... มาแล้วค่า วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์สนุก ปนมึน เมื่อตอนไปเที่ยวเกาหลี.... เราจองตั๋วเครื่องบินของ Air asia แบบ Fly-Thru เพราะเราเป็นคนเชียงใหม่ ด้วยราคาตั๋วไป-กลับ 14,100 บาท (จองไว้ตั้งแต่ต้นปี เพราะเรากะว่าจะไปเที่ยวหลังปิดปีงบประมาณ 555+) และเราซื้อ SIM2FLY ของ เอไอเอสไปค่ะ ราคา 399 บาท 4 GB ใช้ได้นาน 8 วัน โดยที่จะเริ่มนับการใช้งานเมื่อซิมจับสัญญาณโทรศัพท์ในเกาหลีได้ ซึ่ง 4 GB เราเสียดายมากเพราะใช้ไม่หมด 55+
วันแรก.... ปสก.โดนเข้าห้องเย็น ได้เล่าไปแล้วในกระทู้ก่อนหน้านี้เน๊าะ หลังจากที่ผ่านเข้าเมืองมาได้ ก็ไปเอากป. และเจอเพื่อนที่รออยู่ เรากับเพื่อนก็เลยเดินออกมาซื้อบัตร T-money จากร้าน CU ซึ่งบัตรที่ซื้อมาตอนนั้น เป็นรูปไลน์

เราจำไม่ได้ว่าซื้อมาราคาเท่าไหร่น่าจะประมาณ 3,000 วอน และเราก็เติมเงินเข้าไปในบัตรอีก 15,000 วอน ความมึน งง เริ่มเกิดขึ้นว่าต่อไปเราจะเดินทางไปที่พักกันยังไง แต่จากตอนจองโรงแรมเราเลือกที่ใกล้สถานีโซล... วิธีการเข้าโซลที่สะดวกและไวที่สุดสำหรับเรา เราเลือกนั่งรถไฟ AREX แบบ Express เพราะมันจะไม่จอดทุกสถานี เราก็เดินตามป้าย AREX Express train สีส้มๆ เรากับเพื่อนไม่ได้จองตั๋วไปล่วงหน้า เลยไปซื้อที่เค้าท์เตอร์ ได้ตั๋วแบบ Single journey ticket ในราคา 9,000 วอน

ตั๋วหน้าตาก็จะประมาณนี้ค่ะ เป็นกระดาษแข็งๆ ใช้แตะเข้าออกเหมือนบัตร T-money
... เรากับเพื่อนซื้อตั๋วเสร็จก็เดินลงไปรอขบวนรถ เราก็ต้องแปะบัตรก่อนนะค่ะ จากนั้นเราก็รอเวลาที่ขบวนรถไฟเค้ามา (บ้านเมืองเค้ารถไฟฟ้า มาตรงเวลามาก เป๊ะจริง!!!) เราใช้เวลาเดินทางจากสนามบินมาถึงสถานีโซล ประมาณ 45 นาที

