บทนำ
https://pantip.com/topic/38199322
ตอนที่ 1
https://pantip.com/topic/38201750
ตอนที่ 2
https://pantip.com/topic/38205156
ตอนที่ 3
https://pantip.com/topic/38209056


กลับมาอีกแล้วค่าา วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วนะคะ ที่เราจะเที่ยวที่แอฟริกาใต้
ซึ่งวันนี้เป็น Free Day จริงๆมีโปรแกรมเสริมให้เลือกสามอย่าง คือไปดำน้ำดูฉลาม ,ไปชิมไวน์ที่ Stellenbosch
และก็เดินเล่นในเมือง ตอนแรกจขกท.เลือกจะไปชิมไวน์ค่ะ แต่ตอนหลังไกด์ไทยเราบอกว่า ถ้าไปเดินเล่นในเมือง
จะมีพาไปที่ Camps Bay เราก็เลยเปลี่ยนใจเลือกไปเดินเล่นแทนค่ะ เพราะอยากไปเห็นวิวชายหาดสวยๆแล้วมีฉากหลัง
เป็น Twelve Apostles ทอดยาวออกไป (บอกแล้วว่าจขกท.ชอบภูเขา555)
วันนี้นะคะเราจะเที่ยวกันโดยมี่ไกด์ไทยไปด้วย เหมารถตู้ไปค่ะ คนละประมาณ 230 rand แต่มันก็มีเรื่องอยู่นิดนึงค่ะ
คือ รถตู้ที่มารับนั้นดันไม่มีแอร์ ไอ้ตอนเช้าอากาศยังสบายๆก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่พอบ่ายนี่ร้อนอู้กันเลยทีเดียว คือที่นี่แดดแรงทั้งวันอยู่แล้ว
แล้ววันนั้นก็เป็นวันที่อากาศดันอุ่นขึ้น+วันนั้นลมไม่ค่อยแรงด้วย ฟีลก็เกือบจะกรุงเทพแล้ว555 แต่โชคดีที่เป็นวันเที่ยววันสุดท้าย
ถ้าเป็นวันแรกก็คงเซ็งอ่ะ อุตส่าหนีร้อนมาพึ่งเย็น แต่ดันไม่มีให้พึ่ง
โปรแกรมวันนี้จะเป็นแบบนี้นะคะ
ไป Camps Bay ถ่ายรูปกับ Twelve Apostles จากนั้นลงไปถ่ายรูปที่ชายหาด
ไปชม Table Mountain กันที่ Signal Hill
เดินเล่นถ่ายรูปที่ย่าน Bokaap
เดินซื้อของพื้นเมือง+ทานอาหารกลางวันที่ Green Market
ไปชายหาด Muizenburg ถ่ายรูปกับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าสีสันสดใส
กลับมาช็อปปิงที่ V&A Waterfront
นั่งTaxi กลับรร.
ปล. รถตู้ที่เหมาไปเค้าจะไปส่งถึงสี่โมงเย็นนะคะ ในกรณีนี้ ที่สุดท้ายที่มาคือ Waterfront ซึ่งกลุ่มเรามาที่นี่
กันตอนบ่ายสอง ไกด์ก็บอกเราว่าถ้าใครจะกลับรร.กับรถตู้ก็ให้มาขึ้นรถตอน 4 โมงเย็น หลังจากนั้นขึ้นtaxi กลับเองค่ะ
ซึ่งจขกท.ก็นั่ง taxi เอา
เริ่มกันที่ Camps Bay ค่ะ
จุดถ่ายรูปยอกฮิตที่นี่

