สวัสดีค่ะ ได้ฤกษ์งามยามดีที่เราจะมาแชร์ประสบการณ์ Work and Travel 2018 ที่ Miramar beach, Florida
เราจะเน้นเล่าการทำงาน การอยู่บ้าน การใช้ชีวิต สิ่งต่างๆ ที่ต้องเจอนะคะ แต่ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มเติม สอบถามได้ค่า ยินดีตอบมากๆ
อย่างแรกที่จะพูดถึงเป็นประสบการณ์การทำงานนะคะ
เราทำงานที่ร้าน Ihop นะคะ ตำแหน่ง host (จริงๆเราสมัครตำแหน่ง cook ไป แต่เกิดการผิดพลาดนิดหน่อย) หน้าที่ของโฮสต์ก็คือ พาแขกไปนั่งที่โต๊ะ เก็บโต๊ะ จัดคิว คิวจะเยอะมากๆ ช่วงเดือนกรกฎาคม เวลา 10 โมงเช้าเป็นต้นไป เหนื่อยมากค่ะ คนเยอะมาก แล้วยิ่งเจอลูกค้าที่งี่เง่านี่แบบหัวร้อนไปเลย แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มใส่ คือตอนที่เราไปถึงเด็กเวิคยังมาไม่ครบ คือเราก็ต้องทั้งจัดคิว เก็บโต๊ะ พาแขกไปนั่ง ทำทุกอย่างเลย เหนื่อยมากแต่ก็สนุกดีเหมือนได้ออกกำลังกาย แล้วช่วงซัมเมอร์เรายังได้ติ้ปด้วยนะคะ พนักงานเสริฟ์จะเป็นคนให้ โดยวันจันทร์-พฤหัส นี่แล้วแต่ว่าเค้าอยากให้เราไหม แต่ถ้าเป็นวันศุกร์-อาทิตย์ เสริฟ์ต้องให้ทุกคน โดยเค้าจะให้กับเมเนเจอร์ แล้วหารกับจำนวนโฮสต์อีกที แต่ต้องทวงนะคะ เคยลืมทวงแล้วผ่านไปหลายวัน สรุปของวีคนั้นไม่ได้ แงๆ เพื่อนร่วมงานที่นั่นน่ารักค่ะ เค้าจะดีกับเราไหมขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ตั้งใจทำงาน กระตือรือร้น มาตรงเวลา แค่นี้เพื่อนร่วมงานก็ไม่อะไรแล้วค่ะ
ต่อมาจะพูดถึงการใช้ชีวิตในบ้านนะคะ
บ้านที่เราอยู่ จะอยู่กัน 10 คน โดยบ้านเราเปิดประตูเข้ามาจะมีที่นั่งเล่น ห้องครัว โต้ะกินข้าว แล้วมันจะมีซอกวางเตียงนอนสองชั้น สำหรังสองคน(ได้นอนตรงนั้นคือซวย ใครไปก่อนเลือกห้องก่อนได้เบยจ้า) จะมีห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องนึงนอนกัน 4 คน คือมันก็ค่อนข้างอึดอัดสำหรับคนที่ไม่เคยนอนกับคนอื่นเนอะ แต่อยู่ไปมันจะชิน และสิ่งที่ทุกคนจะเจอเลยคือเสียงดัง สิ่งที่ทุกคนควรมีคือมารยาทค่ะ รู้จักเกรงใจเพื่อนร่วมห้อง เกรงใจเพื่อนบ้าน (ผนังบางมาก เคยโดนบ้านข้างๆมาบ่น) ฉะนั้นสิ่งที่ควรมีไว้คือความเกรงใจ และมารยาทค่ะ
ต่อมาที่จะพูดถึงคือ...เอเจนซี่
เราไปกับเอเจนซี่ที่ค่อนข้างดังในพันทิป สำนักงานอยู่แถวๆ BTS สนามเป้า เราตามหลายๆกระทู้ อ่านแล้วดูดีมากๆ ก็นึกว่าจะดีแต่จริงๆก็ไม่นะคะพอได้ไปเอง ไม่ว่าจะทีมงานที่ไทย หรือที่ทางอเมริกา ขอเล่าว่าก่อนไปเราได้จ่ายเงินค่า Job Deposit จำนวนนึง แต่ว่าตอนที่เค้าโอนกลับ เค้าโอนไม่ครบค่ะ
