สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นเราต้องแนะนำตัวเองก่อนว่า เราเป็นแค่มนุษย์เงินเดือนคนนึง เงินเดือนไม่ได้มากมายอะไร ทำงาน จันทร์-ศุกร์ ตามปกติทั่วไป
อยู่ๆเรามีความคิดว่าอยากลองขายเสื้อผ้าของตัวเองที่ใช้แล้ว (มือ2) บวกกับเสื้อผ้าที่มีอยู่เยอะมากและใส่จริงๆแค่ไม่กี่ตัว เอาจริงๆก็ใส่แค่ชุดทำงาน วันหยุดก็เสื้อยืด+เกงขาสั้นปกติ
เริ่มแรกลองโพสต์ขายในกลุ่มทาง FB โพสต์ไปเรื่อย ไม่กะว่าต้องขายได้ และเราก็มีเวลาว่างพอสมควรหลังเลิกงาน ก็เลยมีความคิดที่ว่าลองไปตามตลาดนัด+ถนนคนเดิน พอติดต่อประสานงานไรได้ก็ลุยเลยค่ะ ขนเสื้อผ้า 2 ถุงใหญ่ๆขึ้นรถ เสื่อไว้ปูให้ลูกค้านั่งคุ้ย ซื้อถุง เก้าอีเล็กๆ มีราวตัวเอง 1 อันและไม้แขวนอีกหลายสิบอัน และลางานครึ่งวัน (เพราะต้องไปขนของจัดร้านก่อนตลาดเปิด เปิดตลาดถนนคนเดินมีแค่ศุกร์กับเสาร์)
ที่นี่ จุดเกิดเรื่องมันอยู่ตรงนี้ค่าาาา เพื่อนค่ะ ฝากขายเสื้อผ้าของเค้าด้วย เราก็ด้วยความใจดี อ่ะ ไปรับเสื้อผ้า 2 กระสอบใหญ่ๆจากบ้านเค้า เพื่อนแปะราคาให้เรียบร้อย เป็นมือ2เหมือนกัน (ราคาเพือนก็ตั้งไว้ให้ กองนี้ 60 กองนี้ 100 กองนี้ 150 บ้าง 300 บ้าง ) เราก็ไปรับถึงบ้านกลางคืน เพราะเราต้องขนของตั้งไว้แล้วขับรถไปทำงานเช้า ขายตอนเย็น กะยาวเลยไม่แวะกลับบ้านแล้ว
เริ่มขาย ... จัดร้านเสร็จ โอโห โคตรเหนื่อย (สัมผัสชีวิตแม่ค้าครั้งแรก) เสื้อผ้าของเรา ของเพื่อน สุดท้ายมันก็กองรวมกันอะเนอะ บางตัวเพื่อนก็ไม่ได้แปะราคาไว้ให้ บอกว่าให้เราดูแล้วตั้งราคาได้เลย นั่งขายตั้งแต่ 16.30 - 22.00 ทั้งหมดนี่ทำคนเดียวนะคะ แฟนมาช่วยตอนขายกับเก็บร้าน
ผ่านคืนแรกไปได้อย่างสวยงาม ... เสื้อผ้าเราขายได้ทั้งหมดประมาณ 1,700 กว่าๆ เราขายตัวละ 50-60 ไม่เกินนี้ ส่วนของเพื่อนเราคือตั้งราคาไว้สูงมาก ลูกค้าเลยไม่ซื้อ ตัวละ 100 ขึ้นนี่เราว่าแพงนะ สำหรับมือสอง (แต่เราบอกเพื่อนแล้วว่าแพง เพื่อนบอกไม่เป็นไร ลองดู) ของเพื่อนเราขายได้ทั้งหมด 500 กว่าบาท พอสักประมาณ 23.00 กว่าๆ เพื่อนก็ทักมาค่ะ ถึงบ้านยัง ขายได้ไหม เราก็บอกตามด้านบนเลย ว่าได้กี่ตัวเท่านี้ๆ ก็เหมือนเค้าจะไม่ค่อยพอใจว่าทำไมขายได้น้อย ของเราได้มากกว่า (ความรู้สึกมันบอกแบบนั้น) แล้วถามเราว่า ขายตัวไหนไป ลายไหนไป คือแบบบบบ เหย ของตัวเองยังจำไม่ได้เลยว่าตัวไหนขายไป ลายอะไร สีอะไร คือผ้ามันเยอะอะ ใครจะจำได้เนี่ย