ได้เห็น Twelve Apostles แล้วว

ลงไปที่ชายหาดกันต่อค่ะ

น้ำเย็นเจ็ยบเลยย

ไปกันต่อที่ Signal Hill
ที่นี่อากาศดีกว่าด้านล่างนะคะ ลมพัดแรงตลอดเลยย

ไปต่อที่ย่าน BoKaap
บ้านแต่ละหลังสีสวยสดเว่อ

ต่อไปก็ไปที่Green Market ค่ะ เราทานอาหารกลางวันกันที่นี่ ที่ร้าน Burger King ค่ะ
แอร์เย็นสบายดี และมีห้องน้ำด้วย แล้วเราก็ปักหลักกันที่ร้านนี้จนถึงเวลากลับเลย อย่างที่บอก
อากาศวันนี้ร้อนกว่าวันอื่น + เวลาที่ไปถึงคือตอนเที่ยง หลังจากนั้นเราก็ออกมาเดินเล่นตรงที่ขายของนิดนึง
โดยแม่ขี้เกียจเดินเลยเฝ้ากระเป๋าอยู่ในร้านค่ะ ตอนเดินออกมาก็มีคนมาขายของ ตื๊อนู่นนี่ ให้ซื้อของบ้าง
ขอเชคแฮนด์บ้าง เราก็ยิ้มๆ แล้วเดินไปเลยค่ะ
แล้วก็มีอีกพวกหนึ่งมาขอเงิน ท่าทางก็เหมือนขอทานบ้านเรา แต่เค้าเดินขอไปทั่วเลยค่ะ
แต่เค้าก็ไม่ได้มีท่าทีคุกคามอะไร อาจเป็นเพราะตรงนี้มีคนอยู่เยอะ ทั้งพ่อค้าแม่ค้า ยามเฝ้าหน้าร้านขายของ
นักท่องเที่ยวทั้งชาวฝรั่งและเอเชีย แต่ถ้าเดินเข้าไปในซอยเปลี่ยวๆแล้วเจอพวกนี้
ก็ไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัยหรือเปล่านะคะ ทางที่ดีเดินอยู่แค่ตรงลานใหญ่ๆดีกว่า
ปล.ที่นี่ไม่กล้าถ่ายรูปค่ะ เหตุผลก็ตามที่กล่าวมาเลย

อ้างอิง
https://en.wikipedia.org/wiki/Greenmarket_Square

อ้างอิง
https://www.agefotostock.com
ลานด้านหน้าก็จะขายของประมาณนี้ค่ะ
หลังจากนั้นไกด์ก็ให้ขับรถไปที่รร.ก่อน ใครที่จะพักก็ได้ หรือใครจะไปWaterfront ต่อก็ให้มาขึ้นรถหลังจากขึ้นไปเก็บของบนห้องแล้ว
พอมากันครบรถก็ไปส่งที่ Waterfront แล้วจะรับกลับ 4 โมงเย็น
พอมาถึง Waterfront แล้ว ไกด์ก็ไปถามราคารถว่าไป Muizenburg เท่าไหร่(ที่นี่ไม่ได้อยู่ในแพลนพาไปเที่ยว
แต่ไกด์บอกว่ายังไม่เคยทำทัวร์ไปที่นี่ ก็เลยจะลองไปสำรวจดู) คนขับบอกมา 20 ดอลล่าร์ หรือมาณ 300 rand
เราก็เห็นว่าWaterfront ยังร้อนอยู่ เดี๋ยวมาเดินเย็นๆก็ได้ ก็เลยไป Muizenburg ดีกว่า สรุปไปหาดนี้มีผู้ร่วมชะตากรรม 9 คน
จาก 22 คน รวมไกด์ก็เป็น 10 นั่งรถมาประมาณครึ่งชม.ก็มาถึงค่ะ
พอมาที่นี่ก็พบว่าอากาศดีกว่าโซน Waterfront เยอะเลย ลมแรงและรู้สึกว่าเย็น ทั้งๆที่แดดก็ไม่ต่างจากกรุงเทพเลย
คิดถูกมากมายที่มาที่นี่