ขาดไปร้อยกว่าบาท ซึ่งเราก็ได้ถามกับทางเอเจ้น ได้คำตอบมาว่าเป็นค่าโอนจากต่างประเทศ แต่!!!... ทางอีเมลล์ได้แจ้งไว้ว่าเงินส่วนนี้จะได้คืนเต็มจำนวน งงสิคะงง แต่ตอนนี้
ได้คืนแล้วค่ะ ทุกคนต้องทวงนะคะ มันเป็นสิทธิ์ของเรา ร้อยกว่าบาทมันอาจจะน้อย แต่คิดดูนะคะว่ามีคนไปกับเค้ากี่ร้อยคน รวมแล้วไม่น้อยเลยนะ อันนี้คืออย่างแรกที่เราไม่ชอบ
ต่อมา...ตอนไปอยู่ที่อเมริกา เราได้จ่ายค่ามัดจำบ้านจำนวน 500$ ซึ่ง 200$ เค้าจะเก็บไปเลย ส่วนอีก 300$ จะได้คืนตอนออกจากบ้าน แต่!!!! อย่าหวังว่าจะได้ครบนะจ้ะ เค้าก็คงหาทางที่เค้าจะคืนน้อยที่สุดแหละค่ะ ก่อนออกจากบ้านเรากับเพื่อนทำความสะอาดกันแบบเอี่ยมมาก เอี่ยมกว่าตอนเข้าอยู่อีก เราออกจากบ้านวันที่ 27 สิงหาคม ทีมงานฝั่งเมกานางบอกเราจะได้เงินคืนประมาณ 2-3 อาทตย์ หลังออกจากบ้าน แต่ผ่านไป 1 เดือนกว่าเราก็ยังไม่ได้เงินคืน ตลอดเวลา เราก็ทักไปทวงไปตามตลอด แต่นางก็ดูไม่ได้รีบร้อนที่จะคืนเงินแต่อย่างใด อ้างธนาคารหยุด อ้างเฮอริเคนเข้า อ้างนู่นนี่นั่น อยากจะบอกว่าในฟอริด้าไม่ได้มีธนาคารแค่แห่งเดียว สาขานี้ปิดก็ไปสาขาอื่นสิจ้ะ (ที่พูดแบบนี้ได้เพราะเพื่อนที่นั่นบอกมาค่ะ ว่าธนาคารไม่ได้ปิดทุกที่) และในที่สุด วันนี้วันที่ 23 ตุลาคม ที่รอคอย เราก็ได้เงินค่าบ้านคืน เป็นจำนวน 175$ จ้า อ่านไม่ผิดจ้า 175$ จาก 300$ โดยการที่หักเงินเราไปนั้น ไม่ได้แจ้งเราก่อน ไม่มีแม้กระทั่งแจ้งรายละเอียดว่าหักอะไร ต้องให้ถามเองว่าหักค่าอะไร สรุปก็คือ นางหัก
1. ค่าใช้ไฟเกิน 28$ (อันนี้ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่งงตรงที่นางเคยบอกว่าถ้าเดือนไหนเกินจะมาเก็บในเดือนนั้น แต่นี่ไม่จ้ะ มาตู้มเดียว)
2. ค่าทำความสะอาด 30$ (อันนี้เข้าใจได้ แต่เค้าทำสะอาดมากแล้วนะ ยังจะหักเค้าลงอีกหย๋อ ฮืออ TT)
3. ค่าซ่อมครัว/ ท่อตัน? 67$ (อันนี้เป็นอันที่เรางงมากที่สุด เป็นการหักแบบอะไรก็ไม่รู้ ไม่แจ้งให้ชัดเจนด้วย งงไปเลย)
เอาจริงๆ เราว่าไปกับเอเจ้นไหนไม่สำคัญเลยนะ การมาเวิคนี่ก็แอบขึ้นอยู่กับดวงนิดๆนะเราว่า เอเจนซี่ที่เราไปเราไม่ชอบเลย คือนางก็ไม่ได้ดูแล แล้วนางก็ไม่ได้ลอยแพ คือบางกระทู้อวยมาก อวยเกินเหตุ
สุดท้ายเราจะพูดถึงประสบการณ์ โดนโกง!!
