ปิดฉากงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ บนกันใหม่ต้นปีหน้าที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


ปิดฉากลงไปแล้วสำหรับงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ  ครั้งที่ 23 และเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน  ครั้งที่ 12  ที่จัดผ่านมาเมื่อวันที่ 17-28 ตุลาคม  2561  พบกันใหม่อีกครั้งในต้นปีหน้า (ช่วงต้นเดือนเมษายน 2562)  ยังจัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนปิดซ่อมศูนย์การประชุมฯ เป็นเวลานานถึง 3 ปี



งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23 ปิดฉาก เผยตัวเลขนักอ่านวัยรุ่นเพิ่มมากขึ้น
สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ส่งสัญญาณแรงรัฐบาลต้องมีนโยบายพัฒนาธุรกิจหนังสือ
พบกันใหม่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 17 ศูนย์ฯสิริกิติ์



งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23ปิดฉากเรียบร้อยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มียอดนักอ่านเข้าร่วมงานกว่า 1.5ล้านคน โดยเป็นกลุ่มวัยรุ่นมากที่สุด ขณะที่แนวหนังสือมาแรงยังคงเป็นนวนิยายวัยรุ่น และยังเป็นงานที่ได้รับความสนใจจากคนดังมาเปิดตัวหนังสือใหม่อีกด้วย
    
นางสุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ให้สัมภาษณ์ภาพรวมของงานในครั้งนี้ว่า “การจัดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติในครั้งนี้มีผู้เข้าชมงานประมาณ 1,500,000 คน มีสำนักพิมพ์เข้าร่วมงานทั้งหมด 376 รายสำหรับหมวดหนังสือที่ได้รับความนิยมได้แก่ นวนิยายวัยรุ่น ไลต์โนเวลหนังสือ How to ประเภทต่าง ๆ หนังสือเกี่ยวกับการออกกำลังและการดูแลสุขภาพ ที่น่าสนใจคือ กลุ่มวัยรุ่นให้ความสนใจหนังสือเกี่ยวกับการเมืองมากขึ้น จากการสำรวจของสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ พบว่ากลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 15-20 ปี เข้าชมงานครั้งนี้เป็นครั้งแรก มีจำนวนมากขึ้น รองลงมาคือวัยทำงานอายุระหว่าง 21-29 ปี ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีว่าจำนวนนักอ่านจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตนั่นเอง”









ในงานครั้งนี้ได้มีการจัดเสวนา “เสียงที่ไม่(เคย)ได้ยิน” โดยเชิญทั้งนักอ่านที่เป็นประชาชนทั่วไป และผู้แทนจากภาคการเมืองมาพูดคุยบนเวทีเอเทรียม ในประเด็นเกี่ยวกับหนังสือและการอ่านที่ไม่เคยมีนโยบายที่ชัดเจนจากภาครัฐ พร้อมกันนี้ยังได้ส่งจดหมายเปิดผนึกในนามของสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ผ่านไปยังหัวหน้าพรรคการเมืองที่มาร่วมในงาน นำเสนอปัญหาและข้อเสนอแนะต่อพรรคการเมืองต่าง ๆ ให้เห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพทุนมนุษย์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจหนังสือ ซึ่งเป็นธุรกิจทางปัญญา โดยใจความสำคัญคือ วิกฤติหนังสือ คือวิกฤติการอ่าน เราจะสร้างคุณภาพคนได้อย่างไรในภาวะของธุรกิจหนังสือถดถอย และหลังจากนี้ ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จะดำเนินการส่งหนังสือไปยังหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคที่ไม่ได้มาร่วมเสวนาอีกด้วย
    
“การพัฒนาคุณภาพประชาชน รัฐบาลต้องกำหนดเป็นนโยบาย มีรูปธรรมการทำงานที่ชัดเจน ต้องขับเคลื่อนทั้งระบบ จึงจะประสบความสำเร็จ ดังนั้นพรรคการเมืองจะต้องตระหนักถึงความสำคัญในประเด็นนี้และมีนโยบายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการสนับสนุนธุรกิจหนังสือ ธุรกิจทางปัญญาเพื่อสร้างคนไทยคุณภาพ” นางสุชาดากล่าวทิ้งท้ายไว้








พาพันชอบ พบกันใหม่ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 47 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 17
ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม –7 เมษายน พ.ศ. 2562 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เช่นเดิม
พาพันขอบคุณ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่