หลังจากนั้นรถก็กลับมาที่ Waterfront ทันรับคนกลับรร.พอดี 4 โมง เป๊ะๆๆ เลยค่ะ
ส่วนจขกท. คุณแม่ และป้าที่รู้จักกันในทริป อีก 2 คนก็ไปเดินชอปปิ้งต่อ แล้วกลับ taxi ด้วยกันตอน 6 โมงเย็น
ค่าtaxi 80 rand 4 คน ก็คนละ 20
วันนี้ส่วนใหญ่จะเดินในห้างนะคะ เพราะตอนที่ไปแดดร้อนเลยไม่ได้มาถ่ายรูปด้านนอกเท่าไหร่ แต่ก็มีเดินไปอีกสองห้างด้านนอกอยู่ค่ะ
ที่ไปเดินมาก็มี 3 ห้างนะคะ คือ
1 Victoria Wharf
อันนี้เป็นห้างใหญ่สุดค่ะ ฟีลก็คล้ายๆ central บ้านเรา มีของBrand name ขายอยู่ทั่วๆไป มีร้านอาหาร ร้านกาแฟต่างๆ
แล้วก็ด้านล่างสุด มีsupermarket ค่ะ ตอนที่ไปนี่ คนเยอะมากกก คงเพราะเป็นวันอาทิตย์ด้วยแหละ แล้วเวลาต่อคิว
จะไม่เมือนบ้านเรานะ บ้านเราคือต่อที่เคาน์เตอร์ที่เราจะจ่ายได้เลย แต่ที่นู่นจะให้ต่อแบบตอนเชคอินสายการบิน
คือมีแถวยาวอันเดียว แล้วเคาน์เตอร์ไหนว่างก็เดินไปที่นั่น ส่วนจขกท.ซื้อของน้อยหน่อยก็ไปจ่ายช่องเล็กซึ่งจะรวดเร็วกว่า
ช่องปกติค่ะ
ที่นี่จขกท.ก็ซื้อขนมที่ supermarket แล้วก็ซื้อกางเกงยีนส์ H&M มาสองตัวค่ะ
ลงรูปอีกทีค่ะ

2 Alfred Mall
ก็ไม่เชิงเป็นห้าง แต่เป็นเหมือนร้านขายของ พวกเสื้อผ้าสไตล์พื้นเมือง เสื้อผ้าปกติก็มี แล้วก็ขายพวกรูปถ่าย โปสการ์ดไรงี้
นอาคารนี้เป็นที่ขายของครึ่งนึง อีกครึ่งเป็นโรงแรมด้วยนะคะ ที่นี่คนไม่เยอะค่ะ
3 Clock Tower
ก็เป็นร้านขายของในอาคาร ฟีลก็เหมือนห้าง แต่ไม่ใหญ่มาก และของน้อยค่ะ จขกท. ซื้อน้ำอัดลมรสลิ้นจี่มา 10 rand
ก็อร่อยใช้ได้ แล้วก็มีร้านหารใหญ่ๆอยู่ข้างๆห้างนี้ค่ะ เป็นตัวอาคารมีทั้งร้านอาหารด้านใน แล้วก็ร้านแบบopen ในอาคารนี้
มีพิพิธภัณฑ์ด้วยค่ะ แต่จขกท.ไม่ได้เข้าไป
ปล.ห้างนี้ต้องเดินข้ามสะพานที่เลื่อนได้มานะคะ(อยู่ในตอนที่ 2)