วันนั้นเป็นวันที่เราออกจากบ้านจะไป bus station เราไปกับแฟน มีกระเป๋าทั้งหมด 5 ใบ คือใบใหญ่ 3 ใบ กับใบเล็ก 2 ใบ เราก็เรียก Lyft มันเหมือน Uber แหละค่ะ แต่คนละแบรนด์ พอทีนี้นางมาถึง เราก็เรียกแบบรถเล็กไป(พวกแนวแอจทราจ แคมรี วีออส)อะไรอย่างนี้ แต่รถที่เราได้คือรถใหญ่อารมณ์ฟอจูนเนอร์(แต่ไม่ใช่ฟอจูนเนอร์) พอนางมาถึง นางเห็นกระเป๋าเยอะ นางก็บอกให้เราแคนเซิลแบ้วกดใหม่เป็นคันใหญ่แทน ซึ่งส่วนต่างมันประมาณ 15$ เราก็กดไม่ได้ เพราะมันเสียค่าธรรมเนียม อินังคนขับก็ไม่ยอมออกรถเลย จะเอาให้ได้ นางก็มาพูดว่า เนี่ย ถ้าเป็นคนอื่นเค้าแคนเซิลไปแล้วนะ ไม่รับ แต่คือตอนนั้นเราไม่มีทางเลือก เพราะนางมาเลทจากเวลาในแอปไปประมาณ 10 นาที นางก็เลิกบอกว่า งั้นให้เราจ่ายเป็นเงินส่วนต่างแทน 15$ เราก็โอเค พอถึงที่หมาย นางก็บอกว่าให้จ่าย 20$-25$ นะ เราก็บอกเลย ไม่ ชั้นเช็คในแอปแล้ว ส่วนต่างมันแค่ 15$ ทำไมต้องจ่ายขนาดนั้น ก็นางก็เอามือถือไปกดให้ติ้ป ก็กดไป 15$ โนะ ตามนั้น แต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราแกล้งให้ไปก่อน พอเราขึ้นบัสปุ๊ป เราเขียนคอมเพลนเลยค่ะ เขียนยาวมากกกกก เราตั้งหัวข้อว่า ถูกโกงจากคนขับรถ (ดูรุนแรง) สุดท้ายเราก็ได้เงิน 15$ คืน 555555 เค้าแอดให้ทางเครดิตในลิฟ ก็นั่งรถเที่ยวเดียวจบ นั่งไม่ถึง 15$ ก็เก็บไปหมดนะคะ โชคดีเรานั่งประมาณ 13$ กว่าๆ เลยไม่ช้ำใจมาก ทุกคนต้องรักสิทธิ์ของตัวเองนะ สู้ไปเลยอะไรที่มันไม่ถูก อะไรที่มันเป็นของเรา เราต้องสู้
เราขอจบการแชร์เพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ ซึ่งไม่รู้มีคนอ่านไหม แต่อยากจะแชร์ความจริงให้ทุกคนได้รู้ ว่ามันไม่ได้สวยหรูเหมือนหลายๆกระทู้นะจ้ะ
และขอฝากทริคเล็กๆน้อยๆ
1. อ่านสัญญาเช่าบ้านให้ละเอียด อ่านดีๆ ใช้เวลากับมันนานๆ ไม่ต้องเกรงใจใคร ไม่เข้าใจก็เปิด dictionary ไปเลย
2. ถ่ายรูปสัญญาเช่าบ้านไว้ด้วย ทุกบรรทัด ทุกหน้า เพราะนางจะไม่ให้เราเก็บไว้ นางเก็บไปหมด
3. ถ่ายรูปก่อนเข้าอยู่ทุกซอกทุกมุม
4. ในกรณีคืนเงินมัดจำบ้าน แนะนำให้เปิดบัญชีไว้ หากยังอยู่เที่ยวในอเมริกาอีกประมาณ 2 อาทิตย์หรือนานกว่านั้น เพราะโอนผ่านเอเจนซี่ไทยน่าจะโดนหักค่าธรรมเนียม
