[CR] บันทึก(ภาพ)การเดินทาง [Road Trip] Kashmir - Leh - Taj Mahal เปิดโลกอินเดีย สู่อ้อมกอดหิมาลัย ตอนที่ 1


           กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เขียนขึ้นมา ผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัยด้วยครับ เมื่อต้นเดือน ต.ค. 2018 ได้ไปเที่ยวอินเดียแบบ Road Trip Kashmir - Leh - Taj Mahal ได้ใช้เวลาอยู่ที่อินเดียเกือบ 2 สัปดาห์ ประเทศที่หลายๆคนกังวลเรื่องความสะอาด อาหาร ห้องน้ำ
(ซึ่งก็จริง -*-) แต่ประเทศนี้กลับมีธรรมชาติที่สวยงามมากๆ ใช้เวลาอยู่ในรถ 5-6 ชั่วโมงต่อวัน กว่า 400 กิโลเมตร จาก Srinagar ถึง Leh ได้เห็นและสัมผัสวิวทิวทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ และงดงาม
-------------------------------------------------------
FB: https://www.facebook.com/pakpoom.hataisilawat
IG: https://www.instagram.com/champ2526
-------------------------------------------------------
Gear
Sony A6300
Zeiss 16-70 F4
Samyang 12 F2.0
-------------------------------------------------------
VISA
ผมได้เลือกทำ E-VISA ใช้วลาประมาณ 1-3 วันทำการก็อนุมัติแล้ว ค่าใช้จ่ายประมาณ 85 Dollars (27xx Baht)
https://goanywhere.co/2017/11/22/indiaevisa2017/
-------------------------------------------------------
Itinerary
DAY1 (Oct4): Fly From BKK to DEL to SXL(Srinagar)
DAY2 (Oct5): Srinagar to Pahalgam (102 kms)
DAY3 (Oct6): Pahalgam to Gulmarg (152 kms)
DAY4 (Oct7): Back to Srinagar (City Tour)
DAY5 (Oct8): Srinagar to Sonamarg to Kargil
DAY6 (Oct9): Kargil to Leh
DAY7 (Oct10): Leh to Nubra Valley (150 kms / 4 hrs)
DAY8 (Oct11): Nubra to Turtuk (The Last Settlement of India)
DAY9 (Oct12): Nubra to Leh
DAY10 (Oct13): Leh to Pangong via Changla Pass 5320 metres (154 kms / 5-6 hrs)
DAY11 (Oct14): Pangong Explore and Drive back to Leh
DAY12 (Oct15): Fly to Delhi and Drive to Agra (233 kms)    
DAY13 (Oct16): Taj Mahal and Agra City Tour
-------------------------------------------------------
Kashmir Wiki
    แคชเมียร์ “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย” แม้ในอดีตจะมีการรบราเพื่อแย่งชิงดินแดนระหว่างอินเดียและปากีสถาน ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์การครอบครองเหนือดินแดนหลังอังกฤษคืนเอกราชให้เมื่อปี ค.ศ.1947 แคชเมียร์นั้นเป็นดินแดนแห่งการผสมผสานระหว่างศิลปวัฒนธรรมและชนชาติกับทัศนียภาพที่งดงาม ทำให้ติดอันดับ 1 ใน 50 สถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนปรารถนอยากไปเยือนมากที่สุด
แคว้นจัมมู-แคชเมียร์ แบ่งออกเป็น 3 เขตหลัก
     1. หุบเขาแคชเมียร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองศรีนาคาร์
     2. จัมมู เขตเมืองหลวงประจำฤดูหนาวและชุมชนชาวฮินดู
     3. ลาดัคห์ เขตแดนที่สูงสุด เป็นที่กั้นพรมแดนระหว่างแคชเมียร์กับทิเบต โดยตอนกลางมีแนวเทือกเขาหิมาลัยพาดผ่าน
           ปัจจุบันแคชเมียร์เป็นเมืองหนึ่งของอินเดีย มีอาณาเขตติดต่อกับอัฟกานิสสถาน ปากีสถานและที่ราบสูงทิเบต ในอดีตแคชเมียร์เป็นเมืองที่มีความรุ่งเรืองทั้งสถาบันกษัตริย์ การทหาร การค้า ประเพณีวัฒนธรรมและศาสนา มีอาณาเขตกว้างขวาง ประชาการมากมาย แต่เมื่อถึงยุคล่าอาณานิคมอินเดียก็ตกเป็นประเทศอาณานิคมของอังกฤษเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆในเอเชีย
CC: http://www.tripdeedee.com/traveldata/kashmir/kashmir01.php
-------------------------------------------------------
DAY1 (Oct4): Fly From BKK to DEL to SXL(Srinagar)
     ผมได้บินกับ SpiceJet เที่ยวบิน SG88 ( 3.50 น.BKK - 6.25 น. DEL)เที่ยวบินดีเลย์ เป็น 5.00น. ทำให้ไปถึง Delhi เวลา 7.25น. ตรงนี้ต้องเผื่อเวลาดีๆนะครับ เพราะเวลาไปต่อเครื่องที่ Delhi เพื่อจะไป Srinagar ต้องเปลี่ยน Terminal 3 ไป Terminal 1 ซึ่งจะมี Shuttle Bus คอยให้บริการอยู่ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เพื่อไปต่อ SG104 (10.25น.DEL - 11.40น. SXR)
     **ใครที่จะบินกับ SpiceJet เตรียมแสดง Credit Card หรือรูปหน้าบัตร ที่ใช้ชำระด้วยนะครับ เพราะทางสายการบินไม่ยอมให้โดยสาร ต้องทำการซื้อตั่วใหม่ จากนั้นทางสายการบินจะทำการ Refund ให้ทีหลัง**

