DAY 1 : 20/10/18 เริ่มต้นการเดินทาง
วันนี้เริ่มออกเดินทางเวลาจากกรุงเทพฯ 08.12 น. โดยขับรถยนต์ Mazda skyactiv 2 แต่เนื่องจากมีฝนตกตลอดทางและเป็นวันหยุดยาว
ทำให้การจราจรติดขัด ขับมาได้สักพัก ประมาณ 10.20 น. ก็เลยแวะปั๊มหามื้อเช้ารองท้อง เจอร้านนี้ค่ะ ยูนนาน
ท่ามกลางฝนพรำ เจอชุดนี้เข้าไปฟินมาก ทำไมอร่อยขนาดนี้ ต้มซุปสะเด็ดมาก หมดนี่ 212 บาทค่ะ


หลังจากท้องอิ่มแล้วก็ลุยขับต่อมาเรื่อยๆ ตาม Google Maps เข้าเส้นพรหมพิราม เปลี่ยวดีแท้ แทบไม่เจอผู้คน ปั๊มก็ไม่มี อยากเข้าห้องน้ำมากค่ะ อดทนมาเกือบ 2 ชม.ก็มาเจอที่นี่ จุดพักรถ อ.พิชัย-นายาง จ.อุตรดิตถ์ ข้างในน่ากลัว น้ำเป็นสีแดง แต่มันคือสวรรค์แท้ๆทีเดียวค่ะ


ขับลุยต่อมาเจอฝนบ้าง ซ่อมถนนบ้าง ประมาณ 19.30 น.ก็มาถึงที่พักแรก น่าน เกสต์เฮ้าส์
น่าน เกสต์เฮ้าส์ : ที่นี่เราจองผ่าน Agoda ลองใช้แอพครั้งแรกมีส่วนลด 50 บาท แต่เรากดผิด พอกดเข้าไปใหม่ก็ไม่ให้ใช้แล้ว จึงเสียค่าที่พักคืนนี้ 450 บาท สภาพปกตินะ ส่วนเครื่องใช้เป็นไม้ ดูวินเทจดีค่ะ ที่นี่สงบเงียบดีมาก ยกเว้นพัดลมเพดานที่เสียงดังจนน่ากลัว
ทางเข้าจะแคบมาก ต้องขับรถระวังกินเสา มีห้องน้ำในตัว น้ำอุ่น โทรทัศน์ พัดลม อยู่ใกล้กับถนนคนเดิน ห่างกันประมาณ 5-10 นาทีค่ะ


หลังจากเก็บของเข้าที่แล้ว ก็ไปเดินเล่นหาของกินที่ถนนคนเดินใกล้ๆวัดภูมินทร์ อาหารราคาไม่แพง มีหลากหลาย มีลานขันโตกให้นั่งทานฟรี พร้อมกับมีวงดนตรีแสดงด้วย ตลาดน่าจะมีเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ นะคะ เปิดตั้งแต่ช่วงเย็น - 4 ทุ่ม แต่วันนี้มีแมลงเยอะมากๆ จนน่ารำคาญเลยค่ะ และนี่คือร้านที่เราซื้อมาชิม จัดหนักจัดเต็มค่ะ ส่วนตัวชอบแค่ไข่ป๊าม นอกนั้นปกติทั่วไปค่ะ ราคารวมทั้งหมดที่ซื้อมา 221 บาท


นั่งเล่นฟังดนตรี อัพรูปเพลินๆ จน 4 ทุ่ม ก็ช่วยกันเก็บขยะไปทิ้ง และเดินถ่ายรูปท้องถนนกลับเข้าซอยมานอนที่ น่าน เกสต์เฮ้าส์
เอาจริงๆ นอนไม่ค่อยหลับค่ะ แปลกที่และพัดลมเสียงดัง พยายามข่มตาจนช่วงประมาณ ตี 3 ก็หลับสนิทค่ะ

ความประทับใจวันนี้ คือ อาหารร้านยูนนาน และลานขันโตก

DAY 2 : 21/10/18 ไหว้พระ 9 วัด
วันนี้สายบุญ ตั้งใจทำบุญไหว้พระ 9 วัด ในตัวเมืองน่านค่ะ
วัดที่ 1 วัดพระธาตุเขาน้อย : หมอกเยอะ
ตื่นตั้งแต่ 06.00 น. เพื่อจะไปชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ หมอกหนามากจนพระอาทิตย์ยอมแพ้ ทำให้ไม่เห็นวิวเมืองเลยค่ะ
ภายในวัดนี้เงียบสงบ อากาศเย็นสบาย เราไหว้พระขอพรหลวงพ่อทันใจกันค่ะ


วัดที่ 2 วัดพญาวัด : แมวเยอะ
วัดนี้มีมานานหลายร้อยปี แต่ดูเหมือนไม่ได้รับการปฏิสังขรณ์ เป็นวัดเล็กๆ แต่ก็เงียบสงบดีค่ะ เลี้ยงแมวไว้หลายตัว