จากนั้นเราก็เดินตามป้ายภายในสถานี เค้าจะเขียนบอกว่าถ้าเราจะไปใช้รถไฟฟ้าใต้ดินสายอะไร ควรไปทางไหน แต่เพื่อนกับเราพักแถวสถานีโซล ก็เลยไม่ต้องเดินตามป้ายสายรถไฟใต้ดิน เราจึงมองหาป้ายทางออกแทน....ซึ่งที่พักเราใกล้กับทางออกที่ 14 เรากับเพื่อนเลยเดินตามป้ายไป ก่อนเราจะออกไปจากสถานีนั้น อย่าลืมแปะบัตร AREX สีส้มน๊า (เพราะเราไม่ได้นั่งไปที่ไหนแล้วเราจะเดินออก ขึ้นไปถนนด้านบน แต่ถ้าใครที่ต้องนั่ง subway ไปสถานีอื่น ก็ใช้ T-money แปะ ละเดินตามป้ายเพื่อไปรอขบวนรถไฟใต้ดิน) เราเดินตามป้าย จนเจอทางออกที่ 14 ในใจคิดว่ามันไม่เห็นหนาวเลย แต่พอเดินขึ้นมาถนนด้านบนเท่านั้นแหละ สิ่งที่สัมผัสได้ในตอนนั้นคือ ลมเย็นจากอากาศข้างนอกปะทะเข้ากับหน้าอย่างจัง !!!! 5555++ เรากับเพื่อนตั้งสติแล้วรีบหาว่าต้องเดินไปทางไหนถึงจะเจอโรงแรม..ดีที่ว่า K-Grand Hotel & Guest House Seoul เราเดินไป 3-5 นาทีก็ถึงแล้ว สภาพตึกก่ธรรมดาๆ ค่อนไปทางเก่า บันไดทางขึ้นชั้นของที่พักคือมีกลิ่นตุๆ อยู่ คิดในใจว่าตายละ สภาพที่พักจะยังไงหว่า จะเป็นแบบเนื้อหาไม่ตรงปกรึป่าว 5555+
... เราเดินขึ้นชั้น 3 !! (ไม่มีลิฟต์) พร้อมกป.เดินทาง ของเพื่อน 28 นิ้ว และของเรา 24 นิ้ว 555555+ เราเข้าไปภายในชั้น 3 จะเจอเค้าท์เตอร์ ซึ่งมีโอปป้านั่งเฝ้าอยู่ เราเลยบอกเค้าว่าเนี่ยช้านมาจากไทยแลนด์ ที่บอกเทอเมื่อกี้ว่าติด ตม.อยู่อาจมาเช็คอินเลท ตอนนี้ช้านมาล๊าวววววววววววววว ^__^
โอปป้าก็ อ่อๆๆ เวลคัมๆ ฮ่าๆๆ และให้เอกสาร เกี่ยวกับกติกาการเข้าพัก และให้เรามัดจำค่าคีย์การ์ด 20,000 วอน พร้อมแนะนำว่าตรงนี้จะมีอาหารเช้าให้ เวลา 08.00 - 10.00 น. ก็จะเก็บละงี้ ..............ด้วยความที่เราเหนื่อยมาเกือบทั้งวัน เราก็เออออห่อหมกไปกับโอปป้า... เหนือความคาดหมายคือ โอปป้าบอกเราว่าห้องของเทออยู่ชั้น 4 ผ่าม!!! เรากับเพื่อนต้องแบกกระเป๋าขึ้นไปอีก 1 ชั้น ซึ่งแน่นอนมันเป็นทางขึ้นที่โรงแรมทำไว้ (คนละทางกับที่เข้ามาเมื่อกี้) OMG!!! ทางขึ้นแคบมากกกกกกกก ในที่สุดเราก็ขึ้นมาถึงห้องพัก.... สภาพชั้น 4 คือดีงามกว่าชั้นสามมาก เพราะชั้น 3 บริเวณทางเดินจะมีถุงผ้าห่ม ผ้าปู ที่เค้าเตรียมเอาไปซักวางเต็มเลย ส่วนตัวเราคิดว่ามันรก ไม่สบายตาเท่าไหร่ แต่ก็ยังดีที่ชั้นที่เราพักทางเดินสะดวกและเงียบ ... ไม่รอช้าละค่ะแตะคีย์การ์ดเข้าห้อง................... รูปเราถ่ายจากด้านในห้อง เราสำรวจดูโดยรวมก็โอเคค่ะกับค่าที่พัก 4 คืน คนละ 3,250 บาท เสียดายที่เราไม่ได้ถ่ายรูปเยอะ เพราะวันนี้เราเหนื่อยและเฟลกับ ตม.มากจริงๆ 5555++