อาคารเตี้ยๆสีขาว เป็นร้านอาหารค่ะ

ที่ Waterfront มีบางรูปที่ดูมืดๆคือ ถ่ายไว้ในวันที่ 2 นะคะ วันสุดท้ายนี่แดดเปรี้ยง ออกมาถ่ายไม่ไหวค่ะ แต่เราเดินสำรวจในห้าง
อย่างจริงจังวันสุดท้ายก็เลยเอามาอธิบายวันนี้แทน
ปล.ในห้างไม่มีรูปนะคะ เพราะรีบซื้อของค่ะ ไม่งั้นจะกลับรร. เลท
หลังจากกลับมาที่รร.จขกท.ก็ตะคริวกินเพราะมัวแต่เดินที่ Waterfront นั่นแหละค่ะ แต่ก็ต้องทนเดินไปเดินมา เพราะต้องเก็บของแล้ว
คืนนั้นก็ปวดขายาวๆเลยค่ะ ดีนะที่ตื่นเช้ามาค่อยยังชั่ว ไม่งั้นคงต้องทรมานกันยาวๆ 9 ชม.30 กว่าจะมาถึงสิงคโปร์
อาหารเย็นวันนี้มีมาม่าแล้วก็ซื้อสลัดผักจากWaterfront มาทานค่ะ
พอวันรุ่งขึ้นจขกท.ก็ต้องออกจากรร.เพื่อไปสนามบิน ตอน 7.30 ใครจะทำ Tax refund ก็ได้นะคะ ราคาขั้นต่ำที่ทำได้
คือ 300 rand ค่ะ แล้วเค้าจะคืนเงินทางบัตรเครดิตเท่านั้น แต่จขกท.กับแม่ไม่มีบัตรค่ะเราเลยไม่ทำ ก็เข้าไปเชคอินก่อน
แล้วก็เดินดูของไปเรื่อยๆ ที่นี่ไม่มีตู้กดน้ำฟรีนะคะ แล้วก็ไม่มีที่ชาร์จโทรศัพท์ฟรีด้วย ร้านค้าก็มีพอประมาณ 7-8 ร้านค่ะ
จากนั้นเราก็บินกลับค่ะ ขากลับก็น่ากลัวหน่อยตอนที่เครื่องสั่น แต่จขกท.ก็นั่งฟังเพลงทำไม่รู้ร้อนรู้หนาวไป แบบว่าถ้าเครื่องจะตก
ชั้นก็ทำไรไม่ได้อยู่ดี ปล่อยไปดีกว่า
จากนั้นก็มาถึงสิงคโปร์ค่ะ นี่พึ่งมาสิงคโปร์ครั้งแรกเลยไม้ได้แลกดอลล่าร์สิงคโปร์มา เพราะคิดว่า Us ใช้ได้
จริงๆก็ใช้ได้ แต่เค้าจะทอนเป็นดอลล่าสิงคโปร์ให้ค่ะ หลังจากนั้นก็ไปนอนรอgate เปิด เพื่อกลับกทม.
ตอนนี้คือ อยากกลับบ้านละ ผิดกับตอนที่อยู่เคปทาวน์ลิบลับ ตอนนั้นคือ อยากอยู่ต่ออีกสักอาทิตย์นึง555
สุดท้ายนี้ ก็ขอขอบคุณผู้ที่อ่านกระทู้นี้ จะอ่านจบหรือไม่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เนื่องจากเป็นการเขียนรีวิวครั้วแรก
ทำให้มีหลายอย่างผิดพลาดไปบ้าง ผิดตรงไหนก็บอกได้นะคะ แล้วจะนำไปปรับปรุงแก้ไขในทริปหน้าค่ะ
สวัสดีค่าาาา
แอฟริกาใต้ ธรรมชาติสุดอลัง ไม่ไปไม่มีทางรู้ (ตอนที่ 4 กับวัน Free Day ชิลล์ๆใน Cape Town )
ตอนที่ 1 https://pantip.com/topic/38201750
ตอนที่ 2 https://pantip.com/topic/38205156
ตอนที่ 3 https://pantip.com/topic/38209056
ซึ่งวันนี้เป็น Free Day จริงๆมีโปรแกรมเสริมให้เลือกสามอย่าง คือไปดำน้ำดูฉลาม ,ไปชิมไวน์ที่ Stellenbosch
และก็เดินเล่นในเมือง ตอนแรกจขกท.เลือกจะไปชิมไวน์ค่ะ แต่ตอนหลังไกด์ไทยเราบอกว่า ถ้าไปเดินเล่นในเมือง
