทำไมต้องมาบงการชีวิตเขา
เราสับสนมาก อึดอัดที่เป็นแบบนี้ กลัวว่าวันนึงเขาจะถูกบังคับให้เลิกกับเรา
เราควรจะเลิกกับเขาตั้งแต่ตอนนี้หรือสู้ต่อไปดีคะ???
ถ้าเลิกกับเขาทั้งๆที่เขาไม่ได้ผิดอะไรเราจะดูแย่มากมั้ย?
แล้วถ้าเราเดินหน้าต่อไปแม่เขาจะยังเป็นแบบนี้อยู่หรือป่าว?
เราท้อจัง.... ใครมีประสบการณ์แบบนี้แนะนำหน่อยว่าเราควรทำยังไง