ถึงห้องก็แกะกป. รกหน่อยน๊า 555+
เราซื้อปลั๊กจากไทยไปก็ลองเสียบดู เอ้ออ มันใช้ได้ ไม่รีรอค่ะ.... เอาปลั๊กพ่วงมาเสียบชาร์จแบตระนาว (เราพกจากไทยไป 555+)
ลิ้งโรงแรมซึ่งในเว็บดีงามมาก
https://www.agoda.com/th-th//k-grand-hotel-guest-house-seoul/hotel/seoul-kr.html?
เรากับเพื่อนนั่งคุยกันสักพัก พอหายเหนื่อยก็มาคิดว่าเย็นวันนั้นเราจะไปไหนกันก่อนดี เพราะแผนที่เราวางไว้มันพังตั้งแต่ติด ตม. และมาถึงที่พักช้ากว่ากำหนด....และตอนนั้นรู้สึกหิวมากกกกกกก ติดตม.ก็ไม่ได้กินอะไร ยังต้องรีบเดินทางเข้าโซลอีก หิวแทบกินหมูได้ทั้งตัว

จึงสรุปได้ว่า งั้นเย็นนี้เราจะไปเมียงดงกัน เพราะจากสถานีโซลไปเมียงดง แค่แป๊ปเดียว .... จากนั้นเราก็นั่งรถไฟฟ้าสาย 4 สีฟ้า ไปลงสถานีเมียงดง และเริ่มเดินตระเวนหาของกิน...บะรรยากาศตอนนั้น โอ้วววววแม่จ้าวววววว เวลานี้คนเดินกันเต็มถนนไปหมดแล้วววว ช้านจะกินอะไรดี แถวนี้ร้านไหนดี อะไรอร่อย...คิดตั้งนานกับเพื่อนสุดท้ายเราก็กินที่เขาขายๆกันถามทางเดิน... เอาละซี้ หิวไง อะไรก็น่ากิน เราตรงดิ่งไปร้านขนมปังไข่ ที่เค้าร่ำลือกันว่าอร่อย อันละประมาณ 2,000 วอน และเราก็กินโอเด้งไม้ละ 1,500 วอน ละก็อีกอย่างนึงน่าจะเป็นไก่ผัดซอสงี้ป่าว เค้าผัดกับแป้งต๊อก ด้วย ราคาประมาณ 5,000 วอน.... ไอติมยาวๆ 2,000 วอน อิ่มมมมมม.... ^^


เมื่อท้องอิ่มแล้วเราก็มีแรงเดินกันต่ออีกนิดหน่อย

สภาพตอนนั้นคือ เดินๆอีกหน่อยก็พอไม่ไหวแล้ววววววว เพลีย ไม่ได้นอน เจออะไรแปลกใหม่ในประเทศนี้มาทั้งวันยังปรับตัวไม่ค่อยได้ และคืนนี้ต้องกลับไปวางแผนกันใหม่ว่าพรุ่งนี้เราจะไปที่ไหนกัน อะไรยังไง ....แล้ววันแรกที่เกิดขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ก็จบลง ด้วยการนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินและเดินกลับที่พัก... ระหว่างทางเราก็แวะซื้อน้ำและขนมที่ร้าน G25 ใกล้ที่พัก โดยมีอาจุมม่าน่ารักเป็นแคชเชียร์

เรื่องฮาๆก็มีนิดๆค่ะ เกิดขึ้นในห้องน้ำที่โรงแรม
.... ห้องน้ำเค้าดีงาม น่าใช้อยู่ค่ะ แต่ที่นี่บอกเลยเค้าไม่มีที่ฉีดตูดกันน๊าาาาา 555+ เราก็เดินๆดูในห้องน้ำ เค้ามีฉากกั้นบริเวณโซนเปียกกับโซนชักโครก ซึ่ง นึกออกมั้ยค่ะ มันจะเป็นเหมือนราวยึดผนังไว้สองฝาก แล้วม่านพลาสติกก็จะมีห่วงร้อยอยู่ แล้วเราก็จะรูดไปๆมาๆได้ ซึ่งตอนนั้นเข้ารูดมันให้ไปติดกำแพง ตามรูปๆ