จะมีพาไปที่ Camps Bay เราก็เลยเปลี่ยนใจเลือกไปเดินเล่นแทนค่ะ เพราะอยากไปเห็นวิวชายหาดสวยๆแล้วมีฉากหลัง
เป็น Twelve Apostles ทอดยาวออกไป (บอกแล้วว่าจขกท.ชอบภูเขา555)
วันนี้นะคะเราจะเที่ยวกันโดยมี่ไกด์ไทยไปด้วย เหมารถตู้ไปค่ะ คนละประมาณ 230 rand แต่มันก็มีเรื่องอยู่นิดนึงค่ะ
คือ รถตู้ที่มารับนั้นดันไม่มีแอร์ ไอ้ตอนเช้าอากาศยังสบายๆก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่พอบ่ายนี่ร้อนอู้กันเลยทีเดียว คือที่นี่แดดแรงทั้งวันอยู่แล้ว
แล้ววันนั้นก็เป็นวันที่อากาศดันอุ่นขึ้น+วันนั้นลมไม่ค่อยแรงด้วย ฟีลก็เกือบจะกรุงเทพแล้ว555 แต่โชคดีที่เป็นวันเที่ยววันสุดท้าย
ถ้าเป็นวันแรกก็คงเซ็งอ่ะ อุตส่าหนีร้อนมาพึ่งเย็น แต่ดันไม่มีให้พึ่ง
โปรแกรมวันนี้จะเป็นแบบนี้นะคะ
ไป Camps Bay ถ่ายรูปกับ Twelve Apostles จากนั้นลงไปถ่ายรูปที่ชายหาด
ไปชม Table Mountain กันที่ Signal Hill
เดินเล่นถ่ายรูปที่ย่าน Bokaap
เดินซื้อของพื้นเมือง+ทานอาหารกลางวันที่ Green Market
ไปชายหาด Muizenburg ถ่ายรูปกับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าสีสันสดใส
กลับมาช็อปปิงที่ V&A Waterfront
นั่งTaxi กลับรร.
ปล. รถตู้ที่เหมาไปเค้าจะไปส่งถึงสี่โมงเย็นนะคะ ในกรณีนี้ ที่สุดท้ายที่มาคือ Waterfront ซึ่งกลุ่มเรามาที่นี่
กันตอนบ่ายสอง ไกด์ก็บอกเราว่าถ้าใครจะกลับรร.กับรถตู้ก็ให้มาขึ้นรถตอน 4 โมงเย็น หลังจากนั้นขึ้นtaxi กลับเองค่ะ
ซึ่งจขกท.ก็นั่ง taxi เอา
เริ่มกันที่ Camps Bay ค่ะ
จุดถ่ายรูปยอกฮิตที่นี่
ได้เห็น Twelve Apostles แล้วว
ลงไปที่ชายหาดกันต่อค่ะ
น้ำเย็นเจ็ยบเลยย
ไปกันต่อที่ Signal Hill
ที่นี่อากาศดีกว่าด้านล่างนะคะ ลมพัดแรงตลอดเลยย
ไปต่อที่ย่าน BoKaap
บ้านแต่ละหลังสีสวยสดเว่อ
ต่อไปก็ไปที่Green Market ค่ะ เราทานอาหารกลางวันกันที่นี่ ที่ร้าน Burger King ค่ะ
แอร์เย็นสบายดี และมีห้องน้ำด้วย แล้วเราก็ปักหลักกันที่ร้านนี้จนถึงเวลากลับเลย อย่างที่บอก
อากาศวันนี้ร้อนกว่าวันอื่น + เวลาที่ไปถึงคือตอนเที่ยง หลังจากนั้นเราก็ออกมาเดินเล่นตรงที่ขายของนิดนึง
โดยแม่ขี้เกียจเดินเลยเฝ้ากระเป๋าอยู่ในร้านค่ะ ตอนเดินออกมาก็มีคนมาขายของ ตื๊อนู่นนี่ ให้ซื้อของบ้าง
ขอเชคแฮนด์บ้าง เราก็ยิ้มๆ แล้วเดินไปเลยค่ะ
แล้วก็มีอีกพวกหนึ่งมาขอเงิน ท่าทางก็เหมือนขอทานบ้านเรา แต่เค้าเดินขอไปทั่วเลยค่ะ
แต่เค้าก็ไม่ได้มีท่าทีคุกคามอะไร อาจเป็นเพราะตรงนี้มีคนอยู่เยอะ ทั้งพ่อค้าแม่ค้า ยามเฝ้าหน้าร้านขายของ
