http://www.share2trade.com/index.php?route=content/content&path=9&content_id=3812
ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่ลุกลามขยายวงกว้าง ปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลาง กระแสฟันด์โฟลว์ไหลออก โยกไปลงทุนพันธบัตรสหรัฐ หลังบอนด์ยิลด์ปรับตัวสูงขึ้น จากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ส่งผลกระทบตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลกมีความผันผวน
เห็นได้จากการดำดิ่งของดัชนีดาวโจนส์...กดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงตาม
เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงไม่แพ้กัน
ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (1 มกราคม- 26 ตุลาคม 2561) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวลดลงกว่า 7.11% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2560
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 16.57 ล้านบาท P/E อยู่ที่ 16.10 เท่า
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 270,022 ล้านบาท
โดยเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯปิดที่ 1,628.96 จุด ลดลง 15.37 จุด หรือ 0.93%
เทียบกับสิ้นปี 2560 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดที่ 1,753.71 จุด
...
ถือได้ว่าเป็นโอกาส “ทอง” เลยทีเดียวสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาลู่ทางการลงทุนผ่านกองทุนหุ้นหุ้นระยะยาว (LTF) ที่มีแต้มต่อในเรื่องของสิทธิพิเศษด้านภาษี
แม้ความชัดเจนในเรื่องของการยกเว้นสิทธิพิเศษภาษีจะสิ้นสุดลงในสิ้นปี 2562
แต่อย่างน้อย ลงทุนในตอนนี้ก็ยังได้รับสิทธิพิเศษในการลดหย่อนภาษี...แม้เริ่มนับถอยหลังใกล้ปีสุดท้าย
แถมตลาดหุ้นไทย...ยังมีส่วนลดให้อีก 7% ถ้าเทียบกับต้นปี
...
สัปดาห์นี้ Smart Invest ชวนมาเช็คสุขภาพกองทุน LTF 10 อันดับแรกที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในปี 2561 เฉือน “ชนะ”ผลตอบแทนตลาด
จากข้อมูลของ มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ซ (ประเทศไทย) พบว่า 10 กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก ถือว่า ทำผลตอบแทนได้ค่อนข้างดี
ผลตอบแทนการลงทุนตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2561 เฉลี่ยติดลบตั้งแต่ 1.75-6.35%
แต่ก็ยัง "ชนะ" ตลาด
...
มองยาวออกไป 1 ปี ผลตอบแทนต่ำสุดอยู่ที่ -2.67% แต่บางกองให้ผลตอบแทนสูงถึง 3.34%
ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 4.13-9.67%
และย้อนหลัง 10 ผลตอบแทนอยู่ที่ 12.21-17.51%
เห็นได้อย่างชัดเจนว่า...การลงในตลาดหุ้น ผลตอบแทนระยะยาวถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น แต่ผลตอบแทนที่สูงก็มาพร้อมกับความ “เสี่ยง” และความผันผวนเช่นกัน
คำตอบ...อยู่ที่นักลงทุนแล้วละว่า สามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน และสามารถออมในระยะเวลายาวนานแค่ไหน
เพราะโจทย์การลงทุนของแต่ละคนมีความต่างกัน
//////////////////
ขอบคุณบทความจาก
www.facebook.com/Share2Trade/
www.share2trade.com
TOP10 กองทุน LTF ผลตอบแทนชนะตลาด (โดย Smart Invest เว็บ Share2Trade)
ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่ลุกลามขยายวงกว้าง ปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลาง กระแสฟันด์โฟลว์ไหลออก โยกไปลงทุนพันธบัตรสหรัฐ หลังบอนด์ยิลด์ปรับตัวสูงขึ้น จากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ส่งผลกระทบตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลกมีความผันผวน
เห็นได้จากการดำดิ่งของดัชนีดาวโจนส์...กดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงตาม
เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงไม่แพ้กัน
ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (1 มกราคม- 26 ตุลาคม 2561) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวลดลงกว่า 7.11% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2560
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 16.57 ล้านบาท P/E อยู่ที่ 16.10 เท่า
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 270,022 ล้านบาท
โดยเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯปิดที่ 1,628.96 จุด ลดลง 15.37 จุด หรือ 0.93%
เทียบกับสิ้นปี 2560 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดที่ 1,753.71 จุด
...
ถือได้ว่าเป็นโอกาส “ทอง” เลยทีเดียวสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาลู่ทางการลงทุนผ่านกองทุนหุ้นหุ้นระยะยาว (LTF) ที่มีแต้มต่อในเรื่องของสิทธิพิเศษด้านภาษี
แม้ความชัดเจนในเรื่องของการยกเว้นสิทธิพิเศษภาษีจะสิ้นสุดลงในสิ้นปี 2562
แต่อย่างน้อย ลงทุนในตอนนี้ก็ยังได้รับสิทธิพิเศษในการลดหย่อนภาษี...แม้เริ่มนับถอยหลังใกล้ปีสุดท้าย
แถมตลาดหุ้นไทย...ยังมีส่วนลดให้อีก 7% ถ้าเทียบกับต้นปี
...
สัปดาห์นี้ Smart Invest ชวนมาเช็คสุขภาพกองทุน LTF 10 อันดับแรกที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในปี 2561 เฉือน “ชนะ”ผลตอบแทนตลาด
จากข้อมูลของ มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ซ (ประเทศไทย) พบว่า 10 กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก ถือว่า ทำผลตอบแทนได้ค่อนข้างดี
ผลตอบแทนการลงทุนตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2561 เฉลี่ยติดลบตั้งแต่ 1.75-6.35%
แต่ก็ยัง "ชนะ" ตลาด
...
มองยาวออกไป 1 ปี ผลตอบแทนต่ำสุดอยู่ที่ -2.67% แต่บางกองให้ผลตอบแทนสูงถึง 3.34%
ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 4.13-9.67%
และย้อนหลัง 10 ผลตอบแทนอยู่ที่ 12.21-17.51%
เห็นได้อย่างชัดเจนว่า...การลงในตลาดหุ้น ผลตอบแทนระยะยาวถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น แต่ผลตอบแทนที่สูงก็มาพร้อมกับความ “เสี่ยง” และความผันผวนเช่นกัน
คำตอบ...อยู่ที่นักลงทุนแล้วละว่า สามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน และสามารถออมในระยะเวลายาวนานแค่ไหน
เพราะโจทย์การลงทุนของแต่ละคนมีความต่างกัน
//////////////////
ขอบคุณบทความจาก
www.facebook.com/Share2Trade/
www.share2trade.com