5. ตอนจะออกจากบ้าน แนะนำให้ทำสัญญาเกี่ยวกับการโอนมัดจำ โดยแจ้งจุดประสงค์ไปว่า หากทางเอเจนซี่คืนเงินล่าช้า จาก 2 อาทิยต์ตามสัญญา ขอให้เอเจนซี่โอนเงินค่าธรรมเนียมธนาคาร เป็นจำนวน 30$ ให้เรา ไม่เช่นนั้น เราจะเสียเงินเองโดยที่ไม่ใช่ความผิดเรานะจ้ะ (อันนี้เตือนจากประสบการณ์)
6. ทุกๆอย่าง ให้ทำเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษร มีลายเซนต์ มีพยานนะคะ (หาเพื่อนข้างๆนั่นแหละ) เวลามีปัญหา จะได้มีหลักฐาน
7. ก่อนออกจากบ้านถ่ายรูปทุกอย่าง ถ่ายเป็นคลิปเลยจะดีมาก ถ่ายตั้งแต่เดินเข้าบ้านยังซอกทุกซอกไปเลย จะได้มีหลักฐาน
ทำทุกอย่างต้องมีหลักฐาน เวลาเกิดปัญหาจะได้มีหลักฐาน ทำเรื่องง่ายๆหน่อยค่ะ
ใครอยากถามอะไรเพิ่มเติมทักมาคุยมาถามได้น้า ว่าง และยินดีตอบมากๆ
แชร์ประสบการณ์ Work and Travel 2018 Miramar Beach, FL (ฉบับเรื่องจริงไม่มีอวย)
เราจะเน้นเล่าการทำงาน การอยู่บ้าน การใช้ชีวิต สิ่งต่างๆ ที่ต้องเจอนะคะ แต่ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มเติม สอบถามได้ค่า ยินดีตอบมากๆ
อย่างแรกที่จะพูดถึงเป็นประสบการณ์การทำงานนะคะ
เราทำงานที่ร้าน Ihop นะคะ ตำแหน่ง host (จริงๆเราสมัครตำแหน่ง cook ไป แต่เกิดการผิดพลาดนิดหน่อย) หน้าที่ของโฮสต์ก็คือ พาแขกไปนั่งที่โต๊ะ เก็บโต๊ะ จัดคิว คิวจะเยอะมากๆ ช่วงเดือนกรกฎาคม เวลา 10 โมงเช้าเป็นต้นไป เหนื่อยมากค่ะ คนเยอะมาก แล้วยิ่งเจอลูกค้าที่งี่เง่านี่แบบหัวร้อนไปเลย แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มใส่ คือตอนที่เราไปถึงเด็กเวิคยังมาไม่ครบ คือเราก็ต้องทั้งจัดคิว เก็บโต๊ะ พาแขกไปนั่ง ทำทุกอย่างเลย เหนื่อยมากแต่ก็สนุกดีเหมือนได้ออกกำลังกาย แล้วช่วงซัมเมอร์เรายังได้ติ้ปด้วยนะคะ พนักงานเสริฟ์จะเป็นคนให้ โดยวันจันทร์-พฤหัส นี่แล้วแต่ว่าเค้าอยากให้เราไหม แต่ถ้าเป็นวันศุกร์-อาทิตย์ เสริฟ์ต้องให้ทุกคน โดยเค้าจะให้กับเมเนเจอร์ แล้วหารกับจำนวนโฮสต์อีกที แต่ต้องทวงนะคะ เคยลืมทวงแล้วผ่านไปหลายวัน สรุปของวีคนั้นไม่ได้ แงๆ เพื่อนร่วมงานที่นั่นน่ารักค่ะ เค้าจะดีกับเราไหมขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ตั้งใจทำงาน กระตือรือร้น มาตรงเวลา แค่นี้เพื่อนร่วมงานก็ไม่อะไรแล้วค่ะ