นักท่องเที่ยวทั้งชาวฝรั่งและเอเชีย แต่ถ้าเดินเข้าไปในซอยเปลี่ยวๆแล้วเจอพวกนี้
ก็ไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัยหรือเปล่านะคะ ทางที่ดีเดินอยู่แค่ตรงลานใหญ่ๆดีกว่า
ปล.ที่นี่ไม่กล้าถ่ายรูปค่ะ เหตุผลก็ตามที่กล่าวมาเลย
อ้างอิง https://en.wikipedia.org/wiki/Greenmarket_Square
อ้างอิง https://www.agefotostock.com
ลานด้านหน้าก็จะขายของประมาณนี้ค่ะ
หลังจากนั้นไกด์ก็ให้ขับรถไปที่รร.ก่อน ใครที่จะพักก็ได้ หรือใครจะไปWaterfront ต่อก็ให้มาขึ้นรถหลังจากขึ้นไปเก็บของบนห้องแล้ว
พอมากันครบรถก็ไปส่งที่ Waterfront แล้วจะรับกลับ 4 โมงเย็น
พอมาถึง Waterfront แล้ว ไกด์ก็ไปถามราคารถว่าไป Muizenburg เท่าไหร่(ที่นี่ไม่ได้อยู่ในแพลนพาไปเที่ยว
แต่ไกด์บอกว่ายังไม่เคยทำทัวร์ไปที่นี่ ก็เลยจะลองไปสำรวจดู) คนขับบอกมา 20 ดอลล่าร์ หรือมาณ 300 rand
เราก็เห็นว่าWaterfront ยังร้อนอยู่ เดี๋ยวมาเดินเย็นๆก็ได้ ก็เลยไป Muizenburg ดีกว่า สรุปไปหาดนี้มีผู้ร่วมชะตากรรม 9 คน
จาก 22 คน รวมไกด์ก็เป็น 10 นั่งรถมาประมาณครึ่งชม.ก็มาถึงค่ะ
พอมาที่นี่ก็พบว่าอากาศดีกว่าโซน Waterfront เยอะเลย ลมแรงและรู้สึกว่าเย็น ทั้งๆที่แดดก็ไม่ต่างจากกรุงเทพเลย
คิดถูกมากมายที่มาที่นี่
หลังจากนั้นรถก็กลับมาที่ Waterfront ทันรับคนกลับรร.พอดี 4 โมง เป๊ะๆๆ เลยค่ะ
ส่วนจขกท. คุณแม่ และป้าที่รู้จักกันในทริป อีก 2 คนก็ไปเดินชอปปิ้งต่อ แล้วกลับ taxi ด้วยกันตอน 6 โมงเย็น
ค่าtaxi 80 rand 4 คน ก็คนละ 20
วันนี้ส่วนใหญ่จะเดินในห้างนะคะ เพราะตอนที่ไปแดดร้อนเลยไม่ได้มาถ่ายรูปด้านนอกเท่าไหร่ แต่ก็มีเดินไปอีกสองห้างด้านนอกอยู่ค่ะ
ที่ไปเดินมาก็มี 3 ห้างนะคะ คือ
1 Victoria Wharf
อันนี้เป็นห้างใหญ่สุดค่ะ ฟีลก็คล้ายๆ central บ้านเรา มีของBrand name ขายอยู่ทั่วๆไป มีร้านอาหาร ร้านกาแฟต่างๆ
แล้วก็ด้านล่างสุด มีsupermarket ค่ะ ตอนที่ไปนี่ คนเยอะมากกก คงเพราะเป็นวันอาทิตย์ด้วยแหละ แล้วเวลาต่อคิว
จะไม่เมือนบ้านเรานะ บ้านเราคือต่อที่เคาน์เตอร์ที่เราจะจ่ายได้เลย แต่ที่นู่นจะให้ต่อแบบตอนเชคอินสายการบิน
คือมีแถวยาวอันเดียว แล้วเคาน์เตอร์ไหนว่างก็เดินไปที่นั่น ส่วนจขกท.ซื้อของน้อยหน่อยก็ไปจ่ายช่องเล็กซึ่งจะรวดเร็วกว่า
ช่องปกติค่ะ
ที่นี่จขกท.ก็ซื้อขนมที่ supermarket แล้วก็ซื้อกางเกงยีนส์ H&M มาสองตัวค่ะ
ลงรูปอีกทีค่ะ
2 Alfred Mall
ก็ไม่เชิงเป็นห้าง แต่เป็นเหมือนร้านขายของ พวกเสื้อผ้าสไตล์พื้นเมือง เสื้อผ้าปกติก็มี แล้วก็ขายพวกรูปถ่าย โปสการ์ดไรงี้