อะไรประมาณนี้................... ด้วยความสำรวจและสงสัย เราก็ดึงพลาสติกที่กั้นนั้นออกมาเลยจ้าาาาาาาาา..... พั๊วะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ราวผ้าม่าน ร่วงลงมาค่ะท่านผู้ช๊มมมมมมมมมม!!! มาหมดทั้งยวง เราก็เลยตกใจนิดหน่อย แต่ก็ดังอยู่ ในใจคิดว่า ตายละมาอยู่วันแรกก็ทำของเค้าพังแล้วรึ!!!! 5555+
ตั้งสติได้เลย จับๆขึ้นมาดู และทำความเข้าใจใหม่ว่าเอ้า++ คือเค้าไม่ได้ยึดมันถาวร แค่ให้มันดันผนังไว้เฉยๆ ละแบบ.....คือโอปป้าทำไมไม่ยืดให้มันยาวกว่านี่อีกหน่อยมันจะได้เกาะผนังอยู่ ไม่น่าร่วงมาโดนหัวเราเล๊ยยยยย เราก็เลยทำการยัดมันเข้าไปใหม่ .... แล้วบอกเพื่อนว่าอย่าไปยุ่งกับมัน!!! 555+
ท้ายที่สุด เราก็อาบน้ำโดยไม่ได้แตะต้องม่านนั่นอีก คืนนั้นเรากับเพื่อนนอนหลับเหมือนซ้อมตาย ตื่นมาอีกทีก็เช้าแล้ววววววววววววววว
ขอบคุณค่ะที่อ่านกระทู้เรา เดี๋ยวการผจญภัยวันรุ่งขึ้นไว้มาเล่าต่อนะค่ะ......
ประสบการณ์เที่ยวเกาหลี ตอน 1 ต.ค. 2018
วันแรก.... ปสก.โดนเข้าห้องเย็น ได้เล่าไปแล้วในกระทู้ก่อนหน้านี้เน๊าะ หลังจากที่ผ่านเข้าเมืองมาได้ ก็ไปเอากป. และเจอเพื่อนที่รออยู่ เรากับเพื่อนก็เลยเดินออกมาซื้อบัตร T-money จากร้าน CU ซึ่งบัตรที่ซื้อมาตอนนั้น เป็นรูปไลน์
... เรากับเพื่อนซื้อตั๋วเสร็จก็เดินลงไปรอขบวนรถ เราก็ต้องแปะบัตรก่อนนะค่ะ จากนั้นเราก็รอเวลาที่ขบวนรถไฟเค้ามา (บ้านเมืองเค้ารถไฟฟ้า มาตรงเวลามาก เป๊ะจริง!!!) เราใช้เวลาเดินทางจากสนามบินมาถึงสถานีโซล ประมาณ 45 นาที
... เราเดินขึ้นชั้น 3 !! (ไม่มีลิฟต์) พร้อมกป.เดินทาง ของเพื่อน 28 นิ้ว และของเรา 24 นิ้ว 555555+ เราเข้าไปภายในชั้น 3 จะเจอเค้าท์เตอร์ ซึ่งมีโอปป้านั่งเฝ้าอยู่ เราเลยบอกเค้าว่าเนี่ยช้านมาจากไทยแลนด์ ที่บอกเทอเมื่อกี้ว่าติด ตม.อยู่อาจมาเช็คอินเลท ตอนนี้ช้านมาล๊าวววววววววววววว ^__^
โอปป้าก็ อ่อๆๆ เวลคัมๆ ฮ่าๆๆ และให้เอกสาร เกี่ยวกับกติกาการเข้าพัก และให้เรามัดจำค่าคีย์การ์ด 20,000 วอน พร้อมแนะนำว่าตรงนี้จะมีอาหารเช้าให้ เวลา 08.00 - 10.00 น. ก็จะเก็บละงี้ ..............