[Review] HOMESTAY หากไม่ได้การแสดงจากเจมส์และสู่ขวัญ หนังจะพังกว่านี้

โดยตัวหนังแล้วเรารู้สึกว่ามันยังดีกว่านี้ได้อีกมากๆ แต่พอถามตัวเองว่าแล้วขัดข้องอะไรในหนัง คำตอบอาจจะเป็นเรื่องบทหรือน้ำเสียงการเล่าเรื่องที่เราไม่รู้สึกว่ามันท้าทายอะไรทั้งกับคนดูและคนทำหนังเอง แล้วก็ไม่เชื่อว่าตัวละครมันเติบโตขึ้นแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าการที่ผู้กำกับไม่กล้าทำให้มันดาร์คกว่านี้ (ซึ่งจริงๆ บทเอื้อให้มันดุดันกว่านี้มาก) เพราะอะไร แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องเบื้องหลังงานสร้างแล้วน่ะนะ


สิ่งหนึ่งที่เราคิดคือ การโปรโมตของหนังมันผิดที่ผิดทางมากโดยเฉพาะเรื่องการสิงเพจต่างๆ (แต่เข้าใจได้ว่าอาจจะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของค่าย) พอไปดูในหนังแล้วมันไม่ใช่ มันคือหนัง coming-of-age ที่ว่าด้วยเรื่องเด็กหนุ่มที่แวดล้อมไปด้วยปัญหาชีวิตทั้งจากครอบครัวและเพื่อนฝูง ซึ่งหนังเล่นเบอร์ใหญ่ด้วยการให้มีพ่อที่เป็นเซลขายอาหารเสริมกลวงๆ, พี่ชายเจ้าอารมณ์และแม่ผู้เปราะบาง!

แล้วมีอะไรในหนังที่เราไม่เอ็นจอยกับมัน? คำตอบอาจจะอยู่ที่หนังทำให้เราเชื่อไม่ได้ว่าตัวละครมินมันข้ามผ่านบางอย่างมาได้แล้วจริงๆ เพราะเรารู้แต่เพียงเขาเผชิญมรสุมชีวิต และหนังก็ตัดจบให้ทุกอย่างสวยใสสไตล์ GDH อย่างเรียบง่าย

ทั้งที่จริงๆ เรื่องความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ความเปราะบางของคนกำลังโตอย่างมิน มันทัชชิ่งคนได้ง่าย ตัวละครแบบมินมันห่างเหินจากมนุษย์ทุกคนในเรื่องมากๆ ซึ่งเจมส์แสดงดีนะ ทั้งบทมินกับบทวิญญาณเร่ร่อนในร่างใหม่ แต่พอหนังมันเลือกที่จะไม่ขยี้ประเด็นพวกนี้แล้ววางมันในฐานะฟังก์ชั่นที่ผลักตัวละครหลักไปจนถึงขอบเหว เลยรู้สึกว่าทุกอย่างมันคลี่คลายง่ายดีจังวะชีวิตคนเรา ทั้งที่อันที่จริง หนังทั้งเรื่องมันว่าด้วยชีวิตคนที่ผุพังและแตกสลาย แต่แล้วก็ตามสไตล์ค่ายนี้ คือล้วนแล้วหยิบเศษซากหัวใจมาประกอบใหม่ได้ง่ายดายเหลือเกิน


แน่ล่ะว่าเราไม่ได้ปฏิเสธการหาทางออกเพื่อไปเจอแสงสว่างของตัวละคร เราเชื่อในเรื่องของการผ่านเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อเรียนรู้และเติบโตในแบบหนังข้ามพ้นวัยเรื่องอื่ๆ แต่พอบทมันไม่ถึงหนังเลยทำให้เรารู้สึกไม่เชื่อในอะไรเลย ดีว่าพลังการแสดงของเจมส์กับสู่ขวัญช่วยไว้ได้มาก (ฉากกินทุเรียนหน้าตู้เย็น ขอยกให้เป็นฉากกินทุเรียนที่หดหู่ที่สุดที่เคยดู)

จริงๆ แล้วตัวละครของเจมส์มันน่าสนใจตรงที่ ในร่างมิน มันเกือบจะเป็นภาพซ้อนทับกับตัวละครบู ที่เป็นซึมเศร้าซึ่งเขาเคยเล่นในซีรีส์ แต่ไม่รู้เจมส์ทำยังไงแต่ตัวละครมันออกมาไม่เหมือนกัน และมินแทบไม่มีบทพูด ออกมาเฉพาะหน้าเศร้าๆ กับในภาพ แค่นั้นยังรู้สึกว่าตัวละครมันมีเรื่องราวเลย กับคุณสู่ขวัญ เรารู้สึกว่าเขารับบทเป็นหญิงวัยกลางคนที่ชีวิตผุพังทลายได้ดีจังเลย เป็นภาระแบบที่คนเป็นเมียและคนเป็นแม่ต้องแบกรับ รักฉากที่เธอนอนคุยกับลูกมากๆ


ส่วนเฌอปรางนี่เล่นฉากดราม่าได้ประหลาดพอๆ กับน้องอรดราม่าใน App War เรารู้สึกว่าความดีความชอบในการแสดงของเฌอมาจากการกำกับของผู้กำกับต่างหาก เราว่ามันชัดเจนดีที่เห็นเฌอรับบทเด็กเรียนซึ่งไม่ได้ไกลตัวเท่าไหร่ คือแน่นอนว่ามันมีพาร์ทน่ารักๆ และเฌอทำได้ดีนะ แต่พอถึงฉากระเบิดอารมณ์เรารู้สึกว่า ปลอมมาก นี่คือการพยายามระเบิดอารมณ์ในหนังเฉยๆ คือเราไม่รู้สึกว่าตัวละครพายมีเรื่องราวอะ (ไม่เหมือนมินร่างแรก ที่ไม่มีบทพูด แต่เราจะรับรู้ได้เองว่าเด็กคนนี้มันผ่านอะไรมาจากการแสดงของเจมส์) ประกอบกับตัวละครพายมันดาร์คมากๆ คือต้องไปพบแพทย์แล้วแหละถ้าอยู่ในชีวิตจริง แต่เฌอปรางแสดงไม่ถึงเลย

อีกอย่างที่ชอบเป็นการส่วนตัวคืองานภาพ หนังไล้ไปตามตัวละครแทนสายตาของซัปเจ็กต์ในหนังได้ดีมากๆ ฟุ้ง สวยจนเหมือนหนังญี่ปุ่นเลย

เราไม่ฟันธงหรอกว่าควรไปดูหรือไม่ไปดู แต่เรามองว่า HOMESTAY คือหนังที่แบบแสนจะ GDH น่ะ ถ้าชอบหนังค่ายนี้ก็ไปดูเถอะ มันก็ไม่ได้แย่ มันก็มีมุมที่ดีและจริงใจในแบบของมัน แต่มันอาจไม่ได้ถูกรสนิยมเราที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องฟีลกูดสไตล์ค่ายเท่าไหร่

ฝากเพจหนังด้วยจ้า : ) https://www.facebook.com/llkhimll/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่