ต่อมาจะพูดถึงการใช้ชีวิตในบ้านนะคะ
บ้านที่เราอยู่ จะอยู่กัน 10 คน โดยบ้านเราเปิดประตูเข้ามาจะมีที่นั่งเล่น ห้องครัว โต้ะกินข้าว แล้วมันจะมีซอกวางเตียงนอนสองชั้น สำหรังสองคน(ได้นอนตรงนั้นคือซวย ใครไปก่อนเลือกห้องก่อนได้เบยจ้า) จะมีห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องนึงนอนกัน 4 คน คือมันก็ค่อนข้างอึดอัดสำหรับคนที่ไม่เคยนอนกับคนอื่นเนอะ แต่อยู่ไปมันจะชิน และสิ่งที่ทุกคนจะเจอเลยคือเสียงดัง สิ่งที่ทุกคนควรมีคือมารยาทค่ะ รู้จักเกรงใจเพื่อนร่วมห้อง เกรงใจเพื่อนบ้าน (ผนังบางมาก เคยโดนบ้านข้างๆมาบ่น) ฉะนั้นสิ่งที่ควรมีไว้คือความเกรงใจ และมารยาทค่ะ
ต่อมาที่จะพูดถึงคือ...เอเจนซี่
เราไปกับเอเจนซี่ที่ค่อนข้างดังในพันทิป สำนักงานอยู่แถวๆ BTS สนามเป้า เราตามหลายๆกระทู้ อ่านแล้วดูดีมากๆ ก็นึกว่าจะดีแต่จริงๆก็ไม่นะคะพอได้ไปเอง ไม่ว่าจะทีมงานที่ไทย หรือที่ทางอเมริกา ขอเล่าว่าก่อนไปเราได้จ่ายเงินค่า Job Deposit จำนวนนึง แต่ว่าตอนที่เค้าโอนกลับ เค้าโอนไม่ครบค่ะ ขาดไปร้อยกว่าบาท ซึ่งเราก็ได้ถามกับทางเอเจ้น ได้คำตอบมาว่าเป็นค่าโอนจากต่างประเทศ แต่!!!... ทางอีเมลล์ได้แจ้งไว้ว่าเงินส่วนนี้จะได้คืนเต็มจำนวน งงสิคะงง แต่ตอนนี้ได้คืนแล้วค่ะ ทุกคนต้องทวงนะคะ มันเป็นสิทธิ์ของเรา ร้อยกว่าบาทมันอาจจะน้อย แต่คิดดูนะคะว่ามีคนไปกับเค้ากี่ร้อยคน รวมแล้วไม่น้อยเลยนะ อันนี้คืออย่างแรกที่เราไม่ชอบ
ต่อมา...ตอนไปอยู่ที่อเมริกา เราได้จ่ายค่ามัดจำบ้านจำนวน 500$ ซึ่ง 200$ เค้าจะเก็บไปเลย ส่วนอีก 300$ จะได้คืนตอนออกจากบ้าน แต่!!!! อย่าหวังว่าจะได้ครบนะจ้ะ เค้าก็คงหาทางที่เค้าจะคืนน้อยที่สุดแหละค่ะ ก่อนออกจากบ้านเรากับเพื่อนทำความสะอาดกันแบบเอี่ยมมาก เอี่ยมกว่าตอนเข้าอยู่อีก เราออกจากบ้านวันที่ 27 สิงหาคม ทีมงานฝั่งเมกานางบอกเราจะได้เงินคืนประมาณ 2-3 อาทตย์ หลังออกจากบ้าน แต่ผ่านไป 1 เดือนกว่าเราก็ยังไม่ได้เงินคืน ตลอดเวลา เราก็ทักไปทวงไปตามตลอด