สรุป ประเด็นที่มาตั้งกระทู้คือ เหนื่อยค่ะ ยังมาถามมากอีก เราจำไม่ได้ เก็บของ ตั้งร้าน คือแบบไม่ได้สบาย คือเราไม่รู้ว่าเพื่อนจะคิดว่าขายแต่ของตัวเองรึเปล่า ไม่ขายของเค้า เฮ้ออ งานเราก็ลา ผ้าก็ไปรับถึงบ้าน ที่เพื่อนไม่ไปขายด้วยเพราะว่าเค้ามีลูก ต้องเลี้ยงลูกค่ะ เราก็เออเข้าใจเนอะ
ทีนี้เราติดใจการขายเสื้อผ้าค่ะ รอบสอง หาตลาด ลงทุนซื้อราว+ไม้แขวน หาซื้อเสื้อมือสองสวยๆถูกไปขายต่อ เร่ไปตามตลาดเสาร์-อาทิตย์ หารายได้เสริม แต่ไม่ขอรับเสื้อของเพื่อนอีกแล้ว ดูเหมือนเค้าไม่ค่อยทักเวลาเจอที่ทำงาน ไม่ค่อยคุย เราก็ไม่แคร์นะ ถ้าไม่มาลองอยู่ในจุดที่ต้องเป็นแม่ค้าจริงๆคือไม่รู้เลยว่า ที่เราเห็นตามตลาด มีราวสวยๆเสื้อผ้าสวยๆ มันเหนื่อยแค่ไหน ไหนฝนจะตกต้องคลุมเสื้อไม่ให้เปียกตัวเองเปียกได้ไม่เป็นไร ตอนนี้เลยเถิดไปใหญ่เลยค่ะ ถึงขั้นลงทุนซื้อเต๊นท์ขายของเลย 55 สนุกค่ะ ต้องไปจับฉลากเช่าล๊อคขายของ กว่าจะได้ขายแต่ละที แล้วเราต้องแคร์เพื่อนคนนี้ไหม ? ตอนขายเสื้อของเพื่อนคืนสุดท้าย เราถามว่าจะเอาผ้าคืนเลยไหม เค้าบอกว่าเก็บไว้ที่เราก่อนเผื่อเอาไปขายอีก (คิดในใจ หือ ไม่สบายไปหน่อยหรอคะแบบเนี่ย ขายให้ เก็บให้) สรุปเราให้มารับผ้าคืนที่ตลาดเลยค่ะ ไม่ไหวจะเอาผ้าไปคืนถึงบ้านให้แล้ว ตอนรับไปรับถึงบ้าน
ขอบคุณพื้นที่ระบายเล็กๆน้อยๆ
ขอพื้นที่เล็กๆระบาย
อยู่ๆเรามีความคิดว่าอยากลองขายเสื้อผ้าของตัวเองที่ใช้แล้ว (มือ2) บวกกับเสื้อผ้าที่มีอยู่เยอะมากและใส่จริงๆแค่ไม่กี่ตัว เอาจริงๆก็ใส่แค่ชุดทำงาน วันหยุดก็เสื้อยืด+เกงขาสั้นปกติ
เริ่มแรกลองโพสต์ขายในกลุ่มทาง FB โพสต์ไปเรื่อย ไม่กะว่าต้องขายได้ และเราก็มีเวลาว่างพอสมควรหลังเลิกงาน ก็เลยมีความคิดที่ว่าลองไปตามตลาดนัด+ถนนคนเดิน พอติดต่อประสานงานไรได้ก็ลุยเลยค่ะ ขนเสื้อผ้า 2 ถุงใหญ่ๆขึ้นรถ เสื่อไว้ปูให้ลูกค้านั่งคุ้ย ซื้อถุง เก้าอีเล็กๆ มีราวตัวเอง 1 อันและไม้แขวนอีกหลายสิบอัน และลางานครึ่งวัน (เพราะต้องไปขนของจัดร้านก่อนตลาดเปิด เปิดตลาดถนนคนเดินมีแค่ศุกร์กับเสาร์)
ที่นี่ จุดเกิดเรื่องมันอยู่ตรงนี้ค่าาาา เพื่อนค่ะ ฝากขายเสื้อผ้าของเค้าด้วย เราก็ด้วยความใจดี อ่ะ ไปรับเสื้อผ้า 2 กระสอบใหญ่ๆจากบ้านเค้า เพื่อนแปะราคาให้เรียบร้อย เป็นมือ2เหมือนกัน (ราคาเพือนก็ตั้งไว้ให้ กองนี้ 60 กองนี้ 100 กองนี้ 150 บ้าง 300 บ้าง ) เราก็ไปรับถึงบ้านกลางคืน เพราะเราต้องขนของตั้งไว้แล้วขับรถไปทำงานเช้า ขายตอนเย็น กะยาวเลยไม่แวะกลับบ้านแล้ว