วัดที่ 3 วัดศรีพันต้น : ทองเยอะ
วัดนี้สวยสง่างามมาก เนื่องจากเป็นสีทองสว่าง งานศิลปะงดงาม พญานาคงามมาก
แต่วัดนี้อยู่กลางแจ้ง ไม่ค่อยมีต้นไม้ ช่วงกลางวันจึงร้อนมากๆค่ะ


วัดที่ 4 วัดมิ่งเมือง : ขาวเยอะ
วัดนี้จิตรกรรมละเอียดงดงามคล้ายวัดร่องขุ่น มีศาลหลักเมืองน่าน และอยู่ใกล้สถานที่ราชการ ทำให้ดูวุ่นวายบ้าง


วัดที่ 5 วัดภูมินทร์ : กระซิบเยอะ
วัดนี้เป็นวัดที่คนเยอะมากที่สุด เพราะภาพจิตรกรรม "กระซิบรักบันลือโลก" ของปู่ม่านย่าม่านนั่นเอง
หน้าวัดจะมีรูปปั้นกระซิบรัก เป็นจุดเช็คอินที่ใครหลายๆคนยืนสู้แดดเพื่อรอต่อคิวถ่ายรูป ก่อนเข้าโบสถ์ซ้ายมือจะพบพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน
ในนั้นก็จะเต็มไปด้วยของฝาก "กระซิบรักบันลือโลก" มีของพื้นบ้านบ้างนิดหน่อย
ด้านในโบสถ์คนเยอะมาก แต่ดีที่พระประธานในโบสถ์มี 4 ทิศ จึงนั่งไหว้ได้ทุกทิศ
จุดที่คนหนาแน่นก็จะเป็นภาพ "กระซิบรักบันลือโลก" ของปู่ม่านย่าม่านนั่นเองค่ะ


วัดที่ 6 วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร : แดงเยอะ
วัดนี้เน้นสีแดงสดค่ะ ด้านในโบสถ์สวยงาม มีกล่องทำบุญพระธาตุตามปีนักษัตรให้ครบเลย ด้านหน้ามีโคมสีสันสดใส
ทำให้เราโฟกัสผิดจุด พอขับรถออกมาแล้วก็มาคิดถึงชื่อวัดว่า พระธาตุช้างค้ำ แล้วพระธาตุกับช้างค้ำอยู่ตรงไหนล่ะ ?
หันไปดูที่วัดอีกที อ๋อ ! อยู่ด้านหลังโบสถ์ สภาพเก่าแก่มาก ช้างก็สีดำ ไม่มีคนเดินไปด้านหลังเลย
แต่สภาพอากาศที่ร้อนมาก และหาที่จอดรถยาก (จอดหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน) เราจึงต้องยกมือไหว้จากในรถและขับต่อไปค่ะ T^T


เนื่องจากใกล้เวลาเช็คเอ้าท์ เราจึงขับรถกลับเข้า น่าน เกสต์เฮ้าส์ เพื่อเก็บของ หวังฝากท้องมื้อเช้าที่นี่ แต่ร้านอาหารไม่เปิดค่ะ
เราจึงต้องประทังชีวิตด้วยภาพนี้ จ่ายแค่ ค่าน้ำอัดลม 30 บาท นอกนั้นเตรียมไปเอง อากาศร้อนมากจึงต้องพึ่งน้ำอัดลมเย็นๆค่ะ


วัดที่ 7 วัดหัวข่วง : สายสิญจน์เยอะ
ขับรถออกจากที่พักไม่ถึง 2 นาทีก็เจอวัดค่ะ วัดนี้อยู่กลางแจ้งโล่งๆ เหมือนกัน แต่แปลกที่ไม่รู้สึกร้อน
เราชอบวัดนี้ค่ะ ด้านในดูสวยดี ทั้งป้ายวัด การผูกสายสิญจน์ และดอกไม้ที่เตรียมไว้ ดูมีความปราณีตตั้งใจ
แต่แปลกตรงที่เราสังเกตเห็นว่า พระประธานในโบสถ์เหมือนตั้งไม่ตรง เอียงไปทางซ้ายมือ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกันค่ะ


วัดที่ 8 วัดสวนตาล : ภาพพุทธประวัติเยอะ
วัดนี้เป็นวัดที่มีพื้นที่เยอะมากๆ ค่ะ และเหมือนภายในวัดกำลังมีการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์หลายส่วน จึงเข้าไหว้พระจากด้านหลัง
พบพระธาตุสวยงาม ด้านในโบสถ์พระประธานก็สวยงามมากค่ะ มีภาพพุทธประวัติสวยงามจำนวนมาก แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้
เพราะมีผู้ใหญ่กำลังคุยเรื่องงานกันอยู่ นอกจากนี้ด้านนอกจะมีโรงทาน ประกาศเชิญชวนให้เข้าไปทานฟรีได้ด้วยค่ะ