แต่นางก็ดูไม่ได้รีบร้อนที่จะคืนเงินแต่อย่างใด อ้างธนาคารหยุด อ้างเฮอริเคนเข้า อ้างนู่นนี่นั่น อยากจะบอกว่าในฟอริด้าไม่ได้มีธนาคารแค่แห่งเดียว สาขานี้ปิดก็ไปสาขาอื่นสิจ้ะ (ที่พูดแบบนี้ได้เพราะเพื่อนที่นั่นบอกมาค่ะ ว่าธนาคารไม่ได้ปิดทุกที่) และในที่สุด วันนี้วันที่ 23 ตุลาคม ที่รอคอย เราก็ได้เงินค่าบ้านคืน เป็นจำนวน 175$ จ้า อ่านไม่ผิดจ้า 175$ จาก 300$ โดยการที่หักเงินเราไปนั้น ไม่ได้แจ้งเราก่อน ไม่มีแม้กระทั่งแจ้งรายละเอียดว่าหักอะไร ต้องให้ถามเองว่าหักค่าอะไร สรุปก็คือ นางหัก
1. ค่าใช้ไฟเกิน 28$ (อันนี้ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่งงตรงที่นางเคยบอกว่าถ้าเดือนไหนเกินจะมาเก็บในเดือนนั้น แต่นี่ไม่จ้ะ มาตู้มเดียว)
2. ค่าทำความสะอาด 30$ (อันนี้เข้าใจได้ แต่เค้าทำสะอาดมากแล้วนะ ยังจะหักเค้าลงอีกหย๋อ ฮืออ TT)
3. ค่าซ่อมครัว/ ท่อตัน? 67$ (อันนี้เป็นอันที่เรางงมากที่สุด เป็นการหักแบบอะไรก็ไม่รู้ ไม่แจ้งให้ชัดเจนด้วย งงไปเลย)
เอาจริงๆ เราว่าไปกับเอเจ้นไหนไม่สำคัญเลยนะ การมาเวิคนี่ก็แอบขึ้นอยู่กับดวงนิดๆนะเราว่า เอเจนซี่ที่เราไปเราไม่ชอบเลย คือนางก็ไม่ได้ดูแล แล้วนางก็ไม่ได้ลอยแพ คือบางกระทู้อวยมาก อวยเกินเหตุ
สุดท้ายเราจะพูดถึงประสบการณ์ โดนโกง!!
วันนั้นเป็นวันที่เราออกจากบ้านจะไป bus station เราไปกับแฟน มีกระเป๋าทั้งหมด 5 ใบ คือใบใหญ่ 3 ใบ กับใบเล็ก 2 ใบ เราก็เรียก Lyft มันเหมือน Uber แหละค่ะ แต่คนละแบรนด์ พอทีนี้นางมาถึง เราก็เรียกแบบรถเล็กไป(พวกแนวแอจทราจ แคมรี วีออส)อะไรอย่างนี้ แต่รถที่เราได้คือรถใหญ่อารมณ์ฟอจูนเนอร์(แต่ไม่ใช่ฟอจูนเนอร์) พอนางมาถึง นางเห็นกระเป๋าเยอะ นางก็บอกให้เราแคนเซิลแบ้วกดใหม่เป็นคันใหญ่แทน ซึ่งส่วนต่างมันประมาณ 15$ เราก็กดไม่ได้ เพราะมันเสียค่าธรรมเนียม อินังคนขับก็ไม่ยอมออกรถเลย จะเอาให้ได้ นางก็มาพูดว่า เนี่ย ถ้าเป็นคนอื่นเค้าแคนเซิลไปแล้วนะ ไม่รับ แต่คือตอนนั้นเราไม่มีทางเลือก เพราะนางมาเลทจากเวลาในแอปไปประมาณ 10 นาที นางก็เลิกบอกว่า งั้นให้เราจ่ายเป็นเงินส่วนต่างแทน 15$ เราก็โอเค พอถึงที่หมาย นางก็บอกว่าให้จ่าย 20$-25$ นะ เราก็บอกเลย ไม่ ชั้นเช็คในแอปแล้ว ส่วนต่างมันแค่ 15$ ทำไมต้องจ่ายขนาดนั้น ก็นางก็เอามือถือไปกดให้ติ้ป ก็กดไป 15$ โนะ ตามนั้น แต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราแกล้งให้ไปก่อน พอเราขึ้นบัสปุ๊ป เราเขียนคอมเพลนเลยค่ะ เขียนยาวมากกกกก เราตั้งหัวข้อว่า ถูกโกงจากคนขับรถ (ดูรุนแรง) สุดท้ายเราก็ได้เงิน 15$ คืน 555555 เค้าแอดให้ทางเครดิตในลิฟ ก็นั่งรถเที่ยวเดียวจบ นั่งไม่ถึง 15$ ก็เก็บไปหมดนะคะ โชคดีเรานั่งประมาณ 13$ กว่าๆ เลยไม่ช้ำใจมาก ทุกคนต้องรักสิทธิ์ของตัวเองนะ สู้ไปเลยอะไรที่มันไม่ถูก อะไรที่มันเป็นของเรา เราต้องสู้
เราขอจบการแชร์เพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ ซึ่งไม่รู้มีคนอ่านไหม แต่อยากจะแชร์ความจริงให้ทุกคนได้รู้ ว่ามันไม่ได้สวยหรูเหมือนหลายๆกระทู้นะจ้ะ
และขอฝากทริคเล็กๆน้อยๆ
1. อ่านสัญญาเช่าบ้านให้ละเอียด อ่านดีๆ ใช้เวลากับมันนานๆ ไม่ต้องเกรงใจใคร ไม่เข้าใจก็เปิด dictionary ไปเลย
2. ถ่ายรูปสัญญาเช่าบ้านไว้ด้วย ทุกบรรทัด ทุกหน้า เพราะนางจะไม่ให้เราเก็บไว้ นางเก็บไปหมด
3. ถ่ายรูปก่อนเข้าอยู่ทุกซอกทุกมุม
4. ในกรณีคืนเงินมัดจำบ้าน แนะนำให้เปิดบัญชีไว้ หากยังอยู่เที่ยวในอเมริกาอีกประมาณ 2 อาทิตย์หรือนานกว่านั้น เพราะโอนผ่านเอเจนซี่ไทยน่าจะโดนหักค่าธรรมเนียม
5. ตอนจะออกจากบ้าน แนะนำให้ทำสัญญาเกี่ยวกับการโอนมัดจำ โดยแจ้งจุดประสงค์ไปว่า หากทางเอเจนซี่คืนเงินล่าช้า จาก 2 อาทิยต์ตามสัญญา ขอให้เอเจนซี่โอนเงินค่าธรรมเนียมธนาคาร เป็นจำนวน 30$ ให้เรา ไม่เช่นนั้น เราจะเสียเงินเองโดยที่ไม่ใช่ความผิดเรานะจ้ะ (อันนี้เตือนจากประสบการณ์)
6. ทุกๆอย่าง ให้ทำเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษร มีลายเซนต์ มีพยานนะคะ (หาเพื่อนข้างๆนั่นแหละ) เวลามีปัญหา จะได้มีหลักฐาน
7. ก่อนออกจากบ้านถ่ายรูปทุกอย่าง ถ่ายเป็นคลิปเลยจะดีมาก ถ่ายตั้งแต่เดินเข้าบ้านยังซอกทุกซอกไปเลย จะได้มีหลักฐาน
ทำทุกอย่างต้องมีหลักฐาน เวลาเกิดปัญหาจะได้มีหลักฐาน ทำเรื่องง่ายๆหน่อยค่ะ
ใครอยากถามอะไรเพิ่มเติมทักมาคุยมาถามได้น้า ว่าง และยินดีตอบมากๆ