ด้วยความที่เราเหนื่อยมาเกือบทั้งวัน เราก็เออออห่อหมกไปกับโอปป้า... เหนือความคาดหมายคือ โอปป้าบอกเราว่าห้องของเทออยู่ชั้น 4 ผ่าม!!! เรากับเพื่อนต้องแบกกระเป๋าขึ้นไปอีก 1 ชั้น ซึ่งแน่นอนมันเป็นทางขึ้นที่โรงแรมทำไว้ (คนละทางกับที่เข้ามาเมื่อกี้) OMG!!! ทางขึ้นแคบมากกกกกกกก ในที่สุดเราก็ขึ้นมาถึงห้องพัก.... สภาพชั้น 4 คือดีงามกว่าชั้นสามมาก เพราะชั้น 3 บริเวณทางเดินจะมีถุงผ้าห่ม ผ้าปู ที่เค้าเตรียมเอาไปซักวางเต็มเลย ส่วนตัวเราคิดว่ามันรก ไม่สบายตาเท่าไหร่ แต่ก็ยังดีที่ชั้นที่เราพักทางเดินสะดวกและเงียบ ... ไม่รอช้าละค่ะแตะคีย์การ์ดเข้าห้อง................... รูปเราถ่ายจากด้านในห้อง เราสำรวจดูโดยรวมก็โอเคค่ะกับค่าที่พัก 4 คืน คนละ 3,250 บาท เสียดายที่เราไม่ได้ถ่ายรูปเยอะ เพราะวันนี้เราเหนื่อยและเฟลกับ ตม.มากจริงๆ 5555++
เราซื้อปลั๊กจากไทยไปก็ลองเสียบดู เอ้ออ มันใช้ได้ ไม่รีรอค่ะ.... เอาปลั๊กพ่วงมาเสียบชาร์จแบตระนาว (เราพกจากไทยไป 555+)
ลิ้งโรงแรมซึ่งในเว็บดีงามมาก https://www.agoda.com/th-th//k-grand-hotel-guest-house-seoul/hotel/seoul-kr.html?
เรากับเพื่อนนั่งคุยกันสักพัก พอหายเหนื่อยก็มาคิดว่าเย็นวันนั้นเราจะไปไหนกันก่อนดี เพราะแผนที่เราวางไว้มันพังตั้งแต่ติด ตม. และมาถึงที่พักช้ากว่ากำหนด....และตอนนั้นรู้สึกหิวมากกกกกกก ติดตม.ก็ไม่ได้กินอะไร ยังต้องรีบเดินทางเข้าโซลอีก หิวแทบกินหมูได้ทั้งตัว
.... ห้องน้ำเค้าดีงาม น่าใช้อยู่ค่ะ แต่ที่นี่บอกเลยเค้าไม่มีที่ฉีดตูดกันน๊าาาาา 555+ เราก็เดินๆดูในห้องน้ำ เค้ามีฉากกั้นบริเวณโซนเปียกกับโซนชักโครก ซึ่ง นึกออกมั้ยค่ะ มันจะเป็นเหมือนราวยึดผนังไว้สองฝาก แล้วม่านพลาสติกก็จะมีห่วงร้อยอยู่ แล้วเราก็จะรูดไปๆมาๆได้ ซึ่งตอนนั้นเข้ารูดมันให้ไปติดกำแพง ตามรูปๆ
ราวผ้าม่าน ร่วงลงมาค่ะท่านผู้ช๊มมมมมมมมมม!!! มาหมดทั้งยวง เราก็เลยตกใจนิดหน่อย แต่ก็ดังอยู่ ในใจคิดว่า ตายละมาอยู่วันแรกก็ทำของเค้าพังแล้วรึ!!!! 5555+
ตั้งสติได้เลย จับๆขึ้นมาดู และทำความเข้าใจใหม่ว่าเอ้า++ คือเค้าไม่ได้ยึดมันถาวร แค่ให้มันดันผนังไว้เฉยๆ ละแบบ.....คือโอปป้าทำไมไม่ยืดให้มันยาวกว่านี่อีกหน่อยมันจะได้เกาะผนังอยู่ ไม่น่าร่วงมาโดนหัวเราเล๊ยยยยย เราก็เลยทำการยัดมันเข้าไปใหม่ .... แล้วบอกเพื่อนว่าอย่าไปยุ่งกับมัน!!! 555+
ท้ายที่สุด เราก็อาบน้ำโดยไม่ได้แตะต้องม่านนั่นอีก คืนนั้นเรากับเพื่อนนอนหลับเหมือนซ้อมตาย ตื่นมาอีกทีก็เช้าแล้ววววววววววววววว
ขอบคุณค่ะที่อ่านกระทู้เรา เดี๋ยวการผจญภัยวันรุ่งขึ้นไว้มาเล่าต่อนะค่ะ......