เริ่มขาย ... จัดร้านเสร็จ โอโห โคตรเหนื่อย (สัมผัสชีวิตแม่ค้าครั้งแรก) เสื้อผ้าของเรา ของเพื่อน สุดท้ายมันก็กองรวมกันอะเนอะ บางตัวเพื่อนก็ไม่ได้แปะราคาไว้ให้ บอกว่าให้เราดูแล้วตั้งราคาได้เลย นั่งขายตั้งแต่ 16.30 - 22.00 ทั้งหมดนี่ทำคนเดียวนะคะ แฟนมาช่วยตอนขายกับเก็บร้าน
ผ่านคืนแรกไปได้อย่างสวยงาม ... เสื้อผ้าเราขายได้ทั้งหมดประมาณ 1,700 กว่าๆ เราขายตัวละ 50-60 ไม่เกินนี้ ส่วนของเพื่อนเราคือตั้งราคาไว้สูงมาก ลูกค้าเลยไม่ซื้อ ตัวละ 100 ขึ้นนี่เราว่าแพงนะ สำหรับมือสอง (แต่เราบอกเพื่อนแล้วว่าแพง เพื่อนบอกไม่เป็นไร ลองดู) ของเพื่อนเราขายได้ทั้งหมด 500 กว่าบาท พอสักประมาณ 23.00 กว่าๆ เพื่อนก็ทักมาค่ะ ถึงบ้านยัง ขายได้ไหม เราก็บอกตามด้านบนเลย ว่าได้กี่ตัวเท่านี้ๆ ก็เหมือนเค้าจะไม่ค่อยพอใจว่าทำไมขายได้น้อย ของเราได้มากกว่า (ความรู้สึกมันบอกแบบนั้น) แล้วถามเราว่า ขายตัวไหนไป ลายไหนไป คือแบบบบบ เหย ของตัวเองยังจำไม่ได้เลยว่าตัวไหนขายไป ลายอะไร สีอะไร คือผ้ามันเยอะอะ ใครจะจำได้เนี่ย
สรุป ประเด็นที่มาตั้งกระทู้คือ เหนื่อยค่ะ ยังมาถามมากอีก เราจำไม่ได้ เก็บของ ตั้งร้าน คือแบบไม่ได้สบาย คือเราไม่รู้ว่าเพื่อนจะคิดว่าขายแต่ของตัวเองรึเปล่า ไม่ขายของเค้า เฮ้ออ งานเราก็ลา ผ้าก็ไปรับถึงบ้าน ที่เพื่อนไม่ไปขายด้วยเพราะว่าเค้ามีลูก ต้องเลี้ยงลูกค่ะ เราก็เออเข้าใจเนอะ
ทีนี้เราติดใจการขายเสื้อผ้าค่ะ รอบสอง หาตลาด ลงทุนซื้อราว+ไม้แขวน หาซื้อเสื้อมือสองสวยๆถูกไปขายต่อ เร่ไปตามตลาดเสาร์-อาทิตย์ หารายได้เสริม แต่ไม่ขอรับเสื้อของเพื่อนอีกแล้ว ดูเหมือนเค้าไม่ค่อยทักเวลาเจอที่ทำงาน ไม่ค่อยคุย เราก็ไม่แคร์นะ ถ้าไม่มาลองอยู่ในจุดที่ต้องเป็นแม่ค้าจริงๆคือไม่รู้เลยว่า ที่เราเห็นตามตลาด มีราวสวยๆเสื้อผ้าสวยๆ มันเหนื่อยแค่ไหน ไหนฝนจะตกต้องคลุมเสื้อไม่ให้เปียกตัวเองเปียกได้ไม่เป็นไร ตอนนี้เลยเถิดไปใหญ่เลยค่ะ ถึงขั้นลงทุนซื้อเต๊นท์ขายของเลย 55 สนุกค่ะ ต้องไปจับฉลากเช่าล๊อคขายของ กว่าจะได้ขายแต่ละที แล้วเราต้องแคร์เพื่อนคนนี้ไหม ? ตอนขายเสื้อของเพื่อนคืนสุดท้าย เราถามว่าจะเอาผ้าคืนเลยไหม เค้าบอกว่าเก็บไว้ที่เราก่อนเผื่อเอาไปขายอีก (คิดในใจ หือ ไม่สบายไปหน่อยหรอคะแบบเนี่ย ขายให้ เก็บให้) สรุปเราให้มารับผ้าคืนที่ตลาดเลยค่ะ ไม่ไหวจะเอาผ้าไปคืนถึงบ้านให้แล้ว ตอนรับไปรับถึงบ้าน
ขอบคุณพื้นที่ระบายเล็กๆน้อยๆ