ปรกติผมเป็นคนที่ฟังเพลงได้ทุกประเภท แต่ถ้าชอบก็พวกลูกกรุง ลูกทุ่ง หรือ เพลงฝรั่งเก่าๆ หรือถ้าเป็นเพลงสมัยใหม่ ก็ฟังตาม ๆ เขาไป เพราะถือว่าเพลงแต่ละเพลง คนแต่งเขาก็อยากจะสื่ออะไรบางอย่างให้กับคนฟังอยู่แล้ว
อย่างกรณีเพลงที่มาแรงตอนนี้ ความจริงมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เคยเกิดเหตุการณ์ประเภทนี้ สมัยก่อน เพลง "กลิ่นโคลนสาบควาย" ของ ชาญ เย็นแข นี่สมัยก่อนก็เคยถูกรัฐบอกเป็นเพลงต้องห้าม ห้ามฟัง ห้ามเปิด แต่พอมาสมัยนี้กลายเป็นเพลงที่คลาสสิคเพลงหนึ่ง ผมเห็นรายการคุณพระช่วยแสดงสด เขาเคยเอามาแสดงบนเวทีอยู่ นิค นิรนาม สมัยก่อนก็เอามาร้องในอัลบั้มหยิบสิบ ก็เห็นดังกันไป
หรืออย่างสมัยยุคเพลงเพื่อชีวิตมาแรง อย่าง "คนกับควาย", "เซิ้งอีสาน" พวกนี้ (ซึ่งคนแต่งอะไรก็ไม่ได้อะไรกับอุดมการณ์ตัวเองเท่าไหร่) ก็เคยเป็นเพลงต้องห้ามมาก่อน มายุคสมัยคาราบาวดัง ๆ ก็ร้องเพลงเพื่อชีวิตหลายเพลง ดังมาจนถึงทุกวันนี้ (แต่คนร้องเป็นยังไงบ้างไม่รู้)
มาสมัยนี้ เห็นกระแสแร็พ พวกแร๊พใต้ดิน ผมเคยเปิดฟังอยู่สองสามครั้งที่ให้ battle กัน ก็ต้องยอมรับ ว่ามันเป็นเพลงเฉพาะกลุ่ม เขาก็ชอบของเขา ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร
เพราะฉะนั้น ผมคิดว่า รัฐควรจะเปิดใจ ฟังเด็กเขาพูดเขาวิจารณ์กันบ้าง เขาจะแต่งอะไร ก็สะท้อนความเป็นจริง (หรือถ้าเป็นเท็จ ท่านก็ต้องไปพิสูจน์ว่าตรงไหนเป็นเท็จบ้าง)
ถ้าท่านไม่อยากจะฟัง ท่านก็ไปนั่งฟังเพลงอย่างอื่นก็ได้ จะเอาเพลงที่ท่านแต่งเอง หรือ ฟังเพลง "สายโลหิต" ของคุณชมพู หรือ จะไปฟัง "อกหักซ้ำสองน้ำตานองหน้า" ก็ได้..
----------------------------------------------------------
ขออนุญาตเพิ่มเติมเนื้อหากระทู้สักนิดนะครับ
เท่าที่อ่านข่าวมาเจอกระแสจากคนหลาย ๆ คนในสังคม บางส่วนก็บอกว่าเพลงอะไรไม่รู้ บางส่วนก็ไล่หนี ทำนองว่า ถ้าไม่ดีก็ไปอยู่ที่อื่นเสีย
ท่านที่กล่าวท่านหนึ่งอยากจะขอนำมาเล่านี่ ก็มีทั้งคุณโอ๋ ทวินันท์ อุ๋ย บุดดาเบลส
คุณโอ๋ ทวินันท์นี่เมื่อก่อนแกสวยมากสมัยเป็นนักร้อง ร้องเพลงก็เพราะ แต่ต้องอยากให้ทั้งสองท่าน คือคุณอุ๋ยกับคุณโอ๋ ลองเปิดใจให้กว้าง ๆ ฟังในสิ่งที่เด็กเขาสื่อ พวกนี้ก็รุ่นลูกรุ่นหลานกันทั้งหมด พวกนี้เดี๋ยวก็โตเป็นผู้ใหญ่ พวกเราเดี๋ยวก็แก่ตายกันหมด เด็กวันนี้เป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า คำขวัญวันเด็กยังจำได้มั้ยครับ
การจะไปไล่คนให้ไปอยู่ที่อื่น ผมก็ไม่ทราบว่า แค่การมีเนื้อหาแบบนี้ มันเกี่ยวกับการอยู่หรือไม่อยู่ในประเทศอย่างไร เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปไล่ใคให้ไปอยู่ที่อืนนะครับ
ทุกประเทศ ทุกพื้นที่ในโลก มีคนพื้นที่ มีคนท้องถิ่น ที่เขาเกิดเขาโตที่นั่น วันหนึ่งเขาบอกว่าบ้านของเขามันไม่สะอาด (ตามความคิดของเขา) เขาก็บอกว่า มันไม่สะอาด เราก็ต้องดูว่า มันไม่สะอาดตามที่เขาว่ามาจริงมั้ย..ถ้ามันไม่จริง เราก็ต้องว่า มันสะอาด ไม่ใช่จะดูแต่ห้องนอน ห้องน้ำ..แต่ให้ดูใต้พรมด้วย ว่าสะอาดจริงมั้ย
ไม่ใช่จะไปบอกว่า ถ้าบ้านไม่สะอาด ก็ย้ายบ้านหนีซะ