เป็นเวลาเที่ยงแล้ว ท้องเริ่มร้อง จึงแวะเติมน้ำมันและขับรถไปฝากท้องที่ เตี๋ยวไร้เทียมทาน
เตี๋ยวไร้เทียมทาน : ต้องมีการต่อคิว รอคิวประมาณ 10-20 นาที มีคนมารอทานค่อนข้างเยอะ
สำหรับเราคิดว่ารสชาติก๋วยเตี๋ยวธรรมดานะคะ น้ำดื่มก็ธรรมดา แต่ชอบตรงกระดูกที่เขาใช้ส่วนสันหลังทำ มันจึงมีเนื้อค่อนข้างเยอะ
และมีติดมันด้วย เยอะจนเลี่ยนเลย ในภาพนี้ราคาน่าจะประมาณ 160 บาทค่ะ


วัดที่ 9 วัดพระธาตุแช่แห้ง : โคมเยอะ
วัดนี้เป็นวัดชื่อดังของน่าน มีประชาชนมากราบไหว้เยอะ ฉะนั้นเรื่องของการสะเดาะเคราะห์ต่างๆ จึงมีมากมาย โดยเฉพาะการผูกโคม
อากาศร้อนและคนเยอะมาก เราจุดธูปไหว้ วางดอกไม้เสร็จ ใส่รองเท้าเตรียมลุกเพราะร้อนมาก จึงเพิ่งเห็นว่าเขาจะต้องมีการเดินเวียนก่อน 3 รอบ รู้สึกสงสารเท้ามาก ต้องพองแน่นอน เราก็ตลกตัวเองนะ ไม่ดูพิธีรีตรองของเขาเลย แต่เรามาไหว้ด้วยใจ จึงตัดสินใจเดินออกมา


จบจากการไหว้พระครบ 9 วัด ก็ขออนุโมทนาบุญให้เพื่อนๆ ประสบแต่ความสุขสงบด้วยนะคะ
แม้เราจะทำบุญน้อยหรือทำไม่ถูกต้องบ้าง เพราะเราไม่ใช่สายบุญ แต่เราทำด้วยใจ เราทำในสิ่งที่เราสบายใจค่ะ สาธุๆ นะคะ _/\_

เดินทางการต่อมุ่งหน้าไปทางเส้นบ่อเกลือ ระหว่างทางแวะชมศิลปะที่นี่กันค่ะ
หอศิลป์ริมน่าน : สถานที่นี้สงบ สวยงาม ร่มเย็น มีค่าเข้าชมคนละ 20 บาท ด้านในจะมีต้นไม้ทาสีที่ลำต้นไว้สวยงามดีค่ะ
ในโถงแสดงภาพ มีภาพศิลปะสวยงามมากมาย รวมถึงภาพฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพฯ ด้วย
ต้องยอมรับว่าที่นี่สวยงามตั้งแต่ต้นไม้ยันห้องน้ำเลยทีเดียว ชอบห้องน้ำที่นี่ สะอาดและสวยงาม มาชมความงามกันเลยค่ะ






หลังจากชมศิลปะแล้วเราก็ขับรถลุยต่อประมาณร่วม 2 ชม. เพื่อจะไปนอนที่ดอยภูคา จริงๆ แล้ววางแผนแต่แรก คือจะไปนอนแถวบ่อเกลือ
แต่โทร.เช็คที่พักเขาบอกว่าเต็มหมด ก็เลยจะไปนอนดอยภูคา เสียค่าเข้าคนละ 40 ค่ารถยนต์ 30 ค่ากางเต็นท์คนละ 30 รวม 170 บาท
แต่ระหว่างนั้นคือฝนตกหนักตลอด ที่กางเต็นท์เฉอะแฉะมากมาย ก็กลัวว่าเต็นท์ของเราอาจจะเอาไม่อยู่อีกถ้าฝนตกหนักๆ
ส่วนบ้านพักของอุทยานก็เต็มหมด ที่สำคัญคือห้องน้ำไม่ค่อยโอเค เราจึงต้องหาที่อื่นค่ะ


เราเปิดเน็ตหาที่พักในบ่อเกลือ ไล่โทรถามทุกที่ก็เต็มหมด
จนไปเจอที่นึงที่ว่าง เขาก็บอกว่าว่างเยอะเลย เข้ามาดูก่อน เราก็บอกเขานะว่าตอนนี้อยู่ดอยภูคา ขับรถไปประมาณ 40 นาที
ห้องเป็นแบบไหน ราคาเท่าไหร่ มีอะไรบ้าง เขาก็บอกห้องใหญ่ คนละ 250 ห้องน้ำในตัว เราก็เลยตกลงใจขับรถไป
พอไปถึงประมาณ 6 โมงเย็น ปรากฎเป็นห้องใหญ่มากแต่นอนรวมๆกันเกือบ 30 คนได้
โธ่ ! แล้วไม่บอกเราแต่แรกว่านอนรวมกับคนอื่น เรื่องแบบนี้ควรบอกให้ละเอียดนะ เพราะคนเยอะๆมันก็วุ่นวายเสียงดัง บางคนอาจนอนกรนด้วยซ้ำ
สรุปเราต้องขับรถย้อนขึ้นดอยภูคากลับลงมาที่ปัว มืดก็มืด ฝนก็ตก หมอกก็หนามากจนมองไม่เห็นทาง แต่ก็ต้องสู้
โชคดีที่ระหว่างขาไปข้างทางยังมีวิวสวยๆ บนถนนลอยฟ้าให้ชมค่ะ