นอาคารนี้เป็นที่ขายของครึ่งนึง อีกครึ่งเป็นโรงแรมด้วยนะคะ ที่นี่คนไม่เยอะค่ะ
3 Clock Tower
ก็เป็นร้านขายของในอาคาร ฟีลก็เหมือนห้าง แต่ไม่ใหญ่มาก และของน้อยค่ะ จขกท. ซื้อน้ำอัดลมรสลิ้นจี่มา 10 rand
ก็อร่อยใช้ได้ แล้วก็มีร้านหารใหญ่ๆอยู่ข้างๆห้างนี้ค่ะ เป็นตัวอาคารมีทั้งร้านอาหารด้านใน แล้วก็ร้านแบบopen ในอาคารนี้
มีพิพิธภัณฑ์ด้วยค่ะ แต่จขกท.ไม่ได้เข้าไป
ปล.ห้างนี้ต้องเดินข้ามสะพานที่เลื่อนได้มานะคะ(อยู่ในตอนที่ 2)
อาคารเตี้ยๆสีขาว เป็นร้านอาหารค่ะ
ที่ Waterfront มีบางรูปที่ดูมืดๆคือ ถ่ายไว้ในวันที่ 2 นะคะ วันสุดท้ายนี่แดดเปรี้ยง ออกมาถ่ายไม่ไหวค่ะ แต่เราเดินสำรวจในห้าง
อย่างจริงจังวันสุดท้ายก็เลยเอามาอธิบายวันนี้แทน
ปล.ในห้างไม่มีรูปนะคะ เพราะรีบซื้อของค่ะ ไม่งั้นจะกลับรร. เลท
หลังจากกลับมาที่รร.จขกท.ก็ตะคริวกินเพราะมัวแต่เดินที่ Waterfront นั่นแหละค่ะ แต่ก็ต้องทนเดินไปเดินมา เพราะต้องเก็บของแล้ว
คืนนั้นก็ปวดขายาวๆเลยค่ะ ดีนะที่ตื่นเช้ามาค่อยยังชั่ว ไม่งั้นคงต้องทรมานกันยาวๆ 9 ชม.30 กว่าจะมาถึงสิงคโปร์
อาหารเย็นวันนี้มีมาม่าแล้วก็ซื้อสลัดผักจากWaterfront มาทานค่ะ
พอวันรุ่งขึ้นจขกท.ก็ต้องออกจากรร.เพื่อไปสนามบิน ตอน 7.30 ใครจะทำ Tax refund ก็ได้นะคะ ราคาขั้นต่ำที่ทำได้
คือ 300 rand ค่ะ แล้วเค้าจะคืนเงินทางบัตรเครดิตเท่านั้น แต่จขกท.กับแม่ไม่มีบัตรค่ะเราเลยไม่ทำ ก็เข้าไปเชคอินก่อน
แล้วก็เดินดูของไปเรื่อยๆ ที่นี่ไม่มีตู้กดน้ำฟรีนะคะ แล้วก็ไม่มีที่ชาร์จโทรศัพท์ฟรีด้วย ร้านค้าก็มีพอประมาณ 7-8 ร้านค่ะ
จากนั้นเราก็บินกลับค่ะ ขากลับก็น่ากลัวหน่อยตอนที่เครื่องสั่น แต่จขกท.ก็นั่งฟังเพลงทำไม่รู้ร้อนรู้หนาวไป แบบว่าถ้าเครื่องจะตก
ชั้นก็ทำไรไม่ได้อยู่ดี ปล่อยไปดีกว่า
จากนั้นก็มาถึงสิงคโปร์ค่ะ นี่พึ่งมาสิงคโปร์ครั้งแรกเลยไม้ได้แลกดอลล่าร์สิงคโปร์มา เพราะคิดว่า Us ใช้ได้
จริงๆก็ใช้ได้ แต่เค้าจะทอนเป็นดอลล่าสิงคโปร์ให้ค่ะ หลังจากนั้นก็ไปนอนรอgate เปิด เพื่อกลับกทม.
ตอนนี้คือ อยากกลับบ้านละ ผิดกับตอนที่อยู่เคปทาวน์ลิบลับ ตอนนั้นคือ อยากอยู่ต่ออีกสักอาทิตย์นึง555
สุดท้ายนี้ ก็ขอขอบคุณผู้ที่อ่านกระทู้นี้ จะอ่านจบหรือไม่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เนื่องจากเป็นการเขียนรีวิวครั้วแรก
ทำให้มีหลายอย่างผิดพลาดไปบ้าง ผิดตรงไหนก็บอกได้นะคะ แล้วจะนำไปปรับปรุงแก้ไขในทริปหน้าค่ะ
สวัสดีค่าาาา