ตอนแรก...นั่งรถออกจากหมอชิต
https://m.pantip.com/topic/38152570?
วีซ่าคีร์กิซสถานที่ไปขอที่ปักกิ่ง หลังจากแสตมป์ออกจากรั้วจีน เราต้องเดินเข้าไปเขตประเทศคีร์กิซเอง ตรงนั้นไม่มีรถไม่มีใครทั้งสิ้นน่าจะเป็นช่วงที่เรียกว่า no man's land คือดินแดนที่ไม่มีประเทศไหนเป็นเจ้าของ เดินมาได้แป๊บ เจ้าหน้าที่จีนขับรถอาสาพาไปส่งให้ใกล้ที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แล้วเราก็เดินต่อไปกับเพื่อนร่วมแชร์แท็กซี่เข้าประเทศคีร์กิซสถานแสตมป์เข้าที่ด่านIrkestam
ที่ตรงนั่นเป็นขอบรั้วชายแดนอย่างแท้จริง มีหมู่บ้าน ทหารยามถือปืนคอยรักษาการณ์ โบสถ์ เราแอบถ่ายรูป แต่เจ้าหน้าที่ดันขอตรวจ เลยโดนลบหมดแม้แต่ภาพถ่ายกระเป๋าตัวเองบนพื้นถนน (แต่ที่จีนตรวจหนักกว่า เอามือถือเข้าห้องไปตรวจเป็น10นาที) ทหารถามว่าจะไปต่อยังไง ต้องการแท็กซี่ไหม แล้วเขาก็วอเรียกแท็กซี่ที่คงต้องโดนตรวจอย่างเข้มงวดก่อนขึ้นมารับเพราะรอเป็นนานสองนาน เรานั่งแท็กซี่คันนี้กันออกมานึกว่าจะพาไปถึงอีกหมู่บ้านอีกแห่งที่อยู่ใกล้ชายแดน แต่เปล่า เขามาส่งให้ขึ้นแท็กซี่อีกต่อ ตรงนั้นแท็กซี่สามสี่คนมารุมเราให้ไปกับเขา แต่ต่อราคายังไงเขาก็ไม่ยอมลดให้ เราเลยต้องไปทั้งๆที่มันแพง ในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านเล็กๆที่มีประชากรพันกว่าคน มีโฮสเทลสำหรับนักเดินทาง แต่เราไม่ได้จองมาก่อน และไม่มีแผนที่จะพักที่นี่เลยเพราะอยากไปให้ถึงเมืองใหญ่ แต่ด้วยความจำเป็นเพราะตอนนั้นเกือบสองทุ่มแล้ว เราไปเคาะประตูบ้านเผื่อจะยังมีที่นอนเหลือ แล้วโชคก็เข้าข้างอยู่เสมอ ในที่สุดก็ได้นอนพักที่นี่ เป็นการเดินทางที่เหนื่อยเลยสำหรับวันนี้ ระยะทางแค่ไม่ถึง300กม. ใช้เวลาเกือบ12ชม.
คนเดียว...นั่งรถเที่ยวค่อนโลก 2( คีร์กิซสถาน-อุซเบกิสถาน)
https://m.pantip.com/topic/38152570?
วีซ่าคีร์กิซสถานที่ไปขอที่ปักกิ่ง หลังจากแสตมป์ออกจากรั้วจีน เราต้องเดินเข้าไปเขตประเทศคีร์กิซเอง ตรงนั้นไม่มีรถไม่มีใครทั้งสิ้นน่าจะเป็นช่วงที่เรียกว่า no man's land คือดินแดนที่ไม่มีประเทศไหนเป็นเจ้าของ เดินมาได้แป๊บ เจ้าหน้าที่จีนขับรถอาสาพาไปส่งให้ใกล้ที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แล้วเราก็เดินต่อไปกับเพื่อนร่วมแชร์แท็กซี่เข้าประเทศคีร์กิซสถานแสตมป์เข้าที่ด่านIrkestam
ที่ตรงนั่นเป็นขอบรั้วชายแดนอย่างแท้จริง มีหมู่บ้าน ทหารยามถือปืนคอยรักษาการณ์ โบสถ์ เราแอบถ่ายรูป แต่เจ้าหน้าที่ดันขอตรวจ เลยโดนลบหมดแม้แต่ภาพถ่ายกระเป๋าตัวเองบนพื้นถนน (แต่ที่จีนตรวจหนักกว่า เอามือถือเข้าห้องไปตรวจเป็น10นาที) ทหารถามว่าจะไปต่อยังไง ต้องการแท็กซี่ไหม แล้วเขาก็วอเรียกแท็กซี่ที่คงต้องโดนตรวจอย่างเข้มงวดก่อนขึ้นมารับเพราะรอเป็นนานสองนาน เรานั่งแท็กซี่คันนี้กันออกมานึกว่าจะพาไปถึงอีกหมู่บ้านอีกแห่งที่อยู่ใกล้ชายแดน แต่เปล่า เขามาส่งให้ขึ้นแท็กซี่อีกต่อ ตรงนั้นแท็กซี่สามสี่คนมารุมเราให้ไปกับเขา แต่ต่อราคายังไงเขาก็ไม่ยอมลดให้ เราเลยต้องไปทั้งๆที่มันแพง ในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านเล็กๆที่มีประชากรพันกว่าคน มีโฮสเทลสำหรับนักเดินทาง แต่เราไม่ได้จองมาก่อน และไม่มีแผนที่จะพักที่นี่เลยเพราะอยากไปให้ถึงเมืองใหญ่ แต่ด้วยความจำเป็นเพราะตอนนั้นเกือบสองทุ่มแล้ว เราไปเคาะประตูบ้านเผื่อจะยังมีที่นอนเหลือ แล้วโชคก็เข้าข้างอยู่เสมอ ในที่สุดก็ได้นอนพักที่นี่ เป็นการเดินทางที่เหนื่อยเลยสำหรับวันนี้ ระยะทางแค่ไม่ถึง300กม. ใช้เวลาเกือบ12ชม.