Srinagar Airport

มื้อเที่ยงเราแวะทานที่  Stream Restaurant, Srinagar

จากนั้นเข้าที่พัก ซึ่งวันนี้เราพักกันที่ Jacqline Herritage Nigeen Lake (House Boat) รถได้มาส่งที่ ท่าเรือ เพื่อต่อเรือเข้าที่พัก

ตอนเย็นมีบริการล่องเรือ ชม Nigeen Lake จังหวะนี้จะมีพ่อค้าพายเรือมาชายของ มีทั้งของที่ระลึกเล็กๆ ไปจนถึงผ้า Pashmina

      *** Pashmina เป็นผ้าที่ทำจากขนแพะซึ่งมีชื่อว่า "พัชม์" (Pashm) ของแท้ ทำจากขนคาง และแผงที่อกของแพะภูเขา (เนื่องจากไม่ถูกแสงแดดมากนัก) สามารถลอดแหวนวงเล็กๆได้สบาย และส่วนหลัง จะมีราคาย่อมลงมาครับ มีคุณสมบัติพิเศษที่ให้ความอบอุ่น นุ่มสบาย มีความยืดหยุ่นสูง ทั้งยังมีน้ำหนักเบากว่าเส้นใยธรรมชาติอื่นๆ แพะชนิดนี้อาศัยอยู่ในที่สูง เช่น เทือกเขาหิมาลัย
บรรยากาศยามเช้า อากาศสดชื่นดีมาก

-------------------------------------------------------
DAY2 (Oct5): Srinagar to Pahalgam (102 kms)
       หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จก็ได้ออกเดินทาง ระหว่างทางได้จอดแวะที่สวนแอปเปิ้ล มีน้ำแอปเปิ้ลคั้นสดๆด้วยครับ เด็ดมาก!

       ที่ Pahalgam มีกิจกรรมให้เลือกเยอะมาก เราได้เลือกเป็น Horse Riding ขี่ม้าขึ้นเขาเพื่อไปชม Kashmir Valley , Baisarn Valley (mini Switzerland) เส้นทางสวย มีแอบเสียวนิดๆ เพราะไม่เคยชี่ม้าขึ้นเขามาก่อน เคยขี่แต่ตามชายหาดชิวๆ และม้าต้องแบกน้ำหนักตัวเราขึ้นเขาอีก *-* แต่ขอบอกว่าสนุกมาก ห้ามพลาด
โฉมหน้าผู้ดูแลตลอดการขี่ม้านี้

คืนนี้พักกันที่ Kohlahio Green Pahalgam โรงแรมดี สะอาด แค่วิว ก็คุ้มแล้วครับ
Mutton อร่อยมาก มานี่ต้องโดน

-------------------------------------------------------
DAY3 (Oct6): Pahalgam to Gulmarg (152 kms)

แวะกินข้าวโพดย่างระหว่างทาง แข็งๆอร่อยดีครับ

       จุดหมายของเราในวันนี้คือ Gulmarg ที่นี่ชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยวกันในช่วงหน้าหนาว (พ.ย.-มี.ค.) เพื่อที่จะมาเล่นสกี จุดสูงสุดมีชื่อว่า Apharwat Peak (14,400 ft) หิมะจะปกคลุมทั่วทั้งเมืองและมีลานสกีเล็กอยู่ที่เมืองด้วยครับ เมื่อมาถึงก็จัดการ Check in เข้าที่พัก วันนี้พักกันที่ Kohlahio Green Gulmarg อากาศที่นี่จะหนาวกว่า Pahalgam หลังจากนั้นก็ไปเช่า Boots เพราะมีหิมะตกด้านบน รองเท้าผ้าใบธรรมดา เปียกแน่ๆ จากนั้นไกด์ก็พาขึ้น Gondola หนึ่งในเคเบิ้ลคาร์ที่สูงที่สุดในโลก (ชั้นแรก Kungdoor ตรงนี้จะเป็นทุ่งกว้างๆครับ สามารถขี้ม้าชมวิวทิวทัศน์ได้ และชั้นที่สองจะเป็น Apharwat Peak) เพื่อไปชมยอดเขา  โชคดีมาก ที่วันก่อนฝนตก วันนี้ด้านบนจึงมีหิมะตก อากาศเย็น และสวยมาก
ชื่อสินค้า:   Kashmir - Leh Ladakh
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่