ปล. ชอบคุณอุ๋ย เล่นบทเป็นเสี่ยกิมหงวนนะครับ..แต่กระโดกกระเดกไปหน่อย
***กระแสเพลงที่กำลังมาแรง...รัฐควรจะใจกว้างหน่อย**
อย่างกรณีเพลงที่มาแรงตอนนี้ ความจริงมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เคยเกิดเหตุการณ์ประเภทนี้ สมัยก่อน เพลง "กลิ่นโคลนสาบควาย" ของ ชาญ เย็นแข นี่สมัยก่อนก็เคยถูกรัฐบอกเป็นเพลงต้องห้าม ห้ามฟัง ห้ามเปิด แต่พอมาสมัยนี้กลายเป็นเพลงที่คลาสสิคเพลงหนึ่ง ผมเห็นรายการคุณพระช่วยแสดงสด เขาเคยเอามาแสดงบนเวทีอยู่ นิค นิรนาม สมัยก่อนก็เอามาร้องในอัลบั้มหยิบสิบ ก็เห็นดังกันไป
หรืออย่างสมัยยุคเพลงเพื่อชีวิตมาแรง อย่าง "คนกับควาย", "เซิ้งอีสาน" พวกนี้ (ซึ่งคนแต่งอะไรก็ไม่ได้อะไรกับอุดมการณ์ตัวเองเท่าไหร่) ก็เคยเป็นเพลงต้องห้ามมาก่อน มายุคสมัยคาราบาวดัง ๆ ก็ร้องเพลงเพื่อชีวิตหลายเพลง ดังมาจนถึงทุกวันนี้ (แต่คนร้องเป็นยังไงบ้างไม่รู้)
มาสมัยนี้ เห็นกระแสแร็พ พวกแร๊พใต้ดิน ผมเคยเปิดฟังอยู่สองสามครั้งที่ให้ battle กัน ก็ต้องยอมรับ ว่ามันเป็นเพลงเฉพาะกลุ่ม เขาก็ชอบของเขา ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร
เพราะฉะนั้น ผมคิดว่า รัฐควรจะเปิดใจ ฟังเด็กเขาพูดเขาวิจารณ์กันบ้าง เขาจะแต่งอะไร ก็สะท้อนความเป็นจริง (หรือถ้าเป็นเท็จ ท่านก็ต้องไปพิสูจน์ว่าตรงไหนเป็นเท็จบ้าง)
ถ้าท่านไม่อยากจะฟัง ท่านก็ไปนั่งฟังเพลงอย่างอื่นก็ได้ จะเอาเพลงที่ท่านแต่งเอง หรือ ฟังเพลง "สายโลหิต" ของคุณชมพู หรือ จะไปฟัง "อกหักซ้ำสองน้ำตานองหน้า" ก็ได้..
----------------------------------------------------------
ขออนุญาตเพิ่มเติมเนื้อหากระทู้สักนิดนะครับ
เท่าที่อ่านข่าวมาเจอกระแสจากคนหลาย ๆ คนในสังคม บางส่วนก็บอกว่าเพลงอะไรไม่รู้ บางส่วนก็ไล่หนี ทำนองว่า ถ้าไม่ดีก็ไปอยู่ที่อื่นเสีย
ท่านที่กล่าวท่านหนึ่งอยากจะขอนำมาเล่านี่ ก็มีทั้งคุณโอ๋ ทวินันท์ อุ๋ย บุดดาเบลส
คุณโอ๋ ทวินันท์นี่เมื่อก่อนแกสวยมากสมัยเป็นนักร้อง ร้องเพลงก็เพราะ แต่ต้องอยากให้ทั้งสองท่าน คือคุณอุ๋ยกับคุณโอ๋ ลองเปิดใจให้กว้าง ๆ ฟังในสิ่งที่เด็กเขาสื่อ พวกนี้ก็รุ่นลูกรุ่นหลานกันทั้งหมด พวกนี้เดี๋ยวก็โตเป็นผู้ใหญ่ พวกเราเดี๋ยวก็แก่ตายกันหมด เด็กวันนี้เป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า คำขวัญวันเด็กยังจำได้มั้ยครับ
การจะไปไล่คนให้ไปอยู่ที่อื่น ผมก็ไม่ทราบว่า แค่การมีเนื้อหาแบบนี้ มันเกี่ยวกับการอยู่หรือไม่อยู่ในประเทศอย่างไร เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปไล่ใคให้ไปอยู่ที่อืนนะครับ
ทุกประเทศ ทุกพื้นที่ในโลก มีคนพื้นที่ มีคนท้องถิ่น ที่เขาเกิดเขาโตที่นั่น วันหนึ่งเขาบอกว่าบ้านของเขามันไม่สะอาด (ตามความคิดของเขา) เขาก็บอกว่า มันไม่สะอาด เราก็ต้องดูว่า มันไม่สะอาดตามที่เขาว่ามาจริงมั้ย..ถ้ามันไม่จริง เราก็ต้องว่า มันสะอาด ไม่ใช่จะดูแต่ห้องนอน ห้องน้ำ..แต่ให้ดูใต้พรมด้วย ว่าสะอาดจริงมั้ย
ไม่ใช่จะไปบอกว่า ถ้าบ้านไม่สะอาด ก็ย้ายบ้านหนีซะ
ปล. ชอบคุณอุ๋ย เล่นบทเป็นเสี่ยกิมหงวนนะครับ..แต่กระโดกกระเดกไปหน่อย